คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่ 426:เปิดใจคุยกับภูผาตรงๆ



บทที่ 426:เปิดใจคุยกับภูผาตรงๆ

เวลานี้ยังกลางวันอยู่ แสงอาทิตย์ที่อบอุ่นสาด ส่องเข้ามาผ่านหน้าต่าง ผ้าม่านสีขาวถูกเครื่องปรับ อากาศพัดจนขยับอยู่เบาๆ อุณภูมิของห้องพอดีมาก แต่ ร่างกายของพิงกี้กลับเหมือนมีเปลวไฟนับไม่ถ้วนกำลัง เผาไหม้อยู่ ทำให้เธอไม่สามารถที่จะทนไหว

พิงกี้ทนรับไม่ไหวกับความเสียวซาบซ่านที่ม้วนตัว เข้ามาหา เธอหน้าแดงไว้และหลับตาครางออกมาเสียง เบา

เธอกลับไม่รู้ว่ามีคนๆนึงกำลังยืนอยู่ที่นอกห้อง หูดี ได้ยินเสียงครางอ่อนช้อยของเธอในนาทีนี้ เสียงคราง เบาๆนั้นเหมือนมีดที่แหลมคมกรีดเข้าที่หัวใจเขาทีละ ครั้งๆ ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาของเขาสีหน้าเปลี่ยนไปใน ทันที

เรื่องที่มาลาตีถูกยิงเสียชีวิต พิงกี้ไม่รู้ว่าเควิน จัดการยังไง แต่เรื่องนี้ไม่มีผลกระทบอะไรกับเธอ รู้สึก เหมือนไม่มีผลกระทบกับเควินด้วยเหมือนกัน

อกสั่นขสัญแขวนมาหลายวัน หลังจากพิงกี้ผ่าน การปรับสภาพจิตใจมาหลายวัน เธอก็ค่อยๆรับความ จริงเรื่องนี้ได้แล้ว

ว่าไปแล้ว ที่จริงเธอก็ไม่ถือว่าเป็นคนดีอะไรเลย
ฆ่าแม่บังเกิดเกล้าของตัวเอง ไม่เพียงแต่ไม่ สามารถนับว่าเป็นคนดี แต่คงจะทําให้คนข้างกายรู้สึก หวาดกลัวและรู้สึกว่าเธอเหี้ยมโหดด้วยมั้ง

แต่เธอนอกจากกลัวแล้ว ไม่รู้สึกเสียใจเลยแม้แต่

ไม่ เธอไม่เสียใจจริงๆ

ถึงคนอื่นจะนินทาต่อว่าเธอลับหลัง ถึงเธอถูกบีบ บังคับจนยอมรับผิดเพราะทนถูกทรมานไม่ไหว ถึง ภายนอกไม่ยอมรับไม่ได้ว่าตัวเองเสียใจ แต่ในใจเธอก็ ไม่มีทางรู้สึกเสียใจเลย

ในความเป็นจริง แค่นึกถึงก่อนที่น้องแอ๊ปเปิ้ล คลอดออกมา มาลาตีเคยทำเรื่องชั่วพวกนั้นกับเธอ นึกถึงมาลาตีเกือบฆ่าน้องแอ๊ปเปิ้ลและเกือบทําให้เธอ แท้ง ในใจเธอก็รู้สึกแค้นมากเป็นพิเศษ

ตอนนี้ เธอแค่ไม่รู้จะพูดเรื่องนี้กับภูผายังไง

แต่ถึงจะไม่อยากเผชิญหน้าแค่ไหน ก็ต้องเผชิญ หน้ากับมัน

หลังจากเกิดเรื่องที่โรงพยาบาล เนื่องจากมีใจ อยากชดใช้ พิงกี้ยิ่งขยันหมั่นเพียรในการควบคุมและ เร่งรัดให้เควินช่วยหาผู้บริจาคให้กับภูผา เรื่องนี้สำหรับเธอแล้วสําคัญสุดๆ

เธอไม่เสียใจจริงๆที่ยิงมาลาตีนัดเดียวตาย แต่ สําหรับภูผา…….ลึกๆเธอรู้สึกละอายใจมาก

มาลาตีตายปุ๊บ ความละอายใจแบบนี้ยิ่งลึกซึ้งขึ้น

หลังจากผ่านการค้นหาอย่างเข้มข้น ในที่สุดผู้ สมัครใจบริจาคที่เข้ากับไขสันหลังของภูผาก็หาเจอ แล้ว

สามารถหาผู้สมัครใจบริจาคเจอในช่วงเวลารักษา ที่ดีที่สุดของภูผา ถือว่าได้ช่วยชีวิตของภูผาเอาไว้

เพื่อคำนึงถึงความปลอดภัย ครั้งนี้เควินไม่ได้บอก ใครเลย เขาพาผู้บริจาคคนนั้นมาที่เมืองหลวงอย่างลับๆ หลังจากพาเขาเข้ามาที่โรงพยาบาลก็เริ่มเข้ารับการ ตรวจเช็คร่างกายอย่างละเอียด

ส่วนครั้งนี้ พิงกี้ไปเจอภูผาที่โรงพยาบาล ก็ได้นำ ข่าวดีนี้ไปด้วย

“ภูผา พี่มีสองข่าวจะบอกให้นาย ข่าวแรกคือ ข่าวดี ข่าวที่สองคือข่าวร้าย นายอยากฟังข่าวไหน ก่อน?”
นั่งลงที่ข้างเตียงของภูผา พิงกี้มองไปที่เขาและ ฝืนยิ้ม ถึงแม้น้ำเสียงแฝงด้วยการล้อเล่น แต่สีหน้ากลับ แข็งทื่อมาก แค่ดูก็รู้ว่านาทีนี้เธออึดอัดมาก

ภูผาเผยรอยยิ้มที่อ่อนแอออกมา “ฟังข่าวดีก่อน แล้วกันครับ”

..ได้” พิงกี้ก็ยังอดถามไม่ได้อยู่ดี “ทำไมถึง

อยากฟังข่าวดีก่อนล่ะ?”

“เพราะสามารถได้ยินข่าวดีที่ทำให้คนอารมณ์ดี ตอนที่ได้ยินข่าวร้าย อาจจะไม่รู้สึกอารมณ์เสียขนาด นั้นแล้วครับ” ภูผาพูด

คำตอบของเขา ทำให้ความละอายใจของเธอยิ่ง เข้มข้นขึ้น

พิงกี้ก็ไม่ได้อ้อมค้อม “ข่าวดีคือในที่สุดก็หาผู้ สมัครใจบริจาคได้แล้ว ตรวจจับคู่ขั้นพื้นฐานผ่านแล้ว การตรวจจับคู่ขั้นสูงก็ผ่านแล้วเช่นกัน ทุกอย่างราบรื่น มาก! อีกอย่าง คนๆนั้นถูกเควินส่งตัวมาที่โรงพยาบาล นี้แล้ว ตอนนี้กำลังทำการตรวจเช็คร่างกาย ถ้าร่างกาย ของเขาผ่านทุกอย่างล่ะก็ ก็สามารถบริจาคได้ในทันที เลย”

“จริงหรือครับเนี่ย?” ภูผาใกล้จะสิ้นหวังแล้ว เขา ไม่กล้าคิดแล้วด้วยซ้ำว่าในช่วงสองเดือนสุดท้ายของชีวิตจะได้รับการช่วยเหลือ นาทีนี้ได้ยินข่าวนี้ เลือดที่ เย็นเฉียบของเขาก็ได้เดือดพลุ่งพล่านขึ้นมาทันที

เซอร์ไพรส์จริงๆ

เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า ข่าวนี้จะเป็นข่าวดีอย่าง มหันต์สําหรับเขาเลย!

เดิมทีเขานึกว่าข่าวดีที่ว่านี้ ก็แค่พิงกี้จะมอบของ ขวัญชิ้นใหญ่อะไรให้เขาเฉยๆ ต้องรู้ไว้นะ ที่ผ่านมาช่วง นี้ เขาได้รับของขวัญมาไม่น้อยแล้ว ที่จริงก็ไม่ค่อยรู้สึก เซอร์ไพรส์อะไรขนาดนั้นแล้ว

แต่แค่ไม่อยากให้พิงกี้ผิดหวัง ทุกครั้งเขาจะ แสดงออกมาว่าดีใจเฉยๆ

“แล้วข่าวร้ายล่ะครับ?” ภูผาถามด้วยสีหน้าชิวๆ

“ข่าวร้ายก็คือ……” พิงกี้หยุดไปครู่นึง จากนั้น ก็ได้หลุบตาลง “ข่าวร้ายก็คือมาลาตีเสียชีวิตแล้ว”

“ก็แค่..

แล้ว?”

ตอนแรกภูผายังอยากแสร้งทำเป็นพูดอย่างชิวๆ แต่จู่ๆเขาดึงสติกลับมาได้ทันที
ข่าวร้ายข่าวนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กแบบที่ว่า “ฉันทำ แจกันที่นายชอบแตก” หรือว่า “ฉันทำเสื้อผ้าที่นาย ชอบหาย” แต่เป็นข่าวแม่ตัวเองเสียชีวิต ทันใดนั้นความ ผ่อนคลายทั้งหมดได้กลายเป็นความตะลึงงันไปหมด

เขาถามอย่างเสียงสั่น “พี่พิงกี้ เมื่อกี้พี่พูดว่าอะไร นะ พี่พูดอีกครั้งซิ!”

“พี่บอกว่ามาลาตีตายแล้ว” พิงกี้เงยหน้าขึ้นมา และมองไปยังภูผาที่แทบจะไม่อยากจะเชื่อ

“ก็คิดอยู่ว่าทำไมหนึ่งเดือนมานี้แม่ไม่โทรหาผม เลย ที่แท้ ที่แท้…………

นาทีนี้ จู่ๆภูผาก็นึกถึงร่องรอยที่ก่อนหน้านั้นเริ่มน่า สงสัยแล้ว

ก่อนหน้านั้นมาลาตีที่โทรหาเขาทุกวันได้ขาดการ ติดต่อกับเขามาหนึ่งเดือนแล้ว เขาโทรศัพท์ไปก็ไม่มี คนรับสาย ก่อนหน้านั้นพิงกี้ก็มาเยี่ยมเขาอยู่เป็นประจำ เดือนนี้ก็มาไม่แค่สองสามครั้ง ทุกครั้งที่มาก็ยังเร่งรีบ มาก อยู่แค่ไม่กี่นาทีก็ไปแล้ว………..

ในนี้ มีความเกี่ยวโยงอะไรกันหรือเปล่า?

จู่ๆภูผาขมวดคิ้ว และถามประเด็นที่สำคัญที่สุด “แม่จากไปนานเท่าไหร่แล้วครับ?”
“ใกล้จะเดือนนึงแล้ว

“แล้วทำไมเพิ่งมาบอกผมตอนนี้?” ภูผาอารมณ์ ขึ้นจนหน้าแดงผิดปกติ “แม่ตายไปตั้งหนึ่งเดือนแล้ว ทำไมพี่เพิ่งมาบอกผมตอนนี้ ห้า?!”

“เพราะ…….. ‘ พิงกี้หายใจลึกๆทีนึง “ภูผา เรื่อง นี้พี่จะอธิบายให้นายฟังดีๆนะ”

“พี่พูดมาเลย!”

พิงกี้เม้มปาก จ้องแววตาของภูผาไว้ และได้เล่า เรื่องของหนึ่งเดือนก่อนให้เขาฟังรอบนึง

มาลาตีบุกเข้าไปที่L.K.Crystalวิลล่ายังไง ลักพา ตัวน้องแอ๊ปเปิ้ลไปยังไง ใช้น้องแอ๊ปเปิ้ลมาข่มขู่เธอ ยังไง เธอถูกบีบบังคับให้กินทำแท้งยังไง สุดท้ายยิง มาลาตีตายยังไง………..


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ