คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่ 346: ใชพิษด้านพิษ



บทที่ 346: ใชพิษด้านพิษ

มาลาตีรู้สึกได้ถึงสายตาที่แปลกประหลาดจากรอบๆ ใบหน้าที่แข็งกระด้างฝืนยิ้มออกมาเสี้ยวนึง “พิงกี้ ลูก เรียกแม่ห่างเหินอย่างนี้ได้ยังไงล่ะ? นี่ลูกยังโกรธแม่อยู่เห รอ?”

พิงกี้เม้มปากไว้ไม่พูดจา

ถึงแม้เธออยากรู้มากว่าครั้งนี้มาลาที่จะมาก่อกรรมทำ เข็ญอะไรอีก แต่เธอก็ไม่โง่เข้าไปหลงกลของเธอหลอก รับมือกับคนแบบนี้นิ่งไว้จะดีกว่า

แบบนี้ก็คือละเลยเธอ ให้เธอรู้สึกทรมาน

พิงกี้ไม่เปิกปากพูด จู่ๆอากาศได้ถลำลึกเข้าสู่ความ

เงียบเหงา

สายตาที่จ้องสำรวจจากรอบด้าน ทำให้มาลาที่ยิ่งอยู่ ยิ่งตื่นเต้น ศีรษะเธอชาไปหมด ยื่นมือไปจับข้อมือของพิง กี้ไว้ “ไปกับแม่ แม่มีเรื่องจะคุยด้วย”

เดิมทีวางแผนไว้ว่าจะเปิดปากพูดต่อหน้าสาธารณะ แต่ตอนนี้ มาลาตีถูกสายตาของผู้คนจ้องจนลืมไปหมด แผนการไปหมดเลย

เพียงแต่ ถึงเธออยากลากพิงกี้จากไป ก็ไม่ได้บรรลุเป้าหมาย

“คุณหญิงมาลาตี” เควินจับข้อมือของพิงกี้ไว้เบาๆ เขาใช้สายตาแหลมคมมองข้อมือที่ขาวเนียนได้แดงก่ำ ขึ้นมาเพราะถูกมาลาตีใช้แรงจับ และเปิดปากพูดอย่าง บางเบา “คุณทำภรรยาผมเจ็บแล้ว คุณไม่เห็นหรือไง ครับ?”

มาลาตีถูกสายตาเยือกเย็นและแหลมคมจ้องจน ตื่นเต้นขึ้นมา พอก้มหน้าไปดู ได้พูดจาติดขัดขึ้นมา “ฉัน…….…..”

“ถ้าคุณไม่มีธุระอะไร ปล่อยภรรยาผมได้มั้ย?”

“ได้ ได้ค่ะ”

ภายใต้พลานุภาพที่แข็งแกร่งของเควิน มาลาตีนึกจะ ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง ได้แต่มองดูเควินลูบที่เอวของพิงกี้ เบาๆและพาเธอเดินจากไปห่างๆ

ในขณะนี้นี่เอง มีร่างเงานึงโผล่มาที่ข้างกายเธอ

ผู้หญิงพูดเบาๆว่า “คุณผู้หญิงคะ นี่เป็นโอกาศที่หา ยากมากเลยนะคะ ขอแค่คุณผู้หญิงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ยอมลุยอย่างไม่กลัวขายหน้าได้ คุณพิงกี้ไม่มีทางปฏิเสธคุณแน่นอนค่ะ คุณผู้หญิงไม่คิดเผื่อตัวเอง ไม่คิดเผื่อคุณ ผู้ชาย ก็ต้องคิดเผื่อคุณภูผานะคะ ถ้าเรื่องสำเร็จแล้ว ชีวิต ภายภาคหน้าของคุณภูผาจะสบายขึ้นเยอะเลยนะคะ

มาลา หันหน้าไปก็เห็นใบหน้าที่สวมใส่แมส

แววตาของจอยเต็มไปด้วยการให้กำลังใจและกังวล

นี่คือคนที่เป็นห่วงเธอที่สุดในตอนนี้แล้ว

“ฉันรู้แล้ว ฉันรู้อยู่แก่ใจดี” มาลาที่มีความมั่นใจขึ้น มาอย่างแปลกประหลาด ราวกับว่าถูกความศรัทธาอะไรสัก อย่างครอบงำเข้า เธอพยักหน้าอย่างแรงและพูดเสียงต่ำ เหมือนให้กำลังใจตัวเอง “ฉันจะให้คนอื่นมาดูถูกเหยียด หยามภูผาไม่ได้ และปล่อยให้เขาไม่มีที่พึ่งพาในวันข้าง หน้าไม่ได้!

มือที่ห้อยอยู่ข้างกายกำแน่นเป็นหมัด มาลาตีตามไป ที่ทิศทางของพิงกี้

“พิงกี้ วันนี้แม่ตั้งใจมาหาลูกโดยเฉพาะเลย ขอร้อง ลูกล่ะ ลูกให้อภัยคุณพ่อเค้าเถอะนำ ช่วยพ่อของลูกด้วย เถอะ!” วิ่งมาที่ด้านหลังของพิงกี้ด้วยความเร่งรีบ ดึง กระโปรงของเธอไว้ มาลาตีหัวเข่าอ่อนแล้วคุกเข่าลงพื้น
พิงกีไหวตัวทันและจับเดรสเปิดไหล่ไว้แน่น ทีนี้ถึงไม่ ถูกมาลา-กระชากเดรสหลุดลงไป

ถ้าหากเธอไหวตัวช้ากว่านี้ มีหวังได้เปลือยกายแน่!

เดรสเปิดไหล่ถูกมาลาตีดึงไว้แน่น เสียงที่แหลม ปรดของเธอดึงดูดสายตาผู้คนมามาก คำพูดที่ออกมาจาก ปากของเธอก็หนีไม่พ้นเรื่องขอร้องไว้ชีวิตและถูกใส่ร้าย ป้ายสี…..

พิงกี้อยากเดินจากไปอย่างไม่สนใจและไม่แคร์ เธอ ไม่อยากมาราวีกับมาลาตีอีก แต่ดึงยังไงก็ดึงเดรสของตัว เองไม่ออก พอไปไม่ได้ อารมณ์ของเธอหงุดหงิดขึ้นมา อย่างแปลกประหลาด

เห็นท่าทีนี้แล้ว เควินยื่นมือกดไปที่ไหล่ของมาลา มาลาตีก็ตกใจร้อง“อ๊า” แล้วคลายมือออก

ในที่สุดก็พิงกี้ได้หลุดพ้นจากความลำบาก

เพียงแต่ ไฟแห่งความโกรธในใจยิ่งอยู่ยิ่งลุกท่วมขึ้น

ตระกูลดำรงกูล…….

เป็นคนที่เธอสะบัดยังไงก็สะบัดไม่ออกจริงๆ!
ในเมื่อวันนี้เกิดเรื่องปล่อยไก่ขนาดนี้แล้ว พิงกี้ก็ไม่ ถือสาที่จะทําเรื่องให้มันเด็ดขาด ถึงแม้ต่อไปทุกคนล้วน แต่บอกว่าเธออกตัญญู เธอก็ยอมรับ เธอทนมีเกี่ยวข้องกับ ตระกูลดำรงกูลไม่ได้อีกต่อไปจริงๆ!

นั่นจะทําให้เธอรู้สึกสะอิดสะเอียนมาก!

“คุณจะเอายังไงกันแน่?” พิงกี้มองมาลาตีอย่างหน้า บึ้ง แววตาไม่มีความผูกพันแม้แต่เสี้ยวเดียว “คุณหญิง มาลาตี คราวก่อนตอนที่อยู่L.K.Crystal วิลล่าคุณก็เคย ใช้ลูกไม้แบบนี้แล้ว ทำไม ครั้งนี้ยังอยากใช้ความคิดเห็น ของผู้คนมาบีบบังคับฉันอีกหรอ?”

“แม่…..แม่เปล่านะ…….” มาลาที่ทำหน้าสงสาร พร้อมร้องไห้ สายตาโศกเศร้า “พิงกี้ ตอนนี้แม่เหลือแค่ ลูกคนเดียวแล้ว ลูกเท่านั้นที่สามารถช่วยแม่ได้!

“คุณมีแค่ฉัน? คุณหญิงมาลาตีคะ ถึงแม้สมัยสาวๆ คุณหน้าตาดีมาก แต่ตอนนี้คุณอายุก็มากแล้ว ยังมาทำท่า ทางไร้เดียงสาเหมือนดอกบัวขาวแบบนี้อีก ดูแล้วช่าง ทําร้ายสายตาจริงๆเลยค่ะ”
คนที่อยู่รอบๆส่งเสียงหัวเราะออกมา

พริบตาเดียว มาลาตีสีหน้าแดงก่ำขึ้นมา ตกที่นั่ง ลำบากหนักกว่าเมื่อกี้อีก ในใจก็รู้สึกโกรธเคืองขึ้นมา

เธอเคยขายหน้าแบบนี้ที่ไหนกัน?

กำลังอยากอาละวาดให้เรื่องมันใหญ่กว่านี้ ให้พิงกี้ ก็ได้ขายหน้าบ้าง แต่ไม่นานพิงกี้ก็เปิดปากพูด

“พูดถึงคนในตระกูลดำรงกูลตอนนี้……ถึงแม้ลิสา ลูกเลี้ยงของคุณจะถูกหมายนำจับ แต่ลูกชายคุณยังเรียน อยู่เมืองนอกนี่คะ! ถ้าคุณไม่มีที่พึ่งทางใจ อยากหาคนช่วย ทำไมไม่ไปหาภูผาล่ะคะ? ถ้าเทียบกับฉันแล้ว ภูผาสิถึง เป็นคนที่คุณใช้ใจเลี้ยงดูมายี่สิบกว่าปีไม่ใช่หรอ? ส่วนฉัน เป็นแค่ลูกที่ถูกสับเปลี่ยนตัว ถึงกลับมาที่ตระกูลดำรงกุล ถูกพวกคุณหมางเมินอย่างสิ้นเชิง ถ้าไม่ใช่ฉันโชคดีที่ได้ อยู่กับคุณเควิน ตามนิสัยที่เห็นแก่อำนาจและผลประโยชน์ ของพวกคุณแล้ว จะเห็นฉันอยู่ในสายตาหรือเปล่า?”

“คุณก็ไม่ต้องมาพูดคำพูดที่ว่าเห็นความสำคัญของฉันและแท้จริงในใจรักฉันมากพวกนี้หรอก ถ้าคุณเห็นฉัน เป็นลูกสาวจริงๆ เมื่อก่อนทำไมต้องรุมหัวกับคนอื่นมาลอบ ทําร้ายลูกของฉัน แทบอยากจะให้ฉันกับลูกในท้องตายไป พร้อมๆกัน? ความรักจากแม่อย่างคุณเนี่ย ฉันรับไว้ไม่ได้ จริงๆค่ะ!”

พิงกี้มองไปที่เควิน “คุณเควินคะ ต้องรบกวนคุณอีก แล้วค่ะ”

รบกวนอะไร ไม่ต้องพูดก็รู้อย่างแจ่มแจ้งแล้ว

“ให้ผมจัดการเอง เควินพยักหน้าเบาๆ ส่งสายตาให้ รังสิตที่อยู่ไม่ไกล

ไม่ต้องให้เควินสั่งการใดๆทั้งนั้น รังสิตก็รู้ได้ด้วยใจ

แล้ว

เขาพูดใส่เครื่องวิทยุสื่อสารที่คอเสื้อ บอดี้การ์ดเสื้อ ดำสองคนก็ได้เดินเข้ามาหาอย่างไว

ไม่รอให้มาลาตีมีปฏิกิริยาใดๆ บอดี้การ์ดสองคนก็ได้ หิ้วมาลาตีขึ้นมาจากพื้น ล็อคแขนเธอไว้คนละข้าง และ เอามือเธอไขว้ไปที่ข้างหลัง ไม่เพียงแต่ทำให้มาลาตี ขัดขืนไม่ได้ แต่ยังทำให้เธอขายหน้าสุดๆ
“พวกแกปล่อยฉันนะ ปล่อยฉัน!” มาลา ขัดขืนขึ้น มาอย่างดุดัน มองพิงกี้ด้วยสีหน้าร้ายกาจ “นังแพศยา ถึง แกไม่ยอมช่วยฉัน แต่ก็ทำแบบนี้กับฉันไม่ได้! ยังไงซะฉัน ก็เป็นแม่ของแกนะ นี่แกไม่คิดจะนับฉันเป็นแม่แล้วหรอ?”

มาลาคิดไม่ถึงว่าพิงกี้จะกล้าทำแบบนี้

พิงกี้ไม่กลัวคนอื่นดูนินทาลับหลังว่าเธออกตัญญู ว่า เธอลืม เพืชหรือ?

ตระกูลภิรมย์ภักดีก็ไม่แคร์หน้าตาทางสังคมเหมือน ก้นหรือ?

“ฉันไม่นับญาติกับคุณแล้วจะทำไม?” พิงกี้ไม่แคร์ จริงๆ แววตาและน้ำเสียงของเธอเยือกเย็น ก่อนหน้านั้น คุณกับชาตรีเป็นคนไล่ตะเพิดฉันออกจากตระกูลดำรงกุล เอง เรื่องนี้คุณคงยังไม่ลืมใช่มั้ยคะ? ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้น ไป คุณก็ไม่ใช่แม่ของฉันแล้ว ตระกูลดำรงกูลก็ไม่มีอะไร เกี่ยวข้องกับฉันอีกต่อไปแล้วค่ะ!”

คืนที่ฝนตกหนักนั้น เธอลากกระเป๋าสัมภาระไปจาก บ้านดำรงกูลคนเดียว แถมแขนยังพลิกอยู่ด้วย………เธอ ไม่มีวันลืม!

เธอเจ้าคิดเจ้าแค้น!
“ถึงฉันเคยพูดแล้วจะทําไม หรือว่าพ่อแม่ต่อว่าลูก สองคำก็จะถึงแก่ถึงตายก็ไม่ไปมาหาสู่กันจริงๆหรอ? ถึง แกไม่อยากนับฉันเป็นแม่ ทางกฎหมายแกก็ยังต้องเลี้ยง ดูฉันอยู่! แกว่าฉันน่าสะอิดสะเอียนไม่ใช่หรอ? งั้นเสียใจ ด้วยจริงๆ ถ้าแกไม่ให้ฉันอยู่ดีมีสุข ฉันก็จะราวีแกไปชั่ว ชีวิต สะอิดสะเอียนแกทุกวัน! ถ้าแกไม่เลี้ยงดูฉัน ฉันก็จะ ไปฟ้องแก คอยดูซิว่าแกกับตระกูลภิรมย์ภักดีทนขายหน้า เพราะเรื่องแบบนี้ได้มั้ย?!

มาลาตีทมออกไปสุดตัวแล้ว

ให้เธอกับพิงกี้ขายหน้าพร้อมกัน เธอไม่รู้สึกแค้น ขนาดนั้น แต่ถ้าให้เธอขายหน้าคนเดียว เธอรู้สึกอัปยศ อดสูอย่างใหญ่หลวงมาก

เธอทนดูพิงกี้อยู่นอกเหนือเรื่องนี้ไม่ได้ แถมยังตำหนิ ติเตียนเธออย่างสูงส่งกว่า เธออยากเห็นพิงกี้ตื่นตกใจ กลัวจนทำอะไรไม่ถูก

สมาธิของเควินไม่ได้อยู่ที่บนตัวของมาลา

เขาหรี่ตามองไปที่ข้างหน้า เห็นบอดี้การ์ดอีกสองคน คุมตัวหญิงสาวคนนึงเดินมา แววตาเหมือนกำลังครุ่นนคิด อะไรอยู่
รังสิตเข้าใจความคิดของเขาจริงๆด้วย

ในขณะที่มาลา ขัดขืนสุดฤทธิ์ ได้ดึงดูดสายตาของ ผู้คน ความวุ่นวายถาโถมเข้ามาอีกระลอก……..เสียงเท้า เดินของบอดี้การ์ดสองคนหนักหน่วง ถึงแม้หญิงสาวที่ถูก พวกเขาลากเอาไว้ตื่นตกใจจนลืมต่อต้าน ไม่ได้ส่งเสียง ใดๆออกมา แต่ก็มีคนสังเกตุเห็นแล้ว

เห็นคนถูกลากออกมาอีกคน แถมยังเป็นผู้หญิงที่ ใส่แมสและทำตัวลับๆล่อๆ คนที่มุงดูอยู่รอบๆยิ่งแปลกใจ เข้าไปใหญ่

มาลาตีรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่ผิดสังเกตุของ รอบๆ หลังจากหันหลังไปดู เห็นผู้หญิงที่ถูกจับมาแล้ว รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที อดไม่ได้ที่จะตะโกนเรียก “จอย ทำไมเธอ….…….

จอยก็ตื่นเต้นมากจนสีหน้าซีดเซียว

ถึงแม้จะเผยแค่ดวงตาทั้งคู่ออกมา แต่ใครก็สามารถดู ว่าแววตาของเธอเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ