คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

บทที่314: ความผิดปกติของใต้โต๊ะ



บทที่314: ความผิดปกติของใต้โต๊ะ

“เรื่องอะไร?” เควินเงยหน้าขึ้นมา สายตาจ้องประตู ด้วยความเย็นชา

รังสิต ทุกอย่าง สูสีกับสายฟ้าเลย ต่างก็เป็นผู้ช่วยที มีฝีมือและน่าไว้วางใจของเขา แต่ว่า……..ดูสถานการณ์ ไม่เก่งเท่าสายฟ้าเลย

รู้ทั้งรู้ว่าประตูปิดอยู่ มีความเป็นไปได้ว่าเขากำลังทำ เรื่องอะไรที่บรรยายออกมาไม่ได้อยู่ข้างใน รังสิตกลับมาร บกวนในเวลานี้ นี่มันน่าโดนจัดการซะให้เข็ดเลยจริง!

คิดถึงตรงนี้แล้ว สีหน้าของเควินยิ่งบึงเข้าไปใหญ่

เห็นเขาสีหน้าเย็นชาและไม่พอใจอย่างยิ่ง พิงกี้ ที่อ่านความคิดเขาออกอดขำไม่ได้ เธอพูดเสียงเบาว่า “คุณเควิน คุณยังหาว่าคนอื่นรบกวนการจู้จี้ของคุณอีก? คุณก็ไม่ดูหน่อยว่านี่มันห้องสมุดนะ ไม่ใช่ห้องนอน!”

ผู้ชายคนนี้นี่เมื่อก่อนควบคุมตัวเองดีอยู่ อย่างน้อยอยู่ ข้างนอกก็ดูเป็นคนจริงจัง เป็นเทพบุตรที่ดูสง่าผ่าเผย แค่ ตอนอยู่บนเตียงชอบเอาเปรียบเธอเฉยๆ

แต่หลังจากกลับมาคราวนี้ ทุกวันเขาแทบอยากจะดึง เธอไว้เพื่อทำเรื่องชั่วแบบนี้ตลอด
เผชิญกับการเยาะเย้ยของพิงกี้ เควินไม่รู้สึกรู้สาอะไร

เลย

ถึงจะมีประตูที่กั้นไว้ รังสิตก็ยังมีความรู้สึกหนาวเย็น เหมือนถูกแช่แข็งอยู่ดี

เขาทําเรื่องขัดใจคุณเควินโดยที่ไม่รู้ตัวหรือเปล่า

เนี่ย?

ไม่ เขาน่าจะคิดไปเอง

คนที่เฉลียวฉลาดและมองการณ์ไกลอย่างคุณเควิน เขาจะสงสัยเขาได้ยังไงกัน?

รังสิตที่ยืนอยู่นอกห้องคิดอะไรขึ้นมาได้ เขา ไตร่ตรองแล้วพูดอย่างจริงจังว่า “เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ลิสาครับ วันนี้ในเน็ตมีการพูดคุยที่แปลกประหลาดโผล่ขึ้น มา บวกกับการพบเห็นของผมในก่อนหน้านั้น ผมรู้สึกว่าลิ สาน่าจะไม่ได้เสียชีวิตจริงๆครับ

รังสิตก็สงสัยเหมือนกันว่าลิสาไม่ได้เสียชีวิตจริง? เควินขมวดคิ้ว เก็บความไม่พอใจที่อยู่ในแววตาไว้

นี่ต้องถามดูหน่อยแล้ว
พิงกี้รีบถามขึ้นมาว่า “หรือว่าฉันหลบก่อน?

“ไม่ต้อง” เควินขัดขวางความเคลื่อนไหวที่เธอจะ หลบเข้าไปในโต๊ะทำงาน พูดเสียงสูงให้รังสิตเข้ามา แต่ น้ำเสียงก็ยังไม่พอใจอยู่ “ยังยืนอยู่ข้างนอกทำไม? รอฉัน ไปเปิดประตูให้รึยังไง?”

ถึงแม้เควินบอกว่าไม่ต้อง แต่พิงกี้รู้สึกถูกเขาอุ้มอยู่ บนตัก แถมปากยังบวมขนาดนี้ ให้เธอเผชิญหน้ากับรังสิต ด้วยสภาพแบบนี้เธอรับไม่ได้จริงๆ

รู้สึกเหมือนถูกเควินข่มขืนมายังไงไม่รู้

ลูกบิดประตูหมุน พิงกี้ที่ถูกกระตุ้นจู่ๆเหมือนมี เรี่ยวแรงขึ้นมาอย่างไรอย่างนั้น ฝีมือที่แข็งแรงแต่อ่อน ช้อยขัดขืนออกมาจากอ้อมอกของเควินและนั่งลงไปข้าง ล่าง เอาตัวเองซ่อนอยู่ใต้โต๊ะทำงานโดยตรง

เงยหน้าขึ้นมา ดวงตาแวววาวของเธอกระพริบตา ปริบๆมาที่เควิน หน้าตาไร้เดียงสามาก

เควิน “.

ดึงสายตากลับ เขามองไปที่รังสิตและพูดอย่าง บางเบา “นายลองเล่ารายละเอียดมาให้ฉันฟังหน่อยซิ
“ครับ” รังสิตตอบ

รังสิตได้เล่าจุดที่น่าสงสัยก่อนหน้านั้นพบเห็นออก มาอย่างหมดเปลือก โดยเฉพาะปัญหาที่เท้าของศพไม่ ได้เปลี่ยนรูปทรง และปัญหาที่ศพถูกเผาจนไหม้เกรียมใน ระยะเวลาอันสั้นและแยกใบหน้าไม่ออก

สุดท้าย เขาพูดว่า “ถ้าเราอยากแน่ใจฐานะของผู้ ตายล่ะก็ ที่จริงยังมีอีกหนึ่งวิธีที่จะสามารถใช้เวลารวดเร็ว ที่สุดในการแน่ใจว่าศพนั้นเป็นศพของลิสาหรือเปล่า ครับ?”

“วิธีอะไร?” เควินถาม

“เราสามารถใช้เครื่องสแกนผ่านกะโหลกของผู้ ตาย จากนั้นก็ให้ผู้เชี่ยวชาญฟื้นฟูโครงหน้าทีละขั้นๆผ่าน กะโหลก ขอแค่เทียบกับรูปของลิสา แบบนี้ก็จะสามารถ ได้ข้อสรุปออกมาแล้วครับ แน่นอน ตอนนี้เราก็แค่สงสัย และผลตรวจของDNAก็ชัดเจนว่าศพนั้นก็คือลิสา ดังนั้น เพื่อปิดเป็นความลับ ผมคิดว่าการตรวจDNAครั้งนี้เราต้อง ดำเนินการอย่างลับๆครับ

เควินพยักหน้า “งั้นก็เอาตามนี้เลย

ตอนนี้คนที่มีความสามารถทางการแพทย์มีเยอะมากบางคนแค่ส่วนของกะโหลกก็สามารถใช้สิ่งนี้วาดออกมา เป็นรูป ใช้เวลาก็ไม่ค่อยนานเท่าไหร่

เรื่องนี้ตกลงกันได้แล้ว รังสิตก็ได้รายงานเรื่องอื่นอีก เควินเข้าสู่โหมดทำงาน คอยจัดการที่ละเรื่องๆ แต่ระหว่าง จัดการอยู่ จู่ๆร่างกายเขาของแข็งทื่อ สีของแววตายิ่งอยู่ ยิ่งเข้มข้นขึ้น

“คุณเควินเป็นอะไรครับ?” สังเกตเห็นความผิดปกติ ของเขา รังสิตถามด้วยความเป็นห่วง “ขาข้างซ้ายอากา รกำเริบรึเปล่าครับ ให้ผมช่วยดูมั้ยครับ?”

ระหว่างพูด เขาก็จะเดินมาที่โต๊ะทำงาน

“หยุด!” จู่ๆเสียงของเควินจริงจังขึ้นเยอะมาก ทําเอารังสิตตกใจจนหยุดฝีเท้าไว้ พริบตาเดียวก็กลับมา อยู่ในท่าทางที่ตัวตรง

หายใจทางปากออกมาทีนึง เควิน เสียงซอฟลง “ฉันไม่เป็นไร นายพูดต่อเถอะ

“ …..ครับ”

รังสิตไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่คุณเควินว่ายังไงเขาก็ แค่ฟังก็พอแล้ว
ถอยกลับมาที่เดิม เขาก็ได้พูดประเด็นของก่อนหน้านี้

ต่อ

ราวกับว่ารู้สึกค่อนข้างเหี่ยวฉาว เควินเปิดดนตรี เสียงที่อ่อนโยนก้องมาจากเครื่องดนตรีในทันที เดิมที นี่ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร แต่พอเชื่อมโยงกับนิสัย ที่เคร่งขรึมไม่พูดตลกง่ายๆของเควินแล้ว รังสิตรู้สึก ประหลาดใจมากเป็นพิเศษ

พูดไปประมาณสิบกว่านาที ในที่สุดก็พูดจบแล้ว

เควินเปิดปากพูด “ตอนที่นายออกไป ปิดประตูด้วย

นะ”

“ครับ” รังสิตพยักหน้า

เขารู้สึกวันนี้คุณเควินดูแปลกๆยังไงไม่รู้ แต่ว่าเขา ก็ไม่คิดจะล้วงลึกเข้าไป เดินออกไปพร้อมปิดประตูด้วย ความสงสัย

ในห้องสมุดคืนสู่ความเงียบสงบ

ลมหายใจที่เควินพยายามควบคุมไว้ได้หนักหน่วง ขึ้นมาทันที ร่างกายพิงไปที่เก้าอี้อย่างแรง สายตามองไป ที่ใต้โต๊ะทำงาน เผชิญกับดวงตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของพิงกี้

ผู้หญิงที่สมควรตายคนนี้……….

พิงกี้กระพริบตาปริบๆ เลียริมฝีปากหอมชมพูเบาๆ อย่างล้อเล่น ดวงตาของเขายิ่งลึกซึ้งเข้าไปอีก

“อร่อยมั้ย?” เขาถามด้วยเสียงแหบแห้ง

ก่อนหน้านั้นเขาก็เคยคิดแบบนี้ แต่สีหน้าที่เธอ แสดงออกต่างก็เป็นการไม่เต็มใจเขาใจดำฝืนใจเธอไม่ลง ย่อมไม่อยากทำเรื่องที่ทำให้เธอไม่มีความสุขอยู่แล้ว

อีกอย่าง พูดตามความจริง เขาก็ใช่ว่าจะควบคุมไม่ ได้ที่ดันจะต้องให้เธอทำแบบนี้ให้ได้

แต่ตอนนี้เพื่อที่จะแกล้งเขา ไม่นึกเลยว่าเธอ

จะ.

สมาธิทั้งหมดรวบรวมมาในที่เดียวกัน อารมณ์ที่ไม่มี จุดสิ้นสุดซัดมาเหมือนคลื่นลูกใหญ่ เควินรู้สึกคนทั้งตัว รวมถึงวิญญาณต่างก็เผาไหม้ขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้

ตอนนี้เขาจินตนาการไม่ออกเลยว่าเมื่อกี้ตัวเองต้อง ควบคุมขนาดไหนถึงจะไม่เผยความผิดปกติออกมา แถมยังพูดคุยเรื่องงานกับรังสิตเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

คำถามที่ถามออกมาไม่ได้คำตอบ

เควินก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะเขาได้เคลิบเคลิ้มเข้าไปใน ความเสียวแล้ว

ผู้ชายที่แข็งแกร่งมากแค่ไหน อยู่ตรงหน้าของผู้หญิง ที่ตัวเองชอบ สุดท้ายก็หลอมละลายอยู่ดี

ผ่านไปตั้งนาน ในที่สุดเควินก็ได้ปลดปล่อยออกมา

พิงกี้คลานออกมาจากโต๊ะทำงาน ส่ายหัวและจับริม ฝีปาก แววตาค่อนข้างหดหู “คุณเควิน จู่ๆฉันรู้สึกว่าผู้ชาย แข็งแกร่งเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดีเลยนะ”

เควินดึงสติกลับมาจากความซาบซ่านที่หลงเหลืออยู่ ในใจ ได้ยินคำพูดแล้วยิ้มมุมปาก “แต่พอถึงทีคุณเสพสุข คุณน่ะชอบจะแย่อยู่แล้วเชียวนะ

“ขอให้มันจริงเถอะ”

“ไม่งั้นมาลองดูมั้ย?

“ลองก็ลองสิ กลัวซะที่ไหน” พิงกี้ยักคิ้ว
ปรนนิบัติเขาไปรอบนึง ตอนนี้ถึงทีที่เขาโชว์พลังของ

ตัวเองแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ