บทที่ 31 ผู้สืบทอดของแก๊งค์ขอทาน
หลังจากที่กลับไป อารียาปรับอารมณ์ของตัวเองให้เป็น ปกติ ไม่ช้าก็ทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นไว้ข้างหลังได้
อย่างไรก็ตามธายุกรและชรินทร์ทิพย์ทั้งสองคนก็ได้รับ บทลงโทษไปเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้ว่าการลงโทษครั้งนี้จะ เบา แต่อารียาก็ยังต้องการ ก็แค่ผลลัพธ์ที่ตามมา
ชรินทร์ทิพย์ถูกนภทีปีกักบริเวณเป็นเวลาสามเดือน ถ้าไม่ ได้รับคำสั่งจาก นภทีปี ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์ปล่อย เธอออกมา
สองสามวันหลังจากนั้น ธายุกร ต้องออกเดินทางไปทาง
ใต้
ในช่วงระยะเวลาที่ยาวนาน อารียาจะไม่ได้เห็นหน้าของ คนทั้งสองอีก แน่นอนว่าคงจะลดความกังวลลงไปได้ไม่
น้อยเลย
แถมค่าจ้างของเธอก็จะเพิ่มขึ้นไปอีกเท่าตัว ได้เลื่อนขั้นในบริษัท เรื่องที่บ้านเองก็ผ่อนคลายลงไปเยอะ
วันที่สองหลังจากที่ธายุกรออกจากบ้านไป รพีพงษ์ก็ต่อ โทรศัพท์หาไตรทศอย่างไม่รีรอ
“ส่งคนตามธายุกรไป รอจนมันถึงทางใต้ให้คนของเราสั่ง สอนบทเรียนมันสักหน่อย” รพีพงษ์เอ่ยปาก
“พี่รพี ให้ผมสั่งคนของเราฆ่ามันทิ้งเลยดีไหม” ไตรทศ
ถามด้วยความตื่นเต้น
ไม่ต้อง แค่เตือนสติมันก็พอ ทำยังไงก็ได้ให้มันเข้าร่วม องค์กร ซ้อมมันสักสี่ห้าที ไม่ก็ให้มันไปเป็นขอทานสักระยะ ก็ได้” รพีพงษ์พูดต่อ
ธายุกรกล้าทำแบบนี้กับอารียา แน่นอนว่ารพีพงษ์ยังไง ก็ไม่ยอมให้เขาได้เปลี่ยนที่ทางไปใช้ชีวิตตามอิสระเสรี หรอก
อีกอย่างธายุกรออกไปจากเมืองริเวอร์ได้ เรื่องก็ยิ่ง จัดการง่ายขึ้นเยอะ
เขาสั่งให้คนจับธายุกรไปเป็นขอทานอยู่สักระยะตระกูลฉัตรมงคลทางนี้ยังไงข่าวก็ไปไม่ถึงหูไวขนาดนั้น
แน่นอน
กว่าคนของตระกูลฉัตรมงคลจะเจอธายุกร โทษทั้งหมดที่ เขาได้รับ ก็คงจะชดใช้กับสิ่งที่เขาทำลงไปได้
ส่วนชรินทร์ทิพย์นั้น รพีพงษ์เองก็สั่งให้ไตรทศจัดหาคน มาเฝ้าไว้ เพียงแค่ชรินทร์ทิพย์กล้าที่จะหนีออกมา รพีพงษ์ ก็ไม่รังเกียจที่จะสั่งสอนให้เธอได้รู้ว่าความซวยมันเป็นยัง
ไง
ณ เมืองแห่งหนึ่งในภาคใต้
ธายุกรเดินถือกระเป๋าออกมาจากสถานีรถไฟ สีหน้าดูไม่ ค่อยดีนัก
“แม่งเอ้ย ยัยบ้าอารียานั่น ถ้าไม่ใช่เพราะโสเภณีอย่างเธอ ฉันก็คงไม่ต้องมาที่แบบนี้หรอก ลุงสามก็อีกคนอารมณ์ มุทะลุอย่างนั้น ไม่ทันไรก็ทำร้ายร่างกายกัน ครั้งยังพอทน เหอะ”
ธายุกรเดินไปพลาง สบถไปพลาง
รอจนตอนที่เขาเดินผ่านตรอกเล็กๆตรอกหนึ่ง อยู่ดีๆ ด้านในก็มีคนสองสามคนพุ่งออกมาอย่างกะทันหัน ใช้ถุง กระสอบใบใหญ่คลุมเข้าที่หัวเขา ไม่ทันได้พูดอะไร ก็ต่อย เขาเข้าที่ท้องดังพลัก
“พวกแกเป็นใครกัน ฉันเป็นถึงคุณชายของตระกูล ฉัตรมงคลเลยนะเว้ย ถ้าพวกแกแน่จริงก็มาให้ฉันเห็นหน้า สิวะ !”
ธายุกรคิดยังไงก็คิดไม่ถึงว่าเพิ่งมาถึงที่นี่แท้ๆก็โดนซ้อม ซะน่วมแล้ว อีกทั้งเขายังดูเหมือนลืมไปแล้วว่า ตระกูล ฉัตรมงคลเองก็มีชื่อเสียงโด่งดังไม่น้อยในเมืองริเวอร์ แถมยังเป็นตระกูลมหาอำนาจที่ใหญ่รองเป็นอันดับสองอีก ด้วย การที่เขาประกาศตัวแบบนี้ ช่างไร้ประโยชน์โดยสิ้น เชิง
คนพวกนั้นไม่แม้แต่จะสนใจเขาด้วยซ้ำ แถมจับเขากดลง กับพื้นด้วยพฤติกรรมหยาบช้า
ในเมื่อสั่งให้พวกเขามาทำงานนี้แล้ว หลังจากที่จับตัว เป้าหมายได้ แน่นอนว่าต้องอัดให้เละ แค่ไม่ตายก็พอ ถ้า ให้ตัดแขนตัดขาด้วยละก็ ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ ตอนที่ไปเป็น ขอทานจะได้ง่ายขึ้น
ธายุกรโดนซ้อมจนไม่ได้สติสลบไป รอจนเขาตื่นขึ้นมาอีก ที ก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าที่ลอยมาจากรอบข้าง น่าขยะแขยง เกินกว่าจะจินตนาการ
เขาดึงกระสอบที่คลุมหัวตัวเองอยู่ออก ลืมตามอง พบว่า
เขากำลังนอนอยู่บนกองขยะดีๆนี่เอง รอบๆข้างมีขอกว่าสิบ
คนกำลังจ้องมาที่เขาตาไม่กระพริบ
“กะ แก….พวกแกเป็นใคร ที่นี่ที่ไหน” ในใจของธายุกร เต็มไปด้วยความกลัว
ทันใดนั้น คนที่ดูเหมือนเป็นหัวหน้าแก๊งค์ของกลุ่ม ขอทานก็เดินเขามา ผมของหมอนั่นยุ่งยังกับรังนก เนื้อตัว สกปรกมอมแมมดูไม่ได้
เขาจ้องมาที่ธายุกรตาเขม็ง เปิดปากพูด “พวกเราคือผู้ สืบทอดแก๊งค์ค์ขอทานรุ่นที่ 86 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แก คือหนึ่งในสมาชิกของเรา ต่อไปนี้ทุกวันแกจะต้องออกไป ขอทาน เงินที่ได้กลับมาครึ่งหนึ่งต้องให้ส่วนกลาง แล้วก็ อย่าคิดหนีล่ะ พวกเราแก๊งค์ค์ขอทานมีพวกเยอะ ยังไงแก ก็หนีไม่พ้น ถ้าคิดหนีแค่ครั้งหนึ่งล่ะก็ ฉันจะตัดขาแกทั้ง ! ”
เชื่อก็บ้าแล้วโว้ย !
ผู้สืบทอดแก๊งค์ขอทานอะไรบ้าบอน ก็แค่แก๊งค์พวก ขอทานตัวเหม็นไม่ใช่หรือไง
เมื่อก่อนธายุกรก็เคยได้ยินมาว่ามีคนที่รับตัดแขนตัดขา คน แล้วก็จับพวกเขาไปทำขอทาน คิดไม่ถึงเลยว่าตัวเขา เองจะต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้
“พี่ชาย ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันเป็นคนของตระกูลฉัตรมงคล ถ้าพี่ปล่อยฉันกลับไปล่ะก็ ฉันให้พี่ล้านหนึ่งไปเลย” ธายุกร ขอร้องอ้อนวอน
“ตระกูลฉัตรมงคลเรอะ ชื่ออะไรวะตระกูลฉัตรมงคล ไม่ เห็นจะเคยได้ยิน แกอย่ามาเอาเงินมาต่อรองหน่อยเลย ฉันเป็นคนหาผู้สืบทอดให้แก๊งค์ขอทาน แกอย่ามาทำเป็น ไม่รู้เรื่องไปหน่อยเลย ช่างแม่ง พามันไปขอทานได้แล้ว ถ้ามันไม่ฟังก็ซ้อมให้น่วม”
หัวหน้าแก๊งค์ขอทานพอพูดจบ ก็หมุนตัวเดินไปทางเก้าอี้
ที่ตั้งอยู่บนกองขยะ
ธายุกรตะโกนร่ำไห้ออกมา แต่ก็ไม่มีใครสักคนสนใจเขา ขอทานที่มีหน้าที่รับผิดชอบพาเขาไป เห็นเขาร้อง ตะโกนไม่หยุด ก็รีบเอาถุงเท้ายัดปาก
และนับบัดนี้ อาชีพ “ขอทาน” ของธายุกรก็ได้เริ่มต้นขึ้น
อย่างเป็นทางการ
รพีพงษ์ขี่มอเตอร์ไซต์ไฟฟ้า ไปรับอารียาจากบริษัทกลับ
มา
ตอนที่ขับผ่านแถวหน้าประตู เขาเห็นพี่ชายที่ปกติขาย เครปไม่มา บนบูทขายเครปว่างเปล่าไร้ร่องรอย
เวลานี้ ทุกวันรพีพงษ์จะไปซื้อเครปเป็นประจำ ไม่ใช่ เพราะพี่ชายคนนั้นเรียกให้เขาซื้อ แต่เป็นเพราะเครปร้านพี่ ชายคนนั้นอร่อยมากจริงๆ
อยู่ๆก็ไม่เห็นเขามา ทำให้รพีพงษ์รู้สึกราวกับว่าอะไรบาง อย่างขาดหายไป
หลังจากที่ผ่านเรื่องราวครั้งนั้นมา อารียาก็เริ่มที่จะยอม ให้รพีพงษ์มารับมาส่งที่บริษัททั้งตอนเช้าและตอนเลิกงาน
ที่เธอทำแบบนี้ ก็เป็นเพราะว่าอยากจะใช้เวลากับรพีพงษ์ มากกว่าเดิม ในเมื่อความรู้สึกมันต้องใช้เวลาบ่มเพาะ เธอ รู้สึกว่ารพีพงษ์พึ่งพาไว้วางใจได้มากกว่าแต่ก่อนตั้งเยอะ ถ้ารพีพงษ์ทำตัวดีล่ะก็ เธอก็คงจะได้สานฝันชีวิตสามี ภรรยากับรพีพงษ์สักที
สองคนกลับบ้านด้วยกัน ศศินัดดากำลังนั่งดูทีวีอยู่ข้าง หน้าหน้าจอ ทีวีราคาสามหมื่นแปด ถึงจะมีแต่โฆษณา ศศิ นัดดาก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาดูอย่างออกรสออกชาติ
แต่ทันทีที่เธอเห็นรพีพงษ์กลับมา ก็รีบกระโดดโหยงขึ้น มากดรีโมทปิดสวิตซ์ทีวีทันที ราวกับว่าถ้ารพีพงษ์ ได้ดูทีวี สักนิดล่ะก็ เธอจะต้องได้รับความเสียหายยังไงอย่างอย่าง นั้น
อารียาเห็นท่าทางของศศินัดดา ก็รีบเอ่ยปาก “แม่คะ รพี พงษ์ก็เป็นคนในครอบครัวเดียวกันกับเรา แม่ทำยังกับเขา เป็นขโมยย่องเข้าบ้านเราไปได้”
“เขาดีพอที่จะเป็นคนในครอบครัวเดียวกับเราที่ไหนกัน เขาก็เป็นแค่คนรับใช้ของบ้านเรา ลูกดีขนาดนี้ รอผ่าน ไปสักพักหย่ากับเขา แล้วแม่จะช่วยลูกหาใหม่ให้ดีกว่า เดิม” ศศินัดดาพูดอย่างเย็นชา
อารียาพูดอะไรไม่ออก ทำไมเธอต้องไปใส่ใจศศินัดดา นักนะวางของลงเรียบร้อย ก็เดินเข้าห้องครัวไปกับรพี พงษ์ช่วยกันทำกับข้าว
หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ สองคนก็เดินเข้าห้องนอนไป อารียาบิดเอวอย่างขี้เกียจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหนื่อย อ่อน
ณ เวลานี้ เธอได้รับเลื่อนขั้นที่บริษัท งานที่ทำก็หนักขึ้น กว่าแต่ก่อนเยอะอีกเท่าตัว สองสามวันมานี้ทั้งเจ็บเอวปวด หลังไปหมด
เธอทิ้งตัวลงบนเตียง ใช้มือทุบหลังตัวเองเบาๆ
รพีพงษ์เห็นท่า ในใจก็เกิดความคิดแผลงๆขึ้น
เขาเดินตรงเข้าไปข้างๆเตียง ยื่นมือเข้าไปจับแขนของอารี
ยา
อารียาตกใจสะดุ้งโหยง รีบพลิกตัวหนี ลุกขึ้นมานั่งบน
เตียง
“ทำอะไรของนายนะ ! “อารียามองรพีพงษ์อย่างกล้าๆ กลัว ในใจคิดหรือว่าหมอนี่จะทนไม่ได้แล้วจริงๆ
รพีพงษ์พูดยิ้มๆ “ฉันเห็นกี่วันมานี้เธอดูเหนื่อยมาก ฉัน พอจะนวดเป็นอยู่บ้าง ฉันก็เลยจะช่วยเธอนวดสักหน่อยไง วางใจได้ ฉันไม่ทำอะไรเกินเลยแน่นอน”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ