แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่294 เขาบอกว่าฉันเป็นหมู ก็คือหมู



บทที่294 เขาบอกว่าฉันเป็นหมู ก็คือหมู

บทที่294 เขาบอกว่าฉันเป็นหมู ก็คือหมู

หลังจากทรพีพงษ์เดินเข้ามาในล็อบบี้แล้ว ก็รออยู่ที่เดิม เขา มาพร้อมกับรวินท์ เมื่อกี้รวินท์บอกว่าตนจะไปเข้าห้องน้ำ ให้ เขารอตรงนี้สักครู่ รอรวินท์กลับมา ทั้งสองค่อยไปจุดเตรียมตัว พร้อมกัน

เขารออยู่จุดเดิม ด้านหน้าก็มีการปรากฏตัวของกันตา

กันตามองไปที่รพีพงษ์อย่างเหยียดหยาม แล้วกล่าว “พี พงษ์ ไอ้สวะอย่างแกยังมีหน้ามาที่นี่อีกหรอ การแข่งขันโกะ คนชั้นต่ำอย่างแกดูรู้เรื่องด้วยหรอ?”

รพีพงษ์ยิ้มกับเธอ แล้วกล่าว “เทียบกับผมแล้ว คุณเอะอะ อะไรก็ไอ้สวะไอ้สวะ คุณต่างหากที่ชั้นต่ำกว่า

กันตาชักตาไปที่รพีพงษ์ทันที ด้วยสีหน้าที่ไม่สบายใจ แล้ว กล่าว “แกหยุดยโสโอหังได้ล่ะ วันนั้นที่แกเพิ่งมาถึงเมืองกรีน โคล น่าจะโดนเล่นงานไปไม่ใช่น้อยนะ จะบอกอะไรให้ นี่เป็น จุดจบของแหที่รอาจเป็นศัตรูกับฉัน วันนี้ ฉันไม่มีทางให้แกอยู่ เป็นสุขแน่”

“พูดงี้ คุณก็ยอมรับว่าเรื่องในวันนั้นคุณเป็นคนทำสินะ?”รพีพงษ์กล่าว

“ฉันไม่ได้ทํา รพีพงษ์ แกดูถูกสกรถเอง แกโดนต่อยก็ สมควรแล้ว ฉันจะบอกข่าวดีให้ สกรณ์อยู่ที่นี่ แกว่า ถ้าเขาเจอ แก จะจัดการแกอีกครั้งไหม?” กันตาพูดอย่างดูแคลน

รพีพงษ์เดินไปข้างหน้า เห็นว่าบาจรี ได้พาสกร มาด้วย แล้ว

“สุกรณ์ ที่นี่มีคน ที่คุณต้องการอยากเจอ คุณมากับฉัน” บาจรี กล่าว

สุกรณ์แปลกใจ วันนี้เขามาที่นี่เพื่อดูการแข่งขัน ไม่คาดคิดว่า ผู้ที่เขาไมาเคยเจอมาก่อนจะบอกเขาว่ามีคนที่เขาต้องการเจอ อย่างแน่นอน

เขาเดินไปที่รพีพงษ์พร้อมกับบาจรีย์ หลังจากที่เห็นรพีพงษ์ แล้ว ใบหน้าอันดุร้ายก็เปลี่ยนทันที นี่มันแขกวีไอพีของตระกูล ธนาพีช กุลนี่!”

กันตาเห็นบาจรีย์พาสุกรณ์มาด้วย ก็มองไปที่รพีพงษ์อย่าง ดีใจ แล้วกล่าว “รพีพงษ์ คิดไม่ถึงล่ะสิ ว่าสกรณ์ก็มาดูการ แข่งขันนี่ด้วย ตอนนี้จะหนีก็ยังทันนะ ไม่งั้นก็รอสกรณ์จัดการ ละกัน”
รพีพงษ์เห็นบาจรีย์พาสุกรณ์มา ก็เข้าใจทันทีว่าพวกเธอทั้ง สองคิดอะไรอยู่ เสียดายที่วันนั้นพวกเธอทั้งสองออกไปเร็ว เกิน ไม่รู้ว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น ไม่งั้นพวกเธอก็ไม่กล้าทำ แบบนี้หรอก

“สุกรณ์ คุณรู้จักคนนี้ใช่ไหม ก็คือคนที่ครั้งที่แล้วว่าคุณคือหมู ไง ไอ้นี่มันเกินไปจริงๆ สุกรณ์ห้ามปล่อยเค้าไปง่ายๆนะ” บาจรี พูดต่อสุกรณ์

สุกรณ์หันไปมองบาจรีย์ แล้วกล่าว “เขาพูดไว้ไม่ผิด ผมคือ หมู”

พูดจบ สุกรณ์รีบเดินไปที่รพีพงษ์ ยื่นมือ เคารพนอบน้อมแล้ว กล่าว “คุณรพี ขั่งบังเอิญจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอกันที่นี่ ซึ่ง เป็นเกียรติที่ได้เจอกับคุณ” รพีพงษ์ยิ้มให้เขา แล้วยื่นมือออก

กันตาและบาจรีย์ที่อยู่ข้างๆงงงวยในทันใด ยังไงพวกเธอก็ คิดไม่ถึง ว่าสุกรณ์จะเกรงใจรพีพงษ์ได้ขนาดนี้ แล้วยังยอมรับ อีกว่าตัวเองคือหมู นี่เหนือความคาดหมายของพวกเธอจริงๆ

“สุกรณ์ ปกติคุณจะเกลียดที่คนอื่นเรียกคุณว่าหมูไม่ใช่หรอ? เมื่อกี้ไอ้นี่ว่าคุณคือหมู คุณไม่โกรธหรอ?” บาจรีย์ซักตา

สุกร ยิ้ม แล้วกล่าว “คุณรพีว่าผมคือหมูผมก็คือหมู ผมดีใจ แทบไม่ทัน โกรธอะไรกัน”

บาจรีย์และกันตาทั้งสองจ้องไปที่สุกรณ์อย่างคาดไม่ถึง พวก เธอคิดว่า สุกรณ์จะต้องลงมือกับรพีพงษ์ ทําไมถึงได้กลายเป็น เกรงใจล่ะ?

รพีพงษ์จ้องไปที่บาจรีย์และกันตาแล้วกล่าว “พวกเธอคงคิด ไม่ถึงว่าจะเป็นแบบนี้สินะ พูดกับพวกเธอตรงๆ วันนั้นผมไม่ได้ โดนต่อย ขอโทษจริงๆ ที่แผนการชั่วร้ายของคุณล้มเหลว”

สกร มองไปที่บาจรีย์และกันตาอย่างแปลกใจ แล้วถาม “คุณรพี คุณรู้จักพวกเธอ?”

“ยังจำวันนั้นที่พนักงานคนนั้นพูดได้ไหม เขาถูกผู้หญิงสอง คนหลอกใช้ ผู้หญิงสองคนที่ว่านั้น ก็คือสองคนนี้” รพีพงษ์ กล่าว

สีหน้าของสุกรณ์บึกในทันที วันนั้นหลังจากที่รพีพงษ์จากไป แล้ว เขายังให้คนไปสืบว่าใครที่มันรนหาที่ตายมากขนาดนี้ กล้าให้เขาหาเรื่องแขกวีไอพีของตระกูลธนาพัชร์กุล แต่ก็บไม่พบ

ตอนนี้รพีพงษ์บอกว่าสองคนนี้คือคนที่หลอกใช้พนักงานคน นั้นหาเรื่องรพีพงษ์ สุกรณ์รู้สึกตัวขึ้นมาทันใด เขานึกออกถึง คําพูดที่บาจรีย์พูดเมื่อกี้ เธอได้เล่นตลกกับเขาอีกแล้ว

เขาโกรธขึ้นมาทันที จากนั้นก็ตบไปที่หน้าของบาจรีย์ แล้ว ด่า “แม่ง ที่แท้ก็เป็นไอ้กระหรี่สองคนนี่ที่เหยียดหยามคุณรพี กูกำลังหาพวกมึงอยู่พอดี พวกมึงคิดว่ากูสกรณ์โง่ขนาดนั้น? เอากูไปเป็นตัวล่อ? ในเมื่อวันนี้เจอแล้ว กูจะจัดการกับพวกมึง เลยล่ะกัน

บาจรีย์จับหน้าของตน มองไปที่สกรณ์อย่างหวาดผวา เธอรู้ ถึงความเกรี้ยวกราดของสุกรณ์ว่าน่ากลัวขนาดไหน ถ้าสกรณ์ จะจัดการกับเธอทั้งสองล่ะก็ งั้นเธอและกันตาต้องจบเห่แล้ว จริงๆ

“คุณรพี วันนั้นไอ้กระหรี่ทั้งสองนี้เหยียดหยามคุณ ทำเอา ผมเกือบเข้าใจคุณผิดไปแล้ว ตอนนี้ผมจะจัดการกับพวกมัน แทนคุณเอง คุณไม่ติดใจอะไรใช่ไหม” สกรณ์ถามรพีพงษ์

รพีพงษ์ส่ายหน้า แล้วกล่าว “พวกเธอทั้งสองท่าเกินไปจริงๆ ให้พวกเธอลิ้มลองความเจ็บปวดบ้างก็สมควรแล้ว คุณจัดการเลยล่ะกัน

สุกรณ์พยักหน้า แล้วหันไปมอง จากนั้นก็ผิวปาก บอดี้การ์ด ทั้งสองของเขาก็เดินเข้ามา

“เอาไอ้กระหรี่สองตัวนี้เอาไป กูไม่ดูการแข่งขันวันนี้ล่ะ ไป จัดการไอ้หน้าด้านสองตัวนี้ดีกว่า ให้เกียรติมึงเกินไปล่ะ!” ส กรณ์ตะคอก

บอดี้การ์ดสองคนนั้นลากมาจรีย์และกันตาออกไป

กันตาขัดขืน เธอไม่เข้าใจว่าทำไมสุกรณ์ถึงได้ให้เกียรติร พงษ์ขนาดนี้ แล้วยังขอความเห็นจากรพีพงษ์อีก เขาก็แค่ไอ้ สวะเอง

“สกรณ์ พวกเราก็แค่อยากจะสั่งสอนไอ้สวะรพีพงษ์นั่นเอง ไม่ได้อยากเล่นกับคุณเลย คุณไว้ชีวิตพวกเราเถอะ ต่อไปพวก เราจะไม่ทำอีกแล้ว! กันตาตะโกน

สุกรณ์ตบไปที่หน้าของกันตา แล้วกล่าว “มึงกล้าว่าคุณรพี เป็นไอ้สวะ รำคาญพวกมึงจริงๆ พวกมึงอยู่ให้สงบสุขหน่อยนะ วันนี้กูจะสั่งสอนพวกมึงปทนคุณรพีเอง ไอ้ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง
รพีพงษ์มองกันตาและบาจรีย์ที่โดนลากออกไปอย่างไร้ซึ่ง ความรู้สึกใดๆ ไม่มีแม้กระทั่งความเสียใจ

ทั้งหมดเป็นเพราะพวกเธอหาเรื่องเอง รพีพงษ์ไม่ลงมือสั่ง สอนเองก็ถือว่าเป็นโชคของพวกเธอแล้ว

ดูๆแล้ว กรณ์ก็อารมณ์ร้าย อยู่ต่อหน้ารพีพงษ์จะสงบหน่อย

คิดไม่ออกเลยว่าบาจรีย์และกันตาจะมีจุดจบอย่างไร

แต่นี่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับรพีพงษ์อีกแล้ว หน้าที่หลักของเขา ในตอนนี้คือ ชนะเลิศการแข่งขันโกะให้ได้

ไม่นาน รวินท์เดินมาจากข้างนอก เดินมาข้างๆรพีพงษ์ คนที่ อยู่บริเวณรอบๆมองไปที่รพีพงษ์ แล้วรู้สึกประหลาดใจ แล้ว ถาม “ทำไมหรอ?”

“ไม่มีอะไร พวกเราเข้าไปกันเถอะ” รพีพงษ์กล่าว

รวินท์พยักหน้า พารพีพงษ์ไปที่จุดจับสายการแข่งขัน

จุดจบสายการแข่งขันนั้นเต็มไปด้วยผู้คนจํานวนไม่น้อย คน ที่เข้าการแข่งขันครั้งนี้ มีสมาคมเล็กๆใหญ่ๆทั้งหมดสิบกว่า สมาคม แค่จับสายการแข่งขัน ก็มีมากกว่าร้อยคน
รวินท์และรพีพงษ์เดินไปที่ที่พักของสมาคมโกะแห่งเมืองกรี นโคล นฤมิตรออยู่ที่นั้นแล้ว

ข้างๆพวกเขา คือคนของสมาคมโกะแห่งเมืองริเวอร์ โกมุท กําลังจ้องและหัวเราะไปที่พวกเขา

*พี่วินท์ คนของสมาคมโกะแห่งเมืองริเวอร์ชั่งน่ารังเกียจ จริงๆ เมื่อกี้พวกเรามา ก็เหยียดหยามพวกเราเลย ทำเหมือน กับว่าครั้งนี้พวกเขาต้องชนะแน่นอน” ผู้ชายคนหนึ่งโมโหขึ้น มา

รวินท์มองไปที่โกมุท นึกถึงคำพูดของรพีพงษ์ แล้วกล่าว “ไม่ ต้องสนใจพวกเขา รอให้ผลออกมา พวกเขาก็จะหยิ่งยโสไม่ ออกแล้ว”

โกมุทได้คุยกับผู้ชายที่อยู่ข้างๆ ผู้ชายคนนั้นยิ้มอย่างมี เลศนัย แล้วเดินไปที่รพีพงษ์

“ทุกท่าน ได้โปรดมองมาทางนี้ ตัวแทนของสมาคมโกะแห่ง เมืองกรีนโคลในครั้งนี้ ชื่อว่ารพีพงษ์ พวกคุณอาจจะยังไม่เคย ได้ยินชื่อนี้มาก่อน แต่ที่เมืองริเวอร์ ชื่อเสียงเรียงนามนี้เป็นที่ คุ้นหูมาก”

“ตอนที่รพีพงษ์อยู่เมืองริเวอร์ เป็นไอ้สวะ เขาแต่งเข้าบ้านภรรยา เกาะภรรยากินไปวันๆ พวกเราไม่รู้ว่าสมาคมโกะแห่ง เมืองกรีนโคลคิดอะไรอยู่ ถึงได้เอาไอ้สวะนี่มาเป็นตัวแทน สมาคม อาจเพราะสมาคมโกะของเมืองกรีนโคล อยากจะมอบ ความบันเทิงให้กับพวกเรามั้ง” รอบๆข้างมีนักข่าวกำลังเก็บ ภาพ ผู้ชายคนนั้นไปโผล่บนจอ ทุกคนได้ยินคำพูดของเขา ทั้งหมด

หลังจากที่ชายคนนั้นพูดจบ ทุกคนที่อยู่ที่นั่นก็มองไปที่รพี พงษ์อย่างตะลึง ไม่คิดว่าตัวแทนของสมาคมโกะแห่งเมืองกรี นโคล จะมีชื่อเสียงแบบนี้ ทำให้คนต่างซุบซิบนินทาขึ้นมา ต่าง มองไปที่รพีพงษ์ด้วยสายตาเหยียดหยาม

เมื่อเห็นทุกคนหัวเราะรพีพงษ์ ชายคนนั้นก็มองไปที่รพีพงษ์ อย่างดูแคลน แล้วกล่าว “รพีพงษ์ จากที่ฉันดูมา แกอย่าเข้า ร่วมการแข่งขันนี้อีกเลย แม้จะเข้าร่วม แกก็ตกตั้งแต่รอบแรก แล้ว ดีกว่าต้องเสียหน้าอยู่

รพีพงษ์ยิ้มให้เขา แล้วกล่าว “ตแนนี้คุณพูดแบบนี้ เร็วไปนะ”

“ใครๆก็รู้ถึงผลลัพธ์ของมัน แกอย่ามาทำมึนอยู่ที่นี่อีกต่อไป เลย” ชายคนนั้นกล่าว

หลังจากที่เขามองหน้ากล้องของนักข่าวแล้วนั้น ก็กล่าว“ผมคือปิยะจากสมาคมโกะแห่งเมืองริเวอร์ ผมจะพูดต่อหน้า ทุกๆคน มาเดากันดีกว่า ไอ้สวะรพีพงษ์นี่ ในการแข่งขันรอบ แรก ไม่น่าจะอยู่ได้เกินครึ่งชั่วโมงก็ต้องตกรอบ ถ้าผมทายผิด จะไลฟ์กินโกะให้ดู” เมื่อทุกคนได้ยินปิยะพูด ก็ส่งเสียงดังขึ้น มา แต่ทุกคนรู้สึกว่าในเมื่อปิยะกล้าพูดแบบนี้ แสดงว่าต้องรู้จัก รพีพงษ์ดี ดังนั้นจึงคิดว่ารพีพงษ์ไม่มีความสามารถใดๆจริงๆ

ผ่านไปไม่นาน เริ่มการจับฉลาก คู่แข่งในรอบแรก

หลังจากจับฉลากเสร็จแล้ว ก็เริ่มแข่งขัน ดูตามเลขที่อยู่หน้า โต๊ะ เลขที่ตรงกัน ก็คือคู่แข่งในรอบแรก

รพีพงษ์เดินไปหน้าโต๊ะ หลังจากที่เห็นว่าคู่แข่งของตนคือ ปิยะ ก็ยิ้มอย่างมีเลศนัยออกมา

“เมื่อกี้คุณพูดว่า กี่นาทีผมจะแพ้นะ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ