แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่255 บุษบากรผู้ได้รับความรัก



บทที่255 บุษบากรผู้ได้รับความรัก

อารียามองที่มือถือตนเองอย่างหมดอาลัยตาย อยาก ในสมองเต็มไปด้วยคำพูดคนจากปลายสาย เมื่อกี้ ร่างกายแข็งทื่อไปหมด

เพราะก่อนหน้านี้ที่จักรพันธ์ได้พูดไว้ ดังนั้นอารียา จึงไม่คิดถึงว่าทำไมคนที่รับสายเป็นผู้หญิงเลยเสีย ด้วยซ้ำ และก็ไม่ได้คิดรอบคอบถึงน้ำเสียงที่ผู้หญิง คนนั้นพูดออกมา

ตอนนี้ในสมองเธอว่างเปล่า เต็มไปด้วยความรู้สึก เจ็บปวดรวดร้าว เธอโตมาขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ เธอรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดว่าเป็นอย่างไร

ความรู้สึกเหล่านั้นทำให้เธอล่องลอยไปอย่างไร้จุด

หมาย

ศศินัดดาและศักดาทั้งสองเห็นท่าทีของอารียา แบบนี้ ก็หยุดพูดถึงรพีพงษ์ ศักดาถาม “อารี เป็น อะไรไป? ดูท่าทีลูกแล้ว เหมือนไม่ค่อยดีเลยนะ
อารียาได้ยินสักกลั้นไว้ไม่อยู่ น้ำตาก็ ไหลพรากออกมา ร้องไห้อย่างดัง

พ่อ แม่ รพีพงษ์ตายแล้ว” อารียาพูดอย่างไม่ ชัดเจน

สีหน้าของและศศินัดดาถอดสีทันที ไม่คาด คิดว่าอารียาจะพูดเรื่องที่ทำให้คนตกใจได้ขนาดนี้

“ลูกสาว เข้าใจผิดหรือเปล่า รพีพงษ์มีชีวิตอยู่ จะ ตายได้ยังไงกัน” ศักดาปลอบโยน

“อารี ลูกอย่าเสียใจไปเลย ทีแรกแม่คิดว่ารพีพงษ์ คือทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์ที่แท้จริงเสียอีก ไม่ คาดคิดว่าไอ้สวะนั่นกลับไปเพื่อเป็นตัวตายตัวแทน เท่านั้น สุดท้ายเขาก็เป็นแค่ไอ้สวะที่ไม่มีอะไรเท่านั้น เขาตายไปก็ไม่จำเป็นต้องเสียใจอะไร แบบนี้ลูกก็ สามารถหาสามีดีดีแต่งงานใหม่ได้แล้วนะ” ศศินัดดา กล่าว

ในความคิดเธอ รพีพงษ์ไม่ได้เป็นทายาทของ ตระกูลลัดดาวัลย์ งั้นก็สู้ตายหปเลยซะดีกว่า เพียง เท่านี้ เผะอจึงจะสามารถหาสามีใหม่ให้อารียาได้ ดัง นั้นสำหรับเธอแล้วถือว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างหนึ่ง เมื่ออารียาได้ยินคําพูด ของศศินัดดา ก็ร้องไห้ เสียใจมากขึ้นไปอีก เธอไม่อยากเห็นศศินัดดาแล้ว จริงๆ เธอรู้สึกว่าแม่ของเธอมีแต่จะทำให้เธอรู้สึกแป ลง ดังนั้นเธอจึงลุกออกไป กลับไปยังห้องของเธอ แล้วร้องไห้คนเดียว

กคามองไปที่ศศินัดดาด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ แล้ว กล่าว “เมื่อกี้คุณพูดอะไร คุณไม่เห็นหรอว่าลูกกำลัง เสียใจ คุณพูดแบบนี้ มีแต่จะทำให้เธอแย่ลงนะ”

ศศินัดดาไม่คิดเช่นนั้น แล้วกล่าว “หรือสิ่งที่ฉัน พูดมันไม่จริง? รพีพงษ์ไม่ใช่ทายาทของตระกูลลัด ดาวัลย์ งั้นสําหรับพวกเราแล้ว เขาก็ไม่มีค่าอะไร จริงๆ ตอนนี้ลูกสาวของเราก็ประธานบริษัทตระกูล ฉัตรมงคล ไอ้สวะรพีพงษ์นั่นไม่คู่ควรกับเธอแล้ว อารีก็ไม่รู้โดนไอ้นี่ใช้เล่ห์กลอะไรใส่ ในสายตาไม่ มองใครอื่นเลย ตอนนี้เขาตายแล้ว แบบนี้ก็ไม่มีใคร ห้ามลูกสาวฉันให้แต่งงานกับคนดีๆแล้ว”

หลังจากที่ศักดาได้ยินคำพูดนี้ของลัดดาวัลย์แล้ว ก็ถอนหายใจอย่างเอือมระอา เขาก็คิดว่าศศินัดดา เปลี่ยนไปเร็วดีเหมือนกันนะ หลังจากที่รู้ว่ารพิพงษ์ ไม่ได้เป็นทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์แล้วนั้น ท่าที ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก แต่ทว่าเขาก็ไม่กล้าพูดอะไร ถึงแม้ศศินัดดาจะเกิน ไป เขาก็ทําได้แค่อดกลั้น ไม่งั้นคนที่จะโดนไล่ออก จากบ้าน อาจเป็นเขาก็ได้

หลังจากที่จักรพันธ์ออกไปจากดงเย็นแล้ว ก็ไม่รู้ ว่าจะไปไหนต่อ เขาคิดว่าวันนี้จะสามารถจัดการ ภรรยาของรพีพงษ์ได้แล้วเสียอีก แล้วใช้ตัวตนของ รพีพงษ์ ใช้ชีวิตในเมืองริเวอร์สักพัก

ใครจะรู้ว่าเพิ่งได้เข้าไปในบ้านของรพีพงษ์เพื่อ ทานข้าว ก็กลับโดนไล่ออกมาแล้ว

หลังจากที่ทบทวนอยู่สักพัก จักรพันธ์ได้เรียกรถ ให้คนขับพาเขาไปยังโรงแรมที่ใกล้ที่สุดในบริเวณนี้

แม้ไม่สามารถจัดการกับอารียาได้ วันนี้เขาก็ต้อง ปลดปล่อยให้ได้ ไปผับนัดผู้หญิง เป็นเรื่องที่เขา ชอบท่าที่สุด

ไม่นาน คนขับรถก็เอาเขาไปส่งที่ประตูผับที่มีชื่อว่า บัตเตอร์ฟลาย ผับ จักรพันธ์เดินเข้าไปในผับเพื่อจะไปยืดเส้นยืดสายข้างในเสียหน่อย

เขายังไม่เข้าไป มีใส่สายเดี่ยวกระโปรงสั้นมาก เป็นผู้หญิงที่กำลังมึนเมาเดินออกมาจากด้านใน

รูปร่างของผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างดี ผิวพรรณผ่องใส เห็นแล้วก็เกิดอยากที่จะลูบไล้ขึ้นมา

จักรพันธ์สังเกตเห็นผู้หญิงคนนี้ เขามองไปรอบๆ จากนั้นก็เดินไปด้านหน้าของที่ผู้หญิงคนนั้นโดยตรง แล้วแสร้งทำเป็นเดินชนเธอ ชนจนเธอล้มลงไปอยู่ กับพื้น

เขารีบก้มตัวลงไปพยุง แล้วแสร้งทำเป็นห่วงพลาง กล่าว “คุณไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?”

ผู้หญิงเงยหน้าขึ้นมามองเขา ความจริงอยากมี จะค่าเขาสักยก แต่หลังจากที่ได้เห็นหน้าตาของ จักรพันธ์แล้ว ก็สะดุ้งทันที

“รพีพงษ์ คุณอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” ผู้หญิงที่โดนชนจน ล้มลงไปนั้น คือเพื่อนรักของอารียา หลังจากที่เกิด เรื่องครั้งที่แล้วขึ้น บุษบากรก็กลายเป็นคนติดเหล้า แทบจะทุกคนที่มาผับแล้วเมาหัวราน้ำ เธอพยายามที่จะลืมรพีพงษ์ แต่ทว่ายิ่งเธอ พยายามมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งคิดถึงรพีพงษ์มาก เท่านั้น แต่ในใจเธอรู้ดี ว่าระหว่างเธอกับรพีพงษ์นั้น ไม่ทีทางเป็นไปได้

ตึงนั้นเธอจึงทำได้เพียง งแอลกอฮอล์เพื่อให้ลืม ทุกสิ่ง

“อะไรนะ คุณรู้จักผม?” จักรพันธ์สะดุ้ง ไม่คาดคิด ว่าสาวสวยคนนี้จะรู้จักรพีพงษ์ด้วย

บุษบากร มหม่นหมอง เธอคิดว่ารพีพงษ์ตั้งใจพูด แบบนี้

“ฉันก็แค่ขอบคุณ อย่าเป็นเพราะเหตุผลนี้ แล้ว แสร้งว่าไม่รู้จักฉันเถอะ? ฉันรู้ ฉันกับอารีเป็นเพื่อน รักกัน ฉันไม่ควรชอบสามีของเพื่อนรัก แต่ความรู้สึก ของคนไม่ใช่ใครจะบังคับได้ ฉันก็ทำอะไรไม่ได้ เหมือนกัน แล้วช่วงนี้ฉันก็ไม่ได้สร้างปัญหาใดๆให้ คุณหนิ ทําไมเมื่อคุณเห็นฉันแล้วต้องทำเป็นไม่รู้จัก ด้วย

เพราะดื่มเหล้าเข้าไป บุษบากรจึงได้ความในใจ ออกมาโดยตรง คําพูดเหล่านี้ได้ถูกเก็บอัดไว้ในใจเธอมานานแสนนาน เธอไม่ได้สนด้วยซ้ำว่าวพิพงษ์ จะคิดอย่างไร เธอเพียงแค่อยากให้รพีพงษ์รู้เท่านั้น ว่าเธอยังคงไม่ลืมความรู้สึกในใจส่วนนี้อยู่เสมอ

หลังจากที่จักรพันธ์ได้ยินคําพูดของบุษบากรแล้ว นั้น ก็ยิ้มอย่างมีเลศนัยออกมา เขาคิดในใจว่าไอ้สวะ รพีพงษ์อยู่ที่เมืองริเวอร์นี้ก็ใช้ชีวิตแบบไม่เลวเหมือน กันนะ คาดไม่ถึงว่าแม้แต่เพื่อนรักของภรรยาเขาก็ ยังชอบเขาได้ แล้วยังเป็นคนสวยที่มีเสน่ห์อีกด้วย

ได้ฟังความจากบุษบากรแล้ว รู้ได้ว่ารพีพงษ์ไม่ ได้ชอบเธอ ในเมื่อเป็นดังนี้แล้ว เขาก็เลยปลอบใจ บุษบากรแทนรพีพงษ์เสียเลย

จักรพันธ์ยิ้มอย่างมีเลศนัย ยื่นมือไปโอบไหล่ของ บุษบากร แล้วกล่าว “ผมจะแสร้งทำเป็นไม่รู้จักคุณ ได้ยังไงกัน เมื่อกี้ดูไม่ชัดเท่านั้น ท่าทีที่คุณเมายิ่ง ทำให้คนหลงใหลมากขึ้น ผมไม่กล้าปฏิเสธหรอก”

บุษบากรสะดุ้ง เธอรับรู้ได้ถึงมือของรพีพงษ์ที่ จับมายังไหล่ของเธอ ใจเต้นเร็วขึ้น แล้วปฏิกิริยา ของ รพีพงษ์” ก็ไม่เหมือนกับที่เธอคิดไว้ เธอคิดว่ารพีพงษ์จะไม่สนใจเธอเลยเสียด้วยซ้ำ กลับไม่คาด คิดว่าฝ่ายตรงข้ามไม่เพียงแค่โอบตนเองไว้ยังบอก ว่าตนเองมีเสน่ห์อีกด้วย

หรือรพีพงษ์คิดว่าอารียาไม่มีปัญญาที่จะทำให้เขา พอใจได้ ดังนั้นจึงได้มาหาตนโดยเฉพาะ

ถ้านี่เป็นความจริงล่ะก็ เธอพร้อมที่จะพลีกายให้ร พงษ์อย่างไร้เงื่อนไขใดๆ เมื่อคิดแบบนี้ เธอก็รู้สึกตื่น เต้นขึ้นมา

“ร…..รพีพงษ์ คุณตั้งใจมาหาฉันโดยเฉพาะหรอ?” บุษบากรถามอย่างกล้าๆกลัวๆ

“ถูก ผมไตร่ตรองถี่ถ้วนแล้ว เมื่อก่อนผมมันโง่ ทำร้ายจิตใจคุณ ดังนั้นวันนี้ผมจึงมาหาคุณโดย เฉพาะ เพื่อที่จะชดเชยให้คุณ” จักรพันธ์พูดอย่าง เข้าอกเข้าใจ

“ชดเชยให้ฉัน? คุณจะชดเชยให้ฉันยังไง?” ใจของ บุษบากรเต้นรัวๆ ไม่คิดมาก่อนว่ารพีพงษ์จะพูดแบบ นี้กับตนได้

จักรพันธ์โอบบุษบากรแน่นขึ้นไปอีก แล้วไปยังบริเวณหู ใช้น้ำเสียงอ่อนโยนพูดว่า “ให้คุณได้ทำใน สิ่งที่เมื่อก่อนคุณอยากทำทั้งหมด ถ้าผมเดาไม่ผิด คุณน่าจะไม่คิดอะไรถ้าจะไปโรงแรมพร้อมกับผม? คุณดื่มมากขนาดนี้ ต้องหาที่พักผ่อน ไปโรงแรมกับ ผม ผมจะได้ฟังคุณระบายความในใจ

บุษบากรพยักหน้าโดยไม่ครุ่นคิดใดๆ โอกาสแบบ นี้สำหรับเธอนั้นมีมาไม่บ่อย ดังนั้นเธอต้องคว้าเอาไว้ ก่อนเท่าที่จะทําได้ แม้สิ่งที่ท่าจะผิดต่ออารียาก็ตาม

แต่คิดไปกันนี่เป็นสิ่งที่รพีพงษ์เสนอมาเอง ดังนั้นจึง ไม่ถือว่าทําผิดต่ออารียา

จักรพันธ์เห็นบุษบากรตอบรับโดยเร็ว ในใจก็รู้สึก ตื่นเต้นขึ้นมา นี่มันถวายตัวให้เลยชัดๆ เขาไม่ต้อง ทําอะไร ก็ได้สาวสวยขนาดนี้มา ทําเอาเขาอยาก จะเผากระดาษเงินกระดาษทองไปให้รพีพงษ์เลยที เดียว

ทั้งสองเดินไปยังโรงแรมบริเวณข้างๆนั้น จักรพันธ์ เลือกห้องเตียงใหญ่ บุษบากรเดินข้างๆเขา ด้วย ใบหน้าเขินอาย รู้ว่าคืนนี้เธอและรพีพงษ์จะต้องมี อะไรกันอย่างแน่นอน หลังจากที่เปิดห้องแล้ว ทั้งสองก็เดินขึ้นไปพร้อม กัน พวกเขาเข้าไปยังห้องนั้น

ปิดประตูลง จักรพันธ์เดินไปที่บุษบากร ยิ้มพลาง กล่าว “คืนนี้ผมจะชดเชยในสิ่งที่ติดค้างให้กับคุณ ทั้งหมด ผมจะทำให้คุณรับรู้ถึงความสุขของผู้หญิง

บุษบากรเบิลหน้าแดง เธอดื่มเหล้าจนเมา ไม่ได้ คิดเสียด้วยซ้ำว่าทําไมรพีพงษ์ถึงได้เปลี่ยนไป ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน ความเร่าร้อนแบบนี้ของ รพี พงษ์” ทำให้เธอรับรู้ได้ถึงความรัก

“แหม คุณนี้ร้ายจัง ฉันไปอาบน้ำก่อน” บุษบากร กล่าว

จักรพันธ์ไม่รีบเร่ง ให้บุษบากรได้อาบน้ำก่อน

เขายืดเส้นยืดสายของตนในห้อง คิดว่าอีกสักพัก จะต้องปลดปล่อยให้สุดๆไปเลย

ไอ้รพีพงษ์นี่มันเจ๋งกว่าที่คิดไว้เสียอีก มีสาวสวย ยอมพลีกายให้ขนาดนี้ ดูๆแล้วเมื่อก่อนฉันมองข้าม มันไปจริงๆ” จักรพันธ์พูดกับตนเอง ผ่านไปไม่นาน บุษบากรอาบนํ้าออกมา นุ่งผ้าขนหนู ไว้ ผมเปียก ช่างเซ็กซี่ดึงดูดคนจริงๆ

จักรพันธ์แทบจะทนไว้ไม่ไหว เขาเข้าไป โอบเอว

ของบุษบากรเอาไว้ แล้วล้มตัวลงบนเตียง

“ไม่ใช่ว่าจะฟังฉันระบายความในใจหรอ? นี่..…….. เร็วไปหน่อยไหม” บุษบากรรับรู้ได้ถึงอุณหภูมิบน ร่างกายของจักรพันธ์ แล้วพูดอย่างเร่าร้อน

จักรพันธ์ยิ้ม แล้วกล่าว “นี่ผมใช้วิธีฟังคุณระบาย ความในใจแบบโดยตรงเลยนะ ร่างกายสื่อได้ ชัดเจน คุณใช้ร่างกายสื่อความในใจของคุณให้กับ ผมแล้วกันนะ”

พูดจบ จักรพันธ์ก็เอาผ้าขนหนูที่ห่อตัวบุษบากรเอา ไว้ออก ในขณะนี้เอง บุษบากรก็ใช้มือของตนคว้า ผ้าเช็ดตัวเอาไว้ แล้วกล่าว “พวกเราทําแบบนี้ จะทํา ผิดต่ออารียาไหม? ถือว่าเป็นการเล่นชู้หรือเปล่า?”

หลังจากอาบน้ำแล้ว บุษบากรก็รู้สึกตื่นตัวขึ้นมา บ้าง ดังนั้นจึงเริ่มคำนึงถึงปัญหานี้แล้ว จักรพันธ์ขมวดคิ้ว แล้วกล่าว “วันนี้ผมถูกเธอไม่ ออกมา มีอะไรที่ทําผิดต่อเธอ แล้วคุณไม่รู้สึกว่าท่า แบบนี้มันท้าทายหรอ? ผมจะทำให้เธอเสียใจที่ไล่ ผมออกมา พวกเรารีบเริ่มกันเถอะ”

บุษบากรผลักจักรพันธ์ออก เธอมองไปที่จักรพันธ์ อย่างผิดหวัง แล้วกล่าว “ที่แท้ฉันก็เป็นแค่ตัวสํารอง ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันยอมไม่ได้อะไรเลยดีกว่า”

จักรพันธ์เคร่งเครียดขึ้นมาทันใด แล้วกล่าว “มาถึง จุดนี้แล้ว คุณพูดแบบนี้กับผม แม้วันนี้กูต้องใช้กำลัง ก็จะเอามึงให้ได้!”

จากนั้นจักรพันธ์ กดบุษบากรลงกับเตียง ก้มลงไป เพื่อจะจูบบุษบากร

บุษบากรหลบหน้า แล้วกล่าว “รพีพงษ์ คิดไม่ถึง จริงๆว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้!

จักรพันธ์ถึงจุดที่บังคับตัวเองไม่ได้อีกแล้ว ในตอน นี้ไม่ว่าบุษบากรจะพูดอะไร เขาก็ไม่มีทางหยุด

บุษบากรเห็นเขาเป็นแบบนี้ ก็ถอนหายใจอย่าง เอือมระอา และยอมแต่โดยดี เธอไม่ซีเรียสที่รพีพงษ์จะได้เธอ เพียงแค่เธอรู้สึกว่ามันไม่เป็นธรรมกับ ตัวเธอเท่านั้นเอง

ในขณะที่จักรพันธ์ ลังจะลงมือ ข้างนอกก็มีเสียง เคาะประตูดังขึ้น ทำให้จักรพันธ์และบุษบากรตกใจ ขึ้นมาทันที

จักรพันธ์ด่าออกไป ไม่รู้ว่าใครมาทำลาย บรรยากาศ เสียงเคาะประตูดังไม่หยุด เขาทำได้ เพียงยืนขึ้นจากร่างของบุษบากรแล้วเดินไปเปิด ประตู

“ใครวะ? กูกำลังยุ่ง ไม่มีธุระก็รีบไสหัวไป จักรพันธ์ด่าออกมา

“คุณผู้ชาย ข้างนอกมีคนให้ฉันเอาของสิ่งนี้มาให้ กับคุณ คุณออกมาเอาหน่อยนะคะ” คนข้างนอกพูด มา

จักรพันธ์เปิดประตูอย่างเซ็ง อยากรู้ว่าเป็นของ อะไร ในขณะที่เขากำลังเปิดประตูออกนั้น ผู้ชายห้า หกคนดึงเขาออกไปด้านนอก แล้วเอาเชือกมัดตัว เขาเอาไว้ 197838827_936381976906880_2221971531332566869_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ