แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่248 แล้วพวกแกจะเสียใจ



บทที่248 แล้วพวกแกจะเสียใจ

โซนเครื่องเล่นเกม หลังจากที่รพีพงษ์ชกไปที่ตู้เกม วัดพลังหมด ก็หันกลับไปมองรอบไป จากนั้นก็ เห็นว่าอันนาและคนไม่กี่คนยืนอยู่ที่ด้านหลัง ก็เดิน เข้าไปหาทันที

เขายิ้มแล้วมองไปที่จิรโชติที่ใบหน้าเต็มไปด้วย ความอึดอัด แล้วพูด: “ผมว่าระดับความสามารถของ ผมก็น่าจะพอใช้ได้นะ แล้วคุณคิดว่ายังไง?”

จิรโชติถอนหายใจเบาๆ แล้วพูด “นายจะมาภาค ภูมิใจอะไร? ไม่เห็นเหรอว่าเครื่องเล่นขัดข้อง นายรู้ หรือเปล่าว่ามันใช่นายชกจนขัดข้องเหรอ? แล้วเกิด มันเสียอยู่พอดีล่ะ?”

อันนาหันไปมองจิรโชติ แล้วพูดอย่างไม่พอใจ “เครื่องเล่นนั้นก็ถูกรพีพงษ์ชกจนขัดขัดข้อง จะมา เสียพอดีได้ยังไง ฉันรู้สึกว่ารพีพงษ์แข็งแกร่งมาก ทําไม ยังไม่ยอมรับอีก?”

คำพูดของอันนาทำให้จิรโชติเต็มไปด้วยความ ละอาย แล้วก็ไม่รู้ว่าจะตอบกลับยังไงดี
รซโซลก็รีบพูดแทนจิรโชติ: “เขาก็แค่แข็งแกร่ง กว่านิดเดียวเองไม่ใช่เหรอ? มีอะไรที่สุดยอดกว่า ที ยังเป็นแค่การฝึกฝนมาจากการทำงานในหมู่บ้าน คน อย่างเขาต่อให้จะมีพลังที่แข็งแกร่ง ชาตินี้ทั้งชาติกั เป็นได้แค่คนงานชาวนา”

อันนาไม่พอใจ ตอนนี้เธอไม่อยากจะสนใจพี่สาวตัว เองและจิรโชติ

ในขณะนี้ มีผู้ชายสองสามคนเดินเข้ามา พวก เขาเดินตรงไปที่รพีพงษ์ ดูสีหน้าแล้วไม่เป็นมิตร

สักเลย

ชายหัวโจกคนนั้นเดินไปตรงหน้ารพีพงษ์ แล้วกล่า วอย่างเย็นชา: “คุณหลายเครื่องเล่นเกมของเรา ตอนนี้พวกเราต้องการให้คุณไปกับพวกเราหน่อย ไปที่ห้องสํานักงานเพื่อคุยเรื่องชดใช้ค่าเสียหาย

เดิมทีรชนิชลและจิรโชติทั้งสองคนที่ไม่พอใจอยู่ แล้วหลังจากได้ยินคำพูดเช่นนี้ ก็หัวเราะเสียงดังขึ้น มาทันที

“เวรกรรมจริงๆ เมื่อกี้ยังอวดเก่งอยู่ไม่ใช่เหรอ ตอน นี้กลายเป็นว่าเขาให้ชดใช้เงินค่าเสียหายนายมีเงินชดใช้คืนให้เขาเหรอ?”จิรโชติหัวเราะเยาะ อย่างไม่หยุด

รพีพงษ์คิดไม่ถึงว่าคนพวกนี้จะเข้ามาเพื่อให้เขา

ไปชดใช้ค่าเสียหาย สีหน้าเต็มไปด้วยความแปลก ใจ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร ก็แค่ตู้เกมวัดพลังหมัด เครื่องเดียวเอง ก็ไม่ได้มีมูลค่ามากเท่าไหร่

ด้านอันนาก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เขาจ้องมองไป ที่คนพวกนั้น แล้วถามว่า: “เครื่องเล่นที่เสีย มันก็เป็น หน้าที่ของพวกคุณ เรื่องอะไรจะต้องให้เขาชดใช้ ล่ะ? เขาแค่ชกไปแค่หนึ่งหมัดเอง พวกคุณเอาเครื่อง เล่นนี้มาวางไว้ที่นี่ ก็เพื่อให้ผู้คนมาชกไม่ใช่เหรอ ตอนนี้มันมีปัญหา พูดได้ว่าพวกคุณดูได้ไม่ถูกต้อง”

ชายหัวโจกคนนั้นก็เบิกตากว้างจ้องไปที่อันนา แล้ว พูด: “อย่ามายุ่งเรื่องนี้ให้มากเลย คุณไม่มีสิทธิ์มา พูดอะไรที่นี่”

“ทำไมคุณถึงเป็นคนแบบนี้ ตอนนี้ฉันกำลังพูดกับ คุณด้วยเหตุผล”อันนาก็ไม่ได้คิดจะยอมแพ้แม้แต่ น้อยรชนิซลดึงแล้วดึงอันนา แล้วพูด:” นี่เป็นเรื่องของ พวกเขา เธอก็อย่าไปยุ่งเลย ตอนนี้ก็เป็นโอกาส ทดสอบเขาด้วยเครื่องเล่นเครื่องเดียว แม้แต่เงิน แค่นี้ยังไม่มี อย่างนั้นก็หมายความว่าเขาก็เป็นแค่ บางก

“ห้องสำนักงานพวกคุณอยู่ที่ไหน? เครื่องเล่นนั้น เดี๋ยวฉันชดใช้เอง พาฉันไป”รพีพงษ์หรี่ตามองไปที่ คนพวกนั้น ในใจก็รู้สึกแปลกๆ เขารู้สึกว่าคนพวก นี้ไม่เหมือนกับเป็นพนักงานที่ทำงานในโซนเครื่อง เล่นเกมนี้เลย

คนพวกนั้นเห็นว่ารพีพงษ์ตอบตกลงที่จะชดใช้เงิน คืน จึงหันหลังพารพีพงษ์เดินไปที่ห้องทํางานทันที

เมื่ออันนาเห็นเช่นนี้ ก็รีบเดินตามไป เขาไม่อยาก ให้รพีพงษ์ถูกเอาเปรียบ ไม่แน่เครื่องเล่นนี้อาจไม่ได้ ดีเสมอไป รพีพงษ์เองก็ไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้นเงินนี้เขา จึงไม่ควรมาชดใช้

รชนีชลและจิรโชติมองหน้ากันแล้วสบตา ก็เดิน ตามขึ้นไป พวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะไปช่วยรพีพงษ์ หรอก พวกเขาแค่อย่าจะดูเรื่องน่าตลกของรพีพงษ์ เอง ในความคิดของพวกเขา สามารถทำให้รพีพงษ์รู้สึกขายหน้าได้ เขาก็คงจะเลิกยุ่งกับอันนา

ทั้งสี่คนมาถึงที่ห้องสํานักงานพร้อมกัน พวกคนที่ พาพวกเขาเข้ามา ก็ไม่ได้สนใจ หลังจากที่รอให้พวก เขาเข้ามา ก็ปิดขว้างประตูห้องทันที

รพีพงษ์หันกลับไป มองคนพวกนั้น แล้วพูดอย่าง เบ็นซาะ “พวกแกเป็นใคร? ต้องการจะทำอะไร?”

“พวกเขาเป็นพนักงานของเครื่องเล่นเกม แน่นอน ว่าต้องให้นายมาชดใช้เงินคืนอยู่แล้ว นายคิดว่าพวก เขาจะทําอะไรล่ะ?”รชนชลกล่าวพร้อมเบะปาก

หล่อนเพิ่งจะพูดจบ นอกประตูก็มีคนกลุ่มหนึ่งถือ ไม้พุ่งเข้ามาด้านในทันที

ทําให้รช ชลตกใจมาก เขาก็รีบหลบไปด้านหลัง จิรโชติทันที คิดไม่ถึงเลยว่า คนพวกนี้ไม่ใช่พนักงาน จริงๆ

จิรโชติหรี่ตามองคนพวกนี้ แล้วพึมพำ: “ไอ้หมอนี่ คงจะไม่ใช่ว่าไปหาเรื่องคนที่ไม่ควรจะมีเรื่องด้วยนะ อันนา พวกเราก็พูดอยู่แล้วว่าเธอไม่ควรเข้าใกล้ไอ้ หมอนี่ ตอนนี้เธอเห็นชัดแล้วหรือยัง นอกจากเขาจะเป็นแค่ผู้ชายธรรมดา ยังเป็นคนที่เรื่องเยอะ หาเรื่องให้วุ่นวายได้ตลอดเวลา”

เมื่อพูดจบ จิรโชติ พารชโซลและอันนาเดินออก ไปข้างนอก

“ทุกท่านๆ เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องระหว่างของพวก คุณและไอ้หมอนี้ ไม่เกี่ยวกับพวกเรา เราแค่บังเอิญ มาเจอกันที่นี่เอง ให้พวกเราออกไปเถอะ”จิรโชติ กล่าว

คนที่เฝ้าประตูผลักจิรโชติทันที แล้วด่า: “เข้ามา ในนี้แล้วก็อยากคิดที่จะได้ออกไป ใครจะไปสนใจ กันว่าแกกับมันเกี่ยวข้องกันยังไง วันนี้พี่ทัดเรียกเรา มาเพื่อคิดบัญชีกับไอ้หมอนี่ พวกแกมาพร้อมกับมัน ด้วย ก็รอให้พี่ทัดมาจัดการพร้อมกันเลย จะโทษก็ โทษที่ตัวเองโชคร้ายแล้วกัน ที่มีความสัมพันธ์กับไอ้ หมอนี่”

สีหน้าของจิรโชติเปลี่ยนไปทันที แล้วถาม: “พี่ทัด? พี่ทัดที่นายพูดถึง คือทัศน์พลนะเหรอ?”

“ใช่ ฉันเอง”ในตอนนั้นนอกประตูก็เดินเข้ามาหนึ่ง คน ก็คือทัศน์พลเอง
สีหน้าของจิรโชติและราชลทั้งสองคนก็ เคร่งเครียดขึ้นมาทันที พวกเขาสองคนเป็นคน อำเภอโชชิง ก็เคยได้ยินชื่อเสียงของทัศน์พลมาบ้าง ใครที่มีปัญหากับทัศน์พล ก็จะไม่มีผลดีอะไรอย่าง แน่นอน

โซน์ ลหันกลับไปจ้องมองไปที่รพีพงษ์ แล้ว ตะโกน “ไอ้สารเลวตกลงแกไปทำเรื่องอะไรมา? ทําไมถึงมาเรื่องกับคนใหญ่คนโตอย่างทัศน์พลได้?”

รพีพงษ์ก็เต็มไปด้วยความสงสัย เขาไม่รู้จักทัศน์ พลเลย และยิ่งไม่รู้ว่าทัศน์พลมาหาเขาเพื่อจะทำ อะไร

“ฉันไม่รู้จักเขา และฉันก็ไปไม่รู้ว่าเขาต้องการจะ ทำอะไร เรื่องนี้คุณน่าจะถามเขามากกว่า”รพีพงษ์ กล่าว

รชนิชลคิดว่ารพีพงษ์จงใจพูดเช่นนี้ ในใจก็โกรธ เข้าไปใหญ่ ที่แย่ไปกว่านั้นคืออยากจะพุ่งเข้าไป ตบตีรพีพงษ์สักทีหนึ่ง

อันนาเองก็ไม่เข้าใจว่าตกลงนี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นไม่ใช่ว่าให้มาชดใช้เงินค่าเสียหายเหรอ ทำไมใน คราวเดียวถึงได้มีผู้คนพุ่งเข้ามามากมายแบบนี้ และ เป็นคนใหญ่คนโตที่มีชื่อเสียงในอำเภอโชชิงอีก

จิรโชติหายใจเข้าลึกๆ และเดินไปตรงหน้าทัศน์พล แล้วพูดว่า: “พี่ทัด ผมมาจากโรงงานเสื้อผ้าTK เมื่อ ก่อนพ่อของผมเคยดื่มเหล้ากับคุณด้วย เรื่องนี้ไม่ เกี่ยวกับพวกเรา พี่ปล่อยเราไปเถอะ”

ทัศน์พลจ้องมองไปที่รพีพงษ์ แล้วพูด: “ไม่ว่าพวก แกจะมีความสัมพันธ์ยังไงกับมัน วันนี้พวกแกมา พร้อมกับเขา ก็คงต้องยอมรับในความโชคร้ายของ ตัวเอง ฉันเองก็ไม่สนใจว่าพ่อแกเคยหรือไม่เคยดื่ม เหล้ากับฉัน คนที่ดื่มเหล้ากับฉันมามีมากมาย กา ไม่ได้โว้ย”

จิรโชติกัดฟันทันที ความโกรธแค้นในใจตัวเองก็ โยนความผิดไปที่รพีพงษ์

เขาหันหน้าไปมองรพีพงษ์ แล้วพูด: “แกนี่มันตัว ซวยจริงๆ เป็นเพราะแกคนเดียว ไม่อย่างนั้นพวกเรา ก็ไม่ซวยไปด้วย!”
รพีพงษ์ยักไหล่ แล้วพูด: “ฉันไม่ได้ให้พวกคุณตาม มาด้วยนะ พวกคุณตามฉันเข้ามาเอง”

จีรโชติโมโหจนอยากจะลงไม้ลงมือ แต่เมื่อคิดว่า ทัศน์พลยังอยู่ที่นี่ เขาก็ทำได้เพียงแค่อดทน

“นายยังยืนเฉยทำอะไรได้ รีบเข้าไปขอร้อง ทัด เร็วๆ ถ้าหากนายเข้าไปขอร้องเขา ไม่แน่เขา อาจ ปล่อยเราไป นายก็อย่ามัวแต่ยืนเฉยๆอยู่ที่นี่”รชนิ ชลโยนหน้าที่ให้รพีพงษ์

รพีพงษ์มองไปที่ทัศน์พล แล้วถาม: “ใครสั่งให้พวก แกมา บอกมาตอนนี้ ฉันก็จะทำให้พวกแกทรมาน น้อยที่สุด”

ทัศน์พลชะงักไปทีหนึ่ง แล้วก็หัวเราะเสียงดังลั่นขึ้น มา แล้วพูด: “มันแมร่งเป็นไอ้เศษสวะที่อวดเก่งจริงๆ แกก็มีชื่อเสียงเรื่องความไม่เอาไหนอยู่แล้ว ไปเอา ความกล้ามาจากที่ไหนกัน ถึงกล้ามาพูดจาแบบนี้กับ ฉัน?”

จิรโชติและรชนิชลก็กัดฟันแน่ คิดในใจทำไมร พงษ์ถึงพูดแบบนี้กับทัศน์พล ไม่ต้องสงสัยเลย มันรนหาที่ตายชัดๆเมื่อหลังจากรพีพงษ์ได้ยินคำพูดของทัศน์พล ใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา แล้วพูด: “ถ้าหากฉัน เคาไม่ผิด ก็น่าจะเป็นชรินทร์ทิพย์และไอ้คนที่ชื่อว่า ก้องภพส่งแกมาใช่มั้ย พวกเขาสองคนตอนนี้ก็น่าจะ อยู่ที่ด้านนอกประตู ให้พวกเขาเข้ามาเถอะ”

คนที่ชอบว่าให้รพีพงษ์มีชื่อเสียงด้านไม่เอาไหน อยู่ในเมืองริเวอร์มีมากมาย แต่อยู่ในอำเภอโชชิง มีเพียงแค่ชรินทร์ทิพย์ ตอนนี้ทัศน์พลพูดมาเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่า มีเพียงบรินทร์ทิพยเป็นคนบอกเขา

อย่างนั้นคนที่ส่งท้ศน์พลมา ก็มีเพียงแค่ชรินทร์ ทิพย์ รพีพงษ์รู้ดี ลักษณะนิสัยของชรินทร์ทิพย์แล้ว เรื่องเมื่อวานที่ให้เช่าเรียนแบบสุนัขที่สนามแข่งรถ หล่อนจะปล่อยเขาไปง่ายๆได้ยังไง

ก้องภาพและชรินทร์ทิพย์ทั้งสองคนยืนอยู่ที่ด้าน นอกประตูจริงๆด้วย พวกเขาคิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะ เดาถูกว่าพวกเขาเป็นคนบงการทัศน์ผลได้เร็วขนาด นี้ แต่ถึงแม้ว่าจะเดาถูก ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ ต้องหลบซ่อนอีกต่อไป ยังไงวันนี้รพีพงษ์ก็จะกลาย เป็นศพที่ไม่สามารถพูดได้ ดังนั้นให้เขารู้หรือไม่รู้ ก็ไม่สำคัญอะไร
ทั้งสองคนเดินเข้ามาในห้องสำนักงาน ใบหน้า แสยะยิ้มจ้องไปที่รฟ์พงษ์

“รพีพงษ์ คิดไม่ถึงเลยนะว่านายจะฉลาดขนาดนี้ ถึงขนาดสามารถเคาถูกว่าพวกเราเป็นคนหาเรื่อง นาย แต่นายก็กำลังจะกลายเป็นคนตาย ก่อนที่นาย จะตาย ให้นายรู้ว่าตายด้วยน้ำมือของใคร ก็ถือว่า เป็นการให้เกียรตินายมาก”ก้องภพกล่าว

เมื่อจิรโชติและรซ ชลได้ยินคําพูดของพวกเขา ต้องการที่จะฆ่ารพีพงษ์ สีหน้าก็ซีดเซียวขึ้นมาทันที

สีหน้าอันนาก็เต็มไปด้วยความกลัว เธอหันหน้าไป มองรพีพงษ์ ก็พบว่ารพีพงษ์นิ่งสงบ เหมือนราวกับว่า ไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย ทําให้เธอเกิดความสงสัยขึ้น ในใจ หรือว่ารพีพงษ์ไม่กลัวเลยแม้แต่เล็กน้อย?

“พี่ทัด เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกเราจริงๆ พี่ปล่อยพวก เราไปเถอะ พวกเรารับรองว่าจะไม่พูดเรื่องนี้ออกไป แน่นอน”จิรโชติพูดอย่างหมดหวัง

ทัศน์ตะคอกอย่างเย็นชา แล้วพูด: “เรื่องนี้พวกแก ก็ได้ยินแล้ว ใครจะไปรู้ว่าพวกแกจะพูดหรือไม่พูด ออกไป พวกแกสบายใจได้ ฉันไม่ฆ่าพวกแกหรอกแค่จะทำให้พวกแกกลายเป็นใบ้เท่านั้นเอง แบบนี้ พวกแกก็ไม่มีโอกาสที่จะพูดเรื่องนี้ออกไปแล้ว”

ราชลเกือบจะร้องไห้ หล่อนหันกลับไป วิ่งพุ่งไป ที่รพีพงษ์: “ไอ้สารเลวเป็นเพราะแกคนเดียวเลย ถ้า ไม่ใช่เพราะแก พวกเราก็ไม่ต้องมาเจอเรื่องเดือด ร้อนแบบนี้ แกนี่มันตัวซวยจริงๆ แกไม่ควรมีชีวิต อยู่บนโลกใบนี้เลย!”

อันนารีบห้ามรชนิชลไว้ทันที แล้วพูด: “พี่ พี่ใจเย็น ก่อน ฉันว่า รพีพงษ์ไม่มีทางปล่อยให้พวกเราเป็น อะไรไปแน่

จะคิดมากไปหรือเปล่า เขาก็เป็นเพียงแค่คน ไม่เอาไหนเอง แต่พี่ทัดเป็นถึงคนใหญ่คนโตขอ งอำเภอโชชิง ลูกน้องเขามีมากมาย จะจัดการกับไอ้ เศษสวะนี้ไม่ได้เลยเหรอ ช่างไร้เดียงสาจริงๆ”ชริน ทร์ทิพย์แสยะยิ้มแล้วกล่าว

อันนากัดริมฝีปาก แล้วมองไปที่รพีพงษ์ ตอนนี้ ความหวังเดียวของเธอคือหวังว่ารพีพงษ์จะสามารถ ช่วยเหมือนกับคืนนั้น ช่วยให้พวกเขารอดพ้นจาก อันตรายนี้197133110_506984677237509_934135287888083011_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ