แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่ 146 ขอแค่เธอไปจากเขา



บทที่ 146 ขอแค่เธอไปจากเขา

อารียาโน้มตัวเข้าไปหาบุษบากร มองรูปภาพในมือ

ถือของบุษบากร

บุษบากรเลื่อนภาพไปเรื่อยๆ แถมยังพูดถึงความ รู้สึกตอนไปเที่ยวให้อารียาฟัง

“อารี ที่นี่สนุกมากเลยนะ ถ้ามีเวลาเธอไปกับรพี พง ดูสิ” บุษบากรเอ่ยขึ้น

“ฉันมีเวลาที่ไหนกันล่ะ บริษัทยุ่งจะตาย” อารียา พูดปนออกมา

ขณะนั้นเอง บุษบากรก็เลื่อนรูปต่อไป รูปนั้นไม่ใช่ รูปที่บุษบากรถ่าย แต่เป็นรูปที่รพีพงษ์กำลังอยู่บน ตัวของเธอ

อารียาอึ้งไปในทันที

บุษบากรมีสีหน้าตื่นตระหนก เธอรีบปัดรูปในมือถือ ไปเป็นรูปอื่น
เธอเก็บมือถือกลับไปแล้วพูดว่า “มะ มีแค่นี้แหละ”

ผ่านไปนานกว่าอารียาจะตั้งสติได้ ถึงแม้ว่ารูปเมื่อ ครูจะเห็นเพียงใบหน้าด้านข้างของรพีพงษ์ แต่เธอ มั่นใจว่าเป็นเขาแน่นอน

“บุษ เอามือถือของเธอมาให้ฉันดูอีกทีได้ไหม” น้ำ เสียงของอารียาแปรเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงที่สุดแสนจะ เยือกเย็น

“ไม่มีอะไรให้ดูแล้ว อารี ฉันนึกได้ว่ามีเรื่องต้องทำ อีก ฉันไปก่อนนะ”

บุษบากรรีบลุกขึ้น เธอกำลังจะเดินออกไป

อารียาดึงบุษบากรลงมานั่งบนโซฟาอีกครั้ง

บุษบากรมองอารียา แววตาของเธอวูบไหว ไม่กล้า สบตาอารียา

อารียาปากสั่นเล็กน้อย รูปที่เธอเห็นเมื่อครู่ มัน ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดหัวใจขึ้นมาทันที
เธอเก็บมือถือกลับไปแล้วพูดว่า “มะ มีแค่นี้แหละ”

ผ่านไปนานกว่าอารียาจะตั้งสติได้ ถึงแม้ว่ารูปเมื่อ ครูจะเห็นเพียงใบหน้าด้านข้างของรพีพงษ์ แต่เธอ มั่นใจว่าเป็นเขาแน่นอน

“บุษ เอามือถือของเธอมาให้ฉันดูอีกทีได้ไหม” น้ำ เสียงของอารียาแปรเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงที่สุดแสนจะ เยือกเย็น

“ไม่มีอะไรให้ดูแล้ว อารี ฉันนึกได้ว่ามีเรื่องต้องทำ อีก ฉันไปก่อนนะ”

บุษบากรรีบลุกขึ้น เธอกำลังจะเดินออกไป

อารียาดึงบุษบากรลงมานั่งบนโซฟาอีกครั้ง

บุษบากรมองอารียา แววตาของเธอวูบไหว ไม่กล้า สบตาอารียา

อารียาปากสั่นเล็กน้อย รูปที่เธอเห็นเมื่อครู่ มัน ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดหัวใจขึ้นมาทันที
“บุษ นั่นโซ่รฟ์พงษ์ไหม” อารียาถามขึ้น

อารี เธออย่าเข้าใจผิด รพีพงษ์ไม่ได้ตั้งใจ ฉันนึก ว่าฉันลบรูปนั้นไปแล้ว คิดไม่ถึงว่า…” บุษบากรพูด ด้วยสีหน้าใส อ

ทันใดนั้นอารียาก็เก็บอาการไว้ไม่อยู่อีกแล้ว เธอ พูดกับบุษบากรด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความ สะเทือนใจ “งั้นรูปนั้นก็เป็นรพีพงษ์จริงๆใช่ไหม ทําไมเธอกับเขาถึงทำเรื่องแบบนี้?”

บุษบากรร้องไห้ออกมาแล้วพูดว่า “อารี มันไม่ใช่ อย่างที่เธอคิด วันนั้นฉันไปสถานบันเทิงสตาร์กาย ฉันดื่มจนเมา แล้วเจอรพีพงษ์พอดี……

“สถานบันเทิง ทําไมรพีพงษ์ถึงไปสถานที่แบบ นั้น?” อารียาขมวดคิ้ว

“อารี เดิมทีฉันไม่อยากพูดเรื่องนี้กับเธอ แต่ว่าใน เมื่อเธอเห็นภาพนั้นแล้ว ฉันก็จะอธิบายให้เธอฟัง บุษบากรพูดสะอึกสะอื้น

“ยังมีอะไรให้อธิบายอีก รพีพงษ์คนหลอกลวง เขา ทําเป็นพูดว่าจะรักฉันคนเดียวไปตลอดชีวิต คิดไม่ถึงว่าเขาจะทําเรื่องแบบนั้นกับเพื่อนสนิทของฉัน…..

อารียาไม่สามารถอดกลั้นได้อีกแล้ว เธอร้องไห้

ออกมา

เธอรู้สึกน้อยใจเป็นอย่างมาก เธอเปิดใจให้รพีพงษ์ แล้วแท้ๆ แถมยังทะเลาะกับคุณปู่เพื่อเขา คิดไม่ ถึงว่ารพีพงษ์จะทําอะไรลับหลังเธอ

“อารี เรื่องนี้จะโทษรพีพงษ์ทั้งหมดก็ไม่ได้ ถึงแม้ เธอกับเขาจะขึ้นชื่อว่าเป็นสามีภรรยากัน แต่เธอก็ไม่ เคยให้เขาแตะต้องตัวเธอเลย เขาก็เป็นผู้ชายทั่วไป ที่มีความต้องการสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่แล้ว ไม่งั้นเขาคง ไม่ไปสถานบันเทิงหรอก ฉันเคยเจอเขาที่นั่นหลาย ครั้งเลยนะ” บุษบากรพูดอธิบาย

อารียากัดริมฝีปาก อย่าบอกนะว่าหลังจากแต่งงาน กันรพีพงษ์ไปที่นั่นบ่อยๆ งั้นเขาก็หลอกเธอมาตลอด น่ะสิ

ครั้งนั้นฉันดื่มมากไปหน่อย รพีพงษ์เห็นฉันก็เลย พาไปที่โรงแรม เขากลัวว่าฉันเป็นผู้หญิงอยู่ข้างนอก แล้วจะเป็นอันตราย วันนั้นเขาพูดความน้อยใจของตัวเองให้ฉันฟัง จากนั้นเขาก็ลวนลามฉัน ฉันก็ ใจอ่อน เลย….. บุษบากรพูดจนเห็นภาพ

“พอแล้ว!” อารียาตะโกนออกมาเสียงดัง เธอไม่ อยากฟังประโยคต่อไปอีกแล้ว

“อารี เรื่องนี้จะโทษรคนเดียวไม่ได้ ต้อง โทษฉันด้วย ฉันผิดเอง เขาแต่งงานกับเธอมาหลาย ปี แถมยังถูกกระทำไม่น้อย เรื่องนี้เธอห้ามบอกเขา นะ เขาบอกฉันว่าเขายังรักเธอมาก ฉันไม่อยากให้ เรื่องนี้กระทบกับความรู้สึกของพวกเธอทั้งสองคน บุษบากรพูดอ้อนวอน

อารียาสั่นไปทั้งตัว รพีพงษ์ถูกกระทำแล้วเธอไม่ได้ ถูกกระทําอย่างนั้นเหรอ

ไอ้หมอนี่ ถึงขนาดไปสถานบันเทิง แต่ก็ยังไม่ยอม แตะต้องตัวเธอ หรือว่าเธอทําอะไรผิด?

เรื่องแบบนี้ เขาไม่เป็นฝ่ายเริ่ม อย่าบอกนะว่าจะให้ อารียาเป็นฝ่ายเริ่ม

แล้วนี่มันอะไร รพีพงษ์ถึงขนาดไปแตะต้องตัว เพื่อนสนิทของเธอ แต่กลับไม่ยอมมาแตะต้องตัวเธอ นี่คือสิ่งที่เขาบอกว่ารักเธอเพียงคนเดียวงั้นเห

50?

“อารี สัญญากับฉันว่าจะไม่ไปต่อว่ารฟ์พงษ์ได้ ไหม?” บุษบากรพูด

“เธอออกไปซะ ฉันไม่อยากเห็นเธอ” อารียาเอ่ยขึ้น

บุษบากรอยากพูดแต่ก็ต้องหยุดเอาไว้ เธอมีสีหน้ หน่ายใจ สุดท้ายเธอจึงหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกไป

หลังจากที่ออกมาจากคฤหาสน์ บุษบากรยกมือเช็ด น้ำตาของตัว จากนั้นก็พูดกับตัวเองว่า “ขอโทษนะ อารี ฉันแคร์รพีพงษ์มากจริงๆ ฉันคิดถึงเขาจนนอน ไม่หลับทุกคืน

ผู้หญิงคนนั้นพูดไม่ผิด ขอแค่เธอไปจากเขา ฉัน ถึงจะอยู่ในสายตาของเขา หวังว่าเธอจะให้อภัยฉัน”
หลังจากที่บุษบากรกลับไป อารียา ก้มหน้าร้องไห้ อยู่บนโซฟา

เดิมทีเธอเตรียมที่จะใช้ชีวิตกับรพีพงษ์ไปตลอด ชีวิต แต่คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะทำได้เพียงพูดค่าสวย หรู แต่ทําเรื่องไม่ดีลับหลังเธอ

นี่มันเกินกว่าที่เธอจะรับได้

สิ่งที่บุษบากรพูดไว้ไม่ผิดเลย รพีพงษ์เป็นผู้ชาย ปกติทั่วไป เขาต้องการที่ระบาย แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่

เขาจะหลอกเธอ

อารียารู้สึกท้อใจ เดิมเธอเปิดใจให้เขาแล้วแท้ๆ แต่ เพียงพริบตาเดียวก็ต้องปิดมันลง

ผ่านไปนาน ศศินัดดาเดินลงมาจากข้างบน เห็นอารี ยากำลังร้องไห้อยู่บนโซฟา เธอจึงรีบถามขึ้น “ลูก เป็นอะไรไป

“หนูไม่ได้เป็นอะไร ช่วงนี้ที่บริษัทค่อนข้างกดดัน อารียาเอ่ยขึ้น “อ้อ แม่ช่วยเก็บห้องข้างบนให้หนูสัก ห้องนะ หนูจะอยู่ห้องข้างบนสักพัก
นัดคารีบพยักหน้าแล้วพูดว่า “ในที่สุดลูกก็ตา สว่างสักที อยู่กับรพีพงษ์ลูกก็โดนเอาเปรียบอ เรื่อย ถ้าไม่ใช่เขาลูกจะกดดันขนาดนี้เหรอ ลูกแยก กันนอนกับมันน่ะดีแล้ว

พูดจบศศินัดดาก็เดินขึ้นไปเก็บห้องให้อารียา

อารียาเก็บของตัวเองขึ้นไปข้างบน ส่วนห้องที่อยู่ ข้างล่างเหลือไว้ให้รพีพงษ์อยู่คนเดียว

สถานีรถไฟเมืองริเวอร์

รพีพงษ์ยืนรอธีริทธิ์อยู่หน้าประตูทางออก

จู่ๆ เขาก็จามออกมา รู้สึกถึงความเย็นยะเยือกตรง แผ่นหลัง

“นี่มันอะไรกัน อากาศแบบนี้จะเป็นหวัดเหรอ รู้สึก เหมือนมีคนกำลังนินทาอยู่เลย” สีหน้าของรพีพงษ์ เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ขณะนั้นเองก็มีวัยรุ่นร่างกายผอม ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้ายับยู่ยี่กำลังเดินออกมา นั่นคือ ชีสิทธิ์ น้อง รายของอาริยา

รพีพงษ์เดินเข้าไปรับเขา หลังจากที่ ธีริทธิ์ เห็นว่า เป็นรพีพงษ์ก็พูดเยาะเย้ยทันที ” ทำไมเป็นไอ้สวะ อย่างนายมารับฉันล่ะ พี่สาวฉันไปไหน ป้ากับลุงของ ฉันล่ะ?”

“พวกเขามีธุระ ฉันเลยมารับนาย” ก่อนหน้านี้พี พงษ์เคยเจอธีริทธิ์ เขารู้ว่า ธีริทธิ์ไม่ได้เรื่อง ดังนั้น เขาจึงไม่ได้โกรธอะไร

“ให้ตายเถอะ อย่าบอกนะว่าฉันต้องนั่งรถเมล์กลับ ไปกับนาย ครอบครัวนายต้อนรับญาติแบบนี้เหรอ” ธีริทธิ์ก่นด่าออกมา

“ฉันขับรถมา ถ้านายไม่อยากนั่ง นายไปนั่งรถเมล์ ก็ได้” รพีพงษ์พูดจบก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ แยแสธีริทธิ์

ธีริทธิ์แสยะปากแล้วพูดว่า “สวะอย่างนาย คงจะซื้อ รถดีๆ ไม่ได้หรอก ช่างเถอะ ฉันยอมก็ได้ เดี๋ยวค่อย ไปหาพี่ชีพนนท์ เขาตกลงกับฉันว่าถ้าฉันมาเมืองริเวอร์เขาจะให้ฉันขับรถสปอร์ตของเขา

ริทธิ์ตามรพีพงษ์มาถึงลานจอดรถ เมื่อเห็นว่าร พงษ์เดินไปยืนข้างรถโฟล์คสวาเก้นซานตาน่าค้น เก่าและผุพัง เขาจึงพูดประชดว่า “รพีพงษ์ นี่ไม่จน ไปหน่อยเหรอ ขับรถพังๆ แบบนี้มารับฉัน ป้าของฉัน ถึงว่านายขายหน้าไง

รพีพงษ์มองรถแลนด์โรเวอร์ของตัวเองแล้วพูดว่า “รถคนนี้น่าอายมากเหรอ”

ธีริทธิ์เห็นรพีพงษ์มองรถแลนด์โรเวอร์คันนั้นก็ หัวเราะออกมาทันที “รพีพงษ์ อย่ามาโม้แถวนี้ รถคัน นี้มันรถแลนด์โรเวอร์เชียวนะ ล้านกว่าบาทเลยนะ นายนึกว่าตัวเองจะซื้อรถแพงขนาดนี้ได้เหรอ”

รพีพงษ์กดรีโมตรถ ไฟรถแลนด์โรเวอร์กะพริบ สองครั้ง ธีริทธิ์ถึงกับอึ้งไปในทันที

“โอ้โห นี่รถของนายจริงเหรอ” ธีริทธิ์มองรพีพงษ์ อย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง

แต่ไม่นานเขาก็ตั้งสติได้ ศศินัดดาบอกเขาว่าอยู่ที่ คฤหาสน์แล้ว ซื้อรถคันละล้านกว่าบาทก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

แต่เขาเชื่อว่ารถคันนี้ต้องไม่ใช่รถที่รพีพงษ์ อ

อย่างแน่นอน

“ให้ตายเถอะ ดูเหมือนว่าสองสามปีมานี้พี่สาวของ ฉันจะใช้ชีวิตไม่เลวเลยนะ ทั้งอยู่คฤหาสน์ทั้งขับรถ หรู ครั้งนี้ช่างมาถูกจังหวะจริงๆ ” ธีริทธิ์เอ่ยขึ้น

รพีพงษ์กำลังจะเข้าไปนั่งในรถ ขณะนั้นเองธีริทธิ์ รั้งเขาไว้แล้วพูดว่า “เอากุญแจรถมาให้ฉัน”

“ให้นายทําไม” รพีพงษ์ถามขึ้น

“รถคันนี้ต้องเป็นรถที่พี่สาวของฉันซื้อมา รถดี ขนาดนี้จะให้นายขับได้ยังไง เสียดายของเปล่าๆ ให้ ฉันขับดีกว่า” ธีริทธิ์ยิ้มแล้วพูดออกมา

“นายไม่คุ้นเคยกับถนนที่นี่ ให้ฉันขับเถอะ” รพีพงษ์

พูด

ธีริทธิ์จ้องรพีพงษ์เขม็งแล้วพูดว่า “บอกให้เอา กุญแจรถมาก็เอามาสิ จะพูดอะไรเยอะแยะ รถคนนี้ เป็นรถของพี่สาวฉัน ไม่ใช่ของนาย ให้นายขับมาก็ดีแค่ไหนแล้ว เอากุญแจมาให้ฉันเร็วๆ

รพีพงษ์เหนื่อยใจ ทำได้เพียงเอากุญแจให้สิทธิ์ คิดในใจว่าให้เขาขับก็ไม่เห็นเป็นอะไร

ธีริทธิ์รับกุญแจมาแล้วรีบเข้าไปนั่งในรถ สีหน้าเต็ม ไปด้วยความตื่นเต้นที่ได้สัมผัสรถดีขนาดนี้

“ให้ตายเถอะ รถคันนี้เทียบกับรถสปอร์ตของ ชีพ นนท์ได้เลยนะ เดี๋ยวฉันขับรถคันนี้ไปหาเขาดีกว่า คงจะดูมีหน้ามีตา”

ธีริทธิ์สตาร์ทรถ เมื่อเห็นว่ารพีพงษ์กำลังจะเข้ามา นั่งตรงข้างคนขับ เขาก็เผยยิ้มร้ายกาจ เขาเหยียบ คันเร่ง รถเคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถ โดยไม่รอ รพีพงษ์เลย

รพีพงษ์เห็นธีริทธิ์ขับรถออกไป เขาจึงก่นด่าในใจ ชายหนุ่มคิดในใจว่ามิน่าล่ะอารียาถึงไม่อยากมารับ น้องชายตัวเอง

ธีริทธิ์เลื่อนกระจกลงแล้วหันไปมองรพีพงษ์ จาก นั้นจึงชูนิ้วกลางให้เขา หัวเราะแล้วพูดว่า “นั่งรถเมล์ กลับไปเองเถอะ ไอ้โง่!”
หลังจากนั้น ริท จึงขับรถออกจากสถานีรถไฟ

รพีพงษ์เหนื่อยใจ เขาทำได้เพียงเดินออกจาก สถานีรถไฟ เขาสแกนจักรยานสาธารณะที่อยู่ริม ถนนแล้วก็ขี่มันกลับบ้าน

เมื่อมาได้เพียงครึ่งทาง ศศินัดดาโทรมาหาเขา พอรับสายเท่านั้นศศินัดดาก็ตาออกมายกใหญ่ “รพี พงษ์ ฉันบอกให้แกไปรับธีริทธิ์ นายไปทำอะไร นาย ให้เขารออยู่ที่ถนนศิวิไลซ์ คนเดียวได้ยังไง !

“แกรีบไปที่ถนนศิวิไลซ์เลยนะ ถ้าแกไม่ไปก็ไม่ต้อง กลับมาที่บ้าน!”

พูดจบศศินัดดาก็ตัดสายไป ไม่มีโอกาสให้รพีพงษ์ ได้พูดอธิบาย

ถนนศิวิไลซ์อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ธีริทธิ์พูดกับศศิ นัดดาแบบนั้น แสดงว่าต้องเกิดเรื่องอะไรที่นั่นแน่ๆ

รพีพงษ์ทําได้เพียงปั่นจักรยานไปที่ ถนนศิวิไลซ์ แม้จะไกล แต่ก็มองเห็นคนกำลังมุงดูรถแลนด์โร เวอร์ของเขาที่จอดอยู่ริมถนนเมื่อเดินไปถึงกลุ่มคนพวกนั้น รพีพงษ์เห็นรีวิทธิ์ โดนผู้หญิงคนหนึ่งตั้งเอาไว้ ผู้หญิงคนนั้นอุ้มหมาอยู่ หมาตัวนั้นเหมือนกำลังตื่นตระหนก มันตัวสั่นไม่หยุด

ตอนนั้นรีสิทธิ์ขับรถไม่ระวัง แล้วมีหมาวิ่งออกมา จากข้างทาง ทําให้เขาเหยียบเบรกอย่างแรง ถึง อย่างไรก็ยังชนหมาตัวนั้นอยู่ดี แต่ชนไม่แรงทำให้ ไม่ได้รับบาดเจ็บ

ผู้หญิงคนนั้นคือเจ้าของหมา เมื่อจับธีริทธิ์ได้ก็ไม่ ยอมปล่อยไปไหน

“นายทำให้ เจ้าหยอง ตกใจ นายดูสิมันตัวสั่น ไม่หยุดเลย ไม่แน่มันอาจจะช้ำในก็ได้ ถ้านายไม่ อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น นายก็ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น ผู้ หญิงคนนั้นพูดอย่างโมโห

คุณผู้หญิง เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าหมาของคุณวิ่งไม่ดู ” ตาม้าตาเรือ ผมไม่ชนมันตายก็ดีแค่ไหนแล้ว” ธีริทธิ์ พูดด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์

“นายว่าอะไรนะ!” ผู้หญิงคนนั้นจ้องเขาเขม็ง “คิด ไม่ถึงว่านายอยากขนหมาฉันให้ตาย แกมันไม่ใช่คน”

ผู้หญิงคนนั้นโกรธมาก เธอเดินเข้าไปถีบรถจนบ

ธีริทธิ์ กระวนกระวาย เขาค่าออกมาว่า “อะไรวะ เนี่ย แกกล้า บรถของฉันเหรอ! ”

เขากำลังจะยกมือตบผู้หญิงคนนั้น

ขณะนั้นเองรพีพงษ์ก็เดินออกมารั้งเขาเอาไว้ มี อะไรก็ค่อยๆ พูดกัน

ริทธิ์เห็นรพีพงษ์มาจึงรีบกลอกตาไปมา เขาคิดาผู้ หญิงคนนี้วุ่นวายสิ้นดีจึงให้รพีพงษ์มาจัดการ

ดังนั้นเขาจึงปรายตามองผู้หญิงคนนั้นแล้วพูดว่า “นี่คือพี่เขยของฉัน รถก็รถของเขา ถ้าเธออยากได้ อะไรก็ไปคุยกับเขา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ