แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่212 ไม่เหลือไว้สักคน



บทที่212 ไม่เหลือไว้สักคน

บริษัทตระกูลฉัตรมงคล ในห้องประชุม ทุกคนของ ตระกูลฉัตรมงคลนั่งพร้อมหน้าพร้อมตากันด้วย สีหน้าอมทุกข์ บรรยากาศในห้องประชุมเต็มไปด้วย

ความหม่นหมอง

รายุกรเดินเข้ามาจากด้านนอก เครือญาติทุกคน ของตระกูลฉัตรมงคลใช้สายตาแค้นมองไปที่เขา แต่ก็พุ่งเข้าไปทำอะไรเขาไม่ได้

ธายุกรขายบริษัทในราคาหนึ่งหยวนเท่านั้น พวก เขารู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก ในห้าสิบล้านที่ พวกเขาได้มานั้น แค่ธานุกรคนเดียวก็ปาเข้าไป สามสิบล้านแล้ว แต่พวกเขาที่นั่งที่นี่แบ่งไปแต่ล่ะ ครอบครัวแล้ว ได้แค่ครอบครัวล่ะหลักแสนเท่านั้น

ในใจพวกเขารู้สึกไม่ชอบธรรมโดยปริยาย

“ธายุกร ตระกูลฉัตรมงคลของเราชั่งโชคร้ายจริงๆ มีคนแบบนี้อย่างแก แค่หนึ่งหยวนก็ขายบริษัทแล้ว ถ้าท่านไวทยุตรู้เรื่องนี้เข้า เขาจะต้องโกรธเป็นแน่! ตระกูลฉัตรมงคลต่าทีล่ะคนทีละคน
“ใช่ พวกเรามันบ้า ที่ตอนแรกให้แกมาเป็นประธาน บริษัท ตอนนี้บริษัทเป็นของคนอื่นไปแล้ว ต่อไปพวก เราจะหาเงินจากไหน

“ตอนนี้คิดๆดูแล้ว ไม่เหมือนกับตอนแรกที่อารียา อยู่ ในตอนนั้นอย่างน้อยบริษัทก็เป็นของตระกูล ฉัตรมงคล อนาคตถึงแม้พวกเราไม่ทํางาน สามารถแบ่งผลประกอบการของบริษัทได้บ้าง ตอน นี้ขายบริษัทให้คนอื่นแล้ว พวกเราได้แค่เงินเดือน เล็กน้อย แกไอ้ธายุกรทำร้ายพวกเรา”

เมื่อธายุกรได้ยินทุกคนพูดแบบนี้ ในใจกีโมโหเป็น อย่างมาก ตอนแรกที่เขาหาเงินให้กับคนเหล่านี้ คน พวกนี้ล้วนประจบประแจงเขาด้วยกันทั้งสิ้น ตอนนี้มี ปัญหา ก็แตกหักทันที

“หยุดทะเลาะได้แล้ว เงียบสักแป๊ปไม่ได้หรือไง ไม่มีใครจริงจังเลยสักคน” ธายุกรตะคอก

“หาไม ธายุกร หรือแกยังคอดว่าตัวเองเป็น ประธานบริษัทอยู่หรอ? ยังพูดกับพวกเราแบบนี้อีก แกยังมีสิทธิ์อีกหรอ?” มีคนหนึ่งกล่าวออกมา
“ถ้าฉันไม่ใช่ประธานของพวกแกแล้วใครเป็น? รําคาญพวกแกจริงๆ!” รายุครโมโหเกรี้ยวกราด

“ประธานคนใหม่วันนี้ก็เข้ารับหน้าที่แล้ว เค้า ถึงจะ เป็นเจ้าของบริษัท คำพูดแกไร้ค่าไปแล้ว”คนเหล่า นั้นโต้แย้งออกมา

ธาตุกรจู่ๆก็เกิดความไม่มั่นใจขึ้นมา บริษัทก็ได้ ขายออกไปแล้ว เขาไม่ใช่ประธานจริงๆ

“วันนี้ประธานคนใหม่เข้ารับตำแหน่งแล้วยังไง เมื่อ ก่อนฉันคือประธาน ถึงแม้จะมีคนมาแทนตำแหน่งนี้ อย่างน้อยฉันก้ได้ตำแหน่งเป็นผู้จัดการป่ะ”ธาตุกร ยังจินตนาการว่าตัวเองจะได้อยู่ในบราทต่อไป

หยุดฝันกลางวันได้ล่ะ แกโกงเงินไปมากขนาดนั้น เค้าจะเอาแกไว้ได้ไง รอให้ประธานคนใหม่มา แกจะ ต้องโดนไล่ออกแน่ๆคนนั้นกล่าว

“พูดอย่างกับพวกแกไม่โกงเงินอย่างไรอย่างนั้น ถ้า ฉันอยู่ไม่ได้ พวกแกก้อยู่ไม่ได้เช่นกัน”ธายุกรกล่าว อย่างเกรี้ยวกราด
” พวกเราเอาไปแค่นั้น ประธานบริษัทคนใหม่ไป

สินหรอก”

“ใช่ พวกเราเอาไปแค่สองสามแสน เค้าไม่มีทาง ใส่ใจหรอก”

แล้วก็ ถ้าหากไล่พวกเราออกจริงๆ ใครจะทำงาน ให้เขาล่ะ”

คนเสียงดังวุ่นวายภายในห้อง ทุกคนต่างคิดเรื่อง หลังจากที่บริษัทได้ถูกขายออกไปแล้ว

พวกเขากลับไม่รู้เลย ทุกคนที่อยู่ในห้องนี้ ก็เอา อารียาไปไว้ในแบล็คลิสต์แล้ว ถ้าคนพวกนี้ยังอยู่ ในบริษัท งั้นก็เหมือนกับเลี้ยงพวกปลิงเอาไว้ ยังไง บริษัทก็ต้องล่มจมอยู่วันยังค่ำ

ดังนั้นคนที่อยู่ในห้องนี้ ไม่เหลือใครไว้ทั้งนั้น

ในขณะที่ห้องประชุมเต็มไปด้วยบรรยากาศของ ความโกรธแค้น ทันใดนั้นประตูของห้องประชุมก็ถูก เปิดออก ทันใดนั้น อารียาและรพีพงษ์ก็เดินเข้ามา

และนอกห้องประชุมไตรทศอยู่กับลูกน้องสิบกว่า คน รพีพงษ์เรียกพวกเขามา เพื่อจัดการกับพวกปลิง ในบริษัทตระกูลฉัตรมงคล จะต้องมีปัญหาเกิดขึ้น แน่นอน ถ้าไม่ใช่กำลัง ไม่มีทางจัดการสำเร็จแน่ๆ

ทุกคนเห็นอารียาและรพีพงษ์เดินเข้ามา ก็หยุดโต้ เถียงกันทันที ธายุกรชักตาดูอารียาและรพีพงษ์ เย็น อย่างดูแคลนแล้วกล่าว “พวกแกทั้งสองมาทำไม รีบ ไสหัวไปซะ ที่ พวกแกเข้ามาไม่ได้

อารียามองไปที่ธายุกร แล้วถาม ” ได้?” ทำไมฉันจะมาไม่

“เพราะห้องนี่คือห้องประชุมของบริษัทตระกูล ฉัตรมงคล แกไม่ได้เป็นคนของตระกูลฉัตรมงคล แล้ว ดังนั้นแกไม่มีสิทธิ์เข้ามาที่นี่”ธายุกรกล่าว

ทุกคนล้วนคิดว่าอารียาและรพีพงษ์มาเยาะเย้ย พวกเขา ดังนั้นจึงมองทั้งคู่ด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร

“อารียา แกรีบออกไปเถอะ นี่ไม่ต้อนรับแก ถึงแม้
บริษัทได้ขายออกไปแล้ว แต่พวกเราก็ยังเป็นผู้ บริหารระดับสูงอยู่ แต่ใช่แกจะเยาะเย้ยได้ง่ายๆ

“พูดถูก ถึงแม้บริษัทได้ขายไปแล้ว แต่พวกเราก็ ยังมีงานทํา แต่แกไม่มีงานทํา มีสิทธิ์อะไรจะมาเยาะ เย้ยพวกเรา”

“แกยังพารพีพงษ์มาด้วยอีก ถึงแม้พวกเราจะไม่มี งานทําก็ตาม แต่ก็ดีกว่าไอ้สวะนี่ แกพาเขามาเยาะ เย้ยพวกเรา ก็ค่อนข้างไร้เดียงสาไปนะ”

ผู้คนในห้องนี้เริ่มเป็นพวกเดียวกันอีกครั้ง ธายุกร ยิ้มดูแคลนไปที่อารียา เขาคิดว่า ไม่ว่าจะยังไง เขาก็ ดีกว่าอารียาอยู่ดี

รพีพงษ์ยิ้มต่อหน้าทุกคน แล้วกล่าว “เงียบซักแป๊ป เถอะ ผมว่าพวกคุณรอที่นี่ ก็เพื่อรอประธานคนใหม่ มารับหน้าที่บริหารบริษัทนะ”

“แล้วยังไง แกอย่าบอกนะว่าแกคือประธานคนใหม่ ของพวกเรา”ธายุกรกล่าว
ทุกคนหัวเราะขึ้นมา มองรพีพงษ์อย่างเหยียด หยาม

“ผมไม่ใช่ประธานคนใหม่ของพวกคุณจริงๆ แต่อา หนะใช้ รพีพงษ์ไม่สน แล้วยิ้ม

ทุกคนเงียบสงัดลง แล้วมองไปที่อารียาอย่างสงสัย เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อในคำพูดของรพีพงษ์

“หยุดโกหกได้แล้ว อารียาจะเป็นประธานของ บริษัทพวกเราได้ไงกัน เธอลาออกไปแล้ว บริษัทซัน บับเบิ้ลกรุ๊ปไม่ไปหาเรื่องเธอก้ดีขนาดไหนแล้ว”

“ใช่ ไม่ว่ายังไง ประธานคนใหม่ก็ไม่มีทางเป็นอารี ยาได้

อารียามองไปรอบๆ แล้วพูดเสียงดัง “รพีพงษ์พูด ถูกแล้ว ฉันคือประธานคนใหม่ของบริษัทตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้ฉันมารับตำแหน่งเป็นวันแรก ถ้าฉัน ออกไป ใครจะมาดูแลบริษัทตระกูลฉัตรมงคล

แกกล้าดียังไง แค่แก กับไอ้สวะรพีพงษ์ จะ เทคโอเวอร์บริษัทของตระกูลฉัตรมงคลได้ไงกัน” มี คนตะโกนออกมา
รพีพงษ์ ม แล้วกล่าว ” แค่บริษัทราคาหนึ่งหยวน เท่านั้น ทำไมจะไม่มีปัญญา อ

ธายุกรตาโต ราคาขายของบริษัทตระกูล ฉัตรมงคลคือหนึ่งหยวนจริงๆ เธียรวิชญ์ก็บอกว่า ขายให้กับเพื่อนของเขา ดังนั้นตอนที่เซ็นสัญญา ธา ยุกรไม่ได้ดูว่าคนๆนี้เป็นใครกันแน่

ถ้ารพีพงษ์เป็นเพื่อนคนนั้นของเธียรวิชญ์ล่ะก็ งั้นก็ น่าจะเป็นคนที่ซื้อไว้จริงๆ

“รพีพงษ์ แกหยุดคุยโวได้ล่ะ รีบไสหัวไป ฉันไม่ อยากเห็นแก” ธายุกรพูดอย่างสงบ

“ขอโทษนะ ในห้องประชุมนี้ คำพูดของแกไม่มี อำนาจอีกต่อไป” รพีพงษ์กล่าว จากนั้นเขาก็ได้หยิบ สัญญาโอนหุ้นของบริษัทออกมา และสัญญาบาง ส่วนที่ธายุกรได้เซ็นชื่อไว้แล้ว

“นี่คือหลักฐานที่แสดงว่าผมได้ซื้อบริษัทไว้แล้ว ธา ยุกรเป็นคนเซ็นสัญญาเอง บริษัทนี้อยู่ในนามของ ผมแล้ว แล้วอารีก็คือประธานบริษัทคนใหม่ ต่อไป บริษัทนี้ อารีมีอำนาจเบ็ดเสร็จ
ทุกคนเห็นสัญญาฉบับนั้น ก็ตาโตขึ้นมาทันใด ธา กรรีบเดินไปดู แย่งสัญญาเหล่านั้นมา แล้วดู หลัง จากที่รู้แล้วว่าสัญญาเหล่านั้นเขาเป็นคนเซ็นชื่อเอง จริงๆ ก็ตกใจขึ้นมาทันใด

“แกเอาสัญญาเหล่านี้มาจากไหน? แกขโมยมาใช่ มั้ย ทําไมแกซื้อบริษัทของพวกเรา แกไอ้สวะมีสิทธิ์ อะไรมาซื้อบริษัทของพวกเรา!

ทุกคนของตระกูลฉัตรมงคลสูดหายใจลึกๆ มอง ปฏิกิริยาโต้ตอบของธายุกร สัญญาเหล่านี้น่าจะเป็น ฉบับจริง

เป็นไปได้ยังไง รพีพงษ์จะซื้อบริษัทของพวกเรา ได้อย่างไรกัน นี่มันเรื่องตลกชัดๆ”

“นี่ไม่ใช่ความจริงแน่นอน ไม่ว่าใครเทคโอเวอร์ บริษัทไป ยังไงผมก็รับไม่ได้ที่รพีพงษ์ได้ซื้อบริษัท ไว้ เขาเป็นแค่ไอ้สวะ มีสิทธิ์อะไรครอบครองบริษัท ฉัตรมงคลทั้งหมด”

“รพีพงษ์ สัญญานี้แกปลอมขึ้นมาล่ะสิ ประธาน เธียรวิชญ์เค้าขายบริษัทให้กับเพื่อนเขาสัญญาพวก นี้ทำไมอยู่กับแกได้?”
รพีพงษ์มองไปที่พวกเขา ยิ้มพลางกล่าวว่า “ฉันนี่ แหละเพื่อนของเธียรวิชญ์ ไม่งั้นพวกแกลองคิดดูว่า สัญญาในตอนแรกของบริษัทซันบับเบิ้ลกรุ๊ป ฉันจะ คุยสําเร็จได้ไงกัน

ทุกคนชะงักทันที เรื่องการร่วมมือของบริษัท ซันบับเบิลกรุ๊ปมีเพียงธายุกรและอารียาที่อยู่ใน เหตุการณ์เท่านั้นถึงจะรู้ได้ว่ารพีพงษ์เป็นผู้คุย คน ที่เหลือคิดว่าการที่บริษัทซันบับเบิลกรุ๊ปร่วมมือกับ บริษัทตระกูลฉัตรมงคลนั้น เป็นเพราะให้เกียรติกับ ไวทยุต

แกพูดมั่วอะไร โครงการของบริษัทซันบับเบิลจะ เป็นแกคุยสําเร็จได้ไงกัน!”

“ถ้าไม่เชื่อ พวกแกก็ถามธายุกรสิ” รพีพงษ์ลูบๆ ไหล่

ใบหน้าของธายุกรซีดลง เขารู้เรื่องนี้ดี แบบนี้ คำ พูดของรพีพงษ์ก็ไม่เป็นเท็จแล้ว ดูๆแล้วบริษัทได้ถูก รพีพงษ์ซื้อไว้แล้วจริงๆด้วย

“รพีพงษ์ แกมั่นใจให้มันน้อยๆหน่อย แม้แกจะเป็น เพื่อนของเธียรวิชญ์แล้วไง แม้แกจะซื้อบริษัทแล้วไง แกเกาะตระกูล ตรมงคลของเรามาตั้งหลาย มี สิ่งที่ถูกติดค้างตระกูลยังไงก็คืนไม่หมด ตอนนี้ เป็นช่วงเวลาที่แกต้องตอบแทนบุญคุณแล้ว แกโอน บริษัทมาให้ฉัน สิ่งที่แกติดหนี้ตระกูลฉัตรมงคลนั้น ฉันคิดรวมเป็นยอดเดียวเลยแล้วกัน” รพีพงษ์ชักตา พลางพูด

ทุกคนเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ ก็เริ่มรู้แล้วว่าสิ่งที่ร พงษ์พูดนั้นเป็นความจริง แต่ตอนนี้พวกเขาไม่ทันได้ ประหลาดใจ ก็รีบพูดเสริมให้กับธายุกรเรื่องรพีพงษ์ ให้รพีพงษ์เอาบริษัทคืนมา

“ขอโทษนะ ช่วงหลายปีมานี้ผมไม่เคยเอาของใดๆ จากตระกูลฉัตรมงคล ข้อตกลงนี้ของพวกแก มัน ซึ่งเกินไปจริงๆ ตอนนี้อารียาเป็นประธาน ทุกสิ่งทุก อย่างที่เกี่ยวกับบริษัทต้องฟังเธอ จัดการอย่างไร พวกแกก็ฟังเธอล่ะกัน” รพีพงษ์กล่าว

ทุกคนเห็นรพีพงษ์ยังไงก็ไม่คืนบริษัทให้ ก็รีบหา ทางออกใหม่ทันที

“อารี พวกเราแก่กว่าแก ความจริงแกไม่มีทางได้ เป็นประธาน แต่พวกเราก็ไม่อยากเรื่องมากกับแก ถ้าแกสามารถเพิ่มเงินเดือนให้พวกเราคนล่ะหนึ่งเท่าไผ่นั้น พวกเราก็จะอนุญาตให้แก่เป็นประธาน คนหนึ่งพูดออกมา

คนที่เหลือก็รีบคล้อยตามกันทันที

อารียามองไปที่พวกเขา ด้วยสายตาเยือกเย็น แล้ว กล่าว “ฉันจะเป็นไม่เป็นประธาน ไม่ใช่พวกเรื่อง ที่คุณตัดสินใจ อย่าลืมสิ บริษัทไม่ใช่ของตระกูล ฉัตรมงคลแล้ว แต่เป็นของรพีพงษ์ พวกคุณอย่าคิด ว่าจะขู่ฉันได้อย่างเมื่อก่อน

แกไม่ขึ้นเงินเดือนให้พวกเราก็ ง งั้นรับประกัน ว่าเงินเดือนและโบนัสต่อจากนี้ไปของพวกเราจะไม่ น้อยกว่าเมื่อก่อน อันนี้ไม่น่าจะมีปัญหานะ

“ขอโทษค่ะ พวกคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะคุยกับฉันเรื่อง เงินเดือนและโบนัสแล้วค่ะ” อารียามองไปที่ทุกคน เพราะคนที่อยู่ในสถานที่นี้ ฉันไล่ออกทั้งหมด ไม่ เหลือใครไว้ทั้งนั้น!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ