แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่235 จดหมายของนนทก



บทที่235 จดหมายของนนทภู

ในสวน รพีพงษ์หายใจเข้าลึกๆ และในใจเขาก็มี ความรู้สึกมีอารมณ์อยู่เล็กน้อย ไม่คิดว่าตัวเองกลับ ไปที่บ้านของตระกูลลัดดาวัลย์อีกครั้ง ผู้คนและสิ่ง ต่างๆที่นี่จะเปลี่ยนไปมาก

แม้รพีพงษ์จะกลายเป็นคนธรรมดา แต่ก็สามารถ เห็นได้ว่า การรักษาใจสังคมที่เต็มไปด้วยโคลนนี้ เป็นเรื่องยากเพียงใด

ดังนั้นรพีพงษ์ในใจของรพีพงษ์จึงมีแค่อารียาเพียง คนเดียว เป็นเพราะมุกตาภามีความสามารถนี้

แม้จะเผชิญกับสิ่งล่อใจที่มากมายเพียงใด อารี ยาก็ไม่เคยปล่อยให้ตัวเองสับสน แม้ว่าเธอจะมีข้อ บกพร่องมากมายทั้งใหญ่และเล็ก แต่รพีพงษ์ก็ไม่ สนใจ แค่รักษาหัวใจของเธอไว้ ก็เพียงพอที่จะ ทำให้รพีพงษ์รู้สึกหลงรักได้

“ตั้งแต่ลงจากเครื่องบินเธอคงยังไม่ได้ทานข้าวมา ใช่มั้ย หิวหรือยัง?” ในตอนนี้มีเสียงดังขึ้นด้านหลังรพีพงษ์

รพีพงษ์หันกลับไป มองเห็นโยษิตาไม่รู้ว่ามายืนอยู่ หลังเขาตั้งแต่เมื่อไหร่

ถ้าโยษิตาไม่พูด เขาก็ไม่มีความรู้สึกอะไร ตอนนี้ โยษิตาพูดขึ้นมา เขาก็รู้ว่าท้องตัวเองก็หิวขึ้นมา

โยษิตามองท่าทางของรพีพงษ์ออก ยิ้มแล้ว พูด: ค้านแม่ของเธอจัดเตรียมของกินไว้เรียบร้อย แล้ว เธอก็กลับมาที่นี่สักพักแล้ว สําหรับ สถานการณ์ตอนนี้ของตระกูลลัดดาวัลย์ น่าจะรู้ อะไรมาบ้าง ก็ถึงเวลาที่จะไปพบแม่เธอแล้ว”

รพีพงษ์หายใจเข้าลึกๆ ก็ไม่อะไรอีก และพูด ว่า: “พาผมไปเถอะครับ”

โยษิตาพารพีพงษ์เดินเข้าไปในส่วนที่ลึกของสวน ไม่นาน ทั้งสองคนก็เดินมาถึงสวนที่วีธราอยู่คนเดียว

โยษิตาพารพีพงษ์เดินเข้าห้องด้านใน รพีพงษ์เห็น ว่าเค้าโครงของที่นี่ไม่ต่างจากตอนที่เขายังเป็นเด็ก และความรู้สึกคุ้นเคยก็ผุดขึ้นในใจ
มีโต๊ะอยู่กลางห้อง บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหาร

ในตอนนี้บนเตียงด้านใน วีธรากำลังนอนป่วยอยู่ หลังจากที่เห็นรพีพงษ์เข้ามา ก็ลุกขึ้นจากเตียงทันที ตามด้วยอาการไอรุนแรง

“รฟ์ ใช่ลูกหรือเปล่า? รพีของฉัน ในที่สุดแม่ก็เจอ ลูกสักที” วีธราจ้องไปที่รพีพงษ์พร้อมน้ำตา ถ้าหาก การแสดงของเธอเป็นที่รู้จัก ก็คงได้รับรางวัลตุ๊กตา ทองแน่

ดวงตาทั้งคู่ของรพีพงษ์มองไปที่เธออย่างสงบ หลัง จากประสบกับสิ่งต่างๆตลอดทั้งปี รพีพงษ์ยอมแพ้ ให้กับวีธรา ตอนนี้ต่อให้หล่อนจะทำยังไงกับรพีพงษ์ รพีพงษ์ก็ไม่มีทางที่จะรู้สึกเหมือนเดิมกับเขาอีกแล้ว

“ครั้งนี้ที่ผมกลับมา ก็เพื่อจดหมายที่พ่อทิ้งไว้ให้ คุณก็ไม่ต้องมาแสดงต่อหน้าผมแล้ว เอาจดหมายที่ พ่อทิ้งไว้มาให้ผมด้วย ผมเอาจดหมายแล้ว ก็จะรีบ ออกจากที่นี่ทันที”รพีพงษ์กล่าว

สีหน้าของวีธราก็เต็มไปด้วยความเสียใจ แล้ว พูด; “รพี เรื่องเมื่อก่อนคือแม่ทำไม่ถูก ลูกให้อภัยแม่ได้มั้ย ลูกก็เห็นสภาพของแม่ตอนนี้แล้ว กิจการ ของตระกูลลัดดาวัลย์ แม่ก็ไม่ดูแลได้อีกไม่กี่วันแล้ว ตระกูลลัดดาวัลย์ตอนนี้ต้องการลูกนะ ลูกอยู่นี่ รับ ช่วงกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์ต่อนะ”

“ต่อให้ผมไม่รับช่วงต่อ ตระกูลลัดดาวัลย์ก็เจริญ รุ่งเรืองอยู่ดี ที่สำคัญตำแหน่งนี้มีผู้คนหลายคน ต้องการ ไม่จําเป็นต้องเป็นผมมารับช่วงต่อ คุณก็ยัง มีน้องสาวอีกคนไม่ใช่เหรอ คุณตายไปแล้วฃ เธอก็ ยังสามารถรับช่วงตระกูลลัดดาวัลย์ต่อได้ รพีพงษ์ หันไปมองโยษิตา

วีธรากัดริมฝีปาก แล้วลงจากเตียง เดินโซเซไป หารพีพงษ์ ด้วยเท้าที่ไม่มั่นคง และล้มลงกับบนพื้น

เมื่อตอนนี้ที่รพีพงษ์เห็นวีธรากำลังจะล้มเขา คิดใน ใจจะเข้าไปช่วยพยุง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ขยับ

เมื่อโยษิตาเห็นสิ่งนี้ รีบไปช่วยพยุงวีธราขึ้นมา และขมวดคิ้วมองไปที่รพีพงษ์ พร้อมตะโกน “รพี พงษ์ ถึงยังไงหล่อนเป็นแม่ของเธออยู่ดี เธอยืนดู หล่อนล้มลงเฉยๆแบบนี้ และไม่ช่วยพยุงเลยเหรอ?”
รพีพงษ์เม้มริมฝีปาก สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร โยษิ ตาพูดขนาดนี้แล้ว เขาก็รู้สึกว่าเมื่อกี้เขาก็ควรเขาไป ช่วยพยุงจริงๆ

เพียงแต่ว่าเมื่อก่อน ธราทำกับรพีพงษ์ไร้ความรู้สึก เกินไป ดังนั้นเลยทำให้รพีพงษ์เฉยเมย

“เธออย่าว่าให้รพีอย่างนี้ ในตอนนั้นฉันไม่ดีเอง ใน ใจเขาจะรู้สึกแค้นฉันก็เป็นเรื่องธรรมดา ฉันรู้ดีว่าจะ ให้เขาหายโกรธแค้น เรื่องนี้คงจะเป็นเรื่องที่ยาก ฉัน ไม่โทษเขา วีธราหลังจากที่ลุกขึ้นจากพื้นด้วยความ ยากลําบาก แล้วก็พูด

“พี่ พี่ไม่น่าปล่อยให้ไอ้หมอนี่ที่ใจแข็งไร้ความรู้สึก กลับมาเลย”โยษิตากล่าวอย่างโกรธเคือง

“ไม่เป็นไร ฉันเหลือเวลาอีกไม่นานแล้ว ความหวัง สุดท้าย ก็คืออยากเจอรพีพงษ์ เพียงเจอเขา ฉันก็ สบายใจแล้ว เสียใจเพียงอย่างเดียว ก็คือในช่วง ชีวิตนี้ไม่สามารถชดเชยให้เขาได้ ทำให้เขายกโทษ ให้ฉันได้

วีธราพูดไปด้วย ก็ร้องไห้ขึ้นมา
ดวงตาของโย ตายังจ้องไปที่รพีพงษ์ด้วยน้ำตา

พร้อมด้วยสายตา หน้

รพีพงษ์ทั้งสองคนที่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยทำให้ใจ กระตุก เพียงแต่ไม่แสดงออกทางสีหน้า

“เอาจดหมายฉบับนั้นออกมานะ ฉันไม่อยากทําให้ พวกคุณเสียเวลา รพีพงษ์กล่าว

“ก็ได้ ก็ได้ ลูกนั่งลงทานอะไรไปก่อน เดี๋ยวแม่จะ ไปหาจดหมายมาให้ ลูกยังไม่ได้ทานข้าวไม่ใช่เหรอ ลูกทานของก่อน รอลูกทานของแล้ว แม่ค่อยไปเอา จดหมายมาให้ลูก” ธรากล่าว

จากนั้นเธอก็หันไปและเดินไปหาจดหมายอย่าง

สั่นๆ

โยษิตามองรพีพงษ์ แล้วพูด: “เธอไม่นั่งลงก่อนเห รอ? อาหารบนโต๊ะนี้คือหล่อนทนความกับเจ็บปวด ของร่างกายทําให้เธอเลยนะ ถ้าเกิดเธอกลับมาร อบนี้ก็เพื่อจดหมายนี้ อาหารที่หล่อนทำให้เธออย่าง ยากลําบากถ้าเธอไม่ทานสักนํา กลัวว่าจนจะตาย หล่อนก็ยังเสียใจ”
*โยษิตา เธออย่าพูดแบบนี้ กับข้าวแค่ไม่กี่อย่างเอง รพีพงษ์ไม่อยากทาน ก็อย่าไปบังคับเขาเลย” ธรา หันกลับมาพูด

รพีพงษ์ทำอะไรไม่ถูก เห็นว่าทั้งสองคนพูดเช่นนั้น จึงเดินไปที่หน้าโต๊ะและนั่งลง เมื่อเห็นว่าจานบนโต๊ะ มีแต่ของที่เขาชอบทานตอนเด็ก ในใจของเขาก็รู้สึก สั่นสะเทือนเล็กน้อย

เขาหยิบตะเกียบขึ้นมา แล้วชินอาหารที่อยู่บนโต๊ะ ทานไปหนึ่งคำ เขาก็ขมวดคิ้ว จานนี้ดูเหมือนจะมี อะไรที่ผิดปกติ

“พวกคุณใส่อะไรลงไปในกับจานนี้?”รพีพงษ์ถาม

“น่าจะวางไว้นานไปหน่อย รสชาติเลยเปลี่ยนไป หน่อย ร่างกายฉันไม่ไหวละ ฝีมือการทําอาหารยัง ลดลงไปมาก ถ้ารสชาติไม่ถูกปากเธอ ก็อย่าทาน เลย”

วิธราเดินมาพร้อมจดหมายในมือ นั่งลงตรงข้ามกับ รพีพงษ์

รพีพงษ์เห็นจดหมายฉบับนั้น ก็รีบโยนเรื่องอาหารทิ้งไว้ด้านหลังเลย ในหัวเหลือเพียงแต่จดหมายฉบับ

“เอาจดหมายให้ผม รพีพงษ์กล่าว

วีธราก็ยื่นจดหมายนี้ให้ ในขณะที่รพีพงษ์จะรับ จต ก็พบว่ามือของวีธรานั้นดูแลได้ดีมาก ท่าทางไม่ เหมือนกับคนที่นอนจะตายก่อนหน้านั้นเลย

ที่สําคัญไม่รู้ว่าเป็นภาพหลอนของเขาหรือเปล่า เขารู้สึกว่าสีหน้าของวีธราเห็นได้ชัดว่าดีขึ้นกว่าเมื่อ กี้มา

หลังจากที่เขารับจดหมายมาแล้ว ก็รีบเปิดออกมา หยิบเอากระดาษด้านในออกมา แล้วดูอย่างตั้งใจ

ลายมือบนจดหมายเป็นของนนทภูจริงๆ แล้วลาย มือของนนทภูไม่ใช่เรื่องที่จะเลียนแบบได้ง่ายๆ เพี พงษ์ยืนยันได้ทันที ว่าจดหมายนี้เป็นของจริง

ในจดหมายนนทภูเต็มไปด้วยตักเตือนถึงรพีพงษ์ เตือนให้รักษาใจ และระลึกถสอนของบรรพบุรุษ ส่วนเขาไปไหน ไม่ได้เอ่ยอะไร
รพีพงษ์กับมวด ว นทันที เขาคิดไม่ถึง ที่นนทภู ทิ้งไว้ให้ ก็เป็นแค่จดหมายธรรมดาฉบับหนึ่ง

ดังนั้น ธราถึงกล้าเอาจดหมายนี้ให้รพีพงษ์ ดู จดหมายไม่ได้เปิดเผยข้อมูลที่มีมูลค่าใดๆ เธอไม่ ได้สนใจเลยว่านนทภูไปไหน เป้าหมายสำคัญของ เธอ เพื่อหลอกล่อให้รพีพงษ์มาเท่านั้นเอง

แต่ในไม่ช้า รพีพงษ์ก็ได้ค้นพบความลึกลับของ การเขียนจดหมาย จดหมายของนนทภูนั้นดูไปแล้ว ธรรมดา และไม่มีข้อมูลที่มีมูลค่าใดๆเลย อันที่จริง ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ทั้งหมดถูกซ่อนไว้โดยวิธีการ พิเศษ

ตอนที่รพีพงษ์ยังเด็กมาก นนทภูได้สอนวิธีการ สื่อสารข้ามสาย วิธีนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเห็น ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในจดหมาย และทิ้งตัวหนังสือ ไว้ในที่พิเศษ

รพีพงษ์มองไปที่จดหมายทันทีโดยใช้วิธีข้ามสาย ข้อความ และในไม่ช้า ก็พบตัวหนังสือไม่กี่ตัวที่

สําคัญที่สุด

“การไปชมเขา เป็นเรื่องยากอันตราย ความสามารถไม่เพียงพอ ก็สามารถหาฉันได้ ระวัง ธรา

วางกับ ก

จดหมายทั้งฉบับ ข้อมูลที่เหลือทิ้งไว้ มีเพียงเล็ก

น้อยเท่านั้น

เห็นได้จากคำเหล่านี้ว่า นนทกูน่าจะไปยังสถาน ที่ที่เรียกว่าเทือกเขากิสนา และเขายังบอกให้พี พงษ์รอจนกว่าจะแข็งแรงพอถึงจะหาเขา ประโยค สุดท้ายคือเตือนให้รพีพงษ์ระวังวีธรา อย่าตกหลุม พรางของเธอ

เมื่อเขาพบคําพูดสุดท้าย หัวใจของรพีพงษ์ก็แน่น ขึ้น และลางสังหรณ์ที่ไม่สบายใจก็เข้ามาในหัวใจ ของเขาทันที

ดูเหมือนว่านนทภูรู้ตั้งแรกว่าวีธราผิดปกติ แม้ว่าน นทภูจะไม่ได้ถูกวีธราทำร้าย แต่เขาก็ยังเตือนร พงษ์ ให้ระวังวีธรา

ผู้หญิงคนนี้ ไม่ธรรมดาอย่างที่เขาคิดเลย

เขาเงยหน้าขึ้นและมองไปที่วีธรา และพบว่าวีธรา กำลังจ้องมองมาที่เขาด้วยรอยยิ้ม และใบหน้าของ195895614_4049610081742134_2201690657666485759_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ