แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่ 481 พวกคุณไร้เดียงสาเกินไปแล้ว



บทที่ 481 พวกคุณไร้เดียงสาเกินไปแล้ว

บทที่ 481 พวกคุณไร้เดียงสาเกินไปแล้ว

ห้องอีวานโฟนนิก

น้าชายของประเวกพาประเวกและนันทิตาทั้งสองเดินเข้าไป ประเวกพวกเขาสองคนถูกการตกแต่งภายในอันหรูหราของ ห้องอีวานโฟนนิกทําให้ตกตะลึง

ในเมืองที่พวกเขาอาศัยอยู่ก็ถือว่ายังมีร้านอาหารที่หรูหรา ทว่าถ้าเทียบกับห้องอีวานโฟนนิกแล้ว ก็ถือว่าแย่ไปกว่าเยอะ

“ว้าว ที่นี่หรูหราเกินไปแล้ว นี่ก็คือร้านอาหารของเกียวโตใช่ ไหม ถ้าเทียบกับที่นี่ ร้านอาหารของทางฝั่งพวกเรากลายเป็น โรงอาหารไปเลย” นันทิตาพึมพำกับตัวเอง

น้าชายของประเวกคลี่ยิ้ม แล้วพูดขึ้น “นี่เป็นหนึ่งในร้าน อาหารที่ดีที่สุดในเกียวโต คนที่เข้ามาที่นี่ ต่างก็เป็นคนชั้นสูง ในสังคม ถ้าไม่ตกแต่งให้หรูหราหน่อย แล้วจะแสดงฐานะของ พวกเขาออกมาอย่างชัดเจนได้ยังไง วันนี้ลูกพี่ของพวกน้าอยู่ ในห้องส่วนตัวที่ดีที่สุดของที่นี่ ในห้องมังกรต้อนรับแขก ว่ากัน ว่าแขกท่านนี้มีฐานะที่ลึกลับหน่อย วันนี้เรื่องที่เขาต้อนรับแขก ท่านนี้ไม่สามารถพูดออกไปเด็ดขาด พวกเธอสองคนไปข้าง นอก ก็อย่าพูดอะไรเรื่อยเปื่อย ไม่งั้นน้าจะซวยเพราะพวกเธอ”
ประเวกรีบยิ้มขึ้น แล้วพูดขึ้น “น้าวางใจเถอะ เรารู้ทุกอย่าง ต้องไม่พูดออกไปแน่นอน”

“พวกเธอสองคนรอที่นี่ก่อน น้าจะขึ้นไปเจอกับลูกพี่ของพวก น้าก่อน จําไว้ อย่าหาเรื่องให้น้าเด็ดขาด” น้าชายของประเวก พูดขึ้น

ทั้งสองคนต่างก็พยักหน้า จากนั้นน้าชายประเวกก็หันหลัง เดินไปชั้นบน

ประเวกและนันทิตาทั้งสองคนต่างก็มองไปในห้องอีวานโฟน นิกด้วยสีหน้าที่แปลกใจ แม้กระทั่งพวกเขายังคิดออกว่าเดี๋ยว ถ้ากลับไปจะไปโม้กับเพื่อนของตัวเองยังไง

เวลานี้รพีพงษ์เดินเข้ามาจากข้างนอก แล้วนันทิตาที่มองดู ไปทั้งสี่ทิศก็ได้สังเกตเห็นเรือนร่างของเขาทันที จากนั้นก็รีบ ขึงตาโต

“ประเวกคุณรีบดูสิ นั่นไม่ใช่ไอ้ผู้ชายไม่ได้เรื่องคนนั้นที่เรา เจอบรรถไฟความเร็วสูงหรอ? ” นันทิตายื่นมือชี้ไปยังรพีพงษ์

ประเวกมองไปตามมือของนันทิตา หลังจากที่เห็นรพีพงษ์ จึง ขมวดคิ้วขึ้น แล้วพูดขึ้น “ไอ้หมอนี่ไม่ใช่ว่าสะกดรอยตามเรา มานะ เขารู้สึกว่าตนเองอับอายขี้หน้าบนรถไฟ ดังนั้นเลยอยาก จะแก้แค้นพวกเรา เลยถามพวกเรามาที่นี่ตลอดทั้งทางหรอ?”
“เขาอาจจะแอบฟังพวกเราคุยกัน และรู้ว่าวันนี้พวกเราจะมา เจอกับน้าชายคุณ และถ้าเจอน้าชายคุณก็จะหาคนรับผิด ชอบวางแผนการเปลี่ยนแปลงเขตเมืองเก่า เพราะว่าตอนอยู่ ในรถไฟก็ได้ทําลายศักดิ์ศรีของเขา ดังนั้นเลยคิดจะมาสร้าง ปัญหาที่นี่หรอ? ” นันทิตากาลังวิเคราะห์แยกแยะอย่างเป็น หลักการด้วยความคิดของตนเองว่าเหตุผลที่รพีพงษ์มาที่นี่คือ อะไร

“ถ้าเป็นแบบนี้ เราก็ไปขัดขวางเขาก่อน ไอ้หมอนี่มีแรงใหญ่ จนน่าแปลก ถ้าให้เขามาสร้างเรื่องโวยวายอะไรขึ้นมาจริงๆ ไม่แน่พวกเราสองคนยังต้องพลอยซวยไปด้วย” ประเวกขมวด คิ้วพูดขึ้น

นันทิตาก็พยักหน้า แล้วพูด “งั้นพวกเราก็รีบไปขวางเขาไว้ เถอะ คนๆ นี้ก็จริงๆ เลย จริงๆ ก็คือไอ้ผู้ชายไร้ประโยชน์ แล้ว ยังจะวิ่งมาหาเรื่องที่นี่อีก ทำให้คนรู้สึกเครียดตายเลยจริงๆ ”

ทั้งสองก็ได้เดินไปทางฝั่งรพีพงษ์ จากนั้นก็ขวางอยู่ตรงหน้า เขา

แกรู้ว่าที่นี่คือที่ไหนไหม? แกมาทําอะไรที่นี่? ” นันทิตาจับ ” จ้องรพีพงษ์แล้วเอ่ยถาม

รพีพงษ์นึกไม่ถึงว่าประเวกและนันทิตาทั้งสองจะอยู่ที่นี่ด้วย อีกอย่างยังจะขวางทางเขา ภายในใจก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
“ฉันมาเจอเพื่อนคนหนึ่งที่นี่” รพีพงษ์เอ่ยพูด

นันทิตาแสยะยิ้มอย่างเบาๆ แล้วพูดขึ้น “นายอย่าเสแสร้ง เลย คนอย่างนาย ยังสามารถมาเจอเพื่อนในที่แบบนี้ด้วย หรอ? นายรู้ไหมว่าที่นี่เป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดในเกียวโต คน ที่มากินข้าวทีนี่ ตั้งเป็นคนสังคมชั้นสูง นายที่เป็นไอ้ผู้ชายที่ไร้ ประโยชน์ แล้วจะมีเพื่อนระดับแบบนี้ได้ยังไง”

รพีพงษ์ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูด “เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่พวก คุณ ฉันยังต้องขึ้นไป เชิญพวกคุณถอยไป

ประเวกกางแขนทั้งสองข้างของตนเองออกแล้วขวางอยู่ ข้างหน้ารพีพงษ์ ใบหน้าเคล้าด้วยความเย้ยหยัน “แกอย่ามา เสแสร้งเลย พวกเราเดาออกว่าแกอยากจะมาสร้างปัญหาที่ นี่ พวกเราก็แค่ไม่ให้เกียรติแกบนรถไฟไม่ใช่หรือไง แกก็ไม่ จําเป็นต้องตามพวกเรามาถึงที่นี่หรือเปล่า ฉันบอกเตือนแก หนึ่งคำนะ คนที่นี่ต่างก็เป็นคนที่มีฐานะและตำแหน่ง ไม่ใช่คน ที่แกสามารถผิดใจ ถ้าแกฉลาด ก็รีบไปเถอะ”

“ฉันฟังไม่เข้าใจว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่ รีบถอยไป ฉันไม่ อยากเสียเวลา” รพีพงษ์พูดด้วยเสียงเย็นชา

เขารู้สึกว่าสองคนนี้น่าแปลกเล็กน้อย ตอนอยู่บนรถไฟเขา พูดคุยกับพวกเขาไม่ถึงสิบประโยค ไม่รู้ว่าทำไมประเวกถึง รู้สึกว่าเขาไม่ให้เกียรติตัวเอง

“แกอย่ามาทำหน้าด้สนที่นี่ ถ้าแกยังดื้อรั้นที่จะสร้างเรื่องสร้างปัญหาที่นี่ ฉันจะเรียกรปภ.แล้วนะ ที่นี่เป็นร้านอาหารที่ ดีที่สุดของเกียวโต รปภ.ที่นี่ต้องเก่งมาก ถ้ารปภ.มา แกต้องมี จุดจบที่ไม่ดีแน่นอน ประเวกพูดด้วยความร้ายกาจ

รพีพงษ์ทำสีหน้าที่นิ่งเฉย แล้วมองไปยังสายตาของประเวกที่ เปลี่ยนเป็นสีหน้าที่ค่อนข้างทนไม่ไหว

นันทิตาที่อยู่ข้างๆ จับจ้องรพีพงษ์เพียงชั่วพริบตา แล้วถาม “ไหนๆ แกก์บอกแล้วว่าจะมาเจอเพื่อนที่นี่ งั้นแกบอกฉันมา เพื่อนของแกรออยู่ในห้องส่วนตัวห้องไหนกัน? ”

ในมุมมองความคิดของนันทิตา รพีพงษ์ต้องไม่รู้ว่าที่นี่มี ห้องส่วนตัวอะไรบ้าง ถ้าเขาตอบกลับไม่ได้ งั้นก็แสดงว่าเขา ต้องการมาสร้างปัญหาที่นี่จริงๆ

“ห้องมังกร” รพีพงษ์พูดขึ้น

นันทิตาและประเวกต่างก็ขึงตาโต แล้วมองรพีพงษ์อย่างไม่ น่าเชื่อ ถ้าเขาไม่ได้จำผิด เมื่อกี้น้าชายบอกว่าผู้ที่รับผิดชอบ ท่านนั้นจะต้อนรับแขกในห้องมังกรในวันนี้

“แก….แกอย่าพูดจาเหลวไหล! วันนี้ห้องมังกรเป็นสถานที่ ผู้รับผิดชอบแผนการเปลี่ยนแปลงแขกเมืองเก่าจะต้อนรับ แขก เพื่อนของแกจะอยู่ที่นั่นได้ยังไง ฉันว่าแกต้องมาหาเรื่อง แน่นอน อีกอย่างยังสืบหาสถานที่มาแล้ว ของขวัญ คุณรีบไป เรียกรปภ.เถอะ ผมจะขวางเขาไว้เอง วันนี้ต้องไม่ให้เขาได้ เข้าไปข้างในแน่นอน! ” ประเวกพูดด้วยความจริงจัง
นันทิตาก็รีบพยักหน้าทันที จากนั้นก็หันไปเรียกรปภ.ที่อยู่ ตรงประตูฝั่งโน้น

รพีพงษ์รู้สึกสุดคำบรรยาย จากนั้นก็ไม่ได้คิดจะยุ่งเกี่ยวกับ พวกเขา แล้วเข้าไปข้างในเลยทีเดียว

“หรือว่าแกยังอยากจะฝ่าเข้าไป! ” ประเวกตะโกนใส่รพีพงษ์

รพีพงษ์ก็ผลักเขาออกทันที จากนั้นก็เดินข้างไปต่อ

ประเวกเดินตามข้างหลังของรพีพงษ์ แล้วตะโกนขึ้นไม่หยุด “ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่แกเข้าได้ แกหยุดเดี๋ยวนี้! ”

เขารู้ว่ารพีพงษ์ที่มีแรงที่ใหญ่ ถ้าจะต่อสู้ขึ้นมาจริงๆ เขาต้อง สู้ไม่ไหวแน่นอน ดังนั้นจึงไม่กล้าไปขวาง ทำได้เพียงใช้ปาก ตะโกน

รพีพงษ์ไม่เห็นประเวกในสายตา แล้วเดินไปตรงบันไดที่อยู่

ข้างหน้า

และตอนทีรพีพงษ์ใกล้จะไปถึงตรงบันไดฝั่งโน้น นันทิตาก็ พารปภ.วิ่งมา เธอยื่นมือชี้ไปยังรพีพงษ์ แล้วเอ่ยพูด “เขาเอง ก็ คือคนๆ นี้แหละ อยากจะไปสร้างเรื่องโวยวายให้กับแขกของ พวกคุณที่นี่ พวกคุณรีบจับตัวเขาเร็ว”

รปภ.เหล่านั้นจึงรีบพุ่งมาตรงหน้ารพีพงษ์ แล้วขวางเขาไว้ หัว หน้า รปภ.กวาดสายตามองรพีพงษ์ตั้งแต่หัวจรดเท้า หลังจากที่เห็นว่ารพีพงษ์สวมใส่เสื้อผ้าธรรมดา ดูๆ แล้วมันแตก ต่างจากคนชั้นสูงในสังคมชอบปรากฏตัวที่นี่เป็นอย่างมาก ดัง นั้นจึงแน่ใจในคำพูดของนันทิตา แล้วนึกว่ารพีพงษ์เป็นคนที่จะ มาสร้างเรื่องจริงๆ

เขารู้ว่าวันนี้มีคนใหญ่คนโตคนหนึ่งมากินข้าวที่นี่ คนใหญ่คน โตท่านนี้เป็นตั้งผู้รับผิดชอบแผนการเปลี่ยนแปลงเขตเมือง เก่า บุคคลที่อยู่ในระดับแบบนั้น แค่คำๆ เดียวก็สามารถทําให้ ร้านอาหาร ของพวกเขาปิดประตู

ถ้ารพีพงษ์ไม่ระวังไปชนกับคนอื่น พวกเขาที่เป็นรปภ.พวกนี้ ต้องพลอยโชคร้ายไปด้วย

“พ่อหนุ่ม ฉันไม่สนใจว่านายเป็นใคร ตอนนี้นายรีบไสหัว ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นอย่าหาว่าพวกเราไม่เกรงใจ! ” หัวหน้า รปภ.จับจ้องไปยังรพีพงษ์

รพีพงษ์เหลือบตามองเขาเพียงพริบตา แล้วเย็นชา “นี่พวก คุณต้อนรับแขกกันแบบนี้หรอ? ”

หัวหน้ารปภ.ได้ยินคำพูดขึ้นจึงรู้สึกสะอึกภายในใจ หากรพี พงษ์เป็นแขกของที่นี่จริงๆ เขาใช้ท่าทีแบบนี้ปฏิบัติต่อรพีพงษ์ ต้องถูกลงโทษอย่างเคร่งครัดแน่นอน

“คุณอย่าฟังเขาพูดจาเหลวไหล เขาจะเป็นแขกที่นี่ของพวก คุณได้ยังไง คนๆ นี้ตั้งรถไฟขบวนเดียวกันมาที่เกียวโตกับ พวกเรา เขาคือผู้ชายไร้ประโยชน์คนหนึ่ง ไม่มีทางเป็นแขกของพวกคุณอยู่แล้ว บนรถเพราะว่าเขาเป็นคนที่มีความรู้น้อย เลยทําให้ขายขี้หน้า ตอนนี้เลยมาแก้แค้น” ประเวกพูดด้วย ความเร่งรีบ

หัวหน้ารปภ.ได้ยินแบบนี้ ภายในใจก็รู้สึกโล่งอกไม่น้อย จาก นั้นก็มองไปยังรพีพงษ์ด้วยสายตาที่โหดเหี้ยมอีกครั้ง

“นึกไม่ถึงว่าเป็นแค่ผู้ชายกระจอกๆ แกเองที่ขายขี้หน้าเอง แค่โทษคุณเองที่สวะเกินไป คุณวิ่งมาที่นี่เพื่อที่จะระบาย อารมณ์มันเรื่องอะไรกันแน่ รีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้ อย่าให้เรา ลงไม้ลงมือกับคุณ” หัวหน้ารปภ.พูดไป ก็เอากระบองรปภ.ของ ตนเองขึ้น

นันทิตามองรพีพงษ์ด้วยสายตาที่ปลาบปลื้มยินดีในความ โชคร้ายของคนอื่น แล้วพูดขึ้น “นายก็รีบไสหัวไปเถอะ นายไม่ เข้าใจใช่ไหมว่ากำลังของรปภ. ในร้านอาหารชั้นสูงแบบนี้แกร่ง แค่ไหน ที่นี่ไม่ใช่ร้านอาหารเล็กๆ ในบ้านเกิดของพวกนาย รปภ.เหล่านี้ก็เคยผ่านการฝึกฝนมาอย่างเข้มงวด ต่อให้นายมี แรงเยอร์แค่ไหน ก็ไม่มีทางเป็นคู่แข่งของพวกเขา! ”

รพีพงษ์ถอนหายใจ ภายในใจคิดว่าตนเองแค่มากินข้าว เท่านั้น กลับมาเจอกับปัญหาแบบนี้ รวมไปถึงการหายตัวไป ของอารียา ทำให้ภายในใจของเขารู้สึกไม่พอใจมาก ดังนั้น เขาก็ไม่คิดจะพูดมากอะไรกับคนพวกนี้ อยากจะลงไม้ลงมือ จัดการพวกเขาก่อน

และในตอนนี้ คนๆ หนึ่งก็พุ่งมาที่นี่อย่างว่องไว และตะโกน เรียกด้วยความเป็นมิตร “รพีพงษ์ คุณมาแล้วหรอ ผมยังบอกว่าจะไปหาคุณอยู่แน่ะ”

รพีพงษ์รีบหันไปมอง แล้วเห็นชายวัยกลางคนอายุราวๆ สี่สิบ กว่าปี ผมค่อนข้างน้อย และสวมใส่เสื้อผ้าอย่างเป็นระเบียบ คนๆ นี้ก็คือผู้รับผิดชอบแผนการเปลี่ยนแปลงเขตเมืองเก่า ไกรเดช

ทั้งสองถึงแม้จะไม่เคยเจอหน้ากัน ทว่าก็เคยเห็นรูปของต่าง ฝาย และไกรเดชก็คือคนมีความสามารถที่จงรักภักดีของกิ สนา หลังจากที่ได้ยินรพีพงษ์ประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เหมือนขึ้นไปบนสวรรค์ จึงรู้สึกนับถือเขามาก ดังนั้นครั้งแรกที่ เจอหน้า เขาก็ดูเป็นมิตรมาก

รพีพงษ์พยักหน้าให้กับไกรเดช แล้วพูดขึ้น “เพิ่งถึง”

ไกรเดชเห็นคนที่อยู่รอบๆ รพีพงษ์เพียงพริบตา สีหน้าของ เขาเผยความสงสัยออกมา แล้วถามขึ้น “นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ”

“คนพวกนี้บอกว่าผมมาหาเรื่องสร้างความวุ่นวายที่นี่ แล้วยัง คิดจะไล่ผมออก” รพีพงษ์พูดขึ้น

ไกรเดชก็รีบขึงตา แล้วก่นด่า “นี่มันเกินไปแล้ว คุณเป็นแขกผู้ มีเกียรติของผม พวกเขากลับอยากจะไล่คุณออกไป ทำให้ผม เครียดจะตายแล้ว! ”

หัวหน้ารปภ.มองผู้ชายที่จู่ๆ ก็เดินมาคนนี้ด้วยความไม่ สบายใจ เขาไม่ได้รู้จักคนๆ นี้คือใคร ไกรเดชมากินข้าวที่นี่ก็คือน้าชายของประเวกคอยจัดการมาตลอด เขาแค่รู้จักน้า ชายของประเวกเท่านั้น

แต่ว่าฟังจากน้ำเสียงของคนๆ นี้ เหมือนไม่ง่ายเลย ดังนั้นหัว หน้ารปภ.ก็เริ่มรู้สึกไม่สบายใจ

ประเวกและนันทิตาก็ไม่รู้จักไกรเดช นันทิตาสังเกตมองไกร เดชเพียงพริบตา แล้วกลอกลูกตา จู่ๆ นัยน์ตาเปล่งประกาย แล้วชี้ไปยังไกรเดชพลางพูดขึ้น “แกคงไม่ใช่พวกเดียวกับไอ้ หมอนี่ใช่ไหม? ”

“ต้องเป็นแบบนี้แน่นอน คนๆ นี้ใส่เสื้อผ้าธรรมดา ดูเป็นคุณอา วัยกลางคนที่ทำให้คนรังเกียจ เขาต้องแสดงละครร่วมมือกับ ไอ้ชายหนุ่มไร้ประโยชน์นี่ หึ พวกแกก็ไร้เดียงสาเกินไปแล้ว นึกว่าทำแบบนี้แล้วจะสามารถปิดบังสายตาของฉันได้! “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ