แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่358 มีใจให้จริงๆ



บทที่358 มีใจให้จริงๆ

บทที่358 มีใจให้จริงๆ

พอเทพฤทธิ์ได้ยินที่ไววิทย์พูด ก็แสดงสีหน้าสงสัย จึงถาม ขึ้น ตัวซวยอะไรกันถึงขั้นต้องใช้นักชกมาจัดการ

“คุณพ่อมาดูก็รู้เองแหละครับ เป็นไอ้หน้าเหม็นตัวหนึ่ง ไอ้บ้านี่ มันเป็นคางคกแต่อ่านจะกินเนื้อหงส์ หลอกลวงณี ผมกำลังสั่ง สอนมันให้ณีอยู่ครับ ไววิทย์เปิดปากพูด จากนั้นจึงส่งสายตามอง ไปทางรพีพงษ์

เทพฤทธิ์มองไปทางรพีพงษ์ตามไววิทย์ ในตอนที่สายตาตกลง

ไปกระทบร่างรพีพงษ์นั้น

เขาตัวแข็งทื่อไปหมด

นี่มันท่านประมุขตระกูลลัดดาวัลย์นี่นา !

ตอนนี้พวกนักชกที่ล้อมรพีพงษ์อยู่ต่างก็แห่เข้าไปรุมรพีพงษ์ รพีพงษ์เองก็ไม่ได้เกรงใจ คนเหล่านั้น เมื่อเขาถามว่าทำไม คนพวกนี้จะต้องลงมือกับเขา แต่ว่านักชกพวกนี้ก็ไม่ได้ตั้งใจจะ อธิบายอะไรกับเขามากมายนัก

ในเมื่อเป็นแบบนี้ รพีพงษ์ก็ต้องจัดการคนพวกนี้ก่อนเรื่องอื่นค่อยมาเคลียร์กัน

เทพฤทธิ์มองดูคนพวกนั้นพุ่งเข้าหารพีพงษ์ตาปริบๆ เขาตกใจ จนวิญญาณแทบจะออกจากร่าง

ไววิทยหัวเราะพลางพูดกับเทพฤทธิ์ว่า “พ่อครับ ไม่รู้ว่าเจ้านั่นมัน คิดยังไงของมัน กล้ามาหลอกณีเขาได้ วันนี้พวกนักชกของเราจะ ทําให้มันรู้เองครับว่า การที่ขัดใจ จะทำให้มันพบจุดจบยังไง

เทพฤทธิ์จึงได้สติกลับคืน พอได้ยินคำพูดของไววิทย์แล้ว ในใจ ก็เดือดดาลเป็นไฟ ในเมื่อมันเป็นเรื่องของจารุณี ก็ให้คนหอการ ค้าสมน. ไปจัดการเอาสิ แกจะมาอวดดีอะไรเล่า นี่มันเป็นการหา เรื่องให้ตระกูลตระกูลปิยศักดิ์ชัดๆ !

ฝั่งนั้นน่ะเป็นถึงประมุขตระกูลลัดดาวัลยนะโว้ย เขาจะหาอะไร แกไววิทย์จะไปเลือกอะไร

เทพฤทธิ์ยังคิดจะแนะนำให้ไววิทย์เป็นเพื่อนกับรพีพงษ์อีก ตอน นี้เอาล่ะสิ ไววิทย์เสือกปล่อยหมัดของตระกูลตระกูลปิยศักดิ์ใส่ รพีพงษ์เต็มๆ ถ้ารพีพงษ์โดนซ้อมจนเกิดอะไรขึ้นแล้วล่ะก็ ตระกูล ตระกูลปิยศักดิ์ของพวกเขาก็ไม่ต้องอยู่เป็นตัวเป็นตนแล้วล่ะ

“ไอ้ลูกบ้า ใครให้มึงไปเลือก ! มึงรู้มั้ยว่าเขาคือใคร ! มึงเลือกให้นักชกไปสั่งสอนเขา กูว่ามึงคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ! ”

เทพฤทธิ์ถีบไววิทย์ไปเต็มๆตีน โดยไม่ปราณีปราศรัย

ไววิทย์มาโดนตีนถีบลงไปกับพื้นแบบนั้น เขาจึงมองผู้เป็นบิดา ด้วยสีหน้าสับสนงุนงง ไม่รู้ว่าทําไมต้องโมโหขนาดนั้นด้วย

“พ่อครับ มันเป็นแค่ไอ้หน้าอ่อน แล้วพ่อเป็นอะไรไปครับนี่ไว วิทย์ถาม น

“กูว่ามึงเย็ดแม่งนั่นแหละไอ้หน้าอ่อน ! บอกให้ไอ้พวกนักชกมัน หยุดเดี๋ยวนี้ วันนี้ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขา กูจะทุบขามึงให้หักเลยที เดียว ! “เทพฤทธิ์โกรธจนตัวสั่น

เสียดายที่มาบอกเอาป่านนี้สายไปหน่อย หมัดเหล่านั้นได้พุ่งลง บนตัวของรพีพงษ์เรียบ ร้อยแล้ว

เห็นแต่รพีพงษ์กระหวัดกระบวนท่าหลบ ท่วงท่าลีลาไม่มีที่ติ นัก ชกพวกนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ ของรพีพงษ์เลยแม้แต่น้อย เพียงแค่ช่วง เวลาอึดใจ นักชกเหล่านั้นก็ถูกซัดหมอบราบลง ไปบนพื้น
พวกกรภัทร์เห็นรพีพงษ์ฝีมือเฉียบขาดขนาดนี้ สีหน้าจึงเปลี่ยน ไปโดยถนัดตา ถ้าหากรพีพงษ์เป็นแค่ไอ้หน้าอ่อนจริงๆแล้วล่ะ ก็จะมีความสามารถขนาดนี้ได้อย่างไร พอเห็นปฏิกิริยาของเทพ ฤทธิ์พวกเขาก็เดาออกทันที รพีพงษ์จะต้องไม่ใช่คนธรรมดา แน่นอน

“คืองี้ ผมนึกได้ว่ามีธุระกะทันหัน งั้นผมไปก่อนนะ กรภัทร์พูดขึ้น คำหนึ่ง จากนั้นจึงรีบวิ่ง ออกไปด้านนอก

หลังจากที่อีกสองสามคนมีปฏิกิริยาตามมา ต่างก็รีบบอกว่า ตนเองมีธุระ แล้วรีบวิ่งไป

ไววิทย์เซ่อไปในบัดดล ทำไมเขาถึงคิดไม่ถึง เรื่องราวถึงกลาย เป็นแบบนี้ได้

เทพฤทธิ์ไม่มีอารมณ์จะสนใจไววิทย์ เขารีบวิ่งรุดหน้าไปทางรพี พงษ์

รพีพงษ์กำลังจะถามนักชกอยู่พอดีเลยว่าทำไมต้องทำแบบนี้ ใครใช้ให้มา เทพฤทธิ์ก็รีบวิ่งมาหยุดตรงหน้า ขอโทษขอโพย เป็นการใหญ่ “ท่านประมุขลัดดาวัลย์ ขอโทษด้วยจริงๆนะครับ ทำให้ตกใจแล้วล่ะ เรื่องนี้เป็นความผิดผมทั้งหมด ผมสอนลูกชาย ไม่ดีเอง และมันก็โง่ด้วย ถึงได้สั่งให้พวกนักชกลงมือกับคุณ
“ลูกชายท่านเหรอ”รพีพงษ์เห็นเทพฤทธิ์มาปรากฏตัวอยู่ตรงนี้ ก็ ตกใจเช่นกัน ตอนนี้เขาเองก็สังเกตเห็นไววิทย์กับจารุณีที่ยืนอยู่ มุมไกล มาครุ่นคิดเล็กน้อย ก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

เขาเดินฉับๆไปทางไววิทย์ ถาม/นด้วยน้าเสียงเย็นชา คุณเป็น คนให้นักชกพวกนั้นมาลงมือกับผมเหรอ”

เทพฤทธิ์เดินตามมา พูดด้วยสีหน้าโกรธข็ง จะบอกให้ นี่คือท่าน ประมุขคนใหม่ของตระกูลลัดดาวัลย์ กูจะขอร้องเขายังแทบจะไป กราบไม่ทัน มึงเลือกไปหาเรื่องเขา ถึงจะทำให้ตระกูลตระกูล ปิยศักดิ์ฉิบหายให้ได้ใช่ไหม ! ”

ในตอนที่ไววิทย์ได้ยินเทพฤทธิ์บอกว่ารพีพงษ์เป็นประมุขคน ใหม่ตระกูลลัดดาวัลย์ ในหัวเขาอี้ออึงไปหมด ในหมีเสียงร้อง ๆ

“พ่อ…..พ่อครับ พ่อคงจำไม่ผิดนะครับ เขาจะเป็นประมุขคนใหม่ ตระกูลลัดดาวัลย์ได้ยังไง”

เทพฤทธิ์ถีบไปที่ไววิทย์อีกทีแล้วด่าออกมา กูเพิ่งไปหาเขามาที่ บ้านลัดดาวัลย์มาน่ะสิวะมึงคิดว่ากูจะจำผิดหรือไง ! ”

ไววิทย์กลืนน้าลาย มองไปทางรพีพงษ์ตาปริบๆ แล้วตระหนัก ขึ้นมาโดยพลันว่า เอาละ ตัวเองได้ก่อปัญหาใหญ่เข้าแล้ว จาก นั้นจึงรีบคลานไปตรงหน้ารพีพงษ์ คุกเข่าลงตรงหน้า

“ผมมีตาหามีแววไม่ ไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร ผมสมควรตาย คุณผู้มี เมตตาอภัยให้ผมเถอะนะ ต่อไปผมไม่กล้าแล้ว”ไววิทย์พูดพลาง ตบหน้าตัวเองสองสามฉาด รู้สึกเกลียดตัวเองนักที่สมองพิการ ทำไมแค่คำพูดของกรภัทร์ไม่กี่คำก็ไปเชื่อแล้วว่ารพีพงษ์เป็นไอ้ หน้าอ่อน

ถ้าเป็นไอ้หน้าอ่อนจริงๆ จะเทียบชั้นมาคบกับจารุณีได้ไงกันล่ะ

เทพฤทธิ์ตามอธิบายอยู่ข้างๆ “ท่านประมุขลัดดาวัลย์ ลูกชายผม ไม่ทราบจริงๆว่าคุณเป็นใคร แล้วมันก็เลือกด้วย นี่ ทั้งๆที่เป็นเรื่อง ของคุณกับคุณจารุณี สงสัยน่าจะเข้าสมองมันเลยบังอาจไปเลือก เรื่องคุณ กลับไปแล้วผมต้องสั่งสอนมันอย่างเด็ดขาด แต่ขอ ท่านประมุขลัดดาวัลย์เห็นแก่ความสัมพันธ์ของสองตระกูลเรามา หลายปี ปล่อยไอ้ลูกชั่วของผมไป เถอะ”

รพีพงษ์ยังไม่ทันได้พูดอะไร จารุณีก็ถอนหายใจออกมา เดิน ขึ้นหน้า เปิดปากพูด ฉันเป็นคนสั่งให้เขาหาคนมาจัดการคุณเอง แหละ เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา แค่ฉันไม่สบอารมณ์ อยาก ระบาย คุณก็อย่าไปหาเรื่องเขาเลย

ที่จริงรพีพงษ์ก็เพิ่งมาเกี่ยวข้องกับจารุณีก็เรื่องนี้เอง จารุณีเป็นเรียกเขาออกมา ถ้าไม่ได้รับการอนุญาติจากจารุณี พวกไว วิทย์เหรอจะมาจัดการอะไรเขา

เขาเองก็ถอนหายใจตามอย่างเหนื่อยใจ จากแววตาของจารุณี เขาเห็นร่องรอยแห่งความสับสน บางทีจารุณีเองคงไม่รู้ตัวด้วย ซ้ำว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ เธอก็แค่อย่างระบายอารมณ์โกรธ แค้นออกมา

“พาลูกคุณไปเถอะ ต่อไปอย่าทำผิดพลาดแบบนี้อีก”รพีพงษ์เปิด

ปากพูด

เทพฤทธิ์รีบโค้งคำนับให้ไววิทย์ แสดงความขอบคุณ จากนั้นจึง พาไววิทย์จากไป

รพีพงษ์หันไปหาจารุณี จารุณีก้มหัวงัด ไม่รู้ในหัวกำลังคิดอะไร

“ถ้าคุณคิดว่าคืนนี้ฉันทำไม่ถูก คุณก็สั่งสอนฉันสิ ยังไงฉันก็สู้ คุณไม่ได้อยู่แล้ว”จารุณีเปิดปากพูด

รพีพงษ์ยิ้มขึ้นมา เปิดปากพูด”ผมจะกล้าลงมือกับคุณได้ไง แบบ นี้พ่อคุณยังจะไว้ชีวิตผมอยู่อีกเหรอ”

จารุณีถอนหายใจ พูดขึ้น คุณไม่จัดการฉัน ไม่ใช่เพราะถนอมฉัน แต่เป็นเพราะกลัวอิทธิพลของพ่อฉัน รพีพงษ์ ฉัน เกลียดคุณ”

รอยยิ้มบนใบหน้ารพีพงษ์เลือนหาย เขามองจารุณีอย่างสับสน เขาเหมือนจะรู้สึกว่า ความบริสุทธิ์น่ารักบนตัวของจารุณีกำลังจะ เลือนหายไป ยัยหนูคนนี้ ดูเหมือนไม่มีความสุขเสียแล้ว

คนๆหนึ่งใสซื่อบริสุทธิ์ก็ดีอยู่ แต่มูลค่าที่ต้องแลกคือ พอประสบ เรื่องที่ทำร้ายจิตใจเข้า เงามืดของสิ่งที่ไปทำร้ายจะตามติดตัว นานกว่าคนปกติทั่วไป

แม้ว่ารพีพงษ์ไม่เคยคิดทำร้ายจารุณี แต่ในใจเขารู้ดี ที่จารุณีเป็น แบบนี้ เพราะยึดติดในความสัมพันธ์กับเขา

“ผมส่งคุณกลับนะ”ลังเลอยู่นาน รพีพงษ์ไม่รู้ว่าควรจะปลอบใจ จารุณีอย่างไรดี จึงได้แต่ พูดออกมาแบบนี้

จารุณีเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ ได้แต่หันหลังกลับ เดินออกไปด้านนอก

บนถนน รพีพงษ์เดินตามหลังจารุณี ทั้งคู่ไม่พูดอะไร เดินไปกัน อย่างเงียบๆ
เป็นนาน ในที่สุดจารุณีก็เปิดปากขึ้น รพีพงษ์ คุณรู้มั้ย ช่วงเวลา ที่อยู่ในอ่าเภอนกฟ้า เป็นช่วงเวลาที่ฉันมีความสุขที่สุด”

เป็นครั้งแรกที่ฉันนอนกับคนอื่น เป็นครั้งแรกที่ฉันเทียวกับคน อื่น เป็นครั้งแรกที่นั่งรถแข่งของคนอื่น เป็นครั้งแรกที่คิดจะมอบ ชีวิตให้กับผู้ชายคนหนึ่ง เป็นครั้งแรกที………..

จารุณีพูดอย่างมีอารมณ์ เธอระบายความรู้สึกที่มีต่อรพีพงษ์ออก มาหมด

รพีพงษ์ก็ฟังอยู่นิ่งๆ ในใจสัมผัสถึงความรักที่จารุณีมีให้ มา จนถึงเวลานี้ รพีพงษ์ถึงได้เข้าใจ ที่จารุณีติดเขาแจ ไม่ใช่เพราะว่า ดูซีรีย์มากเกินไป และไม่ใช่เพราะว่าเด็กเกินไปไม่รู้เรื่อง

แต่นั่นเป็นเพราะว่าจารุณีรักเขาจริงๆ

ปกติรพีพงษ์ค่อนข้างช้าอยู่แล้วเรื่องความรัก ตอนนี้มาสัมผัสได้ ว่าจาร รักเขา รู้สึกว่า เป็นเกียรติอย่างยิ่ง

“แต่ว่าคนที่ฉันมีครั้งแรกด้วยอยู่ตลอดเวลา กลับไม่อยากมีฉัน เขามีเมียแล้ว เพราะฉะนั้นทุกอย่างที่ฉันทำ สำหรับเขาแล้ว ก็เป็น เรื่องเหลวไหลทั้งเพ ดูไร้สาระ”จารุณีพูดต่อ
“บางทีฉันรู้สึกเกลียดตัวเองที่ทำไมไม่รู้จักคุณให้เร็วกว่านี้ ไม่ แน่ฉันอาจจะได้กลายเป็นคนของคุณไปแล้วก็ได้ ก็คงจะไม่ต้อง ทุกข์ใจแบบนี้ แต่ฉันรู้ว่ามันก็เป็นเพียงความคาดหวังลมๆแล้งๆ

“แม้ว่าฉันจะอายุแค่สิบเก้าปี แต่ฉันก็ไม่ได้รู้น้อยไปกว่าคุณเลย ฉันรู้ว่าคุณไม่สามารถจะกันพื้นที่ในหัวใจส่วนหนึ่งออกมาให้ฉัน ได้ ในใจคุณ มีแต่อารียา

พูดไปๆ จารุณีก็ร้องไห้ออกมา

รพีพงษ์ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี เผชิญหน้ากับเหตุการณ์แบบนี้ เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรจะจัดการยังไง

“ณี ขอโทษนะ”รพีพงษ์เปิดปากพูด

จารุณีได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ เธอกำลังจะหันไปทุบรพีพงษ์ ปากก็พร่ำพูดว่า “ใครอยากจะได้คำขอโทษจากคุณนักเล่า ฉันไม่ อยากได้ยินคำขอโทษจากคุณ”

รพีพงษ์ไม่ต่อต้าน ปล่อยให้จารุณีทบอก บางทีอาจจะทำให้เธอ รู้สึกสบายขึ้นก็ได้

สักพัก นําหนักมือของจารุณีเบาลงเรื่อยๆ แล้วจารุณีก็โอบกอดรพีพงษ์

ในใจรพีพงษ์กระตุก เดิมทีอยากจะผละออก แต่ว่าจารุณีกอด แน่นมาก รพีพงษ์เองก็รู้ว่า การผละจารุณีออกไปตอนนี้เป็นการ ทำร้ายอย่างหนึ่ง จึงยืนนิ่งไม่ขยับ

“รพีพงษ์ กอดฉันหน่อยได้ไหมคะ ฉันรู้ว่าตัวเองไม่มีหวังแล้ว แต่ฉันอยากจะสัมผัสกอดคุณสักครั้ง คุณช่วยให้ฉันสมหวังได้ ไหมคะ ขอแค่ข้อนี้ ต่อไปฉันจะไม่เกาะแกะคุณอีก จารุณีเปิดปาก พูด

รพีพงษ์ถอนหายใจยาว ไม่ได้พูดอะไร ใช้มือโอบกอดจารุณี

จารุณีซบหัวลงบนบารพีพงษ์ สีหน้าแสดงความพึงพอใจ

เป็นนาน จารุณีจึงผละแยกออกจากรพีพงษ์ จากนั้นจึงเดินไป ด้านหน้าอย่างไม่พูดไม่จา

ไม่นานนัก ก็มาถึงคฤหาสน์ตระกูลธนาโสรัตร์ รพีพงษ์หยุดลง พูดขึ้น”ณี คุณจะเป็นน้องสาวที่ดีที่สุดของผมตลอดไป ไม่ว่าคุณ จะตกอยู่ในอันตรายอะไร ผมก็จะคอยเคียงข้างคุณ ต่อไปขอแค่มี ผม ก็จะไม่มีใครรังแกคุณได้

จารุณียืนอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นหันไปทำหน้าทะเล้นใส่รพีพงษ์พูดขึ้น คนบ้า ไม่มีใครรังแกฉันสักหน่อย คุณพูดกับไม่พูดค่าเท่า กัน ส่วนเรื่องที่เป็นน้องสาวคุณเหรอ ขอฉันคิดดูก่อน ถ้าคุณ แสดงตัวได้ไม่ดี ฉันก็ยังคงเกาะแกะคุณอีก

พูดจบ จารุณีจึงเดินเข้าบ้านไป ไม่รู้ว่าเพราะอะไร พอได้ยินจารุณีพูดแบบนี้ รพีพงษ์รู้สึกโล่งใจ เขายักไหล่ หันหลังเพื่อกลับไปคฤหาสน์ตระกูลลัดดาวัลย์ เรื่องของความรัก ยุ่งยากกว่าการทะเลาะกันเสียอีก !


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ