แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่ 403 คุณเคยมีรักแรกหรือเปล่า



บทที่ 403 คุณเคยมีรักแรกหรือเปล่า

บทที่ 403 คุณเคยมีรักแรกหรือเปล่า

“นี่ลูก แม่จะบอกให้ว่าผู้ชายคนนั้นชื่ออกนิษฐ์ เดี๋ยวลูก อย่าเรียกชื่อเขาผิดล่ะ เขาเป็นนักเรียกนอก อาจจะพิถีพิถัน มากเสียหน่อย ถ้าเขาถามเรื่องที่แกไม่ชอบ แกอย่าไป โมโหเขาล่ะ” ศศินัดดาพูดกำชับพลางเดินไปด้วย

อารียาพูดออกมาอย่างอดไม่อยู่ “ถ้าแม่ยังไม่หยุดพูด เรื่องนี้ หนูจะไม่เข้าไปแล้วนะ

ทั้งสองคนเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องในโรงแรม ศศินัดดารีบหยุดพูดและไม่กล้าพูดอะไรอีก อารียาหันไปมองห้องแล้วพูดว่า “ที่นี่เหรอ” ศศินัดดาพยักหน้าแล้วเปิดประตู “เข้าไปสิลูก พูดกับเขา ดีๆ นะ แม่ทำเพื่อลูกนะ

“แม่ไม่เข้าไปด้วยกันเหรอ ก็แค่ถามความคิดเห็นของเขาเท่านั้น แม่เข้ามาด้วยสิ ไม่เป็นอะไรหรอก” อารียาพูด อย่างสงสัย

“ไม่ล่ะ ไม่ล่ะ แกเข้าไปคุยกับเขาเถอะ พวกแกยังเด็ก ฉัน ฟังที่พวกแกพูดไม่รู้เรื่องหรอก อีกอย่างแกอยากถามเขา เรื่องปัญหาที่อยู่ในใจไม่ใช่เหรอ ฉันเข้าไปฟังด้วยคงไม่ เหมาะสม แกไปคุยกับเขาเถอะ ฉันรอข้างนอกนี่แหละ” ศศิ นัดดาพูดพลางผลักอารียาเข้าไปข้างใน

อารียาไม่ทันได้พูดอะไรก็โดนศศินัดดาผลักเข้ามาในห้อง แถมยังปิดประตูห้องให้อีกต่างหาก

หลังจากที่ปิดประตูห้องลง ศศินัดดาถอนหายใจออกมา แล้วพูดพึมพำกับตัวเองว่า “แม่ทำเพื่อแกนะ ต่อไปแกจะ เข้าใจว่าทำไมแม่ถึงทำแบบนี้ รพีพงษ์มันเป็นตัวซวย ถึง มันจะเก่งแค่ไหนก็ไม่เห็นจะทำอะไรได้ แม่ขอแค่แกใช้ ชีวิตอย่างสงบสุขกับคนที่มีเงินสองสามร้อยล้านก็พอแล้ว”

ขณะนั้นเองเสียงของรองเท้าส้นสูงก็ดังขึ้น คนที่เรียกตัว เองว่าเป็นรักแรกของรพีพงษ์เดินมาข้างหลังศศินัดดา แล้ว พูดว่า “คุณคิดว่ารพีพงษ์เป็นตัวซวย งั้นก็แสดงว่าฐานะที่ บ้านของคุณมันต่ำสิ ฉันไม่สนใจว่ารพงษ์จะเจอเรื่องวุ่นวายไม่รู้กี่เรื่องต่อกี่เรื่อง คนที่สามารถ พลิกสถานการณ์ได้ทุกเมื่อ คงจะไม่ได้เป็นเรื่องที่พบเห็น ได้ทั่วไป

ศศินัดดาได้ยินที่ผู้หญิงคนนั้นพูดจึงแบะปากแล้วพูด ว่า “คนที่พลิกสถานการณ์อะไร ไม่ช้าก็เร็วมันจะได้ตาย เพราะเรื่องที่มันก่อเอาไว้ ลองดูสิว่าตอนนั้นมันจะพลิก สถานการณ์ยังไง น่าขาสิ้นดี

ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ต่อล้อต่อเถียงกับศศินัดดา ราวกับ ว่าการที่ไปต่อล้อต่อเถียงเป็นสิ่งที่ทำให้เธอดูไม่ดี

แต่ทว่าศศินัดดากลับอยากทะเลาะกับผู้หญิงคนนี้ แต่ เมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้แยแสเธอ เธอจึงไม่ได้แสดง ทักษะการหาเรื่องและทะเลาะกับคนอื่นออกมา

“เธอแน่ใจเหรอว่าการที่ทำแบบนี้จะทำให้ลูกสาวฉันไม่ พอใจจนทำให้ห่างกับรพีพงษ์? ถ้าให้พวกเขาทำเรื่องแบบ นั้นในห้อง จะใจร้อนเกินไปหรือเปล่า? ฉันว่าลองให้พวก เขาทำความรู้จักกันสักสองสามวันน่าจะดีกว่า” ศศินัดดาทำ เป็นพูดขึ้นมา

ผู้หญิงคนนั้นมองไปที่ประตูห้องแล้วพูดว่า “เรื่องแบบนี้ยิ่งเร็วยิ่งดี คุณแน่ใจเหรอว่ารพีพงษ์จะไม่กลับมาในช่วง นี้ ถ้ารพีพงษ์รู้ว่าคุณทำเรื่องแบบนี้ คุณว่าเขาจะทำยังไงกับ คุณ?”

“มันจะทำอะไรฉันได้ มันจะฆ่าฉันเหรอ อารีเป็นลูกสาว ของฉันนะ ฉันอยากให้เธออยู่กับใครก็เรื่องของฉัน ไม่ เกี่ยวอะไรกับมัน” ศศินัดดาพูดออกมาอย่างไม่กลัว

ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะแล้วพูดว่า “ถ้าคุณทำเรื่องที่เกิน ขอบเขต การฆ่าคุณมันก็แค่เรื่องง่าย

เมื่อศศินัดดาได้ยินก็ขนลุกขึ้นมาทั้งตัว เธอนึกถึงภาพทีวี ธราตายในคฤหาสน์ก็รู้สึกกลัวขึ้นมาทันที

“ชิ ถ้ามันทําแบบนั้น ลูกสาวฉันไม่มีทางให้อภัยมันแน่” ศศินัดดาพูดอย่างประหม่า

ผู้หญิงคนนั้นไม่พูดอะไรแล้วเดินเข้าไปในห้องที่อยู่ไม่ ไกล

ศศินัดดายังไม่วางใจ จึงยืนอยู่ที่หน้าประตู

ภายในห้อง
เมื่ออารียาเข้ามา เธอได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ให้ความรู้สึก อบอุ่น

แสงไฟในห้องนี้ไม่ได้สว่างจ้า เธอเห็นโต๊ะวางอยู่กลาง ห้อง บนโต๊ะประดับด้วยเทียน

และมีคนสวมสูทนั่งอยู่ข้างโต๊ะ ดูเหมือนจะเป็นผู้ชายที่มี มารยาทและสุภาพเรียบร้อย ชายคนนี้มีโครงหน้าชัดเจน ท่าทางดูสง่างาม ดูเหมือนว่าจะเป็นลูกผู้ดีมีสกุล

อารียาเห็นการตกแต่งภายในห้อง เธอแอบก่นด่าในใจว่า ศศินัดดาแอบนัดเดทให้เธออย่างแน่นอน

แต่ตอนนี้เธอเข้ามาแล้ว ถ้าเธอออกไปโดยไม่พูดอะไรกับ เขา มันค่อนข้างจะไม่มีมารยาท

เหมือนอกนิษฐ์จะเดาความคิดของอารียาออก เขาจึงเอ่ย ขึ้นมาว่า “คุณป้าบอกอาการของคุณให้ผมฟังแล้ว เธอ บอกว่าช่วงนี้คุณจิตใจไม่ค่อยดี เลยอยากให้ผมช่วยคุณ บรรยากาศแบบนี้จะทำให้คุณผ่อนคลาย คุณอย่าเข้าใจผิด ล่ะ”

เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูด อารียาจึงยิ้มเป็นมารยาทและเดินเข้าไปในตรงข้ามเขา

ท่าทางของเขาดูเหมือนว่าจะไม่ได้มาเดตกับเธอ อารียา คงคิดมากไปเอง

“สวัสดีครับ ผมชื่ออกนิษฐ์ ยินดีที่ได้รู้จักครับ” อกนิษฐ์ยื่น มือออกมาข้างหนึ่ง

อารียาจับมือทักทายเขา แล้วพูดว่า “ฉันสภาพจิตใจไม่ ค่อยดี เลยอยากหาคนมาปรึกษาเรื่องนี้ ฉันไม่รู้ว่าฉันต้อง ทําอะไรบ้าง”

อกนิษฐ์ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องทำอะไรเลยครับ คุณแค่ ทำตัวตามสบาย ทานข้าวไปคุยไป ไม่ต้องเกร็งนะครับ คุณ แค่คิดว่ามันเป็นแค่การทานข้าวมื้อหนึ่งก็พอแล้ว”

ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะช่วยแก้ปัญหาของอารียาอย่างไร คนอื่นสั่งให้เขามาเล่นละครตบตาก็เท่านั้น ผู้หญิงคนนั้น บอกว่าถ้าทำสำเร็จ เขาจะได้รับผลประโยชน์อย่างหาที่สุด ไม่ได้ ตอนนี้ที่เขาทำทั้งหมดมันเป็นเพียงแค่การเล่นละคร เท่านั้น

ในเมื่อได้ทั้งผู้หญิงที่สวยอย่างอารียา แถมยังได้ผลประโยชน์อีกมากมาย แน่นอนว่าอกนิษฐ์เต็มใจน้อมรับเอา ไว้

ก่อนที่จะมาเขาได้ศึกษาว่าหมอจิตวิทยามีวิธีพูดอย่างไร เพื่อทำให้ตัวเองแสดงได้สมจริงที่สุด

อารียามองท่าทางของอีกฝ่าย และคิดถึงคำที่เขาพูดออก มา เธอรู้สึกว่ามันค่อนข้างผิดปกติ แต่ไม่รู้ว่ามันผิดปกติตรง ไหน

เธออาจจะคิดมากไปเอง เพราะวันนี้เธอมาหาหมอด้าน จิตวิทยา เธอจึงอาจจะคิดไปเองมากจนเกินไป อารียาคิด แบบนี้เพื่อปลอบใจตัวเอง

อกนิษฐ์ยกแก้วไวน์ขึ้น จากนั้นจึงพูดว่า “เพื่อการเริ่มต้น ในการที่ดีของพวกเรา ผมหวังว่าคุณจะผ่อนคลายและพูด ความในใจออกมาให้ผมฟังได้นะครับ

อารียาไม่สามารถปฏิเสธได้ หยิบแก้วไวน์ขึ้นมาจิบ

จากนั้นทั้งคู่จึงเริ่มสนทนากัน อกนิษฐ์ถามคำถามอารียา เหมือนผู้เชี่ยวชาญ จากนั้นเขาจึงเริ่มพูดอวดจนอารียาที่ ฟังอยู่ถึงกับขมวดคิ้ว เธอรู้สึกว่าคนที่อยู่ตรงหน้าดูไม่เหมือนคนที่จบมาจากต่างประเทศเลย

สถานบันเทิงสตาร์กาย

รพีพงษ์บอกให้คนขับรถจอดตรงหน้าประตูสถานบันเทิง จากนั้นเขากะว่าจะสั่งให้ธฤตญาณเตรียมห้องให้เขานอนที่ นี่สักคืน แต่ทว่าถูกคนขับรถปฏิเสธ

ระหว่างทางที่กลับมา ธฤตญาณโทรถามรพีพงษ์ว่าจะ กลับมาตอนไหน รพีพงษ์บอกว่าตอนนี้กำลังเดินทางกลับ ธฤตญาณจึงบอกให้เขาแวะเข้ามาที่สถานบันเทิงก่อน

เมื่อเห็นว่าคนขับรถออกไปแล้ว รพีพงษ์จึงมองไปยังพวก ธฤตญาณกับไตรทศ เขารู้สึกว่าพลังในตัวของพวกนั้น เปลี่ยนไปจากแต่ก่อนอย่างชัดเจน

การฝึกของจันทร์ไชยได้ผลเป็นอย่างยิ่ง ตอนนี้ธฤตญาณ กับลูกน้องมีฝีมือเพิ่มขึ้นมาก ถึงจะต้องเจอกับคนฝีมือ ระดับเทพของตระกูลลัดดาวัลย์ก็สามารถรับมือได้อย่าง สบายๆ แน่นอน
อันที่จริงคนที่ฝีมือเพิ่มขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัยคือไตรทศ ตอนนี้นับได้ว่าเขาเป็นคนที่มีฝีมืออันดับต้นๆ คนหนึ่งเลย ล่ะ ถึงแม้ตระกูลลัดดาวัลย์อยากหาคนที่มีฝีมือแบบเขาก็ ไม่ใช่เรื่องง่าย

ตอนนี้รพีพงษ์สามารถรักษาไตรทศได้แล้ว

“เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงให้ฉันมาที่นี่ก่อน” รพีพงษ์มองธ ฤตญาณแล้วถามขึ้น

“คุณบอกผมก่อนว่าคุณเคยมีรักแรกหรือเปล่า?” ธฤต ญาณเอ่ยถาม

รพีพงษ์อึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดด้วยสีหน้าประหลาดใจ “นายดื่มเยอะไปหรือเปล่า ทำไมถึงถามคำถามแบบนี้”

“คุณบอกมาก่อนว่ามีหรือไม่ คุณอย่าปิดบังผมนะ เรื่องนี้ เป็นเรื่องสำคัญมาก” ธฤตญาณพูดด้วยความจริงจัง

“ไม่มี ทั้งชีวิตของฉันอารียาคือคนแรกและคนสุดท้าย เธอคือรักแรกของฉัน” รพีพงษ์พูดอย่างภาคภูมิใจ
ธฤตญาณขมวดคิ้วขึ้นทันที สีหน้าของเขาจริงจังขึ้น

“ทําไม นายอิจฉาที่ฉันรักเดียวใจเดียวเหรอ ทำไมถึงทํา หน้าแบบนั้นล่ะ” รพีพงษ์มองธฤตญาณด้วยสีหน้าสงสัย

ธฤตญาณพูดด้วยน้ำเสียงกังวล “ถ้าคุณไม่เคยมีรักแรก งั้นเรื่องนี้ก็ค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่แล้วล่ะ”

รพีพง รีบเอ่ยถามขึ้นทันที “เกิดเรื่องอะไรขึ้น”

“ช่วงที่คุณไม่อยู่ มีผู้หญิงแปลกๆ มาหาอารียา เธอบอก ว่าตัวเป็นรักแรกของคุณ หลังจากที่อารียาเจอเธอก็จิตใจ ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ผมสงสัยผู้หญิงคนนั้น เลยส่งคนไป สะกดรอยตาม ต่อมาเธอไปหาพ่อแม่ของอารียา ตอน ที่อารียาไม่รู้ตัว ผมไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน แต่วันนี้ แม่ยายพาภรรยาของคุณไปที่โรงแรมบลูสกายอินเตอร์เน ชันเนล เหมือนว่าจะพาไปเจอกับผู้ชายคนหนึ่ง ผู้หญิงคน นั้นก็อยู่ด้วย ท่าทางน่าสงสัย แต่ว่าอารียาคงไม่รู้ว่าเธออยู่ ที่นั่นด้วย” ธฤตญาณพูดอธิบาย

เมื่อรพีพงษ์ฟังจบ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป รีบเตรียมรถ ไปโรงแรมตอนนี้เลย”
ธฤตญาณรีบทําตามคำสั่ง ในเมื่อรพีพงษ์ยืนยันแล้วว่า เขาไม่เคยมีรักแรก งั้นผู้หญิงคนนี้ต้องมีเจตนาไม่ดีแน่ พวกเขาไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะทำอะไร แต่ต้องไม่ใช่เรื่องดี แน่

เขารีบเตรียมรถ ทุกคนมุ่งหน้าไปที่โรงแรม

ระหว่างทางรพีพงษ์โทรหาอารียา แต่อารียาไม่รับสาย น ยิ่งทำให้เขากระวนกระวายใจ

โรงแรมบลูสกายอินเตอร์เนชั่นเนล

ภายในห้อง อารียากำลังนั่งฟังอกนิษฐ์คุยโวโอ้อวด ขณะ นั้นเองเสียงมือถือก็ดังขึ้น เมื่อเห็นว่ารพีพงษ์โทรมา เธอ จึงกดตัดสาย

เธอคิดว่าตอนนี้เธอกำลังปรึกษาแพทย์อยู่ จึงไม่เหมาะที่ จะรับสายของรพีพงษ์ อีกเดี๋ยวค่อยโทรกลับไปหาเขาก็ได้

อกนิษฐ์ยิ้มให้อารียาแล้วพูดว่า “ที่จริงแล้วคุณสามารถรับ โทรศัพท์ได้นะ ผมไม่ถือสา
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณพูดต่อเถอะ” อารียาพูดขึ้น

แววตาที่อกนิษฐ์มองอารียาฉายแววแห่งความกระหาย จากนั้นเขาพูดว่า “ที่จริงแล้วปัญหาใหญ่ของคุณคือรพี พงษ์ คุณบอกว่าช่วงสองสามวันมานี้ คณได้ยินคนอื่นถูก เถียงเรื่องของพวกคุณสองคน ทำให้คุณปวดหัว งั้นวิธีที่ดี ที่สุดที่จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้คือคุณต้องห่างกับพี พงษ์ และไปหาคนใหม่ เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่

ตอนที่เขาพูดประโยคนี้ เขาลุกขึ้นยืน

เมื่ออารียาได้ยินคำพูดของอกนิษฐ์ สีหน้าของเธอจริงจัง ขึ้น เธอคิดไม่ถึงว่าคนที่ฟังเธอพูดมาพักหนึ่ง จะพูดสรุป ออกมาแบบนี้ เธอรู้สึกเหมือนกำลังเป็นตัวตลก

“ขอโทษนะคะ ฉันว่าเราไม่มีความจําเป็นต้องคุยกันต่ออีก ขอตัวก่อนนะคะ”

อารียาพูดแล้วยืนขึ้น จู่ๆ เธอก็รู้สึกมึนหัวและไม่มี เรี่ยวแรง

เธอมองอกนิษฐ์ด้วยแววตาหวาดกลัว “คุณใส่อะไรลงไปในไวน์

อกนิษฐ์ยิ้มแล้วเดินเข้ามาหาอารียา เขายิ้มเผยธาตุแท้ ออกมา “มันก็แค่สารที่กระตุ้นให้คุณกับผมทำอะไรกันได้ ง่ายขึ้นเท่านั้น”

“ไอ้ ไอ้เลว! คุณจะทำอะไรฉัน!” นอกจากอาการได้ เรี่ยวแรง อารียายังรู้สึกว่าร่างกายร้อนผ่าว ในหัวมีแต่ความ คิดที่ไม่เข้าท่า

อกนิษฐ์โน้มหน้าเข้าไปข้างหูของอารียา พูดด้วยน้ำเสียง หยอกล้อ “ถ้าผมไม่อยากได้คุณ ผมจะสร้างบรรยากาศ แบบนี้ไปทำไมล่ะ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ