แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่ 287 ตระกูลรัตนชัยนันท์มีดีอะไร



บทที่ 287 ตระกูลรัตนชัยนันท์มีดีอะไร

บทที่ 287 ตระกูลรัตนชัยนันท์มีดีอะไร

นายหญิงฝนทิพย์กับฆนาคมได้ยินสิ่งที่คนนั้นพูดก็หน้า เปลี่ยนสี

ฆนาคม คอเสื้อของคนคนนั้นแล้วจ้องเขม็ง “แกพูดอะไร ไร้สาระ! จู่ๆ สองพ่อลูกตระกูลวรโชติธีรธรรมจะตายได้ยังไง พวกเขาเป็นลูกหลานในตระกูลศิลปะการต่อสู้บูโดเชียวนะ ใครจะทำให้พวกเขาตายได้ง่ายๆ ขนาดนั้น

คนๆ นั้นสีหน้าเคร่งเครียดแล้วพูดว่า “ผะ ผมก็ไม่รู้ครับ แต่ ทางนั้นแจ้งมาแล้ว ผะ ผมก็ฟังคนอื่นมาเหมือนกัน”

นาคมยกขาถีบคนนั้นแล้วด่าออกมาว่า “เจตนาพูดให้คนอื่น ตกใจกลัว ฉันจะโทรไปเพื่อความแน่ใจ ธฤตญาณ มันคงโดน แกจ้างมาสินะ”

ธฤตญาณแสยะยิ้มให้ฆนาคม “แกรีบโทรไปเถอะ ฉันคงไม่ ทำเรื่องน่าเบื่อถึงขนาดต้องจ้างคนมาแสดงหรอก”

นาคมสีหน้าไม่เชื่อ เขาหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาไอศูรย์
ผ่านไปนานกว่าจะมีคนรับสาย แต่เสียงปลายสายไม่ใช่เสียง ของไอศูรย์ แต่เป็นเสียงโหวกเหวกโวยวาย ต่อจากนั้นก็เป็น เสียงร้องไห้ของผู้หญิง

“ฆนาคม สามีกับลูกชายฉันต้องตายเพราะแก ถ้าแกไม่หา เรื่องธฤตญาณ ครอบครัวฉันคงไม่เป็นแบบนี้ ชีวิตของสามีกับ ลูกชายฉัน แกต้องชดใช้!”

ได้ยินเสียงร้องคร่ำครวญจากปลายสาย ฆนาคมช็อกจนมือ ถือหลุดออกจากมือ

ทุกคนเห็นเช่นนั้นก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นก็มองธฤต ญาณด้วยสีหน้าหวาดกลัวและตกตะลึง แววตาที่มองเขาเต็ม ไปด้วยความหวาดกลัว

“ครั้ง ธฤตญาณคงวางแผนมาแล้ว ขนาดสองพ่อลูก ตระกูลวรโชติธีรธรรมยังตายคามือเขา ครั้งนี้ต้องเกิดการ เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับตระกูลรัตนชัยนันท์แน่” คนส่วนใหญ่ พากันพูดพิมพา มันเป็นหายนะครั้งใหญ่สำหรับตระกูลรัตนชัย

นายหญิงฝนทิพย์หันไปมองฒนาคมแล้วพูดว่า “ลูก อย่าบอก นะว่าที่มันพูดเป็นความจริง
ฆนาคมถอยไปข้างหลัง สีหน้าของเขาซีดเผือด “มะ แม่ สอง พ่อลูกตายแล้วจริงๆ

นายหญิงฝนทิพย์ตกใจ แต่เธอไม่ได้อึ้งเหมือนมนาคม เธอ จ้องธฤตญาณเขม็ง “ธฤตญาณ แกฆ่าสองพ่อลูกนั่นแล้วยังไง แกอย่าบอกนะว่าแกจะฆ่าพวกเราด้วย

“ฉันจะบอกให้นะ ฉันเป็นแม่ของบุญสิตา ในเมื่อการที่แกกลับ มาเพราะเธอ งั้นแกก็ต้องฟังฉัน ถ้าแกอยากเอาอำนาจของตัว เองกลับไป อยากตั้งหลักที่เมืองกรีนโคล แกต้องฟังฉัน รวม ถึงไอ้เด็กที่ยืนอยู่บนนาฬิกานั่นด้วย ไม่งั้นแกอย่าหวังจะได้ บุญสิตา!”

แม่ หนูจะไปกับใคร ทําไมต้องถามแม่ด้วย ธฤตญาณจะพา หนูไปก็ไม่จำเป็นต้องถามแม่ แม่ขออะไรไร้เหตุผลสิ้นดี!” บุญ สิตาพูดกับนายหญิงฝนทิพย์เสียงดัง

นายหญิงฝนทิพย์กระทืบเท้า บุญสิตา ฉันเป็นแม่แกนะ แก ต้องฟังฉัน ฉันไม่อนุญาตให้แกไปกับไอ้คนหน้าไม่อายนั่น แก ก็ห้ามไป นอกจากมันจะตกลงทําตามที่ฉันบอก

ธฤตญาณแสยะยิ้ม “ผมว่าคุณยังมองสถานการณ์ตอนนี้ไม่ ชัดเจนสินะ การที่ผมกลับมาครั้งนี้ ผมไม่ได้มาเพื่อให้คุณ ทําร้ายเหมือนเมื่อก่อน วันนี้คุณกับฆนาคมต้องขอโทษบุญสิตา ไม่งั้น ผมจะเอาชีวิตของคุณทั้งสองคน

“ถ้าผมไม่เห็นว่าพวกคุณกับบุญสิตามีความสัมพันธ์กันทาง สายเลือด ผมจัดการพวกคุณไปนานแล้ว ตัวซวยอย่างพวกคุณ อยู่บนโลกไปก็เปลืองอากาศเปล่าๆ!”

“รฤตญาณ แกกล้าว่าฉันเป็นตัวซวยเหรอ ฉันว่าแกคงไม่ อยากมีชีวิตอยู่แล้ว แกปล่อยบุญสิตามานะ มันเป็นลูกของฉัน แกไม่มีสิทธิ์พาเธอไป!” สีหน้าของนายหญิงฝนทิพย์เต็มไป ด้วยความโกรธ

บุญสิตาหลบข้างหลังธฤตญาณ “แม่ หนูทนมานานแล้ว แม่ ไม่เห็นหนูเป็นลูกเลย หนูเป็นแค่เครื่องมือของแม่เท่านั้น

“หนูไม่อยากเป็นแบบนี้ต่อไปอีก การที่ธฤตญาณกลับมา ครั้งนี้ หนูจะฟังเขาทุกอย่าง ถึงจะให้หนูตัดขาดกับแม่หนูก็ไม่ เสียดาย ต่อจากนี้หนูจะไม่ฟังแม่อีกแล้ว ถ้าแม่ยังไม่รู้ถึงความ ผิดของตัวเอง ถึงธฤตญาณจะทำอะไรกับแม่ หนูก็จะไม่ห้าม เขา!”

นายหญิงฝนทิพย์เห็นบุญสิตาไม่ฟังเธอ จู่ๆ เธอก็ลนลานแล้ว รีบเดินเข้าไปเพื่อจะดึงบุญสิตากลับมา
ธฤตญาณไม่เกรงใจเธออีกแล้ว เขาใช้มือผลักเธอออกไป อย่างไม่ไยดี

นายหญิงฝนทิพย์ล้มลงกับพื้นแล้วร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

“บุญสิตาคือคนของผม ต่อไปนี้ถ้าคุณกล้าแตะต้องเธออีก อย่าหาว่าผมไม่เกรงใจ!” ธฤตญาณพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ไอ้คน โดม แกกล้าผลักฉันเหรอ คมจัดการมันเร็ว ตอนนี้ ตระกูลเรามีหวังที่จะได้เป็นตระกูลอันดับต้นๆ ไม่ต้องไปกลัว ไอ้สวะนั่น” นายหญิงฝนทิพย์พูดขอความช่วยเหลือฆนาคม

ฆนาคมกลืนน้าลายเอ็อก สุดท้ายเขาก็ไม่กล้าทําอะไรธฤต ญาณ เขากัดฟันกรอดแล้วพูดว่า “ธฤตญาณ ฉันจะบอกให้ นะ วันนี้ท่านนฤพลมาร่วมงานวันเกิดแม่ของฉัน การที่ท่านน พลให้ความสำคัญกับตระกูลเรา ก็เป็นการบอกถึงอำนาจของ ตระกูลเราแล้ว! ถ้าแกยังกล้าบังอาจอีก ถ้าท่านนฤพลมา แก จะได้เห็นแน่”

ธฤตญาณหัวเราะแล้วพูดว่า “ฉันก็จะพูดเหมือนเดิม วันนี้พวก คุณต้องขอโทษบุญสิตา ไม่งั้นไม่ว่าใครจะมา ฉันก็จะให้พวก คุณชดใช้!
เขาเพิ่งพูดจบ ก็มีเสียงดังออกมาจากข้างนอก “ข้างในคึกคัก กันจริงๆ ไม่รู้ฉันมาสายไปหรือเปล่า เลยไม่ได้ดูอะไรสนุกๆ

ทุกคนหันไปมองที่ประตู หลังจากที่เห็นว่าคนที่เดินเข้ามาคือ ท่านนฤพลก็พากันตกตะลึง

“ท่านนฤพล เขามาจริง!

“ท่านนฤพลมาแล้ว ครั้งนี้ไอ้ธฤตญาณเสร็จแน่ เขามาร่วม งานวันเกิดของนายหญิงฝนทิพย์ ต้องช่วยนายหญิงแน่ๆ ใน เมืองกรีนโคล ตระกูลธนาพัชร์กุลเป็นตระกูลที่มีอำนาจจริงๆ ไม่ว่าธฤตญาณจะเก่งแค่ไหนก็ต้องยอมแพ้แน่ๆ

เมื่อนายหญิงฝนทิพย์กับฆนาคมเห็นท่านนฤพล สีหน้าของ พวกเขาเหมือนมีความหวัง สายตาที่มองไปยังธฤตญาณ เหมือนกำลังเยาะเย้ยอย่างไรอย่างนั้น

ฆนาคมรีบวิ่งไปหาท่านนฤพลแล้วทำความเคารพเขา “ท่าน นฤพล เป็นเกียรติของตระกูลเรามากที่ท่านมาร่วมงานเลี้ยงวัน เกิดแม่ของผม แต่ว่าตอนนี้ไอ้คนที่ไม่รู้จักชั่วดีอย่างธฤตญาณ มาสร้างความวุ่นวายในงาน เมื่อกี้มันยังพูดจาไว้มารยาทใส่ท่านด้วย หวังว่าท่านจะลงโทษมันนะครับ”

นายหญิงฝนทิพย์วิ่งตัวสั่นเข้ามา เธอมองท่านนฤพลด้วย ความซาบซึ้ง “ฉันซาบซึ้งมากที่ท่านให้เกียรติมาร่วมงานวัน เกิดของดิฉัน ท่านให้เกียรติตระกูลของเรา เป็นการบอกว่า ตระกูลของเรามีค่าไม่น้อย หวังว่าท่านจะเห็นแก่หน้าหญิง แก่คนนี้ ช่วยจัดการธฤตญาณให้ด้วยเถอะค่ะ ไอ้ต่ำตมนั่นมัน อวดดี ต้องมีคนลงโทษมันหน่อยค่ะ!”

ท่านนฤพลได้ยินที่ทั้งสองคนพูด เขามีสีหน้าเคร่งขรึมแล้ว พูดออกมาว่า “พวกคุณพูดอะไร ให้ฉันช่วยพวกเธอจัดการธ ฤตญาณงั้นเหรอ”

“ใช่ครับท่านนฤพลไอ้ธฤตญาณเป็นหมาไม่มีเจ้าของ มัน เทียบกับตระกูลของผมไม่ได้ ถ้าท่านนฤพลช่วยเราจัดการมัน ต่อจากนี้ตระกูลของเราจะเป็นลูกน้องของตระกูลท่าน ขนา คมรีบพูด

ท่านนฤพลถีบไปที่ตัวของฆนาคมแล้วด่าออกมาว่า “การที่ ฉันมาร่วมงานก็เพราะเห็นแก่หน้าของธฤตญาณ ตระกูลรัตน ชัยนันท์มีดีอะไรถึงจะให้ฉันไปช่วย?”

นาคมกับนายหญิงฝนทิพย์มีสีหน้าตกใจ คิดไม่ถึงว่าท่าน นฤพลจะพูดอย่างนี้
“ทะท่านมาเพราะเห็นแก่หน้าธฤตญาณ ถึงมางานนี้งั้นเหรอ คะ” นายหญิงฝนทิพย์พูดเสียงสั่น

“ใช่ ธฤตญาณเป็นคนมีความสามารถที่หาได้ยาก ฉันเห็นแก่ หน้าเขาจึงมาที่นี่ เธอกลับให้ฉันจัดการเขา ไม่ตลกไปหน่อย เหรอ” นฤพลพูดเสียงเย็นชา

นายหญิงฝนทิพย์ใจเต้นตึกตัก ก่อนหน้านี้เธอคิดมาตลอดว่า ธฤตญาณไม่มีอำนาจอะไรแล้วมันจะเป็นแค่คนไร้ค่า ไม่ว่ายัง ไงมันก็แค่คนที่เกิดในครอบครัวคนขายเครปเท่านั้น

ตอนนี้ใครจะไปคิดล่ะว่าการที่ท่านนฤพลมาร่วมงานวันเกิด เพราะธฤตญาณ

ทุกคนก็ไม่คาดคิดเหมือนกันว่าเรื่องมันจะเป็นเช่นนี้ พวก เขาคิดว่าการที่นฤพลมาร่วมงานนี้ เขาต้องช่วยตระกูลรัตนชัย นันท์แน่ ใครจะไปคิดว่าการที่นฤพลมาก็เพราะธฤตญาณ

อย่าบอกนะว่าวันนี้ท่านนฤพลตั้งใจมาช่วยธฤตญาณงั้นเหรอ

ถ้าเป็นอย่างนี้จริงๆ วันนี้คงจะเป็นจุดจบของตระกูลรัตนชัย นันท์แล้วล่ะ
ในเมืองกรีนโคล ถึงจะมีคนที่แข็งแกร่งกว่านี้ แต่ก็ไม่อาจเป็น ปฏิปักษ์กับตระกูลธนาพัชรกุลได้

ธฤตญาณพารพีพงษ์เดินมาทานฤพล จากนั้นจึงคารวะนฤพล แล้วหันไปมองนายหญิงฝนทิพย์กับมนาคม “ในเมื่อท่านนฤ พลอยู่ที่นี่แล้ว งั้นก็ถามต่อหน้าเขาเลยว่าพวกคุณจะขอโทษ บุญสิตาไหม

นายหญิงฝนทิพย์ตัวสั่นเทิ้ม เธอตกใจจนไม่กล้าพูดอะไร ออกมา

“ฉันเคยได้ยินสิ่งที่ตระกูลรัตนชัยนันท์ก่อเอาไว้ พวกคุณสอง คนหน้าไม่อายจริงๆ ลองคิดถึงสิ่งที่พวกคุณทำ ถึงจะนั่นพวก คุณเป็นหมื่นชิ้นก็ไม่ถือว่าเกินไป ตอนนี้ธฤตญาณให้พวกคุณ ขอโทษบุญสิตาเท่านั้น ยังไม่รีบคุกเข่าขอโทษอีก” นฤพลเอ่ย ขึ้น

ฆนาคมกับนายหญิงฝนทิพย์หน้าเสีย ตอนนี้คนในสวนก็เยอะ มาก ถ้าพวกเขาคุกเข่าขอโทษ คนทั้งกรีนโคลต้องรู้เรื่องนี้แน่

นฤพลเห็นว่าทั้งสองคนยังไม่คุกเข่า จึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็น ชา “ดูเหมือนว่าคำพูดของฉันจะไม่ได้ผลสินะ ในเมื่อเป็นแบบ นี้ ตระกูลรัตนชัยนันท์ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ในเมืองกรีนโคลอีกต่อไป!

นายหญิงฝนทิพย์กับฆนาคมตกใจ เมื่อได้ยินว่านฤพลจะ จัดการกับตระกูลรัตนชัยนันท์ ทั้งสองคนจึงรีบคุกเข่าอย่างไม่

ต้องคิด

“ท่านนฤพล พวกเราผิดไปแล้ว คุณเป็นคนมีอำนาจ ไว้ชีวิต ตระกูลเราเถอะค่ะ” นายหญิงฝนทิพย์พูดอ้อนวอน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ