แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่345 พวกแกหกคนเข้ามาพร้อมกัน



บทที่345 พวกแกหกคนเข้ามาพร้อมกัน

บทที่345 พวกแกหกคนเข้ามาพร้อมกัน

หลังจากที่เกรียงชัยและอรรณพทั้งคนพร้อมแล้ว ภายใต้ความ สนใจของทุกคน ก็เริ่มลงมือ

เกรียงชัยในฐานะศิษย์คนสำคัญของจันทร์ไชย ความแข็งแกร่ง ก็มีอยู่ แต่มวยแปดสุดยอดเป็นที่รู้จักในด้านพละกำลังและความ แข็งแกร่ง และมีท่าไม้ตายมากมาย เป็นนักฆ่าที่แท้จริง ดังนั้น เมื่ออรรณพเทียบกับเกรียงชัยแล้ว ก็ไม่ได้อ่อนแอ

ที่สําคัญอรรณพอายุมากกว่าเกรียงชัยหลายปี มีประสบการณ์ ในการต่อสู้มากมาย ถ้าเกรียงชัยอายุรุ่นราวคราวเดียวกับอรรณพ อยากชนะอรรณพ กล่าวได้ว่าเป็นเรื่องง่ายมาก แต่ว่าตอนนี้ก็ยัง เหนื่อยยากขึ้นมาเล็กน้อย

หลังจากที่ทั้งสองคนต่อสู้ท่าไปสิบกว่าท่า เกรียงชัยก็รู้สึก กดดันมาก เดิม แม้คนคนนี้จะดูจะอายุมากกว่าเขาเล็กน้อย แต่ ก็อยากพึ่งพาความสามารถของตัวเอง และท่าต่างๆที่จันทร์ไชย สอนให้กับเขา น่าจะชนะได้ไม่ยาก

แต่ตอนนี้เขาถึงค่อยรู้ตัว ที่เขาคิดมันไร้เดียงสาเกินไป
จันทรไชยที่เฝ้าดูทั้งสองคนต่อสู้กัน ก็ทอดถอนหายใจ แม้ว่า ตอนนี้เขาจะรู้ว่ามีความเป็นได้สูงว่าเกรียงชัยจะแพ้ให้อรรณพ แต่ใจในของเขาก็ยังคงสงสัย รพีพงษ์รู้ก่อนได้อย่างไรทั้งที่ทั้ง สองคนยังไม่ทันได้ต่อสู้กัน ก็รู้ว่าเกรียงชัยไม่มีทางชนะ

เขาหันหน้าไปมองรพีพงษ์ที่อยู่ข้างๆตัวเอง รู้สึกเสมอว่าที่ชาย หนุ่มที่อยู่ข้างๆตัวเองมีความสามารถบางอย่างที่ทำให้คนรู้สึก มองไม่เห็น

ผ่านไปเกือบสิบนาที ในที่สุดเกรียงชัยก็ต้านทานหมัดของ อรรณพไม่ได้ และล้มลงกับพื้น

เขาจ้องไปที่อรรณพด้วยสีหน้าที่ดูไม่ดี รู้ว่าตัวเองไม่มีโอกาสที่ จะชนะได้ แม้ว่าเขาจะลุกขึ้นยืนในตอนนี้ แต่เขาก็ยังคงพ่ายแพ้ ให้กับอรรณพเหมือนเดิม

“ยอมแพ้แล้ว”อรรณพมองไปที่เกรียงชัยอย่างมีชัย แล้วพูดว่า

พวกทมพิกาก็รีบโหเสียงขึ้นมาทันที และรู้สึกว่าถ้าอรรณพ สามารถเอาชนะลูกศิษย์จันทร์ไชยได้ ก็จะสามารถเอาชนะจันทร์ ไชยได้อย่างแน่นอน

เกรียงชัยขึ้นจากพื้น เดินเข้าไปหาจันทรไชยอย่าผิดหวังแล้วพูดว่า: “อาจารย์ ผมทําให้อาจารย์ขายหน้า

จันทร์ไชยส่ายหัวอย่างไม่แยแส และกล่าวว่า: “นายอายุน้อย กว่าเขาหลายปี และประสบการณ์การต่อสู้ก็น้อยกว่า แพ้ให้เขาก็ เป็นเรื่องธรรมดา นี่ก็ถือเป็นประสบการณ์มากขึ้นสําหรับนายหวัง ว่านายจะได้อะไรกลับมาบ้างจากการทําประลองครั้งนี้ ครั้งต่อไป ที่เผชิญหน้ากับเขา มันจะไม่จบลงแบบนี้อีก

เกรียงชัยพยักหน้าทันที และกล่าวว่า: “ครับ อาจารย์!”

อรรณพมองขึ้นไปทางจันทร์ไชย และพูดเสียงดังว่า: “ฉันก็ เอาชนะลูกศิษย์ของคุณได้แล้ว คนต่อไปก็คือคุณ ตอนนี้คุณไม่มี เหตุผลที่จะปฏิเสธฉันแล้ว

จันทร์ไชยยิ้มเล็กน้อย แล้วพูด: “ขอโทษด้วยจริงๆ คนเมื่อกี้ที่ ฉันพูดถึง ไม่ใช่ลูกศิษย์ของฉัน เขาอาจจะเข้าใจฉันผิดไป ดัง นั้นจึงขึ้นไปต่อสู้กับนาย

อรรณพเบิกตากว้าง แล้วพูด: “จันทร์ไชย ตกลงคุณหมายความ ว่ายังไง! ล้อพวกเราเล่นหรือไง!”

“เมื่อกี้เป็นเรื่องเข้าใจผิดจริงๆ แนะนำให้กับพวกเธอก่อน คนนี้ คือศิษย์น้องของฉัน แต่เดิมฉันต้องการให้เขาสกับนาย ถ้าหาก พวกเธอรู้สึกว่าฉันกำลังล้อพวกเธอเล่น ทำไมนายไม่ต่อสู้รุ่นน้องของฉันล่ะ ถ้าหากว่าเขาแพ้ ฉันก็จะไปขอโทษ อาจารย์พวกเธอถึงที่ พวกเธอก็ไม่ต้องมาต่อสู้กับฉันแล้ว ว่าไง ล่ะ?”จันทร์ไชยชี้นิ้วไปที่รพีพงษ์

อรรณพและทิมพิกาพวกเขาทั้งหลายหันมองไปทางรพีพงษ์ พวกเขาทั้งหลายก็นิ่งอึ้งไป อรรณพพวกเขาทั้งหลายก็ตกตะลึง พนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารในตอนนั้นจะมาอยู่ที่นี่ในเวลานี้ และ ที่อรรณพประหลาดใจกว่าก็คือจันทรไชยบอกว่ารพีพงษ์เป็นศิษย์ น้องของเขา

“นี่คือพนักงานเสิร์ฟที่อยู่ในร้านอาหารไม่ใช่เหรอ ฉันไม่ได้ฟัง คำพูดของจันทร์ไชยผิดไปใช่มั้ย? เขาบอกว่าให้พี่ใหญ่เอาชนะ พนักงานเสิร์ฟคนนี้ เขาก็จะไปขอโทษอาจารย์พวกเราถึงที่?”

“พนักงานเสิร์ฟคนนี้เป็นศิษย์น้องของจันทร์ไชย ตลกล่ะจันทร์ ไชยไม่ใช่ว่าเห็นความแข็งแกร่งของพี่ใหญ่พวกเราแล้ว หวาด กลัวขึ้นมา ดังนั้นเลยไม่อยากต่อสู้ สร้างเหตุผลอื่นมา เพื่อหา ข้ออ้างให้กับตัวเอง?

หลายคนเริ่มพูดคุยกัน และคำพูดของจันทร์ไชยก็ทำให้พวกเขา รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

อรรณพจ้องมองไปที่รพีพงษ์ แล้วพูดว่า “คุณล้อเล่นกับพวกเรา หรือเปล่า? คนคนนี้พวกเราเคยเจอที่ร้านอาหาร เขาเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟ ถ้าหากว่าคุณอยากจะขอโทษอาจารย์พวก เราจริงๆ ก็ไปเลยก็ได้ ไม่จำเป็นต้องหาข้ออ้างมาให้ตัวเองเลย พี่ ใหญ่ของพวกเราไม่ใช่ว่าเอาชนะคุณไม่ได้

หลังจากที่คนฝั่งสำนักบูโดวงแสงได้ยินคำพูดของอรรณพ สีหน้าแสดงถึงความประหลาดใจ ไม่คาดคิดว่าพวกเราจะบอกว่า รพีพงษ์เป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหาร

จันทรไชยก็สงสัยเล็กน้อย หันหน้าไปมองรพีพงษ์ แล้วแสดง แววตาที่สงสัยออกมา

รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย อธิบายเรื่องที่ตัวเองไปหาเพื่อนเก่าที่ร้าน อาหารเพื่อช่วยเหลือ

หลังจากที่จันทร์ไชยได้ยิน ก็หัวเราะอย่างตลก ถึงว่าทำไมพวก เขาถึงพูดเช่นนี้ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง

“ฉันไม่ได้หาข้ออ้างให้กับตัวเอง ถ้าหากว่าพวกเธอคิดว่าเขาเป็น พนักงานเสิร์ฟ จะเป็นความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงมาก ฉันก็ยัง ยืนยันคําเดิม ตราบใดที่พวกเธอสามารถเอาชนะเขาได้ ฉันก็จะไป ขอโทษถึงที่”จันทร์ไชยกล่าว

อรรณพพวกเขาทั้งหลายก็มองกันไปมา ต่างก็รู้สึกว่านี่เป็นเรื่อง ที่ยังไงก็ชนะ ไอ้หมอนั่นเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้นเอง ต่อให้ มีความสามารถ ก็คงจะไม่เก่งกาจกว่าเกรียงชัยอรรณพต้องการที่จะเอาชนะเขาเป็นเรื่องง่าย

ยิ่งไปกว่านั้นจันทรไชยกล่าวต่อหน้าผู้คนมากมายว่า ตราบใด ที่เอาชนะรพีพงษได้ จันทรไชยก็จะไปขอโทษอาจารย์พวกเขา ถึงที่ ถึงตอนนั้นเรื่องนี้จะให้วงการศิลปะการต่อสู้สั่นคลอนอย่าง แน่นอน ถึงตอนนั้นอาจารย์ของพวกเขาก็จะมีชื่อเสียง และพวก เขาทั้งหลายก็คงจะมีชื่อเสียงเช่นเดียวกัน

ในเมื่อมีโอกาสดีขนาดนี้ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะคว้ามันไว้ อย่างรวดเร็ว

“ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นฉันก็ตกลง จะสู้กับไอ้หมอนี่ คนทั้งหมดที่อยู่ ในนี้เป็นพยานด้วย ถึงเวลาอย่าปฏิเสธละกัน! อรรณพตะโกน

จันทร์ไชยยิ้มและมองไปที่รพีพงษ์ ส่งสัญญาณให้รพีพงษ์ขึ้น ไป

รพีพงษ์สายหัวอย่างช่วยไม่ได้ และเมื่อคิดว่าตัวเองมาหาจันทร์ ไชยเพื่อขอให้เขาช่วยเช่นกัน ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ถือว่าช่วย เหลือเขา

เขาเดินออกไปด้านหน้า และยืนอยู่ตรงหน้าอรรณพ สีหน้าไม่

แยแส
อรรณพจ้องมองไปที่รพีพงษ์และหัวเราะเยาะ และพูดว่า “ตอน นี้นายสามารถยอมแพ้ได้ ตอนนั้นที่อยู่ในร้านอาหาร พวกเราเห็น นายเป็นพนักงานเสิร์ฟ นายคงจะถูกจันทรไชยบังคับให้ออกหน้า มาใช่มั้ย เพียงแค่นายริเริ่มยอมแพ้เอง พี่ใหญ่ของพวกเราก็จะ ไม่ทำให้นายลำบากใจเช่นกัน

หลายคนที่เหลืออยู่ก็หัวเราะเยาะพีพงษ์ตาม ในความคิดของ พวกเขา รพีพงษ์ไม่มีอะไรเทียบกับอรรณพได้เลย

ฝั่งสํานักบูโดวงแสงก็มองไปที่รพีพงษ์อย่างสงสัย แม้ว่าจันทร์ ไชยจะบอกว่ารพีพงษ์เป็นศิษย์น้องของเขา แต่ทุกคนนอกจาก ถิรมัน ก็ไม่มีใครเคยเห็นต่อสู้ ดังนั้นก็เลยไม่รู้ว่ารพีพงษ์มีความ สามารถจริงๆหรือแค่การแสดง

พวกเขาต้องการเห็นระดับความสามารถของรพีพงษ์ผ่าน อรรณพ

เกรียงชัยเต็มไปด้วยความโกรธ เขาคิดไม่ถึงว่ารุ่นน้องอายุน้อย ที่ยอดเยี่ยมกว่าในกลุ่มคนที่จันทร์ไชยพูดมาในตอนนั้นจะไม่ใช่ เขา แต่เขากลับเป็นคนขึ้นไปเอง ซึ่งทำให้เขารู้สึกละอาย

และตอนนี้จันทร์ไซยฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่รพีพงษ์ เขายัง สามารถบอกกับอรรณพคนอื่นๆว่าถ้ารพีพงษ์แพ้ ก็จะไปขอโทษ เห็นได้ชัดว่าคงจะคิดว่ารพีพงษ์ไม่มีทางแพ้อย่างแน่นอน

สิ่งนี้ทำให้เกรียงชัยไม่สบอารมณ์ เขาไม่รู้สึกว่าความสามารถ ของรพีพงษ์จะเหนือกว่าเขา รพีพงษ์สามารถกลายเป็นศิษย์น้อง ของจันทร์ไชยได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าอะไร พวกพี่น้องสำนัก เดียวกันของพวกเขา มีความสามารถที่แย่กว่าเยอะแยะ อาจารย์ เดียวกันไม่ได้หมายความว่า ความสามารถก็จะแข็งแกร่งกว่า

“หึ ดูซิว่าความแข็งแกร่งของนายจะอยู่ในระดับไหน ในเมื่อ อาจารย์มีความเชื่อมั่นในตัวนายมากขนาดนี้ ถึงเวลาถ้าแพ้ ต่อให้ อาจารย์จะห้าม ฉันจะสั่งสอนนายแน่!”เกรียงชัยกัดฟัน

อรรณพจ้องมองรพีพงษ์ แล้วพูดว่า: “ร่างกายของนาย ห่างจาก ฉันไปสองระดับนะ ฉันรู้สึกว่าถ้าฉันต่อยลงไป นายก็จะล้มลง นายแน่ใจนะว่าไม่ยอมแพ้เอง?”

รพีพงษ์ยิ้มให้อรรณพเล็กน้อย แล้วพูดว่า: “นี่เป็นเพียงแค่ ภาพลวงตาของนายเท่านั้นเอง”

อรรณพแสยะยิ้ม รู้สึกว่ารพีพงษ์กำลังขี้โม้

อรรณพยิ่งดูถูกมากขึ้น ปกติสิ่งที่เขาไม่ชอบที่สุดก็คือคนที่เห็น ได้ชัดว่าไม่มีความสามารถอย่างรพีพงษ์ แต่ยังเป็นที่คนโอ้อวด อีก
“เมื่อกี้นายสู้กับเกรียงชัยไป คงจะใช้พลังกายมากใช่มั้ย?”รพี พงษ์ถาม

“ทําไม หรือว่านายคิดว่าฉันสู้ไปแล้ว ก็ไม่สามารถแสดงพลัง ทั้งหมดออกมาเหรอ? จะบอกนายให้ ต่อให้ร่างกายของฉันอยู่ใน สถานะที่ไม่ดี จัดการนายก็มากเกินพอแล้ว!”สีหน้าอรรณพเต็ม ไปด้วยความมั่นใจ

“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นรพีพงษ์กล่าว ทันใดนั้นรัศมีที่ ไม่มีใครเทียบได้ก็พุ่งออกมาจากร่างกาย และสายตาที่มองไปที่ อรรณพก็เปลี่ยนเป็นดุเดือดขึ้นมา “ฉันกลัวว่านายจะรู้สึกว่าตัวเอง เสียเปรียบ ถึงเวลาแพ้แล้วก็ไม่ยอมรับ

“ดังนั้น พวกแกหกคน เข้ามาพร้อมกันเลย

คําพูดของรพีพงษ์ทำให้ทุกคนในผู้ฟังเกิดความโกลาหล ไม่มี ใครจะคิดว่า รพีพงษ์ต้องการให้พวกเขาทั้งหกคนเข้ามาพร้อม กัน ต่อให้ความสามารถของห้าคนที่เหลืออยู่จะไม่เก่งกาจเหมือน อรรณพ แต่ว่ารวมกันก็มีพลังมากทีเดียว รพีพงษ์จะจัดการกับทั้ง หกเพียงคนเดียว คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

ปฏิกิริยาแรกของเกรียงชัยเมื่อเขาได้ยินคำพูดของรพีพงษ์คือ พูดกับจันทรไชยว่า “อาจารย์ ผมรู้สึกว่าเขาจงใจที่จะแพ้ เขาหนึ่ง คนจะเอาชนะทั้งหกคนได้ยังไง ผมว่าเขาต้องการให้อาจารย์ขาย หน้า”
จันทร์ไชยเหลือบมองเกรียงชัย แล้วพูดว่า “เขามีความสามารถ

เกรียงชัยกัดฟัน ไม่เข้าใจว่าทำไมจันทร์ไชยถึงเชื่อมั่นในตัวร พงษ์ขนาดนี้

พิมพิกากลอกตาไปมา แล้วพูดว่า “นายเป็นคนพูดเองนะ อย่า เสียใจทีหลังละกัน!”

“ไม่มีแน่นอน รพีพงษ์กล่าว

อรรณพพยักหน้าไปมองพิมพิกา แล้วพูดว่า “น้องหก หรือว่า เธอคิดว่าพวกเราทั้งหมดหกคนจะเข้าไปสู่พร้อมกันกับเขาคน เดียวเหรอ?”

“เขาเสนอมาเอง ทำไมไม่ตกลงล่ะ ตราบใดที่พวกเราชนะ จันทร์ ไชยจะต้องขอโทษอาจารย์ของพวกเรา นั่นหมายความว่าสำนัก บูโดวงแสงก็ถูกพวกเราเหยียบย่ำ ทำไมจะไม่คว้าโอกาสนี้ไว้ ล่ะ พิมพิกากล่าว

คนที่เหลือไม่กี่คนก็รู้สึกว่ามีเหตุผล แล้วพยักหน้าตาม

เมื่ออรรณพเห็นว่าหลายคนก็พยักหน้า ก็เห็นด้วย แล้วพูดว่า “ตอนนี้พวกเธอตามอยู่ด้านหลังฉัน จัดการไอ้หมอนี่ ฉันคนเดียวก็เพียงพอแล้ว ถึงเวลาพวกเธอก็ไม่ต้องเสียแรง

หลังจากพูดเสร็จ อรรณพก็วิ่งพุ่งไปที่รพีพงษ์ พิมพ์ภาพวกเขา ทั้งหลายก็ตามไปอย่างรีบเร่ง ต่อให้ไม่ต้องการให้พวกเขาลงมือ พวกเขาก็ต้องขึ้น เพื่อในกรณีที่เหตุการณ์ร้ายๆขึ้น

“ไอ้น้อง เตรียมตัวตายได้เลย! อรรณพยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ให้พี พงษ์ และต่อยไปหนึ่งหมัด

เกรียงชัยกัดฟันและมองไปที่รพีพงษ์ พึมพำว่า: “ไอ้เชียนี่ สมควรตาย ชื่อเสียงของฉันสำนักบูโดวงแสง ถ้าถูกทําลาย…..

ก่อนที่เขาจะพูดจบ การแสดงออกบนใบหน้าก็หยุดลงทันที แทนที่ด้วย ท่าทางที่แข็งทื่อ

ร่างกายของอรรณพบินพุ่งออกมา เหมือนว่าวที่สายขาด ไม่ สามารถควบคุมได้และไร้พลัง

หมัดเดียว!

แค่หมัดเดียว!

ทุกคนก็เห็น รพีพงษ์ใช้แค่หมัดเดียว ก็ชกให้อรรณพบินพุ่งออกไปได้!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ