แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่ 380 ต้องมีคำแถลง



บทที่ 380 ต้องมีคำแถลง

บทที่ 380 ต้องมีคำแถลง

สํานักงานอธิการบดี

อธิการบดีนั่งอยู่บนนเก้าอี้มือถือโทรศัพท์ ใบหน้าปรากฏ รอยยิ้มที่ประจบสอพลอและฟังเสียงในโทรศัพท์อย่าง ตั้งใจ

“ได้ คุณอธิชนม์ผมจะทำตามที่ท่านพูด ทางมหาวิทยาลัย จะดำเนินการต่อไป ขอบคุณท่านที่บริจาคให้กับทาง มหาวิทยาลัยสองร้อยล้าน ทำให้พวกเรามีเงินทุนใน การพัฒนาด้านการศึกษาต่อไป ผมขอปรึกษาที่ว่าจะให้ ตำแหน่งศาสตราจารย์เกียรติคุณแก่ท่านไม่ทราบว่าท่าน เห็นด้วยหรือไม่” น้ำเสียงของอธิการบดีแสดงถึงความ เคารพอย่างมาก เหมือนกับกำลังคุยกับคนใหญ่คนโต

“เอาล่ะ ถ้าไม่มีเรื่องอื่นท่านไปทำธุระเถอะ ผมไม่รบกวน แล้ว เมื่อมีเวลาขอเชิญแวะมาที่มหาวิทยาลัย

พูดประโยคสุดท้ายจบอธิการบดีก็วางโทรศัพท์และถอน หายใจยาวอย่างโล่งอก
ที่แท้การคุยกับนักธุรกิจใหญ่มีความกดดันอย่างมาก

เขาเพิ่งวางโทรศัพท์ไม่นาน ที่ประตูสำนักงานก็มีเสียงดัง ขึ้น

“เข้ามา” อธิการบดีรีบกลับไปมีท่าทางน่าเกรงขามอย่าง ที่อธิการบดีควรจะมี ท่าทางที่คุณโทรศัพท์อย่างเคารพ นอบน้อมนั้นสูญหายไปในอากาศ

ประตูสํานักงานถูกเปิดออก ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนัก ศึกษาและอัคคพลก็เดินเข้ามา

อธิการบดีจ้องมองพวกเขาทั้งสองพร้อมเอ่ยปากขึ้น “เป็น อะไรหรือท่าทางลุกลี้ลุกลน

กอบบุญและอัคคพลจ้องมองอธิการบดีจากนั้นจึงพูดขึ้น อธิการบดี มหาวิทยาลัยของพวกเรามีนักศึกษาบางคนที่ ควรไล่ออกไป ไม่อย่างนั้นชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยของ พวกเราคงถูกทำลายเสียหาย

อธิการบดีได้ยินที่กอบบุญพูดจึงเอ่ยปากถาม “นักศึกษา อะไร”
กอบบุญรีบใส่ไฟให้ร้ายภารุจา พูดว่านางรับแขกใน มหาวิทยาลัยอย่างเปิดเผยและยังแอบเข้าหอพักชาย เรื่อง นี้กระจายไปทั่วมหาวิทยาลัย

ตอนนี้ที่ฝ่ายกิจการนักศึกษามีคนไม่น้อยที่ได้ยินเรื่องนี้ ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยอย่างมาก

“ถ้าผมจำไม่ผิดภารุจาเป็นนักศึกษาที่มีผลการเรียนดี ความประพฤติก็ดี ทำไมพวกคุณถึงพูดแบบนี้” อธิการบดี ขมวดคิ้วถามขึ้น

“อธิการบดี นั้นเป็นสิ่งที่นางเสแสร้งขึ้น วันนี้แขกของ นางหนึ่งคนเข้ามหาวิทยาลัยมาช่วยนางตบผม ท่านดู ใบหน้าผมตอนนี้ยังบวมอยู่เลย ผมพูดความจริงที่มีคนมา ทำร้ายผม นอกจากนั้นมือถือของผมยังถูกคนผู้นั้นทำพัง เขาพูดว่าในมือถือผมมีรูปที่ไม่สมควรของพวกเขา นั้นเป็น ที่ผมเจอจากอินเทอร์เน็ต พวกเขากล้าทำไม่กล้ารับ ช่าง ไม่รู้จักยางอาย” อัคคพลพูดให้ร้ายสมทบ

อธิการบดีได้ยินคำพูดของอัคคพล ทันใดนั้นก็ตบโต๊ะขึ้น พร้อมตะโกนเสียงดัง “มีอย่างที่ไหน! ในมหาวิทยาลัยของ ผมจะมีนักศึกษาแบบนี้ ทำให้มหาวิทยาลัยบาสแตร์ขาย หน้า มหาวิทยาลัยของพวกเราไม่สามารถให้คนแบบนั้นอยู่ต่อไป ผู้อำนวยการจังตอนนี้ท่าน ไปประกาศไล่นักศึกษาผู้นั้นออก หลังจากนั้นให้นางมาพบ ข้าที่สํานักงาน ผมอยากเห็นนางทำไมถึงเป็นหญิงใจง่าย เช่นนัน!”

เสียงของอธิการบดีเงียบลง เสียงที่ประตูของสำนักงาน ก็ดังขึ้น ถูกคนใช้เท้าเตะเปิดออก ทั้งสามคนในห้องต่าง ตกใจ รีบมองไปทางประตู

รพีพงษ์นำภารจาเข้ามาข้างใน สีหน้าเยือกเย็น พร้อมพูด ขึ้น “วันนี้มีผมอยู่ ผมจะดูว่าใครจะกล้าไล่นางออก!

กอบบุญและอัคคพลทั้งสองคนเมื่อเห็นรพีพงษ์พาภารุจา เข้ามาในสำนักงานอธิการบดีก็ชะงัก แต่ก็ยิ้มให้พวกเขาทั้ง สองอย่างเยือกเย็น รพีพงษ์พาภารจาเข้ามาถึงที่นี่พวกเขา ไม่เสียเวลาตามหา

“พวกคุณทั้งสองยังมีหน้ามาพบอธิการบดีที่นี่ ช่างไม่มี ยางอาย!” อัคคพลพูดกับรพีพงษ์และภารุจา จากนั้นหัน หน้าไปทางอธิการบดีพร้อมพูดขึ้น อธิการบดี ผู้ชายคน นี้เป็นแขกของภารจาที่ตบผมและยังทำมือถือของผมพัง ตอนนี้พวกเขายังมาก่อกวนที่นี้ ช่างเหิมเกริมนัก
กอบบุญได้ฟังคำพูดของกอบบุญทำให้รู้ว่าคนที่เพิ่งแต่ เข้ามาเป็นคนอย่างไร เขาจึงรีบพูดขึ้น “อธิการบดีท่านดู เอาเถอะ ภารุจาช่างไร้มารยาทอย่างยิ่ง พาแขกของนาง ก่อกวนถึงในมหาวิทยาลัย นางเห็นมหาวิทยาลัยเป็นสถาน ที่อะไร นักศึกษาแบบนี้ไม่ควรในมหาวิทยาลัยอีกต่อไป!

อธิการบดีได้ยินคำพูดของทั้งสองคน ใบหน้าบูดบึ้ง เหมือนตกน้ำและเพิ่งโผล่ขึ้นจากน้ำ เขามองรพีพงษ์และ มองภารุจาที่อยู่ด้านหลัง พูดขึ้น “ภารจาเดิมผมคิดว่าคุณ เป็นนักศึกษาที่ดีทั้งในด้านการเรียนและความประพฤติ เป็นนักศึกษยอดเยี่ยม คิดไม่ถึงว่าคุณจะทําเรื่องแบบ นี้ ผลการเรียนของคุณดีแต่คุณไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจก็ไม่ สามารถเป็นเสาหลักให้กับประเทศได้ ผมไม่อนุญาตให้ใน มหาวิทยาลัยมีนักศึกษาอย่างคณ

“คุณถูกไล่ออก!”

ภารจาเมื่อได้ยินคำพูดของอธิการบดี รีบอธิบาย “อธิการบดี มันไม่ใช่อย่างที่ท่านคิด ฉันถูกใส่ร้าย ฉันไม่ ได้ทำเรื่องแบบนั้น อัคคพลและผู้อำนวยการฝ่ายกิจการ นักศึกษาให้ร้ายฉัน”

“โอ้ คุณยังจะเล่นลิ้นอีกหรือ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักศึกษาจะให้ร้ายนักศึกษาได้อย่างไร เกี่ยวกับเรื่องของ คุณผมยังได้ยินมา เรื่องนี้ไม่เหมือนลมจากถ้ำที่ว่างเปล่า คุณเล่นลิ้นไปก็ไม่มีประโยชน์” อธิการบดีพูดขึ้นอย่างเด็ด ขาด

กอบบุญและอัคคพลเห็นว่าอธิการบดีไม่เชื่อคำพูดของ ภารจาใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มอันเยือกเย็นและจ้องมอง ใบหน้าอันหมดหวังของการจาอย่างมีความสุขบนความ ทุกข์ของผู้อื่น

“เป็นถึงอธิการบดีแต่ไม่รู้จักแยกแยะถูกผิด ฟังความ จากพวกเขาเพียงด้านเดียวก็จะไล่นักศึกษาออก คุณมี คุณสมบัติอะไรที่จะนั่งในตำแหน่งอธิการบดีต่อ? รพีพงษ์ จ้องอธิการบดีพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

อธิการบดีเมื่อได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ก็จ้องมองพร้อม พูดขึ้น “ผมไม่รู้จักแยกแยะถูกผิดหรือ ผู้อำนวยการฝ่าย กิจการนักศึกษาได้ตรวจสอบแล้ว ยังจะมีเรื่องที่ไม่จริงอีก หรือ คุณมีคุณสมบัติอะไรมาสั่งสอนผม

“ฝ่ายกิจการนักศึกษาได้ตรวจสอบแล้ว? คุณยังจิตใจคับ แคบ เขาพูดอะไรก็ต้องเป็นอย่างนั้นหรือ ถ้าเรื่องใส่ร้ายภา รจาเขาเป็นคนทําล่ะ? คุณเป็นถึงอธิการบดีแม้แต่จะตรวจ สอบด้วยตัวเองยังไม่ทำ? รพีพงษ์ถามขึ้น
กอบบุญเห็นรพีพงษ์พูดดังกล่าวจึงรีบโต้แย้งขึ้น “อธิการบดีแต่ละวันมีภารกิจมากมายมีเวลาที่ไหนไปตรวจ สอบเรื่องเล็กๆ อีกอย่างคุณเลิกใส่ร้ายผมได้แล้ว นักศึกษา ผู้นี้มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทำไมถึงกลายเป็นผมทำไป ได้ ผมว่าคุณเข้ามาที่มหาวิทยาลัยเพื่อจะมาก่อกวนเสีย มากกว่า”

“ฮึฮึ หลอกให้ซินเหยาเซ็นสัญญาไม่ใช่พวกเจ้าหรอก หรือ ไม่รู้ว่าสัญญาฉบับนั้นคุณไม่ได้เอาไว้กับตัวหรือ”

รพีพงษ์ยิ้มอย่างเย็นชา

ทันทีที่คำพูดนั้นของเขาออกมาอัคคพลรีบจับด้านหลัง เสื้อผ้าของตน รพีพงษ์สังเกตเห็นความเคลื่อนไหวขอ งอัคคพลจึงหลี่ตาลงชั่วครู่

“สัญญาอะไร คุณพูดจาเหลวไหล คุณรีบออกไปเดี๋ยวนี้ ที่นี้สำนักงานอธิการบดีไม่ใช่ที่ที่คุณสามารถทำอะไรได้ ตามใจชอบ!” กอบบุญตะโกนเสียงดัง

อธิการบดีรู้สึกว่าทำไมรพีพงษ์ถึงนำคนมาสอบถามเขา และยังพูดว่าเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นอธิการบดีของที่นี่ ในใจโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขาไม่ได้เตรียมที่จะให้โอกาสการจาอธิบาย

“พวกคุณรีบออกไป เรื่องนี้ตัดสินแล้ว มหาวิทยาลัยของ พวกเรารับไม่ได้กับนักศึกษาที่ทำมหาวิทยาลัยมัวหมอง วันนี้นางถูกไล่ออก พวกคุณมาพูดอะไรก็มีประโยชน์ รีบ ออกไปซะ ไม่อย่างนั้นข้าจะเรียกรปภ.!” อธิการบดีจ้องรพี พงษ์ด้วยความโกรธ

ภารจาเห็นอธิการบดียืนกรานอย่างนั้นใบหน้าบ่งบอกถึง ความสิ้นหวัง นางรู้ว่าเรื่องนี้ไม่มีทางพลิกกลับได้แล้ว

นางยื่นมือไปดึงแขนรพีพงษ์พร้อมเอ่ยปากขึ้น “รพีพงษ์ พี่ชายใหญ่ พวกเราสู้พวกเขาไม่ได้ อย่างนั้นก็ช่างมันเถอะ ครั้งนี้ฉันได้แต่ยอมรับโชคชะตา”

“เศษสวะทั้งสามนี้ไม่ได้อยู่ในสายตาของผม ผมต้อง ให้พวกเขาให้ความบริสุทธิ์แก่คุณ อย่างอธิการบดีถ้า ไม่มีเหตุผลผมจะทำให้เขารู้ถึงราคาของการบกพร่องต่อ หน้าที่! ” เสียงของรพีพงษ์มีความอำมหิตเจือปนอยู่

เขาหันไปและเดินไปอยู่ข้างหน้าอัคคพล จากนั้นจับแขน ของเขาและจับเขาหมุนตัว ถลกเสื้อผ้าขึ้น และเห็นสัญญาที่เหน็บไว้ จากนั้นหยิบสัญญานั้นออกมา

อัคคพลเห็นสัญญาถูกนำขึ้นมาก็ตกใจร้องขึ้นมา “สารเลว คุณแย่งของของผม อธิการบดีรีบเรียกรปภ. ให้รปภ.มับ เขาไป

อธิการบดีเห็นรพีพงษ์กล้าแย่งของในห้องของอธิการบดี จึงรีบที่โต๊ะยกโทรศัพท์เรียกรปภ.

รพีพงษ์นำสัญญาไปวางบนโต๊ะพร้อมพูดด้วยเสียงเยือก เย็น “ท่านดูสัญญาเสียก่อนและค่อยตัดสินใจว่าจะเรียก รปภ.หรือไม่”

เมื่อเห็นสัญญาโต๊ะอธิการบดีวางโทรศัพท์ในมือและหัน ไปหยิบสัญญามาดู

“อธิการบดี นั้นเป็นของส่วนตัวของผมไม่ใช่สัญญา ท่าน อย่าฟังเขาพูดให้ร้าย

อัคคพลต้องารแย่งสัญญาที่อยู่บนโต๊ะนั้น รพีพงษ์เตะไป ที่ตัวของอัคคพลและจับเขาหันกลับมา

อธิการบดีหยิบสัญญามาดู เมื่อเห็นเนื้อความที่เขียนตกตะลึง

“การจาเจ้าเซ็นสัญญาไปทำงานที่ผับ แล้วเจ้ายังจะโต้ แย้ง หรือว่าคุณไม่รู้ว่าหญิงที่ทำงานที่ผับล้วนเป็นผู้หญิง แบบนั้น!” อธิการบดีมองการจา

กอบบุญและอัคคพลเดิมพวกเขาคิดว่าเมื่ออธิการบดี เห็นสัญญาจะเปลี่ยนท่าที คิดไม่ถึงว่าสัญญานั้นจะทำให้ อธิการบดียิ่งเชื่อว่าภารุจาเป็นนักศึกษาที่มีพฤติกรรมไม่ สมควร

รพีพงษ์มองอธิการบดีอย่างหมดคำพูด ในใจเกิดความ สงสัยว่าทำไมผู้นี้ถึงเป็นอธิการบดีได้

“ท่านดูชื่อที่อยู่บนสัญญา เป็นอัคคพลและกอบบุญเซ็น ชื่อไว้ นี้มันหมายความว่าอย่างไรท่านไม่รู้หรือ” รพีพงษ์ พูดขึ้น

อธิการบดีเพิ่งสังเกตว่าในสัญญายังมีชื่อของอัคคพล เขาตระหนักได้ว่าตนเองไม่รอบคอบ แต่ว่าเรื่องของการจา มีความเกี่ยวข้องกับอัคคพลจริงก็ไม่สามารถให้รพีพงษ์ซึ่ง เป็นคนนอกมายุ่งได้ อีกอย่างเขารู้สึกว่ารพีพงษ์พูดอย่าง ไม่ไว้หน้าตน ดังนั้นเขาไม่อยากพูดเรื่องนี้ในตอนนี้

“ไม่ว่าสัญญาฉบับนี้จะมีชื่อใคร เรื่องนี้เป็นเรื่องของ มหาวิทยาลัยของเราไม่สามารถให้คุณมายุ่งได้ เรื่องนี้ผม จะตรวจสอบอีกที คุณรีบออกไป เกี่ยวกับเรื่องขับไล่ภารจา ให้เลื่อนไปอีกสองวันถึงจะประกาศ อธิการบดีพูดด้วยน้ำ เสียงเยือกเย็น

เมื่อเห็นชัดว่าอธิการบดีเข้าข้างสองคนนั้น รพีพงษ์โมโห มากจึงเดินไปปิดประตูสำนักงาน

“วันนี้เรื่องนี้ต้องมีคำแถลง ไม่อย่างนั้นพวกคุณทั้งสามคน อย่าหวังที่จะเดินออกไปจากสำนักงานแม้แต่คนเดียว!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ