แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่ 378 คุณมีคุณสมบัติที่จะพูดคุยเรื่องกฎหมาย งั้นหรอ



บทที่ 378 คุณมีคุณสมบัติที่จะพูดคุยเรื่องกฎหมาย งั้นหรอ

บทที่ 378 คุณมีคุณสมบัติที่จะพูดคุยเรื่องกฎหมายนั้นหรอ

หน้าอาคารเรียน

ผู้ชายไว้ผมทรงอัฟโฟรใส่แบรนด์เนมทั้งตัวยืนอยู่และ จ้องมองรูปภาพสองรูปในมือถือของตนอย่างหยาบคาย

รูปสองรูปนั้นเป็นหญิงสาวกำลังอาบน้ำ ถ้ามองดีๆ จะดู ออกว่าหญิงสาวในรูปคือการจา

ในเวลานั้นภารุจารีบร้อนวิ่งไปยังหน้าอาคารเรียน เมื่อเห็น อัคคพลก็รีบเดินเข้าไปหา

“อัคคพล นายหมายความว่าอย่างไร นายมีสิ่งของของ ฉัน?” ภารจาหายแรงพร้อมเอ่ยถามขึ้น

อัคคพลยิ้มอย่างมีเลิศนัยให้ภารจาพร้อมนำมือถือส่งให้

นางดู
เมื่อการจาเห็นรูปภาพในมือถือก็คิดที่จะแย่งมือถือของ เขามา

อัคคพลรีบเก็บมือถือของตนและยิ้มพูดขึ้น “ทําไมเธอ อยากแย่งมือถือของผมหรือฝันไปเถอะ”

“นายมีรูปฉันตอนอาบน้ำได้อย่างไร อัคคพลไอ้สารเลว นายแอบดูข้าอาบน้ำหรือ” ภารจาพูดขึ้นอย่างตระหนก

“เธอพูดจาใช้สมองคิดสักนิดหนึ่ง เธออาบน้ำอยู่ในหอพัก ของพวกเธอ ผมจะแอบดูเจ้าได้อย่างไร เรื่องที่ว่ารูปนี้มา ได้อย่างไรนั้นเธออย่าใส่ใจเลย เธอเพียงต้องรู้ว่าตอนนี้ รูปภาพอยู่มือผม ให้ผมสามแสนไม่น่าจะพอ” อัคคพลพูด ด้วยท่าทางร้ายกาจ

ภารจาอดไม่ได้ที่จะถอยออกไปสองก้าว รูม่านตาหลี่ลง อัคคพลเข้าไปในหอพักหญิงไม่ได้ ผู้ที่ถ่ายรูปนั้นคงจะ เป็น…ไอศิรา!

นางนึกถึงเมื่อวานนี้ที่นางกำลังอาบน้ำแล้วอยู่ๆ น้ำก็หยุด ได้ยินเสียงหัวเราะของไอศิราดังมาจากข้างนอก รูปนี้อาจ เป็นไอศิราเป็นผู้ถ่าย
“รูปนี้ไอศิราเป็นผู้ถ่ายใช่ไหม นายลบภาพนี้เดี๋ยวนี้ นาย ละเมิดความเป็นส่วนตัวของฉัน!” ภารจาใกล้จะแตกออก เป็นเสี่ยงๆ ตอนนี้ในมหาวิยาลัยข่าวในแง่ลบของนาง กระจายไปทั่ว ถ้ารูปนี้เผยแพร่ออกไปเกรงว่านางคงไม่มี หนทางที่จะเรียนในมหาวิทยาลัยต่อไป

อัคคพลยิ้มหัวเราะพร้อมพูดขึ้น “อยากให้ผมลบรูปนี้หรือ ได้ เธอต้องให้เงินสามแสนและนอนกับผมและอาของผม หนึ่งคืน ไม่อย่างนั้นแม้เธอจะให้เงินสามแสนผมก็อาจจะ ปล่อยภาพนี้ออกไป

ภารุจาเพราะเรื่องในหลายวันมานี้ทำให้นางอ่อนไหว อย่างมาก เดิมนางเป็นเด็กสาวที่ขยันมุ่งมั่น เพราะนาง เข้าใจถึงสถานการณ์ของครอบครัวจึงขยันมุ่งมั่นมาตลอด

นางอยู่ในมหาวิทยาลัยเป็นนักศึกษายอดเยี่ยมมาตลอด หลายคนยึดนางเป็นตัวอย่างในการเรียน แต่ตอนนี้กลับ ต้องพบเจอกับเรื่องแบบนี้ ทุกคนพูดว่านางขายบริการ เป็นการโจมตีนางอย่างรุนแรง

เดิมเงินสามแสนก็ทำให้นางหายใจไม่ออกแล้ว ตอนนี้ อัคคพลนำรูปนั้นมาคุกคามให้นางนอนด้วย คำพูดขอ งอัคคพลกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้การจาสติแตก

ดวงตาสีแดงคู่นั้นของนางมองไปที่ตาของอัคคพล จาก นั้นจึงยื่นมือเข้าไปแย่งมือถือในมือของอัคคพล

อัคคพลคาดไม่ถึงว่าภารจาที่สุภาพเรียบร้อยจะเข้ามา แย่งของก็ทำให้เขาตกใจ แต่ว่าเขาเป็นผู้ชาย อีกอย่าง หลังจากที่นางจู่โจมเข้ามา เขารีบนำมือถือเก็บเข้าไปใน กระเป๋า มือหนึ่งจับแขนของภารจาตะโกนว่า “เธอเสียสติ ไปแล้วหรือ”

“นายลบรูปนี้เดี๋ยวนี้!” นางตะโกนร้องตีโพยตีพาย

“แม่ง ผมไม่ลบแล้วจะทำไม เธอกล้าแย่งมือถือผม นี่เธอ คิดว่าผมจะไว้หน้าเธอหรือ” อัคคพลต่อว่าการจา

ภารจาตอนนี้ควบคุมความโกรธแค้นในใจของตนไม่อยู่ นางใช้แรงดึงกระเป๋ากางเกงของอัคคพลต้องการแย่งเอา มือถือของอัคคพลมา

อัคคพลเห็นภารจาไม่ยอมหยุด เขาเริ่มโกรธจึงใช้ฝ่ามือ ตบไปยังหน้าของภารุจา
เสียงดังเพี้ยะ

ภารจาเกือบจะยืนไม่อยู่ นางเซถอยไปหลายก้าว

“นังตัวดี เจ้ายังกล้าลงมือ คิดจริงๆ หรือว่าผมไม่กล้า ลงมือ?” อัคคพลพูดอย่างดุร้าย

ภารจาใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่ยุติธรรมคิดไม่ถึงว่า อัคคพลจะลงมือกับตน

เพราะว่าเสียงทะเลาะกันดังทำให้ดึงดูดความสนใจของ เหล่านักศึกษา หน้าอาคารเรียนไม่นานก็เต็มไปด้วยกลุ่ม คน

อัคคพลเมื่อเห็นว่าตนเองถูกกลุ่มคนจ้องมองใบหน้า ปรากฏความโหดเหี้ยม จากนั้นจึงตะโกนพูดกับกลุ่มคนที่ ล้อมอยู่ “ทุกคนมาดูนี่ ภารจาโสเภณีผู้ที่ต้องการเงินของ ผม นางยั่วยวนผมในมหาวิทยาลัย ผมไม่ตกลงนางก็เข้า มาประชิดตัวผม พวกคุณว่านางหาเงินแบบนี้อยู่นมหา วิทยาลัยทำให้มหาวิทยาลัยของพวกเราแปดเปื้อน

กลุ่มคนเมื่อได้ยินคำพูดของอัดเพลที่หน้าต่อว่า กาจา

สายตาที่มองนางล้วนดูถูกเหยียดหยาม

“ไม่ต้องพูดถึงว่าภารจาเป็นนักศึกษายอดเยี่ยมของ มหาวิทยาลัยเรา นางทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร กลางฝูงชน ยั่วยวนผู้อื่น ทำให้หมดราคา

“คุณไม่รู้ข่าวลือในช่วงนี้หรือ เขาพูดกันว่าภารจาที่จริง เป็นหญิงขายบริการเพื่อหาเงินจึงตั้งราคาอย่างชัดเจน แต่ ก่อนนางตามติดอัคคพลตลอด คิดไม่ถึงว่านางจะไม่เห็นแก่ หน้าตายั่วยวนอัคคพลในมหาวิทยาลัย

“เฮ้อ ผลการเรียนดีแล้วจะมีประโยชน์อะไร ยังต้องออก ไปขาย ไม่คิดว่านางต้องการเงินขนาดนั้น ที่นางดูดีก็คง เพราะมีคนเลี้ยงดู ไม่น่าเป็นแบบนี้เลย

“ใครจะไปรู้ได้ยินว่าทางบ้านของภารจายากจนมาก ที่ ผ่านมาแม่ของนางทำงานหาเงินส่งเสียให้นางเรียน นาง กลับมาทำเรื่องแบบนี้ ถ้าแม่ของนางรู้คงโกรธตายเลย
ภารจาได้ยินคนโดยรอบพูดคุยและพากันส่ายหน้าไม่ หยุด น้ำตาก็ไหลออกมา

“ไม่ใช่แบบนั้น ไม่ใช่แบบที่คุณคิด ฉันถูกใส่ร้าย ฉันไม่ เคยทําเรื่องแบบนั้น” นางพูดด้วยเสียงอันเบา ในเวลานั้น ไม่มีใครฟังนาง ทุกคนพอใจที่จะได้เห็นนักศึกษายอด เยี่ยมปีสามผู้เป็นข่าวว่าขายบริการ แม้ว่าภารจาจะอธิบาย ทุกคนก็คงไม่เชื่อ

“ทุกคนมาดูเร็ว หญิงโสเภณีร้องไห้แล้ว ผมไม่ได้กลั่น แกล้งนาง นางทําเป็นน่าสงสาร ทุกคนอย่างไรเชื่อนาง นาง แสดงละครจิ๋วแต่เรียกได้ว่าเหมือนจริง!” อัคคพลเห็นภา รุจาร้องไห้จึงรีบตะโกนขึ้น

ในตอนนี้อัคคพลหันไปมองภารจาใบหน้ายิ้มอย่างเย็นชา พูดด้วยเสียงต่ำ “นังตัวดี นี้เป็นเพราะเธอไม่เชื่อฟัง อย่าคิด ว่าเรื่องเป็นแบบนี้แล้วจะจบ ฉันให้เวลาเธอคิดหนึ่งวัน ถ้า ถึงเวลานั้นเธอไม่ยินยอมทำตามที่ผมขอ ผมจะเผยแพร่รูป ของเธอ” พูดจบอัคคพลหันไปด้านนอกและเดินออกไป
ขณะที่เขาหันไปอยู่ๆ ก็รู้สึกตาพร่ามัวและชนเข้ากับแผ่น อกอันแข็งแกร่ง เขาถอยออกไปหลายก้าวและเอ่ยปาก ต่อว่า “แม่ง ใครขวางทาง

อัคคพลยืนอยู่ข้างหลังจ้องมองพบว่าผู้ที่ถูกขวางทาง มองดูธรรมดาแต่เป็นชายที่มีอายุมากกว่าเขา

เมื่อเห็นว่าชายผู้นั้นไม่มีอะไรพิเศษอัคคพลจึงพูดขึ้น “คุณบ้าไปแล้วหรือ มาขวางทางผมรีบหลบให้ผมเดี๋ยวนี้!

“ใส่ร้ายหญิงสาวที่บริสุทธิ์แล้วยังเสแสร้ง คุณช่างทำให้ บุรุษขายหน้ายิ่งนัก

ผู้ที่พูดคือรพีพงษ์ เขามาถึงมหาวิทยาลัยบาสแตร์ได้สัก พัก เดิมเขาเตรียมจะโทรหาภารุจา แต่เมื่อเห็นกลุ่มคนล้อม รอบจึงเข้ามาดู

เขาเคยเห็นภาพถ่ายคู่ของภารจากับชนิสรา ดังนั้นจึงรู้จัก รูปร่างหน้าตาของภารุจา ไม่นานก็รู้ว่าหญิงสาวที่เกือบล้ม นั้นคือภารุจา

“คุณเป็นใคร ทำไมถึงกล้าทำแบบนี้ ใครไปใส่ร้ายของบริสุทธิ์ของนาง นางเป็นโสเภณีข้ายังต้องใส่ร้ายด้วย หรือ” อัคคพลตะโกนอย่างไม่เกรงใจ

ภารจาก้าวไปข้างหน้าใช้ฝ่ามือตบหน้าอัคคพล

เพียงพริบตาเดียวอัคคพลก็ล้มลงกับพื้น ใบข้างหนึ่งถูก กระแทก

ผู้คนที่ล้อมรอบอยู่เห็นรพีพงษ์ลงมือก็ตกใจและออกห่าง จากรพีพงษ์

“คุณคือใครกันแน่ มาตบผมทำไม คุณคงเป็นพวกเดีย วกับนังสารเลวนั้นใช่ไหม!

อัคคพลจ้องรพีพงษ์ด้วยความโกรธแค้น ถ้าไม่ใช่เพราะ ว่าได้รับแรงจากฝ่ามือของรพีพงษ์ เขาคงปะทะกับรพีพงษ์ แล้ว

“คนผู้นั้นคงไม่ใช่ผู้ที่เลี้ยงดูภารจาหรอกนะถึงได้ลงมือ เหี้ยมโหดอย่างนี้”

“คนผู้นั้นมองดูแล้วไม่น่าใช่คนมีเงินจะเป็นคนเลี้ยงดูภา รุจาได้อย่างไร ข้าว่าคงเป็นชายอีกคนหนึ่งที่ชอบภารุจา”

“ภารุจานั้นใจง่ายจะมีคนชอบนางขนาดนั้นได้อย่างไร ฉัน ว่าเป็นพรรคพวกของภารุจา ไม่อย่างนั้นจะออกหน้าแทน นางทําไม”

ภารจาไม่คาดคิดว่าจะมีคนลุกขึ้นมาพูดแทนนางและยัง ลงมือกับอัคคพล

นางคิดอย่างถี่ถ้วนคิดว่านางไม่รู้จักคนผู้นี้

แต่ว่าไม่นานนางก็นึกออก แม่ของนางโทรมาบอกว่าจะมี คนไปช่วยนาง

ผู้ที่มาช่วยนางคือนายจ้างที่ชนิสราไปเป็นแม่บ้านให้ ชนิส ราปกติโทรหาภารุจาพูดถึงรพีพงษ์บ่อยๆ ดังนั้นภารจาจึง รู้จักชื่อของรพีพงษ์

“คนผู้นั้นคือรพีพงษ์พี่ชายใหญ่ใช่ไหม” ภารจาถามขึ้น
รพีพงษ์เดินตรงไปหาอัคคพล ก้มมองเขาพร้อมพูดด้วย เสียงอันเยือกเย็น “เอามือถือของคุณออกมา

อัคคพลจ้องมองรพีพงษ์พร้อมตะโกนว่า “คุณบอกให้ผม ให้คุณ ผมต้องให้หรือ ผมจะบอกคุณให้ อาของผมคือผู้ อำนวยการฝ่ายกิจการนักศึกษาของมหาวิทยาลัยบาสแตร์ วันนี้เจ้าตบข้าภายหลังอย่าได้หวังจะอยู่ในมหาวิทยาลัย เลย!”

เขาไม่รู้ว่ารพีพงษ์ก็คือคนของมหาวิทยาลัย

“ไม่ให้ใช่ไหม” รพีพงษ์เตะเท้าทำท่าจะเตะ

อัคคพลเห็นเท้าของรพีพงษ์ก็กลืนน้ำลาย คนที่สามารถ ตบตนล้มได้ถ้าเตะน่ากลัวว่าสามารถเตะคนกระดูกหักได้

เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายไม่สามารถทนแรงบีบคั้นได้ จึงรีบทำมือถือออกจากกระเป๋าเสื้อ

รพีพงษ์คว้ามือถือมา อัคคพลรีบตะโกน “พวกคุณรีบ ไปเรียกตำรวจ คนผู้นี้แย่งมือถือผมไปและยังไม่เคารพ กฎหมาย!”
รพีพงษ์เปิดมือถือดูพบว่าข้างในมีรูปภารจากำลังอาบน้ำ ในใจก็เกิดความโกรธ

เขาจ้องอัคคพลพร้อมพูดด้วยเสียงเยือกเย็น “คุณยัง มีหน้ามาพูดเรื่องกฎหมาย? ช่างน่าหัวเราะ”

พูดจบเขานำมือถือวางกับพื้นใช้เท้าเหยียบ ทันใดนั้นมือ ถือก็มีควันออกมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ