แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่ 455 ฉันก็แค่ชอบเขา



บทที่ 455 ฉันก็แค่ชอบเขา

บทที่ 455 ฉันก็แค่ชอบเขา

หลังจากที่รถบรรทุกสินค้าคันใหญ่ชนจารุณีจนลอยไป ก็ไม่ ได้หยุดรถ ขับมุ่งตรงไปด้านหน้าด้วยความเร็วสูง หนีออกจาก สถานที่เกิดเหตุ

เนื่องจากเป็นชานเมือง โดยรอบค่อนข้างเปลี่ยว ช่วงนี้ของ ถนนก็ไม่มีกล้องวงจรปิด หลังจากเกิดเรื่องมานาน ก็ยังไม่มี ใครพบอารียาที่ล้มอยู่บนพื้นกับจารุณีที่ถูกชนจนลอยออกไป

บนหัวของอารียามีเลือดสีแดงสดไหลออกมา ดวงตาทั้งคู่ ของเธอนั้นปิดแน่น ดูเหมือนว่าจะเจ็บปวดเป็นอย่างมาก จา รุณีนั้นนอนจมอยู่ภายในกองเลือด สูญเสียความรู้สึกตัวไป ตั้งนานแล้ว เด็กสาวทั้งสองคนล้วนคิดไม่ถึงว่า จะประสบกับ อุบัติเหตุทางรถยนต์ในสถานที่เช่นนี้ได้

ผ่านไปนานมาก ก็มีรถ MPVสีนําคันหนึ่งขับเข้ามา จอดที่ข้าง อารียา

มีผู้ชายสองคนลงมาจากรถ พวกเขาจ้องมองอารียาอย่าง ละเอียด หนึ่งในนั้นหยิบเอารูปภาพใบหนึ่งออกมา ในนั้นก็คือ เค้าโครงใบหน้าของอารียา

“เป็นเธอ ที่พวกเราต้องหาก็คือเธอ สมควรตาย เกิดเรื่องเช่นนี้ ขึ้นได้อย่างไร! ถ้าหากว่าพวกเราหาเธอพบเร็วกว่านี้ไม่กี่นาที เรื่องเช่นนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น” บนใบหน้าผู้ชายคนน่นเต็ม ไปด้วยความโมโห

ผู้ชายอีกคนย่นหัวคิ้วแน่น เขาก้มตัวลงไป ตรวจสอบอารียา เอ่ยปากบอก: “เธอไม่เป็นอะไรร้ายแรง เพียงแค่บริเวณถูกหัว กระแทก เลือดไหล พวกเรารีบนำตัวเธอไป น่าจะไม่มีปัญหา อะไร”

“หรือว่าพวกเราจะจากไปทั้งแบบนี้? ไม่ต้องตามหาคนที่ทํา เรื่องนี้ออกมาหรือ?” ผู้ชายคนนั้นเอ่ยปาก

“พวกเราไม่คุ้นเคยกับการดำรงชีวิตของคนที่นี่ ถึงแม้ว่า สามารถหาฆาตกรออกมาได้ ก็จำเป็นต้องใช้เวลา อีกอย่าง หน้าที่ของพวกเราครั้งนี้ก็คือพาเธอกลับไป เรื่องนี้สําหรับนาย ใหญ่แล้วนั้นสำคัญมาก ๆ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ความวัวไม่ทัน หายความควายก็เข้ามาแทรกได้ พวกเรารีบนําเธอไปก่อน รอ วันหลังนายใหญ่ก็จะตรวจสอบเรื่องนี้เอง”อีกคนหนึ่งเอ่ยปาก

ผู้ชายที่ถือรูปภาพพยักหน้า จากนั้นก็หมุนหัวกลับไปมองจา รุณีที่นอนจมกองเลือดอยู่ไกล ๆ เอ่ยปากถาม: “แล้วเด็กสาว ทางนั้นล่ะ?”

“พวกเรามาไกลเป็นหมื่นลี้ถึงที่นี่ ค้นหาท่านนี้เจอ ก็ไม่ง่าย มากมายแล้ว ไม่ควรที่พวกเราจะเข้าไปยุ่ง พวกเราอย่างยุ่ง เป็นดีที่สุด เรียกรถพยาบาลให้เธอแล้วกัน ทำอย่างนี้ ก็ทำดี ที่สุดแล้ว”
คนที่ถือรูปส่งเสียงอึม ไม่ลังเลซักนิด หยิบโทรศัพท์มือถือ ออกมา เรียกรถพยาบาล จากนั้นทั้งสองคนก็ยกอารียาไปไว้ที่ บนรถMPVสีดำคนนั้น ไปจากที่นี่

ผ่านไปอีกไม่นาน ก็มีรถพยาบาลมาถึงที่นี่ ที่ตามมาด้วยก็คือ รถAudiสีดำเจ็ดแปดค้น ผู้รับผิดชอบหอการค้าสมน.ในเมืองริ เวอร์ลงมาจากรถ รีบวิ่งไปทางด้านของจารุณี พริบตาใบหน้า ก็เปลี่ยนเป็นสีขาวซีดขึ้นมา

“แม่มึงเถอะใครเป็นคนทำกัน! ไปตรวจสอบให้ฉัน จะต้อง ลากตัวฆาตกรออกมาให้ได้! เรียกรวมกำลังทั้งหมดของหอ การค้าสมน. ในเมืองริเวอร์ออกมา ถ้าหากว่ายังไม่พอ ให้ ร้องขอไปที่ทางด้านเกียวโต ถ้าหาว่าตรวจสอบเรื่องนี้ไม่พบ พวกแกทุกคนก็รอท่านผู้นำโกรธอย่างรุนแรงได้เลย”

ตะโกนออกมาด้วยอารมณ์และท่าทางที่มากเกินไป ผู้ที่ รับผิดชอบรีบเร่งให้รถพยาบาลยกจารุณีขึ้นไป ไปส่งที่โรง พยาบาลด้วยความเร่งสูง

หลังจากที่คนพวกนั้นจากไปได้ไม่นาน โยษิตาแต่งกายสีดำ ทั้งตัว สวมหมวกไว้บนหัวมาถึงที่นี่ มองไปที่คราบเลือดสอง กองบนพื้น บนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มอันบ้าคลั่ง

กิสนา หอแข่งขันศิลปะการต่อสู้
ขณะนี้ทั่วทั้งภายในหอแข่งขันศิลปะการต่อสู้ครื้นเครงเป็น อย่างยิ่ง พวกคนของวงศ์ตระกูลระดับสูงเที่ยวพักผ่อนที่กิ สนา เกือบจะทั้งหมดล้วนมาที่นี่ ทุกคนล้วนวิ่งมาเพื่อดูความ สนุกสนานบนการอันดับเทพเจ้าแห่งสงคราม อย่างไรเสียการ ประลองปีนบันไดสูงนั้นหลายปีจะมีครั้งหนึ่ง นี่ก็นับว่าเป็นการ ประชุมครั้งใหญ่ภายในสนา

ที่สําคัญที่สุดก็คือ วันนี้หัวหน้ากิสนาก็มาถึงที่สนาม นี่ก็ทําให้ ทุกคนนั้นตกตะลึง

ถึงแม้ว่าปีนบันไดสูงหลายปีจะมีครั้งเดียว แต่ทว่ารพีพงษ์ ที่เข้าร่วมในครั้งนี้เป็น “ความกระตือรือร้น” ของธนเทพที่ได้ ประกาศให้ทุกคนรับรู้ลงไป ถูกทุกคนรับรู้เรียบร้อยแล้ว พวก คนเหล่านั้นที่หยุดการประกาศของธนเทพนั้นล้วนรู้สึกว่ารพี พงษ์ไม่น่าจะสามารถประลองได้สำเร็จ

มีคนจํานวนไม่น้อยที่คิดไปไกลจนถึงขั้นที่คาดเดาว่าร พงษ์ล้วนไม่สามารถผ่านด่านข้างหน้าติดต่อกันได้ก็จะแพ้การ ประลองไป

ดังนั้นเรื่องนี้ก็ไม่สมควรที่หัวหน้าของกิสนาจะเห็นความ สําคัญถึงจะถูก

แต่อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงนั้นก็ไม่ได้เหมือนกับที่ผู้ชม คิด หัวหน้ากิสนาไม่เพียงแต่มาดูการประลอง แต่ยังแสดงออก ถึงความต้องการที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ให้คนเปิดบ่อน การพนันขึ้นเป็นพิเศษ มาพนันว่ารพีพงษ์นั้นจะสามารถชนะได้ ถึงด่าน
ที่ชั้นสาม ฝนสุดเสีหน้ามืดครึ้มยืนอยู่ด้านหน้าราวกั้น เธอคิด ไม่ถึงว่าธนเทพเพื่อที่จะจัดการกับรพีพงษ์ จะส่งให้รพีพงษ์ไป

เข้าร่วมการประลองปีนบันไดสูง

โดยเฉพาะหลังจากได้รู้ว่ารพีพงษ์นั้นเป็นลูกชายของเทพ สังหาร คาดไม่ถึงว่าเทพสังหารจะไม่ห้ามปรามเรื่องนี้ นี่ทำให้ เธอไม่เข้าใจอย่างมาก

เธอไม่คาดหวังให้รพีพงษ์เข้าร่วมการปีนบันไดสูง ภายใน ใจรู้สึกกังวล ขาดก็แค่ลงไปหารพีพงษ์ กล่อมเขาไม่ให้มา ถึง อย่างไรเขาก็คือลูกชายเทพสงคราม แม้ว่าจะไม่เข้าร่วม ก็ ไม่มีใครสามารถจะทําอะไรเขาได้

สำหรับที่ว่าทำไมเธอถึงได้เป็นห่วง แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังไม่

ชัดเจน

ธนเทพเดินไปถึงที่ข้างฝนสุดา ยิ้มมองลงไปที่เวทีประลอง เอ่ยปากบอก: “แค่คิดว่าไอ้โง่นั่นมันจะตายบนเวทีประลอง อย่างรวดเร็วแล้ว ภายในใจของผมก็เกิดความรู้สึกตื่นเต้นยาก ที่จะระงับ ให้ไอ้โง่นั้นตายแบบนี้ ก็ถือว่าไว้หน้าเขาแล้ว”

ฝนสุดา นหัวไปมองธนเทพ พูดอย่างเย็นชา: “คุณทําแบบ นี้ จะทำให้ตัวเองมีแต่หายนะเข้ามาไม่มีที่สิ้นสุด คุณจะต้อง เสียใจภายหลังสักวันหนึ่ง”

ธนเทพหัวเราะเยาะออกมา บอก: “ก็แค่คนที่จะตายเท่านั้น จะ สามารถนำหายนะมาสู่ผม ผมนำหายนะไปสู่เขายังจะพอได้”

ผ่นสุดามองธนเทพอย่างคนปัญญาอ่อน ไม่สนใจเขาอีกต่อ

ไป

ธนเทพเห็นสายตาของฝนสุดา ในใจก็รู้สึกไม่สบายทันที บอก: “สุดา ที่ผมทําเช่นนี้ก็เพื่ออะไรคุณก็คงรู้ดี ท่าทีที่ผมมีต่อ คุณ คุณเข้าใจอย่างชัดเจน กลางคืนวันนั้นได้ยินว่าคุณพาไอ้ โง่นั้นกลับไปที่คฤหาสน์ ภายในใจของผมไม่มีรสชาติอย่าง มาก คุณบอกผมมา วันนั้นคุณก็แค่ให้เขาอยู่ที่นั่นแปปเดียว ระหว่างพวกคุณสองคนไม่มีอะไรเกิดขึ้น?”

“ไม่ใช่” ฝนสุดาหันหัวไปมองธนเทพหนึ่งที จงใจบอก “คืนวัน นั้นฉันมีความสุขอย่างมาก เขาแข็งแกร่งที่ฉันเคยคิดไว้เสียอีก ฉันรู้สึกว่าหลังจากที่ฉันเข้าใจคืนนั้นอย่างลึกซึ้ง ในชีวิตนี้ก็ไม่ ต้องคิดถึงคนอื่นอีกแล้ว เขาคนเดียวก็พอแล้ว ”

ธนเทพโมโหจนแทบจะระเบิดออกมา เขาคิดไม่ถึงว่าเพื่อคน ที่ตายฝนสุดากับทําให้เขาโมโหเช่นนี้ ทำให้ภายในใจของเขา ไม่สามารถอธิบายได้จริง ๆ

“สุดา คุณอย่ามาล้อเล่นกับผมนะ ไอ้โง่นั่นมันก็แค่สุนัขรับใช้ ที่ไปจากกิสนาไม่ได้ก็แค่นั้น เขามีดีอะไร เขาไม่สามารถเทียบ กับผมได้อย่างสิ้นเชิง ทําไมคุณถึง….……..”

“ฉันก็แค่ชอบเขา คุณยุ่งอะไรด้วย?” ฝนสุดาพูดกับธนเทพ อย่างกระด้างกระเดื่องหนึ่งประโยค ไม่รู้ว่าทำไม คำพูดนี้เธอจงใจพูด แต่ว่าหลังจากที่พูดออกมาแล้ว แก้มของเธอกับ รู้สึกร้อนบางส่วน

ธนเทพปิดปาก ในตามีความต้องการเอาชนะวาบ ทันใดนั้นก็ แวบผ่านไป

ชั้นสองของหอแข่งขันศิลปะการต่อสู้ พ่อของธนเทพ นรชัย ในตอนนี้นั้นนั่งอยู่บนโซฟา จ้องมองไปที่เวทีประลอง

เขามาที่นี่ ไม่ใช่แค่เพื่อมาดูลูกชายของเขาที่จ่ายเงินไปสาม พันล้านจัดการประลองปีนบันไดสูงออกมาโดยเฉพาะ การ ประลองครั้งนี้สำหรับเขานั้นจะดูหรือไม่ ก็ไม่เป็นไร

เป้าหมายที่แท้จริงของการที่เขามาที่นี่นั้น ก็เพื่อที่จะคิดหาวิธี เชื่อมสัมพันธ์ที่ดีกับหัวหน้ากิสนา ปะปนด้านหน้าหัวหน้ากิสนา ให้เขาคุ้นหูคุ้นตา

ก่อนหน้านี้ไม่นาน นรชัยได้รับข่าวสารที่ถูกต้องแม่นยำ สาเหตุที่สามปีก่อนในเอเชียตะวันออกมีกลุ่มนายทุนอันดับ หนึ่งของโลกล้มละลายอย่างไม่มีเหตุผลได้ถูกตรวจสอบ เรียบร้อยแล้ว เบื้องหลังก็คือเงาของกิสนา

หลังจากที่ได้รับข่าวสารนี้ พริบตานรชัยก็รับรู้ได้ถึงความน่า กลัวของกิสนา สามารถทำให้กลุ่มนายทุนอันดับหนึ่งของโลก ล้มละลายไปอย่างเงียบเชียบ ศักยภาพเช่นนี้ ตระกูลวัชรากิจ กุลของเขาก็เทียบไม่ได้
เมื่อก่อนนี้เขาดูถูกกิสนามาโดยตลอด คิดว่ากิสนาก็เป็นแค่ รีสอร์ทระดับสูงเท่านั้น ไม่มีอะไรพิเศษ บางครั้งที่เห็นหัวหน้ากิ สนาก็ฝืนใจคุยด้วยไม่กี่ประโยค

ตอนนี้มาคิด ๆ ดูแล้ว ในใจนรชัยก็รู้สึกหวาดกลัวในภายหลัง ถ้าเกิดว่าเรื่องพวกนี้เป็นเหตุให้หัวหน้ากิสนาลงมือกับตระกูล วัชรากิจกุล เขาไม่มีกำลังที่จะเอาคืนอย่างแน่นอน

กลุ่มนายทุนเมื่อสามปีก่อนที่ถูกทำให้ล้มละลายอย่าง เงียบเชียบนั้น กับตระกูลวัชรากิจกุลนั้นจัดอยู่ในระดับรูปแบบ เดียวกัน นี่ก็คือสาเหตุที่เกิดความกลัวขึ้นในใจเขา

ดังนั้นเขาจึงได้ยืมในนามของลูกชายตัวเองจ่ายเงินจัดการ ประลองปีนบันสูงที่กิสนา มาที่กิสนาก็เพื่อที่จะเอาใจหัวหน้ากิ สนา ทําให้หัวหน้ากิสนาไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องราวครั้งเก่า ปล่อยตระกูลวัชรากิจกุลไป

เขาเงยหน้า มองไปยังชั้นสองเขตที่ดีที่สุดในการนั่งชม เวลา นั้นนนทภูกำลังนั่งอยู่ตรงนั้น สายตาสงบเงียบ แต่บนตัวกลับ แผ่ความน่าเกรงขามที่ยากจะต่อต้านออกมา

“ที่แท้ก็เป็นคนที่เก็บไว้ไม่แสดงออก เมื่อก่อนนี้คิดว่าพลังของ เขานั้นเสแสร้งออกมา ใครจะไปคิดว่าที่แท้เขาเป็นจริง ๆ หลัง จากคาดเดาว่าจะปกปิดความจริง ยังดีที่เขาได้รับข่าวสาร มา ไม่อย่างนั้นอนาคตของตระกูลวัชรากิจกุล คงสิ้นหวัง ”
นรชัยกระซิบ ในเวลานั้นเองนนทภูก็เงยหน้าขึ้น มองมาทาง เขา ทั้งสองคนจ้องตากัน นรชัยรู้สึกเหมือนว่าร่างกายตัวเอง นั้นถูกไฟฟ้าช็อต ทันใดนั้นทั่วทั้งตัวก็ขนลุกขึ้นมา

เขารู้สึกเสียวสันหลังวาบ ลางสังหรณ์ไม่ดีชนิดหนึ่งปีนขึ้นมา จากในใจ ดีที่ว่าเขาก็เป็นนายใหญ่ของตระกูลชั้นหนึ่งในโลก ดังนั้นถึงไม่ได้แสดงออกมา

“ช่างน่ากลัวจริง ๆ แค่สายตา ก็สามารถทำให้ฉันตกใจได้เช่น นี้ ดูท่าครั้งนี้คงจะมาถูกแล้ว” นรชัยกระซิบในใจ

“ได้ยินพวกเขาบอกว่า หัวหน้ากิสนานั้นมีลูกชาย ไม่รู้ว่าตอน นี้ลูกชายของเขาไปอยู่ที่ไหน ถ้าหากรู้ล่ะก็จะต้องให้ธนเทพ ไปทำความรู้จักอย่างแน่นอน แม้ว่าจะได้เป็นน้องเล็กก็ได้ ตอน นี้คนที่รู้ศักยภาพจริง ๆ ของกิสนานั้นมีไม่เยอะ ถ้าหากธนเทพ สามารถมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกชายของหัวหน้ากิสนาได้ ก่อน สําหรับตระกูลวัชรากิจกุลแล้ว ก็นับเป็นเรื่องที่ดี”

บนเวทีประลอง ใบหน้าของเตชัสเต็มไปด้วยความรีบร้อน จ้องมองรพีพงษ์ เอ่ยปากบอก: “หัวหน้า ทำไมคุณไม่เปิดหูเปิด ตาดู ถ้าหากว่าคุณฟังผม เราสองคนแอบย่องออกไปจากที่นี่ เงียบ ๆ ผมรู้ว่าพวกเขาจอดเฮลิคอปเตอร์ไว้ที่ไหน ถึงตอนนั้น พวกเราก็ขโมยไปสักลำ หนีออกไปจากที่นี่ แบบนี้อย่างมาก ที่สุดก็ยังมีความหวังในการมีชีวิตอยู่เล็ก ๆ แต่ว่าทำไมคุณถึง ได้ดันทุรังเข้าร่วมการปีนบันไดสูงที่น่าตายนี่พื้นฐานของเล่นนี่ก็คือขึ้นไปได้ แต่ไม่มีชีวิตรอดลงมา”

รพีพงษ์หัวเราะใส่เตซัส เอ่ยปากบอก: “นายไม่เชื่อใจใน ศักยภาพของฉันเลยหรือ? ฉันยังไม่ได้เริ่มต่อสู้เลย นายก็คาด หวังว่าฉันจะตายแล้ว”

เตชัสส่ายหัว บอก: “ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อในศักยภาพของคุณ บันไดสูงนี่น่ากลัวจริง ๆ คุณคิดดู ผู้มีฝีมือสิบคน จัดการคุณที ละคน แม้ว่าศักยภาพของคุณจะสูงกว่าพวกเขา แต่ทว่าความ แข็งแกร่งของร่างกายก็ใช่ว่าจะทนได้ถึงตอนที่คุณชนะทุกคน

“พอแล้ว นายก็รอดูอยู่ที่นี่ดี ๆ ก็พอ ฉันจะทำให้นายได้เปิดหู เปิดตา ว่าอะไรคือขีดจํากัดของมนุษย์” รพีพงษ์ยิ้มบอก

เตชัสที่เห็นรพีพงษ์พูดเช่นนี้ ก็ทำได้เพียงหุบปาก ไม่พูดอีก

พวกผู้มีฝีมือโดยรอบการจัดอันดับเทพแห่งสงครามต่าง ก็จ้องมองรพีพงษ์อย่างดีใจในความโชคร้ายของเขาอย่าง ชัดเจน พวกเขาก็ไม่รู้สึกว่ารพีพงษ์นั้นจะสามารถมีชีวิตรอดมา ได้ แถมยังดีใจที่จะได้เห็นภาพรพีพงษ์ตายบนเวทีประลอง

“พวกคุณดูคนๆนั้นที่ใบหน้าเงียบสงบ เหมือนกับว่าจะ สามารถเอาชนะทั้งสิบผู้มีฝีมือในอันดับเทพเจ้าแห่งสงคราม ได้จริง ๆ ช่างน่าขำจริง ๆ ”
“คนๆ นี้ศักยภาพไม่อ่อนแอ สามารถเสมอกับดัมพ์รงค์ได้ แข็งแกร่งอย่างแท้จริง เต็มใจแล้ว การประลองปีนบันไดสูงนี่ เขาคิดที่จะสู้กับดัมพ์รงค์อีกครั้ง จะต้องเอาชนะอีกเก้าคนที่มี ศักยภาพพอ ๆ กับดัมพ์รงค์ซะก่อน นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ”

แม้แต่หัวหน้ากิสนาก็ยังมาดูเรื่องตลกของเขา ฉันว่าเด็กนี่ไม่ เพียงแต่ล่วงเกินคุณชายธนเทพ ไม่แน่ว่าอาจจะยังไปล่วงเกิน หัวหน้ากิสนาเข้าด้วย”

เวลาผ่านไปทุกวินาที รพีพงษ์หายใจเข้าอย่างลึก ๆ รับรู้ถึง พละกำลังในร่างกายของตัวเอง ใบหน้าก็ปรากฏความมั่นใจ ออกมา

บนร่างกายของเขานั้นที่ที่ต่างไปจากคนทั่วไป และนี่ก็คือ ความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา ที่พึ่งที่ใหญ่ที่สุด ที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครสามารถบีบบังคับให้เขาใช้กำลังทั้งหมดออกมา ภายในใจของเขาก็รู้สึกคันยุบยิบ

ถึงอย่างไรไพ่ใบนี้ก็คงไม่มีวิธีใช้ออกมาชั่วชีวิต งั้นก็เท่ากับ ว่าไม่มี

แต่ทว่าสถานการณ์ในวันนี้ เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่เขาจะได้ แสดงออก เมื่อกี้นี้เขาไม่ได้ล้อเล่นกับเตชัส เขาต้องการแสดง ให้เห็น ขีดจำกัดที่แท้จริงของมนุษย์ในที่สุด เวลาที่กำหนดไว้ก็มาถึง

ปีนบันไดสูง เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ