แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่220 ไม่ใช่ที่ๆพวกมึงจะทำอะไรก็ได้



บท 220 ไม่ใช่ที่ๆพวกมึงจะทำอะไรก็ได้

ไม่มีปัญหาครับ เชิญที่ห้องรับรองพิเศษครับ” ผู้ จ์ตการกล่าวเคารพนอบน้อมต่ออารียา

ผู้จัดการหน้าฟร้อนเห็นดังนี้ก็ชะงักงัน ยังไงเขาก็ ไม่คาดคิด ว่าผู้จัดการทั่วไปของพวกเขาจะพูดว่าไม่ ว่าจะเป็นยอดเท่าไหร่ก็ต้องให้อารียา

ผู้จัดการ สถานการณ์ปัจจุบันของบริษัทเธอไม่ ค่อยสู้ดีจริงๆ คุณไตร่ตรองอีกครั้งดีไหม…. การหน้าฟร้อนกล่าว ” ผู้จัด

ผู้จัดการชักตาไปที่เขา แล้วกล่าว “ต่อไปถ้าคุณยัง กล้าพูดแบบนี้ ก็กลับไปเป็นพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ สักกี่ปีล่ะกัน คุณอารียาเป็นลูกค้าคนสําคัญของ ธนาคารเรา ต่อไปเพียงแค่เธอมาทำธุรกรรมใน ธนาคารของพวกเรา ต้องพาไปที่ห้องรับรองให้ฉัน ได้ยินหรือยัง!”

ผู้จัดการหน้าฟร้อนได้ยินดังนี้ ตกใจจนรีบพยัก หน้า แล้วกล่าว “รับทราบครับ รับทราบธาตุกรมองไปที่ผู้จัดการอย่างไม่เข้าใจ แล้วกล่าว “บริษัทของเธอกำลังจะล้มละลายแล้ว ตอนนี้คุณให้ เธอกู้ เกรงว่าเมื่อถึงเวลานั้นแม้แต่เงินต้นก็เอากลับ มาไม่ได้นะ

“คุณผู้ชายท่านนี้ คุณอาริยาคือลูกค้าคนสําคัญ ของธนาคารเรา ถึงแม้มีความเสี่ยง ธนาคารของ พวกเราก็ให้เธอกู้ ขอคุณได้โปรดหยุดปล่อยข่าว ลอยได้แล้ว” ผู้จัดการกล่าวกับธายุกรอย่างเยือก เป็น

“ทำไม? เธอถึงได้เป็นลูกค้าคนสําคัญของธนาคาร พวกคุณแล้ว?” รายุ รถามอีกครั้ง

“เรื่องนี้ไม่สามารถตอบได้ ขอคุณได้โปรดอย่าขัด ขวางผมในการช่วยคุณอารียากู้อีก” ผู้จัดการผลัก ธายุกรออกไป พาอารียาเดินไปที่ห้องรับรอง

อารียาหันไปดูธายุกร ยิ้มแล้วกล่าว “ไม่ต้อง อ้อนวอนแก ฉันก็ยังคงทําให้บริษัทดำเนินการต่อ ไปได้ ความฝันอันสวยงามของแก ถูกทําลายลงอีก แล้ว”

ธาตุกร หมัดแน่นทันที มองไปที่แผ่นหลังของอารียาอย่างโกรธแค้น ความเกลียดชังในใจได้ถึง จุดสูงสุดแล้ว

แกสะใจไปเถอะ แม้ฉันจะกลับไปบริษัทไม่ได้ ใน มีอฉันก็ยังคงมีเงินไม่น้อยเหมือนเดิม เงินจำนวนนี้ ก็เพียงพอที่ฉันจะใช้ไปตลอดชีวิตแล้ว กูก็ไม่แคร์ เหมือนเดิม!”

ธากร า จากนั้นก็เดินออกจากธนาคารไป

เดินไปที่ถนนใหญ่ ธายุกรนึกถึงคำพูดที่อารียาพูด กับเขาตอนอยู่ในธนาคาร ก็รู้สึกโกรธแค้นขึ้นมา

ขณะนี้เองมือถือเขาก็ดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดู พบว่า เป็นข้อความจากธนาคารส่งมา

“บัญชีธนาคารของคุณมีธุรกรรมต้องสงสัย ตอนนี้ ได้ถูกอายัดไว้แล้ว”

ธายุกรตกตะลึงขึ้นในทันใด อ้างปากกว้างมากจน แทบจะวางไข่ไก่ได้ทั้งฟอง

“เย็ดแม่! ใครแม่งอายัดบัญชีธนาคารกู!”
ในขณะนี้เอง มีคนกลุ่มหนึ่งที่ใส่เครื่องแบบตำรวจ วิ่งเข้ามารอบๆรายการไว้ แล้วล้อมเขาไว้ในทันที

ธาตุกรมองคนเหล่านั้นอย่างผวา แล้วกล่าว “คุณ…พวกคุณเป็นใคร? ต้องการอะไร?

ผู้ที่นําทีมมาเดินตรงไปด้านหน้าของธากร เอา เอกสารของตนเองขึ้นมา แล้วกล่าว “พวกเราได้ รับการร้องเรียน ยืนยันว่าคุณได้ใช้ทรัพย์สินของ บริษัทเค้า เชิญคุณไปกับพวกเราด้วยครับ”

คนเหล่านั้นไม่ให้โอกาสธายุกรได้อธิบายใดๆ ก็จับ เขาไว้โดยตรง แล้วพาไปยังรถที่จอดอยู่ข้างๆถนน

ธายุกรต่อต้าน แต่ทว่าเธอก้ไม่ใช่คู่ต่อกรของคน พวกนี้ เค้าเห็นเขาต่อต้าน ก็รีบลงมือกับเขา คนกลุ่ม นี้พาธายุกโกดไว้ที่ตัวรถ แล้วต่อยเขาอย่างแรง ไม่ นาน เขาก็นิ่งสงบ

“อารียา มึงทําร้ายกู ฝากไว้ก่อนเหอะ กูจะไม่มีทาง ปล่อยมึงเอาไว้แน่!” ธายุกรตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด
แต่ทว่าไม่รู้เลยว่าตอนนี้เขาโชคร้ายขนาด ไหน ถึงแม้รับรู้ เกรงว่าก็จะไม่รู้สึกเสียใจใดๆ

สนามบินเมืองริเวอร์

รพีพงษ์และอารียาเดินเข้าไปในสนามบิน วันนี้เป็น วันที่รพีพงษ์กลับเกียวโต อารียาอาลัยอาวรณ์รฟ้ พงษ์ ดังนั้นจึงได้มาส่งเขาที่สนามบิน

รพีพงษ์ได้กำจัดภัยรอบๆตัวของอารียาหมดแล้ว ในระยะเวลาอันสั้นนี้ น่าจะไม่มีใครสามารถข่มขู่ยา เขาได้ธฤตญาณและเธียรวิชญ์ทั้งสองไว้ ว่าช่วงที่เขาไม่อยู่ในเมืองริเวอร์นี้ ความปลอดภัย ของอารียา ให้พวกเขาเข้ามาดูแล

“ส่งแค่นี้แล้วกัน ผมต้องเข้าไปแล้ว คุณไม่ต้องเป็น ห่วงนะ รอจัดการธุระทางนั้นเสร็จแล้ว ผมจะรีบกลับ มาทันที” รพีพงษ์กล่าว

อารียาพยักหน้า นัยน์ตาก็ยังคงอาลัยอาวรณ์ เธอ ลังเลสักพัก แล้วเดินไปด้านหน้า โอบคอของรพีพงษ์ ไว้ แล้วจูบ
รพีพงษ์โดนจูบโดยไม่ทันตั้งตัว เขายังอยู่สักพัก ถึงจะรู้สึกตัว จากนั้นก็เริ่มโอบเอวของอารยาแล้วจูบ

คนรอบๆเห็นดังนี้ ก็ต่างอิจฉา แน่นอน ว่าต้องมี เสียงของพวกคนโสด มฟาออกมา โมโหที่สวีทกัน เหลือเกินแม้อยู่สนามบินยังจะสวีทกันอีก

ผ่านไปสักพัก รพีพงษ์ปล่อยอารียาออกอย่างอาลัย อาวรณ์ ใบหน้าเต็มไปด้วยความพอใจ

อารียาไปที่ข้างหูของรพีพงษ์ แล้วกล่าวอย่างเขิน อายว่า “รอครั้งนี้ให้คุณกลับมา ฉันว่าพวกเรามีลูก กันได้แล้วนะ”

รพีพงษ์สะดุ้งขึ้นมา เหมือนจะลอยขึ้น คิดไม่ถึงว่า อารียาจะบอกเขาว่ารอเขากลับมาแล้วจะมีลูกด้วย กัน สําหรับรพีพงษ์แล้ว นี่เป็นสิ่งที่ล่อตาล่อใจอย่าง หาที่เปรียบไม่ได้

แลดูแล้วครั้งนี้ที่ไปเกียวโต ต้องรีบจัดการธุระให้ เสร็จเร็วๆเสียแล้ว เพียงแค่ได้รับจดหมายฉบับนั้นที่ พ่อทิ้งไว้ให้ เขาก็จะกลับมาเมืองริเวอร์ทันที
สุดท้าย รพีพงษ์ เดินเข้าไปในสนามบิน อารียาม องดูอยู่ข้างนอกอยู่นาน จึงจะเดินออกไปจากที่นี่

ในห้องโถงรอขึ้นเครื่อง รพีพงษ์นั่ง เพื่อรอเช็คตัว

ในขณะนี้เองมีผู้หญิงหนึ่งคนเดินมาข้างๆ ยั่งอยู่ ตรงหน้าของรพีพงษ์

ผู้หญิงมีลักษณะสวยงาม รูปร่างดีมาก ใส่กระโปรง พลีสขาว ขายาวทั้งสองข้างสวยงามดึงดูดคน ภายนอก

ผู้หญิงคนนี้มีนามว่าอันนา เป็นคนเกียวโต ครั้งนี้มา เมืองริเวอร์ เพื่อท่องเที่ยว ตั๋วเครื่องบินที่กลับเกียว โตวันนี้ ดูๆแล้ว น่าจะเป็นไฟร์ทเดียวกับรพีพงษ์

รพีพงษ์เพ่งมองไปที่อันนา ในมือเธอได้ถือมันฝรั่ง แผ่นทอดกรอบไว้หนึ่งถุง รพีพงษ์เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า ตนเองยังไม่ได้ทานข้าวเที่ยง เริ่มรู้สึกหิว

อันนาเห็นรพีพงษ์มองไปที่เธอ ก็มองบนไปที่รพี พงษ์ แล้วกล่าว “ดูอะไร ไม่เคยเห็นคนสวยหรือไง ไอ้กระจอก
รพีพงษ์ยิ้ม ไม่ได้โกรธแต่อย่างใด จะสวยไป เขาไม่สนใจ เพียงแค่เขาอยากกินมันฝรั่งทอด ในมือของอันนาเท่านั้นเอง

อันนาเห็นรพีพงษ์ไม่โต้ตอบ ก็เดินไปหารพีพงษ์เอง แล้วยื่นมันฝรั่งทอดกรอบในมือให้กับรพีพงษ์ แล้ว กล่าว “ดูๆแล้วคุณก็นิ่งๆดีนะ น่าจะหิวล่ะซิ ให้คุณกิน สักหน่อย คุณอย่าคิดว่าฉันคิดอะไรกับคุณเป็นอัน ขาดนะ ฉันก็แค่เห็นว่าคุณน่าสงสารก็แค่นั้น ดูการ แต่งกายของคุณก็รู้ว่าเป็นคนจน ฉันไม่มีทางชอบ คุณหรอก

รพีพงษ์ก็ไม่ได้เกรงใจใดๆ หยิบมันฝรั่งทอดจากถุง ที่อยู่ในมือมาสองแผ่น แล้วใส่ลงไปในปากของตัว เอง

คุณเปีคนเมืองริเวอร์?” อันนาถาม เธอเป็นพวกเฟ รนด์ลี่ แล้วก็ไม่ชอบอยู่คนเดียว ครั้งนี้มาเที่ยวโดย ลำพัง ทำให้เธอได้รู้ว่าความเปล่าเปลี่ยวที่แท้จริงคือ อะไร ดังนั้นถึงแม้ไม่ชอบรพีพงษ์ ก็สามารถทําให้ เธอพุดคุยกับรพีพงษ์ได้

รพีพงษ์พยักหน้า แล้วถาม “คุณก็ใช่หรอ?”
“ฉันไม่ใช่ ฉันเป็นคนเกียวโต มาเที่ยวที่เมืองริเวอร์ ฉันว่า เมืองริเวอร์ของพวกเธอไม่มีอะไรที่น่าสนุก เลย ฉันมานี่ตั้งกี่วัน ก็ไม่เคยเห็นสิ่งที่ดึงดูดใจเลย มีเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้ฉันตลกได้ก็คือ เมืองริเวอร์ ของพวกเธอมีไอ้สวะคนหนึ่งชื่อรพีพงษ์ คนๆนึงที่ได้ ประโยชน์ได้ถึงขั้นคนทั้งเมืองเรียนกว่าไอ้สวะนี่ ก็ ถือว่ายอดเยี่ยมจริงๆ คุณน่าจะได้ยินชื่อเสียงคนนี้ มาบ้างแล้วสิ” อันนากล่าว

รพีพงษ์ก็ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย

“คุณถอนหายใจทําไม?” อันนาถามอย่างไม่เข้าใจ

“ผมนี่แหละรพีพงษ์” รพีพงษ์กล่าว

อันนาชะงัก แล้วก็หัวเราะออกมาทันที แล้วกล่าว “พระเจ้า ไม่น่าจะบังเอิญขนาดนี้มั้ง คุณก็คือไอ้สวะ ที่ขึ้นชื่อนั้นนะหรอ นี่ฉันโชคดีหรือโชคร้ายเนี่ย คิด

ไม่ถึงว่าจะได้เจอคุณที่นี่”

รพีพงษ์มองเธออย่างเสียอารมณ์ แล้วกล่าว “ผม คือรพีพงษ์ แต่ผมไม่ใช่สวะ

“ คุณหยุดหาข้ออ้างได้แล้ว เรื่องราวของคุณได้ถูกเผยแพร่เป็นทั้งเมืองริเวอร์แล้ว ครั้งนี้ที่ฉันมา สิ่ง เดียวที่จําได้คือ เป็นพวกเรื่องราวเหล่านั้นของคุณ ฉันได้บอกเพื่อนฉันทางมือถือแล้ว พวกเขาได้ยินก็ ต่างแปลกประหลาดใจกัน ถ้าฉันบอกกับพวกเขาว่า ฉันเจอคุณที่สนามบินล่ะก็ พวกเขาต้องคิดว่าสนุก มากแน่ๆ” อันนาบิ้มพลางกล่าว

รพีพงษ์ไม่อยากแก้ตัวอะไร แล้วก็ไม่พูดอะไรต่อ

อันนาเห็นรพีพงษ์ได้พูด ก็มึนปากอย่างไม่เข้าใจ แล้วพึมพำ “ยังไม่ให้ว่าด้วย ไม่อยากให้คนอื่นพูด แบบนี้ งั้นคุณก็ทำอะไรที่เป็นจุดเด่นขึ้นมาสิ ตัวเอง ไม่มีน้ำยา แล้วยังโทษคนอื่นอีก”

ผ่านไปไม่นาน ถึงเวลาเช็คตัวแล้ว รพีพงษ์ก็ไปเช็ค ตั๋วโดยตรง หลังจากเช็คตั๋วแล้ว ก็ขึ้นเครื่องบิน

เขานั่งในที่ของเขา ไม่นาน อันนาก็เดินมาถึงตรงนี้ คิดไม่ถึงว่าที่นั่งของเธอจะอยู่ข้างๆของรพีพงษ์

ทําไมฉันโชคร้ายขนาดนี้ ยังต้องนั่งข้างๆคุณอีก คงไม่ใช่เพราะชอบในความสวยงามของฉันนะ ถึง ได้ตั้งใจตามฉันมา” อันนานั่งลงข้างๆรพีพงษ์
“ผมไม่ได้เบื่อถึงขึ้นนั้น” รพีพงษ์กล่าว

“ชิ ใครจะรู้ คนแบบนี้ ในใจ เมนเป็นเรื่องปกติ โชคร้ายจริงๆ นั่งกับคุณ ฉันต้องระวังตัวตลอดทาง จะบอกให้นะๆ อย่าลงไม้ลงมือกับฉัน ไม่งั้นรอให้ ถึงเกียวโต ฉันจะเรียกคนมาจัดการกับคุณทันที อันนากล่าว

รพีพงษ์รู้สึกว่าเธอไร้เหตุผล ก็ไม่ได้สนใจเธอ แล้ว หลับตาลงทันที

ผ่านไปไม่นาน บนเครื่องมีชาวต่างชาติขึ้นมาสอง คน ชาวต่างชาติสองคนนั้นร่างกายก่าย่า แขนเต็ม ไปด้วยกล้ามเนื้อ และหล่อเหลา เมื่อพวกเขาทั้งสอง ขึ้นมา ก็ดึงดูดดวงตาของผู้หญิงมากมายบนเครื่อง

อันนาก็ถูกความหล่อเหลาของชาวต่างชาติทั้งสอง ดึงดูดเช่นกัน แล้วยังกรี๊ดออกมาด้วย

ชาวต่างชาติทั้งคู่สนใจอันนา เห็นว่าเธอก็ดูดีใช้ได้ ก็ยิ้มแบบมีนัยยะไปที่อันนา

หนึ่งในชาวต่างชาตินั้นนั่งข้างๆของอันนา แล้วอีกคนก้เท้าเตะไปที่รองเท้าของรพีพงษ์ ส่งสายตา ไปให้เขา แล้วชี้ไปที่นั่งด้านหลัง ดูออกชัดเจนว่า อยากให้รฟ์พงษ์ไปนั่งข้างหลัง

อันนาเห็นดังนี้ ก็ตื่นเต้น แล้วรีบบอกรพีพงษ์ว่า “แก ยังอยู่ตรงนี้อีกทำไม รีบไปนั่งด้านหลังสิ ฉันอยากนั่ง กับสุดหล่อสองคนนี้

รพีพงษ์ไม่ได้พูดอะไร ก็ยืนขึ้น แล้วไปนั่งที่ด้าน

หลัง

ชาวต่างชาติคนนั้นเห็นรพีพงษ์เชื่อฟัง เต็มไปด้วย ใบหน้าที่เหยียดหยาม แล้วพูดภาษาอังกฤษว่า “อ่อน ห้ดจริงๆ”

ถึงแม้รพีพงษ์จะเข้าใจที่ชาวต่างชาติพูด แต่ก็ไม่ ได้ใส่ใจอะไร ตอนนี้เขาคิดแต่เรื่องของพ่อเขา กลับ ไปครั้งนี้ ถ้าได้เห็นจดหมายที่พ่อทิ้งไว้ให้จริงๆล่ะก็

ไม่แน่อาจจะมีเบาะแสบ้างก็ได้

โยษิตาบอกว่าพ่อเขายังไม่เสียชีวิต เพียงแค่ หายตัวไป ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ รพีพงษ์จะต้องทำทุก วิถีทางเพื่อที่จะหาพ่อเขาให้เจออย่างแน่นอน เพราะ ในโลกนี้ รพีพงษ์นอกจากอารียาแล้ว ก็มีแค่พ่อที่เป็นญาติเท่านั้น

แม่ของเขา ตั้งแต่ปีนั้นที่เขาได้โดนไล่ออกจาก ตระกูลสัตดาวัลย์ เขาได้ตัดความสัมพันธ์กับเธอ แล้ว ไม่ว่าจะร้ายขนาดไหนก็ไม่มีทางทําร้ายลูกตัว เองได้ แต่วีธรากลับใจร้ายกับเขา แล้วรพีพงษ์จะ นับถือเธอเป็นแม่ได้อย่างไร

ก่อนที่เครื่องบินจะบินขึ้น อันนากรีดร้องขึ้นมา แล้ว ยืนขึ้น มองไปที่ชาวต่างชาติที่นั่งข้างเธอด้วยความ โกรธ แล้วค่า “มือแกคล่าอะไร? แกอย่าคิดว่าฉันเห็น ว่าแกหล่อแล้วแกจะทําอะไรกับฉันก็ได้นะ คิดไม่ถึง จริงๆว่าแกจะลามกได้ขนาดนี้

ชาวต่างชาติคนนั้นฟังกาษาจีนออกเล็กน้อย เห็น อันนาว่าเขาต่อหน้าคนในเครื่องบินทั้งลำแบบนี้ ก็รีบ ด่าเธอเป็นกระหรี่ในภาษาอังกฤษทันทีว่า ไอ้ใจง่าย

อันนาโมโหเกรี้ยวกราด เธอชอบผู้ชายหล่อจริงๆ แต่เธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงใจง่าย แต่ชาวต่างชาตินี้กลับว่า เธอเป็นกระหรี่ นี่เธอยอมไม่ได้จริงๆ

มึงรีบกลับไปที่นั่งมึงเลยนะ กูไม่อยากนั่งข้างมึง”อันน่าตะคอก

แอร์ฮอสเตสเดินเข้ามา อยากที่จะเคลียร์ปัญหาให้ กับพวกเขา แต่ชาวต่างชาตินี้ถือว่าตัวเองเป็นคนต่าง ชาติ

ขณะนี้รพีพงษ์ยืนขึ้น เขาเดินไปข้างหน้าของชาว ต่างชาติ แล้วกล่าว “ไสหัวไปนั่งที่เดิมของแกไป

อันนาเห็นรพีพงษ์ออกหน้า ก็ไม่ได้แสดงอาการใดๆ เพราะเธอรู้ว่ารพีพงษ์เป็นสวะของเมืองริเวอร์ ถึงแม้ เขาจะออกหน้า ก็ไม่มีทางต้านทานชาวต่างชาติที่ ร่างใหญ่บึกบึนได้หรอก

“แกไม่ต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องนี้หรอ เขาบึกเสีย ขนาดนั้น แกจะมีแรงที่ไหนไปต่อกลอน แกรีบกลับ ไปเถอะ” อันนากล่าว

รพีพงษ์ไม่ได้ฟังคำพูดของอันนาแต่อย่างใด ถึงแม้ จะทําเพื่อมันฝรั่งทอดกรอบสองแผ่นนั้น รพีพงษ์ก็ ไม่มีทางที่จะให้ชาวต่างสองทั้งสองเหิมเกริมได้

ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่คือจีนแผ่นดินใหญ่ ไม่ใช่ที่ๆชาว ต่างชาติจะทําอะไรตามใจตัวเองได้
คนบนเครื่องบินดูร่างกายที่ต่างกันระหว่างรพีพงษ์ กับชาวต่างชาตินั้น ก็ไม่กล้าคาดหวังอะไรกับรฟี พงษ์มากนัก

ตอนนี้ชาวต่างชาติเริ่มรําคาญขึ้นมา ก็ยื่นมือออก ไป อยากจะผลักรพีพงษ์ รพีพงษ์ยังข้อมือเขาไว้ แล้วบิด ร่างกายหนึ่งเมตรเก้าของชาวต่างชาตินั้น ก็ หมุนทันที แล้วล้มลงไปที่พื้น

*ไสหัวไปยังที่นั่งของมึง ไม่งั้นกูจะโยนมึงออกจาก เครื่องบิน จีนแผ่นดินใหญ่ ไม่ใช่ที่ๆพวกมึงจะทำ อะไรก็ได้!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ