แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่252 เปิดเผยตัวตน



บทที่252 เปิดเผยตัวตน

หลังจากที่ชรินทร์ทิพย์ทั้งสามได้ยินคําพูดของ ประดิพุทธิ์แล้ว ร่างกายแข็งทื่อ สีหน้ายิ่งซีดเข้าไป ใหญ่ สายตาของชรินทร์ทิพย์ทั้งคู่แทบจะถลุงออก มา เธอคิดไม่ถึง ว่ารพีพงษ์จะมีตัวตนที่น่าเกรงขาม ได้ขนาดนี้

“เขา……เขาคือคนของตระกูลลัดดาวัลย์เมืองเกียว โต?” ลิปตากล่าวด้วยเสียงสั่นคลอ ด้วยใบหน้าที่สิ้น หวัง

สีหน้าของพี่พนก็หวาดกลัวเช่นกัน มองไปที่สายตา ของรพีพงษ์ อย่างกับเห็นสัตว์ร้ายอย่างใดอย่างนั้น

อำเภอนกฟ้าอยู่ข้างๆกับเกียวโต สำหรับพวกที่มี ความสามารถเก่งกาจของเกียวโตนั้น คนที่นี่จะรู้ได้ ในทันที ว่าตระกูลลัดดาวัลย์แห่งเกียวโตนั้นมีอำนาจ มากมายขนาดไหน พวกเขารับรู้ได้อย่างชัดเจน เฉก เช่นประดิพุทธิ์คนใหญ่คนโตอันดับหนึ่งของอำเภอ นกฟ้านี้ เมื่ออยู่ต่อหน้าตระกูลลัดดาวัลย์แห่งเกี่ยว โต ก็ยังคงเป็นแค่มดตัวหนึ่งเท่านั้น
ดังนั้นเมื่อหลังจากที่ประดิพุทธิ์บอกว่ารพีพงษ์คือ คนของตระกูลลัดดาวัลย์แห่งเกียวโตแล้วนั้น นี่มัน เป็นสิ่งที่พวกเขาทําพลาดอย่างที่สุดในชีวิต

ลิปดาหันมองไปที่รินทร์ทิพย์ ก็เกิดความโมโห ขึ้นมาอย่างทันที ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะถูกชักจูงโดย ชรินทร์ทิพย์ให้มาทำร้ายรพีพงษ์ลาะก็ พวกเขาจะมี จุดจบแบบนี้ได้อย่างไรกัน

เขากัดฟัน แล้วยกมือขึ้น ตบเข้าไปบนใบหน้าของ ชรินทร์ทิพย์ แล้วด่า “ต้องโทษมึงอีกระหรี่ ถ้าไม่ใช่ เพราะมึงที่บอกว่ามันเป็นแค่ไอ้สวะ ไม่งั้นกูจะฟังถึง ได้ไง ว่าให้มาเก็บเขา สิ่งที่โชคร้ายที่สุดในชีวิต ก็ คือการที่มีผู้หญิงแบบมึงมาเป็นแฟน!

ตอนนี้ชรินทร์ทิพย์ซาไปหมดทั้งตัว ลิปตาตบเธอ ไปหนึ่งฉาด เธอกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆโต้ตอบ เพียง แค่มองไปที่รพีพงษ์อย่างเหม่อลอย ในหัวก็เต็มไป ด้วยความงงงวย

เรื่องมากมายที่เกิดขึ้นมาสมัยก่อนได้ผุดขึ้นในหัว ของเธอ เมื่อก่อนเธอมักจะคิดว่า ที่ตระกูลลัดดาวัลย์ มอบสิ่งของให้นั้น เป็นเพราะคนของตระกูลลัดดา วัลย์ชอบเธอ อยากจะสู่ขอเธอเป็นภรรยา เธอรอคอยเรื่องนี้มายาวนาน

จนกระทั่งเมื่อโยษิตามาที่ตระกูลฉัตรมงคลเพื่อเอา ของกลับไป ชรินทร์ทิพย์เพิ่งจะรู้ ว่าตระกูลลัดดา วัลย์ไม่ได้มีเธออยู่ในสายตา และก็ไม่มีใครชอบเธอ ทั้งหมดเป็นสิ่งที่เธอวาดในเอาเองทั้งนั้น

เพียงแต่ตอนนั้นเธอยังคิดไม่ออก ในเมื่อตระกูลลัด ดาวัลย์ไม่ได้มาสู่ขอ แล้วจะมามอบของใทำไมกัน? แล้วสิ่งที่ทำให้เธอไม่เข้าใจเลยก็คือ หลังจากที่โยษิ ตาเอาของกลับไปแล้วนั้น ยังจะเอาไปให้กับอารียา อีก นี่ทำให้เธอไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก

จนกระทั่งถึงตอนนี้ เมื่อเธอได้ยินประดิพุทธิ์เปิด เผยตัวตนของรพีพงษ์แล้ว เพิ่งจะเข้าใจทุกสิ่งทุก อย่าง

ที่แท้ตระกูลลัดดาวัลย์แห่งเกียวโต ให้เกียรติกับ ตระกูลฉัตรมงคลนั้น ล้วนเป็นเพราะรพีพงษ์ นี่พวก เขามองว่าเป็นไอ้สวะมาโดยตลอด

ซรินทร์ทิพย์ยิ้มอย่างเป็นทุกข์ เธอไม่รู้ว่าจะ อธิบายความรู้สึกในตอนนี้ออกมาว่าอย่างไรดี เธอรู้ เพียงแค่ ตั้งแต่เริ่ม เธอก็ได้ทำความผิดอย่างใหญ่หลวงแล้ว หรือจะพูดว่า ทั้งตระกูลฉัตรมงคลได้ ทําความผิดอย่างใหญ่หลวงเลยก็ว่าได้

รพีพงษ์ได้ยินประดิพุทธิ์เปิดเผยตัวตนของตน ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย แต่ตอนนี้ก็ไม่มี ความจำเป็นใดๆที่จะต้องปกปิดชรินทร์ทิพย์อีกต่อ ไป เธอจะรู้หรือไม่นั้นก็ไม่ได้สำคัญอะไร

“รพีพงษ์ ผมผิดไปแล้ว ผมไม่ควรเชื่อชรินทร์ทิพย์ หาคนมาจัดการคุณ นี่เป็นความผิดของชรินทร์ทิพย์ ทั้งนั้น ต่อจากนี้ไปถึงแม้คุณจะใช้ผมเยี่ยงทาส ผม ก็ยินยอมทั้งกายและใจ” ลิปตาโศกเศร้า แล้วคำนับ ให้กับรพีพงษ์

พี่พนเห็นดังนี้ ก็รีบคำนับตาม ด้วยสีหน้าที่เสียใจ อย่างสุดซึ้ง

ประดิพุทธิ์เห็นพวกเขาอ้อนวอน ก็ได้เข้าไปถีบพวก เขาต่อ แล้วด่า “ตอนนี้พวกมึงรู้ที่จะอ้อนวอน แต่ก็ สายไปล่ะ! พีรพี คุณจะจัดการกับพวกเขายังไง ไม่ ต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับผม ลูก น้องที่ไร้สมองแบบนี้ ผมอยากเปลี่ยนตั้งนานแล้ว”
รพีพงษ์ยืนขึ้นจากเก้าอี้ แล้วกล่าวอย่างเรียบๆว่า “ทําให้ยามันพิการแล้วโยนไปเป็นขอทานตามถนน

จากนั้นเขาก็เดินออกไปข้างนอก เขาไม่ใช่ พระพุทธเจ้า วันนี้ที่ชรินทร์ทิพย์ทั้งสามจะเอาชีวิต เขา เขาไม่ได้ให้ประดิพุทธิ์เก็บพวกเขาทั้งสาม ก็ ถือว่าเมตตาขนาดไหนแล้ว”

“รพีพงษ์…” ชรินทร์ทิพย์เพิ่งจะไหวตัวทันตอนนี้ อยากอ้อนวอนรพีพงษ์ แต่รพิพงษ์ก็ได้เดินจากไป แล้ว

ลิปตาและพี่พนทั้งคู่ได้มองไปที่ประดิพุทธิ์ แล้ว อ้อนวอนต่อประดิพุทธิ์

“พี่พุด ขอพี่ได้โปรดเห็นแก่พวกเราที่อยู่กับพี่มาตั้ง หลายปีด้วยนะ ไว้ชีวิตพวกเราสักครั้งเถอะ ต่อไป พวกเราจะไม่ทําอีกแล้ว”

ประดิพุทธิ์ในปาก แล้วกล่าว “พวกมึงอยู่กับกูมาตั้ง นาน นอกจากจะหาเรื่องให้กู แล้วยังทำอะไรได้บ้าง? เรื่องของวันนี้ไม่มีทางอื่น พวกมึงทั้งสามยอมรับ ชะตากรรมเถอะ”
เมื่อพูดจบ เขาส่งสัญญาณไปที่ลูกน้อง แล้วเดิน ออกจากห้องทํางาน ตามรพีพงษ์ไป

ไม่นาน ในห้องทำงานก็มีเสียงโอดครวญดังขึ้นมา คนจํานวนไม่น้อยในโซนเกมส์ล้วนได้ยินเสียง แต่ พวกเขากลับไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ล้วนคิดว่าเป็นเสียง ของบ้านผีสิงที่อยู่ข้างๆ ทําให้คนพวกนั้นหวาดกลัว กันเป็นแถวๆ

ในร้านกาแฟที่อยู่ตรงข้ามกับโซนเกมส์ สีหน้า อันนายังคงเคร่งเครียดเช่นเดิม เธออยากไปดู สถานการณ์ในโซนเกมส์ซักหน่อย แต่ทว่ารชนิชล ไม่ให้เธอไป

“ไม่งั้นพวกเราไปกันดีกว่า นานขนาดนี้แล้ว ยังไม่ ออกมาอีก เกรงว่ารพีพงษ์จะโดนเก็บไปแล้ว” จิร โชติกล่าว

“เป็นไปไม่ได้ รพีพงษ์ไม่มีทางโดนทำร้ายจนเสีย ชีวิต” อันนาปฏิเสธทันที

“แกเลิกไร้เดียงสาได้แล้ว รพีพงษ์ทำผิดต่อประดิพุ ทธิ์ แกคิดว่าเขาจะออกมาโดยไม่เป็นอะไรเลยหรอ? แม้ไอ้นี่จะเก่ง แต่ก็ไม่ใช่ศัตรูของพวกประดิพุทธิ์ เขาไม่มีความสามารถ มีกำลังก็ไม่มีประโยชน์ ๆ” จิรโชติกล่าว

เขายังคงโมโหรพีพงษ์ โดยเฉพาะตอนที่รพีพงษ์ ได้ทําสถิติชนะเขาในการวัดกำลังหมัด ดังนั้นเมื่อรู้ ว่าตอนนี้รพีพงษ์ยั่วโมโหประดิพุทธิ์ ในใจเขาก็รู้สึก มีความสุขขึ้นมาทันที

“ดูนั่น มีคนเดินออกมาแล้ว!” ตอนนี้รชนิชลตะโกน ออกมา

อันนาและจิรโชติหันมองไปที่โซนเกมส์นั้น

ดูเหมือนว่ารพีพงษ์นี่จะโดนจัดการแล้ว แกไอ้ โอ้อวด นี่แหละคือจุดจบของแก จิรโชติพึมพำในใจ

ตอนนี้พวกเขาได้เห็นคนที่เดินออกมาจากข้างใน ไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นรพีพงษ์ แล้วยังออกมาในสภาพ ครบสมบูรณ์

จิรโชติงงทันใด แล้วกล่าว “….ไอ้นี่ออกมา แล้วล่ะ แล้วดูมัน เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้น นี่ มันเกิดอะไรขึ้น?”
หลังจากที่เห็นรพีพงษ์ไม่เป็นอะไรแล้ว อันนาก็โล่ง อก ยิ้มแล้วกล่าว “ฉันบอกแล้วว่ารพีพงษ์ไม่เป็นอะไร เขาไม่ได้ธรรมดาอย่างที่พวกแกคิดไว้

“เขาก็แค่ไอ้เหลือขอปะ มีอะไรที่ไม่ธรรมดา นี่ เพราะโชคดีแน่ๆ…..พระเจ้า ประดิพุทธิ์เดินตามออก มา ทําไมเขาแลดูเคารพรพีพงษ์ขนาดนี้” ความจริง จิรโชติอยากจะเหยียบย่ำรพีพงษ์ แต่หลังจากที่เห็น ประดิพุทธิ์ตามออกมา ก็ชะงักทันใด

“ประ…..ประดิพุทธิ์อำเภอนกฟ้า เคยนอบน้อมให้ ใครด้วยหรอ? เหมือนเขากลัวรพีพงษ์อย่างมาก พูด คุยอย่างเชื่อง นี่ฉันไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม” รชนิชล ก็กล่าวอย่างแปลกใจ

อันนาจ้องไปที่รพีพงษ์ เธอรู้ว่ารพีพงษ์ไม่ธรรมดา แต่ไม่คิดมาก่อนว่ารพีพงษ์จะเก่งกาจขนาดนี้ สามารถทำให้ประดิพุทธิ์รับใช้ได้ แสดงว่าตัวตน ของเขาต้องน่าเกรงขามเป้นแน่

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ อันนาก็ผิดหวังขึ้นมา เพราะถ้าตน ตัวของรพีพงษ์นั้นน่าเกรงขามจริงๆล่ะก็ งั้นเธอก็ไม่ คู่ควรกับรพีพงษ์
ในขณะที่ทั้งสามกำลังตั้งใจมองอยู่นั้น รพีพงษ์ก็ได้ เข้าไปนั่งบนรถของประดิพุทธิ์ แล้วก็จากโซนเกมส์ ไป

รช ชลมองไปที่อันนา แล้วกล่าว “อันนา แกมีวิธี ติดต่อรพีพงษ์นั่นไหม เขาเก่งกาจขนาดนี้ ถ้าแก ได้เป็นแฟนเขา ไม่แน่ต่อไปครอบครัวของเราก็จะ เจริญก้าวหน้าขึ้นนะ”

อันนามองไปที่รชนิชลด้วยสายตาเบื่อหน่าย แล้ว กล่าว “เมื่อก่อนมองว่าเขาเป็นไอ้กระจอกไม่ใช่หรอ ทําไมตอนนี้ถึงอยากให้หนูเป็นแฟนเขาแล้วล่ะ?”

รชนิชลรู้สึกอาย ที่ถูกอันนาพูดแบบนี้ใส่ ทำให้เธอ รู้สึกว่าตนเองทำไม่ถูกจริงๆ “ก็เมื่อก่อนฉันไม่รู้ไง อันนา ฉันขอโทษแกยังไม่พออีกหรอ แกต้องฉวย โอกาสเอาไว้ให้ได้นะ คนแบบนี้ ไม่ใช่จะเจอได้ง่ายๆ ถ้าแกเป็นแฟนเขาได้ ดีกว่าการที่เป็นแฟนกับจิรโชติ เสียอีก”

จิรโชติมองไปที่รชนิชล รู้สึกไม่พอใจ ไม่คิดมา ก่อนว่ารขนิช จะเอาเขาไปเปรียบกับรพีพงษ์ได้

แต่คิดๆดูแล้ว เขาก็เทียบกับรพีพงษ์ไม่ได้จริงๆอย่างน้อยในชีวิต สิ่งที่เขาทำไม่ได้เลยอย่าง แน่นอนคือการที่ทำให้เคารพนอบน้อม

อันนาไม่ได้ใส่ใจทั้งสอง เธอหยิบมือถือของตนเอง ขึ้นมา ติดต่อไปยังรพีพงษ์ แล้วบอกว่าเธออยู่ตรง ข้ามโซนเกมส์เห็นรพีพงษ์เดินออกมาแล้ว

จากนั้นเธอก็ได้ถามรพีพงษ์อีกว่าต่อไปจะมีโอกาส ได้เจอกันอีกไหม เธอรู้สึกกระวนกระวายใจ เพราะ ตัวตนของรพีพงษ์เป็นเหตุผลให้เธอไม่สามารถเข้า ถึงเขาได้อีกแล้ว อาจเป็นไปได้มาก ที่รพีพงษ์ไม่ได้ สนใจเธอตั้งแต่แรก แต่ทว่าผ่านไปไม่นานมากนัก เธอได้รับข้อความตอบกลับจากรพีพงษ์ แค่เพียงสี่ คำสั้นๆ “เจอกันเมื่อถึงเวลา”

อันนาทั้งผิดหวังทั้งหมดอาลัยตายอยาก เธอรู้ ว่าที่ รพีพงษ์พูดแบบนี้ การที่จะพบกันของพวกเขาก็น้อย ลงไปทุกที แต่เธอก็ไม่ได้เสียใจอะไรมากนัก ในเมื่อ เธอไม่สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับรพีพงษ์ได้ งั้นเธอ ก็ต้องพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่แน่วันไหนเธอ อาจจะมีสิทธิ์ที่จะมีจุดยืนสูงส่งเช่นเดียวกับรพีพงษ์ ก็เป็นได้ ถึงตอนนั้นเธอค่อยหาวิธีการเจอกับรพีพงษ์ ก็แล้วกัน
หลังจากกลับไปยังคฤหาสน์ รพีพงษ์เพิ่งจะเข้า ประตูไป ก็เห็นจารุณีกำลังจ้องไปที่เขาอย่างโมโห เกรี้ยวกราด

“แกแอบฉันไปหาผู้หญิงคนอื่นใช่ไหม!” จารุณี กล่าวอย่างโมโห

รพีพงษ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แล้วกล่าว “ผมไป เดินเล่นเท่านั้น”

“ชิ คุณไปเดินเล่นแต่ไม่พาฉันไปด้วย ไม่รักฉันแล้ว ล่ะชิ” จารุณีท้าวสะเอว ด้วยท่าทางที่น่ารัก

รพีพงษ์ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ตอนนี้เขา อยากเพียงแค่ส่งเด็กสาวคนนี้กลับไปเท่านั้น ติดซีรี่ ย์มากไป ก็ปัญหาเยอะ

ตอนนี้ประดิพุทธิ์เดินเข้ามา แล้วกล่าวต่อรพีพงษ์ว่า “พีรพี ผมได้อธิบายอาการของฟี่ให้กับหมอท่านนั้น

ไปแล้ว เขาบอกว่าสามารถรักษา ได้

รพีพงษ์หันไปมอง แล้วกล่าว “ใช้เวลานานเท่า192229583_1114436682399592_3519548647843187997_n (1)


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ