แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่276 อดีตของธฤตญาณ



บทที่276 อดีตของธฤตญาณ

เมื่อรพีพงษ์ได้ยินธฤตญาณตอบ น้ำชาที่อยู่ในปาก ก็พุ่งออกมาทันใด นี่แม่งต่างจากสิ่งที่เขาคิดไว้อย่าง สิ้นเชิง

เขาคิดว่าหลังจากที่ธฤตญาณได้ยินคำพูดเขาแล้ว แน่นอนว่าต้องตกใจ แต่หลังจากที่รู้สึกตัวแล้ว ต้อง พูดว่าอยากจะล้างแค้นตั้งนานแล้ว

ปฏิกิริยาโต้ตอบของเขานั้นเร็ว แต่เป็นการปฏิเสธ รพีพงษ์

รพีพงษ์ไม่ค่อยเข้าใจ ถูกลูกน้องหักหลัง ความจริง เป็นหนี้แค้นแท้ๆ แต่ธฤตญาณกลับไม่อยากล้างแค้น ทำให้เขาไม่เข้าใจว่าธฤตญาณกำลังคิดอะไรอยู่

“ไม่จำเป็นต้องปฏิเสธเร็วขนาดนี้ แกไม่อยากล้าง แค้น คงไม่ใช่เป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นหรอกนะ?” รพี พงษ์ถาม
ธมฺตญาณตาโตขึ้นมา แล้วกล่าว “แกรู้ได้ไง!”

รพีพงษ์ มไม่ออก แล้วกล่าว “การคาดเดาของฉัน ไม่น่าจะจริงใช่ไหม ปฏิกิริยาการไวขนาดนี้ ไม่คาด คิดจริงๆ ว่าแกจะเจอกับเรื่องดราม่านั่น”

“เรื่องบ้าอะไร แกพูดอะไร?” ธฤตญาณมองรพี พงษ์อย่างสงสัย ที่เมื่อกี้เขาตกใจ เพราะรพีพงษ์ ว่าที่เขาไม่ล้างแค้นเพราะผู้หญิง แต่เขาไม่รู้ว่าที่ร พงษ์พูดว่าเรื่องดราม่าอะไรนั่นคืออะไร

“ที่แกไม่ล้างแค้น เป็นเพราะคนที่ทําแก เป็นคนรัก คนก่อนของแก ปีนั้นความจริงแกสามารถต่อกรได้ แต่แกเลือกที่จะยอม เพียงเพราะแกรักผู้หญิงคนนี้ มาก แม้เธอจะหาร้ายแก แกก็ไม่ล้างแค้นเธอ เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องดราม่าหรือยังไง?” รพีพงษ์กล่าว

ธฤตญาณมองบน แล้วกล่าว “ที่แกพูดมันเป็นเรื่อ งดราม่าจริงๆ แต่ที่พูดไม่ใช่เรื่องของฉัน แกรู้ได้ไง ว่าเรื่องของฉันมีผู้หญิงขึ้นมาเกี่ยวข้องด้วย ฉันไม่ เคยบอกแกมาก่อนเลย

“อำนาจเมื่อก่อนที่แกสร้างขึ้นมากับมือ ตอนนี้ถูกผู้ หญิงคนหนึ่งกุมเอาไว้ แค่คิด ก็พอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันพูดไม่ถูก งั้นทำไมคนที่กุมอำนาจต่อจาก แกเป็นผู้หญิง และแกก็ยังไม่ล้างแค้น?” รพีพงษ์ สงสัยขึ้นมา

สีหน้าธฤตญาณถอดสีอย่างเห็นได้ชัด แล้วพูด เสียงสูง “แกพูดอะไร! คนที่กุมอำนาจต่อจากฉันเป็น ผู้หญิง?”

รพีพงษ์พยักหน้า แล้วถาม “แกไม่รู้เรื่องนี้?”

ธฤตญาณสูดหายใจลึกๆ พยายามควบคุมอารมณ์ รพีพงษ์ก็เพิ่งจะเคยเห็นเขาร้อนรนก็ครั้งนี้ครั้งแรก

“ไอ้บัดซบตระกูลรัตนชัยนันท์ ให้บุญสิตามาเป็น หุ่นเชิด แล้วพวกเขาก็สบายอยู่ข้างหลัง ชั่งร้ายกาจ จริงๆ ฉันคิดว่า เพียงแค่ฉันยอม ตระกูลรัตนชัยนันท์ จะดูแลบุญสิตาอย่างดี ฉันคิดไปเองจริงๆ” ธฤต ญาณพูดคนเดียว

เมื่อรพีพงษ์ได้ยินคำพูดของธฤตญาณ ก็ถามทันที ว่า “ตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? แกเก็บมันเอาไว้ ในใจ ก็มีแต่จะเศร้าโศกเอง พูดออกมา ว่ามีปัญหา อะไร เดี๋ยวฉันช่วยจัดการให้
ธฤตญาณถอดหายใจอีกครั้ง แล้วออกไปสูบบุหรี่ หลังกจาที่จุดบุหรี่ ด แล้วกล่าว “ในเมื่อแกอยากฟัง งั้นฉันจะพูดให้ฟัง ฉันเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจมานานแล้ว จริงๆ”

หลังจากที่ธฤตญาณเล่าเรื่องในตอนนั้นให้รพีพงษ์ ฟังอย่างละเอียดแล้ว เมื่อรพีพงษ์ได้ฟังแล้ว ก็ตกใจ ไม่คาดคิดว่าธฤตญาณจะเจอเรื่องแบบนี้

ความจริงที่ผ่านมาธฤตญาณอยู่ที่เมืองกรีนโคล ขายแพนเค้กจริงๆ เขาจบมัธยมแล้วก็ไม่ได้เรียนต่อ เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไร จึงได้รับกิจการนี้จากพ่อมา ทําต่อ

ตอนนั้นธฤตญาณคิดว่าตัวเองจะเป็นแบบนี้ตลอด ไปแล้ว ทุกๆวันขายแพนเค้ก สองสามปีแต่งงาน มี ลูกชาย ได้แพลนชีวิตอย่างชัดเจนแล้ว

ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป ในบ่ายที่ฝนตกพรําๆ วันนั้น เขาเก็บร้านเตรียมตัวกลับ ผ่านไปยังซอยหนึ่ง เห็น วัยนุ่นกำลังแย่งกระเป๋าของผู้หญิงคนหนึ่งอยู่

เขารีบเข้าไปในซอยนั้น แล้วรีบวิ่งตามวัยรุ่นสอง

คนนั้น
ธฤตญาณผู้แข็งแกร่ง ร่างกายแข็งแรง และเป็น ช่วงอายุที่มีกำลังมากพอดี แป๊ปเดียวก็สามารถวิ่ง ตามสองคนที่แย่งกระเป๋าไปได้ทัน

ทั้งสองแห่งธฤตญาณไล่ตามไม่หยุด และคิดว่า พวกเขามีกันสอง เลยหยุดและต่อสู้กับธฤตญาณ

ธฤตญาณใช้พละกำลังอันแข็งแกร่งของตนเอง ทำให้สองคนนั้นวิ่งหนีไปในที่สุด แน่นอนว่าเขาก็ถู ต่อยจนฟกช้าคําเขียวเช่นกัน

ดีตรงที่เขาเอากระเป๋ากลับมาได้ แล้วยังให้ผู้หญิง คนนั้นอีกด้วย

ได้ยินธฤตญาณพูด ดังนั้นเขาจึงช่วยอารียาไล่ ตามคนที่แย่งกระเป๋าไป เพราะนึกถึงเรื่องราวในปี นั้นพอดี

ผู้หญิงรู้สึกซาบซึ้งใจต่อธฤตญาณ แล้วเห็นเขา โดนต่อยจนฟกช้ำดำเขียว ก็รู้สึกผิด จึงพยายามที่ จะทําแผลให้กับธฤตญาณ

ในขณะที่ทำแผลอยู่นั้น ธฤตญาณเห็นว่าผู้หญิงคน นี้สวยและอบอุ่น ทำให้เขาหลงรักผู้หญิงคนนี้เข้าอย่างจัง

ผู้หญิงก็มีความรู้สึกดีๆ ให้กับธฤตญาณอย่างมาก หลังจากวันนั้น ก็ได้มาซื้อแพนเค้กที่ธฤตญาณบ่อย ครั้ง

ธฤตญาณอยากให้ผู้หญิงได้กินแพนเค้กที่อร่อย ก็ได้พยายามฝึกฝนอย่างมาก จนสุดท้ายร้านของ เขาเป็นร้านหนึ่งที่อร่อยที่สุดของเมืองกรีนโคล

ไปๆมาๆ ธฤตญาณได้บอกความในใจต่อผู้หญิง ผู้ หญิงตอบรับ ทั้งคู่จึงคบกันเป็นแฟน แล้วสัญญาว่า จะอยู่ด้วยกันตลอดไป

แต่ทว่าเวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ ผ่านไปไม่นาน ธฤตญาณพบว่าผู้หญิงเป็นคุณหนู ของตระกูลใหญ่ของเมืองกรีนโคล ชื่อบุญสิตา

ตระกูลรัตนชัยนันท์ของบุญสิตา ในเมืองกรีนโคล ถือว่ามีหน้ามีตาอยู่บ้าง ใกล้เคียงกับตระกูลสิริวิ บูรณ์ของเมืองริเวอร์

นายหญิงที่กุมอำนาจของตระกูลรัตนชัยนันท์เป็น คนที่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว คิดว่าการที่มีลูกผู้หญิง นอนาคตก็ต้องไปรับใช้บ้านคน อื่น ดังนั้นสถานะขอบุญสตาในตระกูลรัตนชัยนันท์ ไม่สำคัญมากนัก มักจะถูกน้องชายเธอฆนาคมรังแก อยู่เสมอ

ตอนนั้นความรักของธฤตญาณและบุญสิตาถูกคุณ หญิงฝนทิพย์รู้เข้า บุญสิตาโดนตบทันที แล้วตั้งกฎ ว่าต่อจากนี้ไปห้ามบุญสิตาเจอกับธฤตญาณอีกต่อ ไป

ธฤตญาณเป็นแค่คนที่ขายแพนเค้ก ตระกูลรัตน ชัยนันท์ไม่ชอบอยู่แล้ว และนายหญิงฝนทิพย์กำลัง รอให้บุญสิตาแต่งงานกับคนของตระกูลใหญ่อยู่ ด้วย นี่ถึงจะช่วยยกระดับตระกูลรัตนชัยนันท์ได้

ธฤตญาณและบุญสิตาไม่เห็นด้วยกับคุณหญิง ฝนทิพย์อย่างมากที่มาขัดขวางความรักของทั้งคู่ 5 ฤตญาณช่วยบุญสิตาหนีออกจากบ้าน แล้วยังหยิบ ทะเบียนบ้านออกมาด้วย ทั้งสองจดทะเบียนสมรส ด้วยกัน

หลังจากที่นายหญิงฝนทิพย์รู้ว่าบุญสิตาแอบจด ทะเบียนสมรสกับธฤตญาณ ก็โมโหอย่างเกรี้ยว กราด ให้คนไปจับทั้งคู่มา ทุบตีจนเกือบตาย
ธฤตญาณจิตใจไม่สงบ เขาไม่เข้าใจว่าทําไมคุณ หญิงฝนทิพย์ต้องรุนแรงกับบุญสิตาด้วย จึงได้บอก กับตัวเองว่าจะต้องทำให้บุญสิตามีความสุขให้ได้

แต่ทว่าตระกูลรัตนชัยนันท์เยาะเย้ยกับความคิด ของเขา ในสายตาของคนตระกูลรัตนชัยนันท์ เขาก็ เป็นแค่คนขายแพนเค้กเท่านั้น

วันนั้นเขาถูกโยนออกจากประตูของตระกูลรัตนชัย นันท์ ใบทะเบียนสมรสของเขาและบุญสิตาถูกคน เหยียบย่ำกับพื้น นายหญิงฝนทิพย์พูดกับเขาว่า รอ ที่เขามีฐานะทัดเทียมกับตระกูลรัตนชัยนันท์เมื่อไหร่ ถึงค่อยให้บุญสิตาไปกับเขา

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ธฤตญาณตัดสินใจ สาบาน ว่าจะต้องรับบุญสิตาออกมาจากตระกูลรัตนชัยนันท์ ให้ได้

ผู้ชายที่ทำเพื่อผู้หญิงที่ตนเองรักสามารถทำให้ร้าน แพนเค้กของตนเองกลายเป็นร้านที่อร่อยที่สุด ต้อง ยืนหยัดมากมายเท่าไหร่ คิดไม่ออกเลยจริงๆ

จากความพยายามไม่กี่ปี ธฤตญาณใช้ความ สามารถของตัวเอง ก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาในเมืองกรีนโคล วัยรุ่นที่ขายแพนเค้กในวันนั้น จะเปลี่ยนเป็น

ลูกพี่ที่ทุกคนต่างให้ความเคารพ

ในวันที่เขากุมอำนาจของเมืองกรีนโคลไว้นั้น เขา ได้พาลูกน้องกลุ่มหนึ่ง ไปที่ตระกูลรัตนชัยนันท์ เขา ได้พาบุญสิตาออกไป ต่อหน้าต่อหน้าของทุกคนใน ตระกูลรัตนชัยนันท์

ในตอนนั้นธฤตญาณได้เป็นราชาปฐพีแห่งเมืองก รีนโคลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อำนาจทั้งหมด ไม่น้อย ไปกว่าตระกูลไหนเลย ในสายตาของธฤตญาณ ตระกูลรัตนชัยนันท์ไม่ได้มีค่าใดๆเลย

เขาคิดว่าหลังจากที่ตนเองได้อยู่ในจุดสูงสุดแล้ว นั้น ตระกูลรัตนชัยนันท์จะเคารพเขา ให้บุญสิตา แต่งงานกับเขาได้อย่างสง่าผ่าเผย แต่ทว่าเขารู้จัก ตระกูลรัตนชัยนันท์น้อยไป

ต่อหน้านั้นตระกูลรัตนชัยนันท์ก็ตกลงดีเรื่องการ แต่งงานของบุญสิตาและธฤตญาณ แต่นายหญิงฝน ทิพย์เอาบุญสิตามาบีบธฤตญาณ ให้ธฤตญาณเอา นาคมไว้ข้างกาย และสถานะของฆนาคมจะต้อง เท่าเทียมกับธฤตญาณอีกด้วย
ในสายตาของท่านหญิงฝนทิพย์ ฆนาคมคือความ หวังของตระกูลรัตนชัยนันท์ แม้ธฤตญาณจะ เก่งกาจขนาดไหน ก็เป็นเพียงคนนอก ในเมื่อธฤต ญาณได้ปต่งงานกับบุญสิตาแล้ว เธอก็จะใช้ความ สัมพันธ์นี้ ให้ฆนาคมมีความเจริญก้าวหน้าขึ้น

เพื่อบุญสิตา ธฤตญาณจึงยอม จัดให้ฆนาคมอยู่ ข้างกายของตน เขาคิดว่าไม่ว่าจะยังไงตนเองก็คือ เขยของฆนาคม แม้ต้องแบ่งอำนาจจากตนไปบ้าง ก็ ไม่เป็นไร

แต่สิ่งที่ทําให้เขาคาดไม่ถึงคือ ในขณะที่ฆนาคมอ ยู่ข้างกายตนนั้น ท่านหญิงในทิพย์ได้สอนให้เขาหา พวกพ้อง คิดหาวิธีที่จะแยกลูกน้องของธฤตญาณ และของตนออกจากกัน เพื่อเตรียมพร้อมว่าสักวันจะ สามารถแย่งอำนาจของธฤตญาณได้

หลังจากที่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขหลายปี การเตรียม การของท่านหญิงฝนทิพย์และฆนาคมได้พร้อมแล้ว ในวันที่ธฤตญาณทําลายล้างคนที่เป็นศัตรูกับเขาคน สุดท้ายของเมืองกรีนโคลนั้น ท่านหญิงฝนทิพย์ให้ คนจับบุญสิตาไว้ แล้วให้คนไปตามฆ่าธฤตญาณ

ในขณะนี้ฆนาคมได้เอาลูกน้องเกือบครึ่งของธฤตญาณมาเป็นพวกของตัวเองแล้ว เขาโกหกทุกคนว่า ธฤตญาณไม่ได้คิดว่าพวกเขาเป็นพี่น้องเลยแม้แต่ น้อย เมื่อธฤตญาณมีโอกาสขึ้นเป็นคนของสังคม เมื่อไหร่ ก็จะไม่เอาพี่น้องที่ต่อสู้ร่วมกันมาเหล่านี้อีก ต่อไป

ทุกคนหลงในคารมของฆนาคม แม้รู้ว่าธฤตถูกไล่ ฆ่า ก็มิได้คิดที่จะช่วยแต่อย่างใด

ฆนาคมพาพวกพ้องของตนไปไล่ฆ่าธฤตญาณ ใน ตอนนี้ธฤตญาณมีโอกาสได้พูดกับลูกน้องให้เข้าใจ ให้พวกเขาช่วยตนต่อกร

แต่ทว่าบุญสิตาอยู่ในกำมือของท่านหญิงฝนทิพย์ เพียงแค่ธฤตญาณกล้าทำอย่างนั้น ท่านหญิงฝน ทิพย์ก็จะฆ่าบุญสิตาซะ ในสายตาของท่านหญิงฝน ทิพย์ บุญสิตาไม่ถือเป็นหลานสาวของเธอ มีแค่ขนา คมเท่านั้น ที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลรัตนชัย นันท์

ฆนาคมได้บอกธฤตญาณ เพียงแค่เขาไม่โต้ตอบ ก็ จะไว้ชีวิตบุญสิตา ให้เธอมีชีวิตได้อย่างสงบสุขต่อ ไป
ธฤตญาณโดนบีบจนไร้ซึ่งทางออก ทำได้เพียงหนึ่ นาคมคิดว่าธาตญาณต้องตายสถานเดียว จึงได้ จัดลูกน้องไปไล่ฆ่าธฤตญาณ

รฤตญาณลงมือฆ่า คนที่ฆ่าเขาทุกคน จนสุดท้าย ตัวเขาเองก็ไม่มีแรงเหลือ ได้นั่งรถบรรทุกหนีไปที่ เมืองริเวอร์

ฆนาคมรู้ว่าธฤตญาณยังไม่ตาย แต่ได้ประเมิน จากสถานการณ์ของเขาแล้ว น่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีก ไม่นาน ดังนั้นจึงได้ป่าวประกาศว่าธฤตญาณเสีย ชีวิตแล้ว

แล้วเขาได้จัดคนกลุ่มหนึ่งสืบเกี่ยวกับธฤตญาณ เขามองว่า ในสถานการณ์แบบนี้ ธฤตญาณจะอยู่ หรือตายก็ไม่สำคัญอีกแล้ว

หลังจากได้ฟังธฤตญาณเล่าจบแล้วนั้น รพีพงษ์ตบ ไหล่เขา แสดงความเข้าใจออกมา พวกเขาทั้งคู่มีสิ่ง ที่คล้ายกันอยู่ แต่เห็นได้ชัดเจนว่าธฤตญาณแย่กว่า รพีพงษ์

ทําชื่อเสียงมาอย่างยากลำบาก แต่กลับโดนคน แย่งไปเสียอย่างนั้น ธฤตญาณอดทนมาได้ขนาดนี้ถึงว่าสุดยอดมาก

“ก้าอย่างนั้น ตอนนี้คนที่รับช่วงอำนาจต่อในเมือ งกรีนโคล ก็คือบุญสิตา แต่เธอเป็นเพียงหุ่นเชิดที่ ตระกูลรัตนชัยนันท์สร้างขึ้นมาเท่านั้น ถึงเวลานั้น ถ้ามีปัญหาอะไร บุญสิตาก็ต้องรับหน้า แต่ฆนาคม ไม่ต้องทำอะไรเลย ถ้าเป็นแบบนี้คนนอกจะคิดได้ว่า บุญสิตาแย่งตำแหน่งของแกมา ลงมือทําร้ายแห แต่ ไม่มีทางสงสัยไปทีฆนาคม ตระกูลรัตนชัยนนท์ทำ แบบนี้ถือว่าร้ายกาจมากจริงๆ” รพีพงษ์กล่าว

ในสายตาของธฤตญาณเต็มไปด้วยความแค้น แล้วกล่าว “ความจริงฉันคิดว่าพวกเขาจะทำตามที่ พูด ให้บุญสิตาใช้ชีวิตที่เหลืออย่างสงบ ดังนั้นจึงไม่ ได้ใส่ใจสถานการณ์ของเมืองกรีนโคลอีก ไม่คาด คิดว่าพวกเขาจะไร้ซึ่งความรู้สึก ได้รับในสิ่งที่ตัวเอง ต้องการแล้ว ยังจะให้บุญสิตามาเป็นหุ่นเชิดอีก แลดู แล้วฉันมันไร้เดียงสาจริงๆ

รพีพงษ์จ้องไปที่ธฤตญาณ แล้วถาม “งั้นตอนนี้ฉัน ให้แกล้างแค้น แกจะทําไหม?”

ธฤตญาณหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าว “ถ้ามีโอกาส ครั้งนี้ฉันจะไม่มีทางไว้หน้าตระกูลรัตนชัยนันท์อีกเป็นอันขาด พวกเขาไม่มองว่าบุญสิตาก็เป็นคน เหมือนกัน ฉันก็ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าอะไรอีก เพียง แค่สามารถช่วยบุญสิตาได้ ฉันก็พร้อมที่จะแลก!”

“ดี! ตามงั้น ฉันจะช่วยแกฆ่าคนของตระกูลรัตน ชัยนันท์ให้หมด แล้วเอาสิ่งที่เป็นของแกกลับคืนมา ทั้งหมด!”รพีพงษ์พูดอย่างฮึกเหิม


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ