แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่ 43 เจตนิพัทธ์



บทที่ 43 เจตนิพัทธ์

หา? นี่ไม่ดีมั้ง เพราะงั้นอย่าไปเลยนะ” อารียาพูด พลางจ้องไปที่ บุษบากร

ปดีกัน เขาบอกว่าเขาจองสถานที่เอาไว้ แล้ว แม้ว่าเธอจะไม่อยากไป แต่เห็นแก่ปากตะกละ นี้ของฉัน เธอก็ไปด้วยกันเถอะนะ กินอาหารอร่อยๆ ฟรีๆ ทำไมไม่ไป” บุษบากรเขย่าแขนของอารียา

อารียามอง บุษบากรด้วยสีหน้าอับจนหนทาง เธอ สำหรับเพื่อนสนิทของตัวเองคนนี้ไม่มีทางเลือกเลย แม้แต่น้อย

“ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้หัวหน้าห้องรวมๆแล้วก็ดีซะ ขนาดนั้น แถมยังคิดถึงเธอไม่รู้ลืม เธอไปเจอเขาสัก ครั้งอาจจะสปาร์คกันขึ้นมาก็ได้นะ” บุษบากรพูดกลั้ว หัวเราะ
“ฉันแต่งงานแล้ว” อารียาพูดอย่างเด็ดเดี่ยว ในเรื่อง นี้ เธอไม่มีความคิดเป็นอื่น

“แต่งงานแล้วยังไงล่ะ รพีพงษ์สวะคนนั้น อะไรล้วน ให้ไม่ได้ ตอนนี้ย่าเธอไม่อยู่แล้ว เธอจะมาทนผูกมัด ตัวเองอยู่กับเขาทำไม” บุษบากรพูดอย่างไม่เข้าใจ

“เอาล่ะ เธอไม่ต้องพูดแล้ว ฉันไปกินข้าวก็ได้ แต่ เรื่องนี้ เธอห้ามพูดถึงอีก” อารียาเปิดปากพูด

บุษบากรก็หมดหนทางเช่นกัน เธอจริงๆก็แค่เห็น แก่อารียาพูดถึงว่าสุดท้ายแล้วสำหรับผู้หญิง ได้ แต่งงานกับผู้ชายแบบไหน ย่อมเป็นตัวตัดสินระดับ ความสุขในอนาคตของเธอ

บุษบากรไม่คิดว่า รพีพงษ์จะหาความสุขอะไรมาให้ อารียาได้ แน่นอนว่า มันเป็นเพียงสิ่งที่เธอคิดเท่านั้น

ขณะที่ทั้งสองคนกำลังคุยกันว่าจะไปเมื่อไหร่ รพี พงษ์ก็กลับมาจากการซื้อกับข้าวข้างนอก เมื่อบุษบากรเห็นเขาจู่ๆก็เต็มไปด้วยความไม่ชอบขี้หน้า

รพงษได้พบบุษบากรที่นี่ ก็ไม่แปลกใจมากนัก วัน นี้เขาอารมณ์ไม่เลว เพราะตอนที่ไปซื้อกับข้าวเธียร วิชญ่ให้คนมอบนาฬิกาคู่หนึ่งให้เขา

โมเดลคู่รักรุ่นใหม่ของวาเชอรองคอนแสตนติน สมือประณต รูปลักษณ์ภายนอกเรียบง่ายและสง่า งาม ราคารวมสามแสนแปดหมื่นหยวน ซึ่ง รพีพงษ์ ยังชอบมากๆอีกด้วย

และที่สำคัญที่สุดก็คือ เมื่อคิดว่าจะได้ใส่นาฬิกาคู่ กับ อารียา เขาก็มีความสุขมาก

เดิมที่เขาอยากจะมอบนาฬิกาให้ อารียาโดยตรง แต่เมื่อเห็นว่า บุษบากรอยู่ที่นี่ จึงไม่ได้หยิบมันออก

มา

เมื่ออารียาเห็นรพีพงษ์กลับมา จึงพูดกับบุษบากร ว่า “ฉันไปกินข้าวด้วยกันกับเธอก็ได้ แต่ฉันจะพารพี พงษ์ไปด้วย”
บุษบากรตาโต เปิดปากพูดว่า “เธอจะบ้าเหรอ ไป กินข้าวกับหัวหน้าห้อง เธอจะพารฟัพงษ์ไปด้วยเนี่ย นะ?”

“ตกลงตามนั้น ฉันจะไปเก็บของ เธอรอฉันอยู่ที่นี่ แป็บนะ ” อารียาลุกขึ้นยืนทันทีโดยไม่ลังเลอีก

เธอมอง รพีพงษ์และเปิดปากพูดว่า “ตามฉันไปกิน ข้าวด้วยกันนะ

รพีพงษ์พยักหน้า คำขอทุกอย่างของอารียา เขา ล้วนเห็นควร

บุษบากรมองรพีพงษ์แวบหนึ่ง ภายในใจรู้สึกเสียใจ กับ อารียา ผู้ชายคนนี้ที่กินแต่ข้าวนิ่ม ไม่มีคุณสมบัติ ที่จะเปรียบเทียบกับหัวหน้าห้องของพวกเขาเลยด้วย ซ้ำ

ไม่นานนัก อารียาก็เก็บของเสร็จ ทั้งสามคนจึงออก จากบ้านไปพร้อมกัน
รัฐพงษ์ยังได้รู้ว่า นี่คือพวกเขาจะไปกินข้าวด้วยกัน กับหัวหน้าห้องสมัยมหาวิทยาลัยของ อารียา

เขาได้ยิน อารียาพูดถึงหัวหน้าห้องคนนี้ ว่าเมื่อ ก่อนตอนที่อารียาอยู่มหาวิทยาลัย หัวหน้าห้องยัง ไล่ตามจีบเธอ

ตอนนหวหน้าห้องคนนี้จู่ๆก็อยากจะเชิญอารียาไป กินข้าว ไม่ต้องเดา รพีพงษ์ก็รู้หมดแล้วว่าอีกฝ่ายคิด อะไร

ดังนั้นเมื่อเห็นว่าอารียาอยากจะพาเขาไปด้วย รพีพงษ์ภายในใจก็รู้สึกหวั่นไหวเป็นอย่างมาก นี่ หมายความว่า ในใจของอารียาถือว่าเขาเป็นอีกครึ่ง หนึ่งแล้ว

ด้วยเหตุนี้ งั้นอีกเดี๋ยวเมื่ออยู่ต่อหน้าหัวหน้าห้อง คนนั้น จะมอบนาฬิกาให้อารียาเขาต้องทำให้คน เหล่านี้ตระหนักว่า อารียา เป็นผู้หญิงของเขา

“อีกเดี๋ยวที่จะไปพบ เป็นหัวหน้าห้องของพวกเราตอนอยู่มหาวิทยาลัย ตอนนี้คนเขาเป็นผู้จัดการ สาขาของ บริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปเดี๋ยวพอคุณเห็นคน เขาแล้ว ก็พูดตรงๆได้เลย ได้ยินแล้วนะ” บุษบากร จ้อง รพีพงษ์พลางพูดประโยคหนึ่ง

“โอ้ เข้าใจแล้ว” รพีพงษ์ดอบ

คิดไมถึงวาหัวหน้าห้องคนนี้จริงๆแล้วยังเป็นผู้ จัดการสาขาของบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปอีกด้วย ชักจะ น่าสนุกแล้วสิ

รพีพงษ์หัวเราะขึ้นมา บุษบากรเกรงว่าต่อให้คิดจน หัวแทบแตก ก็คงไม่อาจเข้าใจว่ารพีพงษ์หัวเราะ ทำไม

เมื่อทั้งสามคนมาถึงนอกชุมชน ก็เรียกแท็กซี่ไปยัง สถานที่แห่งนั้นที่หัวหน้าห้องจองไว้

ในภัตตาคารสปริงแยงซีเจตนิพัทธ์กำลังนั่งรออยู่ที่โต๊ะ

เขาในมือถือกล่องนาฬิกากล่องหนึ่งที่บรรจุอย่าง สวยงาม ภายในบรรจุนาฬิกาข้อมือสตรีที่สวยหรู เรือนหนึ่ง

บัลลอง เบลอ เดอ คาร์เทียร์ มูลค่ามากกว่าสี่หมื่น หยวน เงินเดือนหนึ่งเดือนของเจตนิพัทธ์ถูกใช้จน เกลี้ยง

เขาซื้อนาฬิกาเรือนนี้ ย่อมมอบให้ อารียาเป็น ธรรมดา

เขารู้ว่า อารียาแต่งงานแล้ว แต่ชื่อเสียงของ รพี พงษ์ไม่มีใครในเมืองริเวอร์ที่ไม่รู้ เจตนิพัทธ์ย่อมรู้ เป็นธรรมดาว่า รพีพงษ์เป็นแค่สวะ

เขาผ่านคนรู้จัก ยังได้รู้ว่า ตอนแรกที่อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เป็นเพราะฟังคำสั่งของหญิงชรา ตระกูลฉัตรมงคลตอนนี้หญิงชราไม่อยู่แล้ว อารียา สามารถหย่าขาดกับ รพีพงษ์ได้
เจตนิพัทธ์ชัดเจนเป็นอย่างมากถึงความปรารถนา ของผู้หญิงที่มีต่อวัตถุ และ อารียาที่แต่งงานกับ รพี พงษ์หลายปีมานี้ ก็ไม่ดีนัก

และตอนนี้เขาก็เป็นผู้จัดการสาขาๆหนึ่งภายใต้ บริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปมีรายได้ทั้งหมดต่อปีหลาย แสนหยวน ระดับนี้ในบรรดาเพื่อนร่วมชั้นเหล่านั้น ของเขา ก็นับว่าเป็นอันดับต้นๆแล้ว

ดังนั้นเขาจึงมีความมั่นใจเป็นอย่างมากว่า เมื่อเขา มอบนาฬิกาเรือนนี้ให้อารียา อารียาจะเข้าใจความ หมายของเขา เมื่อถึงเวลาทั้งสองคนก็จะสปาร์คกัน อย่างง่ายดาย แล้วเขาก็จะได้ อารียามาไว้ในมือ

“รพีพงษ์สวะคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ มีคุณสมบัติ อะไรมาเทียบกับฉัน อารียาไม่ช้าก็เร็วล้วนต้องเป็น ของฉัน”

เจตนิพัทธ์หัวเราะเยาะอยู่ในใจ ไม่เห็นรพีพงษ์อยู่ ในสายตาอย่างสิ้นเชิง
ผ่านไปไม่นานนัก รพีพงษ์ทั้งสามคนก็มาถึง ภัตตาคารสปริงแยงซีแล้ว พวกเขาสามคนเดินเข้าไป ด้วยกัน และ บุษบากรก็เห็น เจตนิพัทธ์ที่อยู่ตรงนั้น อย่างรวดเร็ว

เธอจึงโบกมือให้ เจตนิพัทธ์ แล้วพาอารียาเดินผ่าน

ไปทางนั้น

“หัวหน้าห้อง ให้คุณรอนานแล้ว” บุษบากรเอ่ยปาก พลางยิ้ม

ไม่หรอก วันนี้ฉันไม่มีอะไรทำ ได้รอพวกคุณเป็น เกียรติของผม ” เจตนิพัทธ์พูดด้วยรอยยิ้ม

อารียาพยักหน้าอย่างมีมารยาทให้เจตนิพัทธ์ และ กล่าวว่า ไม่เจอกันนานนะ

เจตนิพัทธ์ ก็พยักหน้าเช่นกัน จากนั้นสายตาก็ ตกลงที่ร่างของ รพีพงษ์

“นี่คือ? ” เจตนิพัทธ์เปิดปากถาม
“นั่นคือ รพิพงษ์คุณต้องเคยได้ถ้าแน่เดิมที่ฉันก็ ไม่ได้อยากให้เขามา แต่ แคลร์ ยืนกรานว่าจะให้เขา มาด้วย” โดยไม่รอให้อารียาเช็ดปาก บุษกรก็ชิง พูดประโยคหนึ่งแล้ว

เจตนิพัทธ์ตกตะลึง คิดไม่ถึงจริงๆว่าอารียาจะพารพี พงษ์มาด้วย

แต่เขาก็ไม่ได้แสดงท่าที่รังเกียจมากนัก เพียงแค่ ยื่นมือข้างหนึ่งไปทางรพิพงษ์

“สวัสดีครับ รพีพงษ์ใช่ไหม ผมชื่อเจตนิพัทธ์ เคย ได้ยินกิตติศัพท์ของคุณใน เมืองริเวอร์มานานแล้ว นี่ เป็นครั้งแรกที่ได้พบกัน โชคดีที่ได้พบ

คำพูดของเจตนิพัทธ์ ภายในเต็มไปด้วยความ ประชดประชัน มุมปากยังยกโค้งอย่างเย้ยหยันครา หนึ่ง

รพงษ์ยื่นมือออกมาอย่างใจเย็น จับกับเจตนิพัทธ์ ครูหนึ่ง พูดแค่สองคำเรียนง่ายว่า สวัสดี”
เจตนิพัทธ์หัวเราะเยาะอยู่ในใจ คิดในใจว่าคน อื่นๆต่างก็บอกว่ารพีพงษ์เป็นไข่นุ่ม ตอนนี้เขาลอง ทดสอบดูสักหน่อยก็คงดี

ช่วงนี้เขาออกกำลังกายตลอด กำลังแขนเทียบได้ กับคนทั่วไปถึงสองคน

ระหว่างทเขาจับมือของรพีพงษ์ก็บีบแน่นทันที คิด จะให้ รพีพงษ์กล้ำกลืนความทรมานสักหน่อย

แต่ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็คือ ในชั่วขณะที่เขาบีบรพี พงษ์ก็ออกแรงตอบกลับมาบนมืออย่างทรงพลัง บีบ มือของเขาจนแน่นขึ้นแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ