แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่ 394 กลับตัวเป็นคนดี



บทที่ 394 กลับตัวเป็นคนดี

บทที่ 394 กลับตัวเป็นคนดี

บุณณดาเปิดประตูออก เห็นด้านนอกประตูกลุ่มคนของพวก ไอ้หัวล้าน ในใจก็กลัวเล็กน้อย ถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่ได้ ตั้งใจ

“ทั้งๆ ที่พวกคุณผิดนัดค่าเช่าที่ค้างฉัน ฉันไปแจ้งลุงตำรวจ ผิดด้วยเหรอ พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมากดขี่ข่มเหง ไม่จ่ายเงินยัง จะอ้างเหตุผล” แม้จะกลัว แต่บุณณดาก็ยังรวบรวมความกล้า ตะโกนไปที่ไอ้หัวล้าน

ไอ้หัวล้านและลูกน้องพวกนั้นของเขาหัวเราะ ราวกับว่าคำ พูดของบุณณดาเป็นเรื่องตลก

“เธอไม่รู้หรือไงว่าลูกพี่ของพวกเราร้ายกาจขนาดไหน เธอ มาพูดเหตุผลกับเราที่นี่ ไม่คิดว่าก็เป็นเรื่องตลกไง? ”

“ในเขตเมืองเก่า ใครก็ต้องเกียรติลูกพี่ของเรา เช่าบ้านของ เธอถือเป็นเกียรติของเธอ เธอยังกล้าขอเงินจากลูกพี่ของเรา อีก”

“ฉันขอเตือนให้เธอรีบเอาเงินออกมาเล็กๆ น้อยๆ เพื่อแสดง ความกตัญญูกับลูกพี่เรา ไม่อย่างงั้นต่อไปที่เขตเมืองเก่า เธอก็อย่างหวังว่าจะได้ปล่อยเช่า”

บุณณดาได้ยินสิ่งที่ลูกน้องไอ้หัวล้านพูด ในใจก็ยิ่งโกรธ คิด ไม่ถึงว่าคนพวกนี้จะหน้าด้านขนาดนี้ ยังอยากให้ตัวเองเอา เงินให้เงินให้พวกเขาอีก

“พวกคุณเช่าบ้านของฉันยังจะขอเงินกับฉัน พวกคุณทําเกิน ไปจริงๆ ! ” ปุณณดาพูดตะโกนใส่ไอ้หัวล้าน

“ทำเกินไป? คิดว่าเธอ…… ไอ้หัวล้านเผยรอยยิ้มที่เลวทราม บนใบหน้า

เวลานี้รพีพงษ์เดินมาถึงที่หน้าประตู หลังจากไอ้หัวล้านเห็น รพีพงษ์รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาหยุดลงทันที

บัดซบ! ทำไมเขาเดินออกมาจากข้างใน

หรือว่าเขามีความสัมพันธ์เจ้าของบ้านเช่าสาวคนนี้ ไม่ว่าจะ เป็นความสัมพันธ์แบบไหน ก็ต้องไม่ใช่ความสัมพันธ์ธรรมดา แน่นอน
คนคนนี้แม้แต่หมี ก็ยังไม่กล้ามีเรื่องด้วย เมื่อวานที่KTV หมี ได้พูดกับเขาชัดเจนแล้ว บอกเขาอย่าหาเรื่องคนคนนี้ ไม่อย่างงั้นจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองตายยังไง

เดิมทีเขาคิดว่าผู้มีอิทธิพลคนนี้มาที่นี่เมื่อวานนี้ก็แค่มีเรื่องมา หาเทพยางศ์ และวันนี้เขาก็ไม่ได้หาเรื่องเทพยางศ์ แต่เปลี่ยน มารังแกเจ้าของบ้านเช่าสาว คิดไม่ถึงว่าจะเจอผู้มีอิทธิพลคนนี้ อีกแล้ว

ยังไม่พูดถึงคำพูดที่หมีดำเตือนเหล่านั้น คนตรงหน้าคนนี้ จัดการพวกเขาทั้งหมดได้ด้วยตัวคนเดียว ลูกน้องที่มากับ เมื่อวานตอนนี้ยังนอนอยู่บนเตียงอยู่เลย มีแค่เขาที่มีความ ต้านทานของกระดูก ไม่เป็นไร

รพีพงษ์คิดไม่ถึงว่าจะเป็นไอ้หัวล้านที่มาสร้างปัญหาให้กับ บุณณดา ดูว่าทั่วทั้งเขตเมืองเก่า ไอ้หัวล้านคนนี้ก็คือว่าเป็นคน คึกคะนอง

ไอ้หัวล้านจ้องมองรพีพงษ์และกลืนน้าลาย คําพูดติดอยู่ใน ปากก็หยุดลง จากนั้นก็รีบพูดขึ้น: “เธอพูดถูกมาก พวกเราทำ แบบนี้มันเกินไปหน่อยจริงๆ แม้แต่ฉันเองก็ยังรู้สึกเกรงใจเลย

บุณณดาตะลึงทันที เดิมทีเธอคิดว่าไอ้หัวล้านจะพูดอะไรที่โหดร้าย คิดไม่ถึงว่าจะกลับกลายเป็นยอมรับผิด

ลูกน้องหลายคนของไอ้หัวล้านต่างก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไร ขึ้น พวกเขาไม่ใช่คนที่มากับไอ้หัวล้านเมื่อวานนี้ ไม่มีใครรู้ถึง ความร้ายกาจของคนตรงหน้า

“ลูกพี่ ลูกพี่จะเกรงใจมันทําไม ในเขตเมืองเก่า ต่อให้เราทํา เกินไปมากแค่ไหน คนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์มาว่า” ลูกน้องข้างกายคน หนึ่งของไอ้หัวล้านพูด

ไอ้หัวล้านกระทืบไปที่เขาโดยตรง ด่า: “แม่งไสหัวไปเดี๋ยวนี้ แกไม่มีสิทธิ์อะไรมาพูดที่นี่ ถ้าแกยังกล้าพูดอะไรมั่วชั่วแม้แต่ คําเดียว ฉันจะเย็บปากแก!”

เมื่อลูกน้องคนอื่นเห็นจู่ๆ ไอ้หัวล้านก็โมโห แม้ไม่รู้ว่าเป็น อะไร แต่ก็ต่างไม่กล้าพูดอะไรมั่ว ว

ไอ้หัวล้านสั่งสอนลูกน้องตัวเองเสร็จ หันกลับไปมองรพีพงษ์ และบุณณดาทั้งสองอีกครั้ง ใบหน้าเผยรอยยิ้มรู้สึกผิด

“ต้องขอโทษจริงๆ ลูกน้องของฉันลืมกินยาก่อนออกจากบ้าน พูดตามตรง จุดประสงค์ที่ฉันมาที่วันนี้ ก็จ่ายเงินค่าเช่าบ้านที่ ค้างไว้ให้เธอ ก่อนหน้านี้อุปนิสัยของฉันอาจจะแย่หน่อบ นั่น เป็นเพราะช่วงนั้นฉันเป็นบ้า หวังว่าเธอจะให้อภัยเธอวบอกมาค่าเช่าบ้านหลังหนึ่งเท่าไหร่ ฉันให้เธอเดี๋ยวนี้ เลย” ไอ้หัวล้านพูดกับบุณณดา

รพีพงษ์เห็นไอ้หัวล้านมีปฏิกิริยาแบบนี้ ในใจเดาว่าเขาน่า จะโทรหาหมี แล้ว รู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนที่มาหาเรื่องได้ง่าย ฉะนั้นหลังจากที่เจอตัว จึงรีบเปลี่ยนคำพูด

บุณณดามองไปที่ไอ้หัวล้านด้วยท่าทางตะลึง ในใจคิดว่า ทําไมจู่ๆ เขาถึงคิดจะจ่ายค่าเช่า? วันนั้นเขายังขู่ไม่ใช่เหรอว่า จะทําให้ตัวเองรู้ถึงความร้ายกาจของเขา?

หรือว่าจู่ๆ เขาก็รู้ถึงความผิดชอบชั่วดี ?

ในเวลานี้ บุณณดาสังเกตเห็นว่าไอ้หัวล้านชำเลืองมองไปที่ รพีพงษ์ ก็เหลือบมองตามไปทางรพีพงษ์ด้วย นึกขึ้นได้ว่าเมื่อ ก็ท่าทางของไอ้หัวล้านเปลี่ยนไปหลังจากที่รพีพงษ์ออกมา

หรือว่าไอ้หัวล้านกําลังกลัวรพีพงษ์?

ทันใดนั้นบุณณดาก็รู้สึกงงงวย รพีพงษ์นี่เป็นแค่คนที่ขนอิฐ ในไซต์งานก่อสร้างไม่ใช่เหรอ ทําไมไอ้หัวล้านต้องกลัวเขา ขนาดนี้?
“คุณมั่นใจว่าจะให้ค่าเช่ากับฉัน? ” ปุณณดายืนยันกับไอ้หัว ล้านอีกครั้ง

ไอ้หัวล้านพยักหน้าอย่างรวดเร็ว ด: “ใช่ๆๆ ไม่จ่ายค่าเช่าให้ เธอ กลางคืนฉันหลับไม่สนิทเลย ฉันตัดสินใจกลับตัวเป็นคน ดีแล้ว ต่อไปจะไม่ทําเรื่องหน้าไม่อายแบบนี้อีกแล้ว”

บุณณดากลอกตา พูดขึ้น: “คุณอยากจ่ายค่าเช่าบ้านให้ฉัน ก็ได้ แต่ก็ต้องมีสักเหตุผล คุณต้องบอกฉันก่อนว่าทำไมจู่ๆ คุณ ถึงเป็นแบบนี้

ไอ้หัวล้านมองไปที่รพีพงษ์อีกครั้ง เห็นรพีพงษ์สายตาให้ เขา รู้ทันทีว่ารพีพงษ์หมายถึงอะไร พูดขึ้น: “เมื่อวานฉันได้ รับคำแนะนำจากคนสูงศักดิ์ คนสูงศักดิ์คนนั้นทำให้ฉันเข้าใจ ถึงความหมายของการเป็นคน ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจกลับตัวเป็น คนดี”

“สาวน้อย ฉันให้ค่าเช่าบ้านเธอน่ะ ไม่ใช่เรื่องที่เป็นอันตราย ต่อเธอ ทําไมถึงกลายเป็นคนถามฉันกลับล่ะ

เห็นได้ชัดว่าปุณณดาไม่เชื่อคำพูดของไอ้หัวล้าน แต่เธอ มั่นใจ เรื่องนี้จะต้องเกี่ยวกับรพีพงษ์แน่นอน ในเมื่อคนตรง หน้าไม่ยอมพูด ตัวเองก็ไม่ควรถามมาก
เธอบอกยอดค่าเช่าบ้านที่ตัวเองควรได้รับกับไอ้หัวล้าน ไอ้ หัวล้านหยิบเงินออกมาโดยไม่ลังเล ให้กับบุณณดา

จากนั้นไอ้หัวล้านก็จากที่นี่ไปโดยไม่อยากอยู่ต่อนานอีก แม้แต่วินาทีเดียว ตอนที่จากไปแอบมองรพีพงษ์อยู่หลายครั้ง

ไอ้หัวล้านจากไปแล้ว บุณณดาก็โล่งใจ รู้สึกว่าเรื่องวันนี้ เหมือนเพ้อฝันไปหน่อย เธอหันไปมองรพีพงษ์ที่อยู่ข้างๆ ถาม: “คุณรู้จักกับไอ้หัวล้านคนนั้นใช่ไหม? ฉันรู้สึกว่าเขาให้ เงินอย่างง่ายดายขนาดนี้ เป็นเพราะคุณ

รพีพงษ์หัวเราะ พูด: “ผมก็ยืนอยู่ตรงนี้ตลอดไม่ได้พูดอะไร จะเป็นเพราะผมได้ยังไง ผมก็แค่คนขนอิฐ

บุณณดาคิดๆ ดูแล้วก็ใช่ แต่ถ้าลองคิดอีกมุมหนึ่ง รพีพงษ์ไม่ พูดอะไรก็ทำให้ไอ้หัวล้านกลัวขนาดนั้น ก็ยิ่งบ่งบอกถึงความ ร้ายกาจของเขา?

รพีพงษ์ไม่ได้อธิบายกับบุณณดา เมื่อเห็นว่าปัญหาดังกล่าวนี้ แก้ไขได้อย่างง่ายดาย ก็เดินตรงไปทางฝั่งเทพยางค์

เขาไปเคาะประตูอีกครั้ง เทพยางค์เดินมาถามว่าใคร เมื่อรพี พงษ์พูดขึ้น ก็มีเสียงดังมาจากข้างใน: “ไสหัวไป
รพีพงษ์ทำอะไรไม่ได้ จึงจ้องกลับไปที่บ้านเช่า

เวลาตอนบ่าย เทพยางศ์ออกไปครั้งหนึ่ง รพีพงษ์รีบตาม ไป แต่พบว่าเทพยางค์แค่ออกไปซื้อของที่เอาไว้สำหรับทำ อาหารเท่านั้น

เทพยางศ์พบว่ารพีพงษ์ตามเขา ยังพูดรพีพงษ์โดยเฉพาะ “นายตามฉันไม่มีประโยชน์ ฉันไม่มีวันบอกเรื่องอะไรทั้งนั้นกับ นายอยู่แล้ว”

กลางคืน พีรดาเลิกงานกลับมา บุณณดาลากเธอตรงเข้าไป ในห้องของตัวเอง

“เธอตื่นเต้นอะไรขนาดนี้ วันนี้ไอ้หัวล้านมาหาเรื่องเธอไหม? ” พีรดาเห็นท่าทีของบุณณดา เอ่ยถามขึ้น

“เรื่องที่ฉันจะพูดกับเธอก็คือเรื่องนี้ ไอ้หัวล้านนั่นไม่เพียงไม่ หาเรื่องฉัน ยังจ่ายค่าเช่าที่ติดค้างฉันอีกด้วย” บุณณดาพูด

พีรดาตะลึงทันที พูดขึ้นอย่างสงสัย: เป็นไปไม่ได้ ไอ้หัวล้าน นั่นเย่อหยิ่งมากไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงจ่ายค่าเช่าที่ค้างให้เธอ? บุณณดา เธอคงไม่ได้ไปตอบตกลงเมื่อไขบางอย่างของเขา เขาถึงจ่ายค่าเช่าให้เธอนะ?”
“เธอคิดอะไรอยู่ ไอ้หัวล้านจ่ายเงินค้างค่าเช่าบ้านให้ฉันแล้ว จริงๆ และวันนี้ตอนทีมา ท่าทางก็ยังสภาพมากด้วย ให้เงินฉัน เสร็จก็ไป” บุณณดาพูด

“ไม่น่าเป็นอย่างงั้นนะ ตามหลักแล้วไอ้หัวล้านไม่ใช่คนแบบนี้ เขามีแผนอะไรหรือเปล่า? ” พีรดาขมวดคิ้ว

“ไม่น่าจะใช่ ถ้าฉันเดาไม่ผิด ไอ้หัวล้านน่าจะกลัวรพีพงษ์” บุณณดาพูด

รพีพงษ์? ผู้ชายธรรมดาๆ ที่อยู่ข้างบนน่ะเหรอ? เป็นไปได้ ยังไง ไอ้หัวล้านกลัวผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่งได้ยังไงง ” พีรดา โต้กลับทันที

บุณณดาเล่าเรื่องทั้งหมดในวันนี้กับพีรดาฟัง พูดเรื่องที่ตัว เองรู้สึกสงสัยกับพีรดา

หลังจากที่พีรดาฟังแล้ว มีรอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏบนใบหน้า ทันที พูดขึ้น: “บุณณดา ฉันคิดว่าเธอคิดมากไปจริงๆ ไม่ว่าไอ้ หัวล้านจะกลัวใคร ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะกลัวผู้ชายธรรมดาคนนั้น ไม่แน่อาจเป็นเพราะเธอแจ้งคนที่สถานีตำรวจแล้ว เขาไปสั่ง สอนไอ้หัวล้านยกหนึ่ง ไอ้หัวล้านจึงมาจ่ายค่าค้างเช่าให้เธอ
บุณณดาฟังแล้วก็รู้สึกว่ามีเหตุผล แต่ท่าทางในวันนี้ไอ้หัว ล้าน เห็นได้ชัดว่าเปลี่ยนไปเพราะพีพงษ์ ไม่อย่างงั้นสายตา ที่เขามองไปที่รพีพงษ์จะแสดงออกถึงความกลัวอย่างชัดเจน ขนาดนั้นได้ยังไง

ช่างเถอะ ไม่คิดมากแล้ว ยังไงซะขอแค่ไม่เป็นไรก็พอ

“ปุณณดา อย่าคิดถึงผู้ชายธรรมดาชั้นบนเลย เขาไม่มีอะไร พิเศษ เธอคิดมากเกินไปเท่านั้น” พีรดานั่งลงข้างๆ ปุณณดา พูดด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้น: โรงพยาบาลของเราเปลี่ยนผู้อำนวย การใหม่ แม้ว่าอายุจะสี่สิบกว่าแล้ว แต่มีความเป็นผู้ชายมาก ฉันรู้สึกว่าตอนที่เขาเป็นหนุ่มต้องหล่อมากแน่ๆ ฉันจะบอกให้ ฉันตัดสินใจจะลงมือกับเขาแล้ว ดูท่าทีเขา เหมือนว่าจะสนใจ ฉันด้วยแหละ”

“ฉันว่าอาจเป็นเหตุผลเพราะเธอรู้สึกว่าผู้อำนวยการคนนั้น ตำแหน่งสูงมีอำนาจสินะ ในความคิดของฉัน คนเหล่านั้นที่โรง พยาบาล ทุกคนที่มีระดับตำแหน่งสูงกว่า ไม่มีสักคนที่ไม่หัว ล้าน ผู้อำนวยการของเธอคนนี้ก็ไม่น่ายกเว้น” บุณณดายิ้ม

พีรดาห์ทีหนึ่ง พูด: “เชอะ หัวล้านแล้วทำไม นี่สิถึงจะมีความ เป็นผู้ชาย ฉันไม่สนอยู่แล้ว ที่สำคัญคือเขามีเงินมีตำแหน่ง
ใบหน้าบุณณดาเต็มไปด้วยความเหนื่อยหน่าย กับเพื่อนรัก ของเธอคนนี้ เธอหมดหนทางแล้วจริงๆ

รพีพงษ์เฝ้าสังเกตดูบ้านของเทพยางค์ไปอีกสองวัน ไปเคาะ ประตูทุกวัน ตอนที่เทพยางศ์ออกไปก็ตามเขาไป แต่เทพยางค์ ไม่ได้สนใจเขาด้วยซ้ำ และยังด่าทุกครั้งอีกด้วย

วันนี้ช่วงเช้า รพีพงษ์นั่งอยู่ตรงหน้า หน้าต่าง จ้องมอง บ้านของเทพยางศ์ ในใจคิดลงไปก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องถาม ตำแหน่งของเทือกเขากิสนาจากปากของเทพยางศ์โดยเร็ว ที่สุด

ในเวลานี้ เทพยางค์เดินออกมา รพีพงษ์สังเกตเห็นว่าเขา เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่สะอาด จัดทรงผมด้วย หนวดเคราที่ ยุ่งเหยิงบนใบหน้าของเขาก็ถูกโกนจนเกลี้ยงเกลาเช่นกัน

เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ของเทพยางศ์ ในใจรพีพงษ์ ตื่นตระหนก รีบลุกขึ้นลงไปข้างล่าง

เทพยางศ์คนที่มอมแมมแบบนี้ รู้จักจัดการกับตัวเองด้วย นั่น หมายความว่าที่ที่เขาจะไปในวันนี้สำคัญมาก

และไม่รู้ว่าเทพยางศ์จะไปทำอะไร บางทีอาจจะหาโอกาส จากที่นี่ ทำให้เทพยางศ์พูดเรื่องเทือกเขากิสนาออกมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ