แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่ 333 เธอเป็นสมาชิกที่ขาดไม่ได้ในครอบครัวของเรา



บทที่ 333 เธอเป็นสมาชิกที่ขาดไม่ได้ในครอบครัวของเรา

บทที่ 333 เธอเป็นสมาชิกที่ขาดไม่ได้ในครอบครัวของเรา

หลังจากที่อารียาให้น้ำเกลือเสร็จ เธอก็ออกจากโรงพยาบาล พร้อมกับรพีพงษ์

จนกระทั่งมาถึงหน้าประตูโรงพยาบาล ในหัวของรพีพงษ์ตื้อ ไปหมด คำพูดของอารียายังวนเวียนอยู่ข้างหูเขา โดยเฉพาะ ลมหายใจร้อนของเธอที่เป่ารดใบหูของเขา ทำให้ฮอร์โมนใน ร่างกายของเขาพลุ่งพล่าน

“นายนี่ไม่เอาไหนจริงๆ เลย ก็แค่จูบเอง ทำไมนายยังเอาแต่คิด อยู่อีก” อารียามองรพีพงษ์แล้วทำท่าไม่พอใจ

รพีพงษ์หัวเราะหึหึ เหมือนคนซื่อบื้ออย่างไรอย่างนั้น เขาดูไม่ เอาไหนจริงๆ

แม้ว่าเขาจะเอาแต่คิดถึงจูบเมื่อครู่ แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่อาจลืม ได้ก็คือคำที่อารียาพูดกับเขา

เมื่อคิดถึงตอนที่แผลของอารียาหายดีแล้ว เขาจะสามารถทำ อะไรตามใจตัวเอง รพีพงษ์ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
เขาขับรถพาอารียากลับดงเย็น ระหว่างทางเขาเอาแต่หัวเราะหึ หีจนทำให้อารียารู้สึกกลัวขึ้นมา

เมื่อเขาจอดรถลงที่หน้าประตูบ้าน รพีพงษ์เห็นชนิสรายืนอยู่ จึง รู้สึกแปลกใจ ชนิสราไม่อยู่ในบ้าน เธอมายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้

เขาและอารียาลงมาจากรถแล้วรีบเดินเข้าไปหาชนิสรา จากนั้น จึงถามขึ้นว่า “พี่สา พี่มายืนทำอะไรตรงนี้”

ชนิสราเห็นอารียกับรพีพงษ์กลับมา จึงรีบเดินเข้าไปหา เธอพูด อย่างเหนื่อยใจ “พวกคุณกลับมาสักที พี่นัดดาบอกว่าในบ้านมีคน ตาย จึงจะไม่อยู่ที่นี่อีก เธอเก็บกุญแจของฉันไปแล้วล็อกประตู บ้าน ฉันเข้าไปไม่ได้ ถึงมายืนอยู่ตรงนี้”

รพีพงษ์ขมวดคิ้ว ธราถูกกำจัดไปแล้ว แต่ในบ้านของเขายังมีผู้ มีอำนาจอยู่อีกคน แถมยังทำแบบนี้อีก เขาไม่สามารถฆ่าศศินัดดา ได้เพราะพวกเรายังต้องอยู่ด้วยกัน คงจะมีเรื่องน่าปวดหัวอยู่ เรื่อยๆ

“แล้วพวกเขาไปไหนแล้วล่ะ” อารียาเอ่ยขึ้น

“พวกเขาไปอยู่ที่โรงแรม แต่ฉันไม่รู้ว่าโรงแรมไหน” ชนิสราต

อม
อารียาถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ เธอไม่รู้จะทำยังไงกับแม่ของ ตัวเองดี

“พวกเขาไม่อยู่ แต่เราจะอยู่ที่นี่ พี่สาคงไม่ถือสาอะไรใช่ไหม” รพีพงษ์เอ่ยถาม

“ฉันไม่ถือสาหรอก อีกอย่างถ้าฉันไม่อยู่ที่นี่ ฉันก็ไม่มีที่ไปแล้ว ชนิสราพูดด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ

ขณะที่รพีพงษ์จะไปเปิดประตู ศศินัดดาก็วิ่งเข้ามาจากไปไกล เธอตะโกนขึ้นมาว่า “ใครก็ห้ามเปิดประตูนี้ ในบ้านนี้มีคนตาย ถ้า แกเปิดประตูนี้จะทําให้สิ่งไม่ดีออกมาข้างนอก เมื่อถึงตอนนั้น วิญญาณของคนตายจะติดตามพวกแก คนที่ซวยก็คือฉัน”

รพีพงษ์กับคนที่เหลือหันไปมอง และพบว่าไม่เพียงแต่ศศินัดดา ทีเดินเข้ามา แต่ยังมีศักดาที่กำลังถือกล่องสองใบ เขาเดินตาม หลังศศินัดดาอย่างเหนื่อยหอบ

เดิมทีทั้งสองคนจะไปอยู่ที่โรงแรม แต่เมื่อคิดถึงเงินสดสาม ล้านที่อยู่กับพวกเขา จะให้ไปนอนโรงแรมถูกๆ ก็กลัวว่าเงินจะถูก ขโมย ให้นอนโรงแรมแพงๆ ก็เสียดายเงิน

ถึงแม้จะมีเงินสดสามล้าน แต่ศศินัดดาก็ยังคงคิดเหมือนตอนที เธอจน เธอเสียดายเงินที่ต้องใช้ในการนอนโรงแรม
ดังนั้นทั้งสองคนจึงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกลับมาที่บ้าน เพื่อจะให้รพี พงษ์ออกเงินให้พวกเขาไปนอนข้างนอก

แม้เมื่อครู่รพีพงษ์จะมีท่าทางน่าเกรงขามจนทำให้พวกเขาหวาด กลัว แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความรู้สึกนั้นก็ค่อยๆ หายไป อีกอย่าง รพีพงษ์คงไม่ทำแบบนั้นกับพวกเขา บวกกับการที่มีอารียาอยู่ด้วย ศศินัดดาจึงจะใช้จุดนี้กดขี่รพีพงษ์เหมือนแต่ก่อน

ถ้ารพีพงษ์ปฏิบัติกับศศินัดดาเหมือนที่ปฏิบัติกับวีธรา เธอก็จะเอา อารียามาข่มขู่เขา เพราะเธอรู้ว่าเขาอดทนกับทุกสิ่งเพราะอารียา ดังนั้นเธอจึงไม่จำเป็นต้องกลัวเขา

“แม่ นี่มันยุคไหนแล้ว ทำไมแม่ยังเอาแต่คิดเหมือนสมัยก่อน มี วิญญาณที่ไหนกัน แม่คิดไปเองทั้งนั้น แม่ไม่ให้พวกเราเข้าไป แล้วพวกเราจะไปอยู่ที่ไหน” อารียามองผู้เป็นแม่อย่างโกรธเคือง

“ฉันไม่สน ถ้าฉันอยู่ตรงนี้ พวกแกก็อย่าหวังว่าจะได้เปิดประตู” ศศินัดดาพูดอย่างเอาตัวเองเป็นหลัก

“พ่อกับแม่จะไปอยู่ข้างนอกไม่ใช่เหรอ แล้วกลับมาทำไมล่ะ อารียาถามต่อ

ศศินัดดามีสีหน้ากระอักกระอ่วน แต่ไม่นานเธอก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องรู้สึกเช่นนี้ เธอจึงหันไปหารพีพงษ์แล้วพูดว่า “รพีพงษ์ เก่งไม่ใช่เหรอ การที่ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้เพราะมันทำคนตายที่นี่ มัน ต้องรับผิดชอบเรื่องที่เราต้องไปอยู่ข้างนอก แกรีบบอกให้มัน จัดการเรื่องที่อยู่ของเราด้วย กล่องสองใบในมือของพ่อแกคือ เงินสด ถ้าโดนขโมยขึ้นมา รพีพงษ์ต้องชดใช้

“นั่นมีเงินสามล้านไม่ใช่เหรอ ทำไมต้องให้รพีพงษ์หาที่ให้พ่อ กับแม่อยู่อีกล่ะ แม่จะรังแกคนอื่นมากไปแล้วนะคะ” อารียาเอ่ยขึ้น

“ฉันรังแกคนอื่นมากเกินไปยังไง แกเป็นลูกของฉัน ฉันเลี้ยงดู แกมาจนโต แกคิดว่ามันง่ายเหรอ รพีพงษ์อยากอยู่กับแก ก็ต้อง ฟังฉัน” ศศินัดดาพูดอย่างหน้าไม่อาย “รพีพงษ์ แกบอกมาเถอะ ว่าจะหาที่ให้พวกเราอยู่หรือเปล่า ถ้าแกบอกว่าไม่ ฉันก็จะพาอารี ออกจากที่นี่”

รพีพง มองศศินัดดาอย่างเหนื่อยใจ แต่ว่าที่ศศินัดดาพูดไม่ใช่ ว่าจะไม่มีเหตุผล ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เชื่อเรื่องผีอะไรนั่น แต่ทุกรู้ว่า เคยมีคนตายอยู่ในบ้าน แน่นอนว่ามันส่งผลกระทบต่อจิตใจ อยู่ไป นานๆ ต้องทําให้เสียสุขภาพจิต

เพราะฉะนั้นการที่ศศินัดดาขอจะไปอยู่ที่อื่น มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ ไม่มีเหตุผล

อีกอย่างคฤหาสน์ก็ตั้งตระหง่านสะดุดตา ไม่ว่าใครมาเมืองริเวอร์ ก็จะต้องพูดถึงและรู้ว่าพวกเราอยู่ที่นี่ เรื่องนี้มันส่งผลกระ ทบต่อความปลอดภัยของครอบครัวอารียา

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็ฟังที่แม่พูดเถอะ วันนี้เราไปหาที่นอน ก่อน หลังจากนี้ค่อยว่ากันว่าจะไปอยู่ที่ไหน” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น

เมื่อได้ยินรพีพงษ์ตกลง อารียากระวนกระวายขึ้นมาทันที “รพี พงษ์ นายจะตามใจแม่ฉันมากเกินไปแล้ว อย่าทำตามที่แม่พูดไป เสียหมดสิ ไม่งั้นแม่จะยิ่งไร้เหตุผลนะ

“ที่จริงผมคิดว่าอยู่ที่นี่ต่อคงไม่ดีเหมือนกัน วันนี้ฟังที่พวกเขาพูด ก่อน แค่หาที่อยู่เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องคิดมาก” รพีพงษ์ยิ้มแล้วพูด ขึ้น

เขาไม่อยากเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ตอน ศศินัดดาไม่ เข้าใจถึงฐานะของรพีพงษ์ เขาไม่อยากเถียงกับศศินัดดา ในเมื่อ เธอคิดเช่นนั้น เขาก็ไม่สนใจ

ศศินัดดายิ้มอย่างพออกพอใจ เธอรู้ว่ารพีพงษ์ต้องฟังสิ่งที่เธอ พูดแน่นอน เพราะรพีพง ไม่อยากห่างจากลูกสาวของเธอ ศศิ นัดดาคิดว่าขอแค่มีอารียา เธอก็สามารถกด รพีพง ได้

เธอหันไปมองชนิสราแล้วพูดด้วยสีหน้ารังเกียจ “ชนิสราเธอได้ยินแล้วใช่ไหมว่าต่อจากนี้พวกเราจะไม่อยู่ที่นี่อีก ดังนั้นแม่ บ้านอย่างเธอคงไม่จำเป็นอีก ต่อจากนี้เธอไม่ต้องอยู่ที่นี่อีก ให้รพี พงษ์ให้เงินเธอ แล้วไปจากที่นี่ซะ”

ชนิสรามีสีหน้าสลด เมื่อกี้ตอนยืนอยู่ข้างนอก เธอก็คิดถึงเรื่องนี้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเร็วขนาดนี้

เธอเข้าใจดีว่าเขาคงไม่จำเป็นต้องเก็บเธอไว้อีก ศศินัดดาให้เธอ ไปเป็นสิ่งที่มีเหตุผลแล้ว

“งั้นฉันไม่รบกวนพวกคุณแล้ว รพีพงษ์ เงินที่คุณให้ฉันก่อนหน้า นี้มันมากพอแล้ว เพราะฉะนั้นเงินเดือนที่แล้ว คุณไม่จำเป็นต้อง ให้ฉันแล้ว ฉันไปล่ะ

ชนิสราหมุนตัวจะเดินออกไป

ขณะนั้นเองรพีพงษ์ดึงเธอเอาไว้แล้วพูดว่า “ใครบอกว่าผม ไม่ต้องการพี่สาแล้ว ถึงจะย้ายที่อยู่ ผมก็จำเป็นต้องให้พี่สาทำ อาหารให้พวกเราทาน

“เธอเป็นสมาชิกที่ขาดไม่ได้ในครอบครัวของเรา”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ