แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่ 399 ร่วมมือ



บทที่ 399 ร่วมมือ

บทที่ 399 ร่วมมือ

กระทั่งตกกลางคืน รพีพงษ์กลับไปที่บ้านของบุณณดาใน เขตเมืองเก่า

หลังจากที่รู้วิธีขู่เทือกเขากิสนา จริงๆ แล้วรพีพงษ์ก็ไม่ จําเป็นต้องกลับมาที่นี่แล้ว แต่วันนี้ตอนกินข้าว เขาคิดว่าคน ดำเนินการของเทือกเขากิสนาจะส่งคนเข้าไปในวันที่สิบห้า ของทุกเดือนเท่านั้น ฉะนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องรีบเกินไป

และเขาต้องตรวจสอบสิ่งที่เทพยวงศ์พูดเป็นความจริง หรือเท็จ ไม่ใช่ถึงตอนนั้นเตรียมตัวอยู่นาน ผลสุดท้ายสิ่งที่ เทพยางค์เป็นเรื่องโกหก เขาก็เสียเวลาเปล่า

ดังนั้นหลังจากที่พิจารณาบางอย่างแล้ว รพีพงษ์ยกเลิก ความคิดที่จะกลับไปที่เมืองริเวอร์ รอหลังจากยืนยันว่าตัว เองมีโอกาสที่จะเข้าสู่เทือกเขากิสนา ค่อยกลับเมืองริเวอร์

เพราะที่บุณณดานี่ยังมีข้าวของบางอย่างของตัวเอง Santana เก่าคันนั้นก็จอดอยู่ใกล้ๆ ที่นี่เช่นกัน เมืองเก่ายังอยู่ใกล้กับชานเมืองมาก ดังนั้นรพีพงษ์จึงกลับมาที่นี่อีก ครั้ง คิดว่าจะอยู่ที่นี่อีกสองวัน

เมื่อเขาเข้าไปในประตู ก็เห็นประตูห้องของบุณณดาเปิด ออก ต่อด้วยบุณณดาและพีรดาทั้งสองเดินออกมา จ้อง มองรพีพงษ์อย่างประหม่า เหมือนสาวใช้ต้อนรับขุนนาง กลับมา

รพีพงษ์เห็นท่าทางของทั้งสองคน ก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เดินตรงไปทางบันไดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

พีรดาสูดหายใจเข้าลึก เดินไปตรงหน้ารพีพงษ์ พูดกับร พงษ์ด้วยความนอบน้อมและจริงใจ: “ขอ……ขอโทษ ที่ผ่าน มาจะไม่ควรทำแบบนั้นกับคุณ”

รพีพงษ์ไม่สนใจเธอ เดินตรงไปข้างหน้า ทันใดนั้นในใจ พีรดาเต็มไปด้วยความหดหู่และความเสียใจ

บุณณดาดูอยู่อีกด้านหนึ่ง ไม่กล้าพูดแม้แต่คำเดียว หลัง จากฟังพีรดาพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลวันนี้ ทำให้ นึกถึงภาพตอนที่หัวล้านมาที่หน้าบ้านในวันนั้น พีรดารู้สึก ว่ากลิ่นอายของรพีพงษ์แตกต่างออกไป
รพีพงษ์ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว แล้วหยุด หันไปมองข้าง หลัง

พีรดาเห็นรพีพงษ์หยุด ความหวังเล็กน้อยปรากฏขึ้นบน ใบหน้าทันที คิดว่ารพีพงษ์จะให้อภัยเธอ จากนั้นมองไปที่ รพีพงษ์อย่างรวดเร็ว แต่พบว่าสายตาของรพีพงษ์มองผ่าน เธอไป มองไปที่บุณณดาที่อยู่ด้านหลัง

“ผมอาจจะยังอยู่ที่ต่ออีกสองวัน ต้องจ่ายเงินเท่าไหร่คุณ คิดให้หน่อย เดี๋ยวผมมาจ่ายเงินให้” รพีพงษ์พูดขึ้น

บุณณดาได้ยินที่รพีพงษ์พูด รีบพูดขึ้นอย่างประหม่า “ไม่…ไม่ต้องแล้ว เงินก่อนหน้านี้ที่คุณให้เพียงพอแล้ว คุณอยากอยู่ที่นี่ต่อนานแค่ไหนก็ได้ และถ้าไม่มีคุณ ไอ้ หัวล้านก็ไม่มีวันจ่ายค่าเช่าที่ติดค้างเหล่านั้นให้ฉัน ต้อง ขอบคุณคุณด้วยซ้ำ

ได้ยินบุณณดาพูดแบบนี้ รพีพงษ์ก็ไม่พูดมากอะไร หัน เดินขึ้นไปชั้นบนต่อ

พีรดาหมือนเป็นอากาศ ถูกมองข้ามตั้งแต่ต้นจนจบ รพี พงษ์ไม่มองไปที่เธอด้วยซ้ำ
ความรู้สึกขุ่นมัวเกิดขึ้นจากก้นบึ้งของหัวใจของเธอ เธอ ยังคงมีความมั่นใจในรูปร่างสวยงามของตัวเองไม่ใช่น้อย นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้ชายไม่สนใจเธอเลยแม้แต่นิด

หลังจากรพีพงษ์ขึ้นไปชั้นบน พีรดาหันกลับมาอย่างผิด หวัง เดินไปตรงหน้าบุณณดา พูดขึ้น: “ฉันดูเหมือนไม่มีตัว ตนขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมเขาไม่มองฉันเลยด้วยซ้ำ”

ปุณณดาถอนหายใจอย่างทำอะไรไม่ได้ พูดขึ้น: “ฉันคิด ว่าเธอควรแก้ไขนิสัยตาสูงแต่ฝีมือไม่ถึงได้แล้ว ถ้าเขาเป็น คนใหญ่คนโตอย่างที่เธอพูดจริงๆ ผู้หญิงสวยที่เคยเจอ เกรงว่าจะมากกว่าผู้ชายที่เธอเคยเจอ และก่อนหน้านี้เธอ ยังปฏิบัติกับเขาแบบนั้น เขาต้องไม่อยากสนใจเธออยู่แล้ว”

พีรดาหดหู่อยู่สักพัก หายใจเข้าลึก พูดขึ้น: “ไม่ได้ ต่อให้ ตัวตนเขาจะสูงส่งแค่ไหน ก็เป็นแค่ผู้ชาย และอยู่บ้านหลัง นี้ ไม่มีผู้หญิงคนอื่น ฉันไม่เชื่อภายใต้สถานการณ์ของชาย โสดหญิงโสด เขาจะไม่เกิดความคิดอะไรกับฉัน”

กลางคืนเวลาสิบโมง รพีพงษ์นอนอยู่บนเตียง คิดทบทวนเรื่องเทือกเขากิสนา ในใจจินตนาการว่าเทือกเขา สนาเป็นสถานที่เป็นแบบไหน ครั้งนี้หากตัวเองเข้าไป จะมี โอกาสออกมาหรือไม่

แล้วอะไรคือสาเหตุที่นนทภูเข้าไปในเทือกเขากิสนา หาก ข้างในอันตรายจริงตามข่าวลือ ตอนนี้นนทภูจะยังมีชีวิตอยู่ หรือเปล่า?

คําถามเหล่านี้ยังคงวนเวียนอยู่ในใจของรพีพงษ์ เขา ต้องการคําตอบอย่างมาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องรอหลังจากที่ ให้เขาเข้าสู่เทือกเขากิสนาแล้ว ถึงจะได้รับคําตอบ

และในเวลานี้ มีเสียงเคาะประตูจากข้างนอก รพีพงษ์ สงสัยเล็กน้อย ลงจากเตียง เดินไปที่หน้าประตู เปิดประตู

เวลานี้พีรดายืนอยู่หน้าประตู ผมของเธอเปียกปอน มี เพียงผ้าขนหนูอาบน้ำพันรอบร่างกาย คนดูยั่วยวนและ มีเสน่ห์ เธอยังสางผมของเธอไม่หยุด ส่งสัญญาณที่ คลุมเครือไปยังรพีพงษ์

“คือว่า….กลอนในห้องของฉันเสีย ฉันมาเป่าผมที่คุณได้ ไหม?” พีรดาพูดอย่างนุ่มนวล เห็นได้ว่าเธอถนัดมากคงใช้วิธีแบบนี้อ่อยผู้ชายมาไม่ใช่น้อย

รพีพงษ์เพียงแค่มองเธออย่างเย็นชา จากนั้นก็มีเสียงดัง โครมคราม ปิดประตูโดยตรง

พีรดายังคงรอการตอบสนองของรพีพงษ์ แต่วินาทีถัดไป ที่เผชิญหน้ากับเธอ เหลือเพียงบานประตูที่เยือกเย็น

เธอตะลึงอย่างมาก ตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ท่าทางสางผม ของเธอหยุดลง ดูเหมือนจะมีลมหนาวพัดมาข้างหลัง รู้สึก วังเวงเล็กน้อย

บุณณดานั่งอยู่ในห้องในใจคิดถ้าพีรดาสามารถให้การ พงษ์สําเร็จ งั้นอนาคตตำแหน่งก็ต้องขึ้นพรวดพราดเลยสิ?

ด้วยรูปลักษณ์ของพีรดา ความน่าจะเป็นที่จะประสบความ สำเร็จคงไม่น้อย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเธอสามารถทุ่มสุดตัว ผู้ชายทั่วไปที่เผชิญกับสาวสวยและเป็นฝ่ายรุกเป็นเรื่อง ยากที่จะต้านทานสิ่งล่อใจ

ในขณะที่คิดเพ้อเจ้อ ประตูห้องถูกผลักออกโดยตรง พีร ดาเดินเข้ามาด้วยใบหน้าผิดหวัง นั่งลงข้างปุณณดาทันที

ปุณณดาเห็นพีรดากลับมาซะแล้ว ใช้เวลารวมกันไม่ถึงห้า นาที ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ รีบถามชื้น: “เกิด อะไรขึ้น ทำไมลงมาเร็วขนาดนี้?

พีรดากอดบุณณดาโดยตรง ร้องไห้พูด: “บุณณดา ฉันไม่ น่าดึงดูดขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมเขาไม่มองฉันเลย เขา เป็นผู้ชายหรือเปล่า

ถ้าเธอรู้ว่ารพีพงษ์เป็นผู้ชายชื่อจริงๆ ที่มีเพียงอารียาคน เดียวในใจ ก็คงเข้าว่าทำไมรพีพงษ์ถึงมีท่าทีแบบนี้ต่อเธอ

เมืองริเวอร์ ในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง

ศศินัดดาเดินเข้ามา มองไปโดยรอบ จากนั้นก็เดินตรงไป ที่โต๊ะริมหน้าต่าง

ที่โต๊ะตัวนี้มีผู้หญิงมีออร่าคนหนึ่งนั่งอยู่ ใบหน้าของหญิง สาวบดบังด้วยผ้าคลุมหน้าสีดำ แม้ว่าจะมองไม่เห็นใบหน้า ของเธออย่างชัดเจน แต่ก็ทำให้ผู้คนมีความรู้สึกถึงความ สวยงามลึกลับของใบหน้าที่บดบังอยู่ครึ่งหนึ่ง

หลังจากที่ศศินัดดาเห็นผู้หญิงคนนั้น ก็แปลกใจกับออ ร่าบนตัวของเธอ เธอนั่งตรงข้ามกับผู้หญิงคนนั้นโดยตรง ถามด้วยความระแวดระวัง “คุณเป็นใคร มาหาฉันทำไม? กลางวันแสกๆ บังหน้าบังตา คุณคงไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายนะ จะบอกคุณให้? ครอบครัวของฉันเป็นพลเมืองดีที่เชื่อฟัง กฎหมาย ฉันจะไม่ทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย

ผู้หญิงคนนั้นยิ้มจางๆ ผลักถ้วยกาแฟบนโต๊ะไปให้ศ นัดดา พูดขึ้น: “ฉันก็เป็นพลเมืองที่ปฏิบัติตามกฎหมาย เหมือนกัน ฉันมาคุณครั้งนี้ ฉันอยากคุยกับคุณเกี่ยวกับ ลูกสาวของคุณ”

ใบหน้าของศศินัดดาเผยให้เห็นถึงความสงสัย ถามขึ้น “เรื่องของลูกสาวฉัน? เธอทำไม?”

“ถ้าข่าวที่ฉันได้รับไม่ผิด ตอนนี้คุณไม่ต้องการให้ลูกสาว ของคุณอยู่กับรพีพงษ์ใช่ไหม? แม้ว่างานแต่งงานใน ปราสาทคริสตัล ทำให้เกิดความฮือฮาไปทั่วเมืองริเวอร์ ใช่ ไหม? ” ผู้หญิงถามด้วยรอยยิ้ม
“ใช่แล้วยังไง มันเกี่ยวอะไรกับคุณ? ฉันจะบอกคุณให้ รพีพงษ์ก็คือดาวแห่งหายนะ ต่อให้เขาร้ายกาจแค่ไหน ก็ จะนำมาซึ่งหายนะอย่างไม่รู้จบ คุณไม่ต้องโน้มน้าวให้ฉัน ยอมรับรพีพงษ์ เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้” ศศินัดดาเบะปาก คิด ว่าคนตรงหน้านี้คือคนที่รพีพงษ์ส่งเธอมาพูด

“ฉันว่าคุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันมาหาคุณ ไม่ใช่เพื่อให้คุณ ยอมรับรพีพงษ์ ตรงกันข้าม ฉันก็หวังให้ลูกสาวของคุณ กับรพีพงษ์แยกออกจากกัน ฉันมาหาคุณ คือต้องการร่วม มือกับคุณ” ผู้หญิงคนนี้พูดอย่างไม่เร่งรีบ แล้วดื่มกาแฟไป ถ้วยหนึ่ง

ศศินัดดาผงะไปชั่วครู่ แล้วถามขึ้น: “คุณอยากให้ลูกสาว ของฉันกับรพีพงษ์แยกออกจากกัน? เพราะอะไร?”

“เพราะรพีพงษ์เป็นของฉัน ฉันไม่ต้องการให้ใครได้เขา ไป ในโลกใบนี้ มีแค่ฉันที่คู่ควรกับรพีพงษ์” น้ำเสียงของผู้ หญิงจริงจังขึ้น

ศศินัดดาเบะปาก ในใจคิดรพีพงษ์ก็เป็นแค่ความหายนะ สมองของคุณมีน้ำเข้าแน่ๆ ถึงคิดที่จะแย่งรพีพงษ์ไปจาก อารียา
แต่ถ้าผู้หญิงคนนี้สามารถช่วยขับไล่รพีพงษ์ออกจากบ้าน ได้ เธอก็ไม่ถือสาที่จะร่วมมือกับผู้หญิงคนนี้

“ถ้าคุณสามารถเอารพีพงษ์ดาวหายนะคนนี้ไปได้จะดี ที่สุด พูดเถอะ คุณจะร่วมมือกับฉันยังไง” ศศินัดดาพูดขึ้น

ผู้หญิงเห็นศศินัดดาตกลง รอยยิ้มติดตลกปรากฏขึ้นที่มุม ปาก จากนั้นพูดอย่างช้าๆ : “คุณบอกฉันก่อน ช่วงนี้รพีพงษ์ อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?

“ผีสิรู้ว่าหมอนั่นไปทำอะไรที่ไหน แต่ได้ยินอารีบอกว่า น่า จะไปที่เมืองบาสแตร์ แต่เรื่องที่ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่อันนี้ก็ ไม่รู้ ถ้าให้ดีทั้งชาตินี้ก็ไม่ต้องกลับมา” ศศินัดดาพูดโดยไม่ เป็นห่วงรพีพงษ์สักนิด

ผู้หญิงเงียบไปสักพัก จากนั้นพูดกับตัวเอง: “อย่างงั้นคิด ว่าเขาคงไม่กลับมาเร็วๆ นี้”

“แผนที่ฉันจะร่วมมือกับคุณง่ายมาก ในเมื่อคุณและฉัน ต้องการให้พวกเขาแยกออกจากกัน งั้นเราให้ลูกสาวของ คุณกลายเป็นของผู้ชายคนอื่น” ผู้หญิงเงยหน้า พูดกับศศิ นัดดาด้วยรอยยิ้ม
“หมายความว่าไง? “ศศินัดดาถามขึ้น

“ฉันคิดว่าถ้าลูกสาวของคุณมีความสัมพันธ์กับคนอื่น คง ไม่มีทางที่จะยังคงภักดีต่อรพีพงษ์อีกต่อไป แม้ว่าตอนนั้น จะรู้สึกผิดก็ตาม ก็คงทำให้เธอเป็นฝ่ายออกจากรพีพงษ์ ก่อน” ผู้หญิงพูดเบาๆ

ศศินัดดาเบิกตากว้างทันที มองผู้หญิงคนนี้ด้วยสายตา เหลือเชื่อ พูดขึ้น: “คุณว่าอะไรนะ! คุณต้องจะหาชายอื่น เพื่อจะทำลายลูกสาวของฉันงั้นเหรอ?!! ”

“คุณอย่าตื่นตระหนก ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น” ผู้ หญิงพูดขึ้น ความหมายของฉันคือ ฉันสามารถช่วยคุณหา ผู้ชายที่ไม่มีฐานะต่ำต้อย เราสามารถสร้างความบังเอิญได้ ให้พวกเขาเกิดความสัมพันธ์โดยไม่ได้ตั้งใจ

“ก่อนหน้านี้ฉันก็คุยกับลูกสาวคุณ บอกเธออย่างชัดเจน เธอไม่คู่ควรกับรพีพงษ์ และดูเหมือนเธอจะตระหนักถึง เรื่องนี้ด้วย หากร่างกายของเธอไม่บริสุทธิ์อีกต่อไป เธอไม่ สามารถอยู่ด้วยกันกับรพีพงษ์ได้อีกอย่างแน่นอน”
“ถึงตอนนั้นก็สามารถทำให้เธอหย่ากับรพีพงษ์ เปลี่ยนไป แต่งงานกับผู้ชายคนที่มีฐานไม่ต้อยต่ำคนนั้น เรื่องนี้สำหรับ คุณแล้ว มันไม่ใช่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเหรอ? ”

เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นพูด ศศินัดดาก็ครุ่นคิดเรื่องนี้ จากนั้นจึงถามขึ้น: “คนที่มีฐานะไม่ต้อยต่ำที่คุณพูดถึง จะ เก่งกาจสักแค่ไหน? ”

“เท่าที่ฉันรู้ เขามีทรัพย์สินหลายร้อยล้าน และยังสนใจ ลูกสาวคุณมาก” ผู้หญิงพูด

ได้ยินคำว่าหลายร้อยล้าน ดวงตาศศินัดดาเป็นประกาย ทันที จากนั้นก็เผยรอยยิ้มบนใบหน้า พูดกับผู้หญิงคนนั้น “ฉันตกลงร่วมมือกับคุณ

บริษัทของตระกูลฉัตรมงคล ในห้องทำงาน

อารียาเก็บเอกสารทั้งหมดบนโต๊ะทำงานของตัวเองเสร็จ บิดขี้เกียจ มองเวลา ถึงเวลาเลิกงานแล้ว ลุกขึ้นเดินออกไป ข้างนอก

ทันทีที่เธอเปิดประตูห้องทำงาน เผยให้เห็นรอยแง้มได้ยินคนข้างนอกกำลังพูดถึงอะไรบางอย่าง

“คิดไม่ถึงเลยจริงๆ รพีพงษ์จะเป็นผู้ชายที่โรแมนติก ขนาดนี้ ถึงได้จัดงานแต่งงานในสถานที่ดั่งเช่น ปราสาท คริสตัล น่าอิจฉาจริงๆ เลย”

“ใช่ และรพีพงษ์ก็มีข่าวลือมาโดยตลอดว่าเป็นคนไร้ ประโยชน์แต่ดันมีเส้นสายที่แข็งแกร่งขนาดนี้ คนที่ไปงาน แต่งงานของเขาในวันนั้นล้วนเป็นคนใหญ่คนโต หล่อสุดๆ ไปเลย”

“ตอนนี้ฉันรู้สึกว่า ประธานของเราไม่คู่ควรกับรพีพงษ์เลย จะว่าไปบริษัทของเราก็เป็นแค่บริษัทเล็กๆ เทียบกับร พงษ์ได้ที่ไหน เขาแค่ซองสําหรับแต่งงาน ก็ได้รับไปเป็น ร้อยกว่าบ้านแล้ว

“ใช่ อารียานอกจากมีหน้าที่สวยแล้ว ด้านอื่นๆ ก็ไม่คู่ควร กับรพีพงษ์เลย ฉันว่า รพีพงษ์ควรจะได้ภรรยาที่ดีกว่านี้ถึง จะถูก”

“จะเป็นไปได้ยังไง ตอนนี้อารียารู้ถึงความร้ายกาจของ รพีพงษ์แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยมือไปง่ายๆ เธอคงจะ ปฏิบัติต่อรพีพงษ์เหมือนเป็นของรักของหวงกําไว้ในมือแน่นอย่างแน่นอน เปลี่ยนเป็นฉัน ก็คงไม่มีทาง ปล่อยให้รพีพงษ์หลุดมือไปอย่างง่ายดายแน่นอน

“ต่อให้เธอไม่ยอมปล่อยมือแล้วยังไง ศีลไม่เสมอกันเข้า ใจรึเปล่า ใช้เวลาไม่นาน รอรพีพงษ์รู้ว่าจริงๆ แล้วอารียา แค่สวยแต่รูป ก็จะต้องเป็นฝ่ายทิ้งเธอก่อน”

การสนทนาข้างนอกเหมือนมีดที่ปักอยู่ในหัวใจของอารี ยาหลายวันมานี้เธอได้ยินคนอื่นพูดคุยกันอยู่บ่อยๆ ว่าเธอ ไม่คู่ควรกับ รพีพงษ์

บวกกับคำพูดที่รักแรกของรพีพงษ์พูดในวันนั้น อารียา ก็ได้ตั้งคำถามกับตัวเองมากมาย แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังรู้สึก ว่าตัวไม่คู่ควรกับรพีพงษ์เลย

ความรู้สึกนี้ทำให้เธอไม่สบายใจมาก เช่นเดียวกับที่คน ข้างนอกพูด ถ้าเธอไม่คู่ควรกับรพีพงษ์จริงๆ สักวันหนึ่งรพี พงษ์เองก็อาจจะเป็นฝ่ายทิ้งเธอไป

เธอสูดหายใจเข้าลึก ผลักประตูต้องทำงานออก เดินออก ไปข้างนอก การสนทนาเหล่านั้นหยุดลงทันที
อารียาไม่สนใจสายตาที่คนรอบตัวมองเธอ เดินตรงไป ด้านหน้า กระทั่งไปถึงในรถ เธอถึงแสดงสีหน้าที่สิ้นหวัง

“ฉันไม่คู่ควรกับรพีพงษ์จริงๆ เหรอ? ทำไมทุกคนถึงพูด ถึงเรื่องนี้? ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ฉันควรพิจารณาริเริ่มบ้าง หรือเปล่า ไม่อย่างนั้นถึงตอนนั้นรพีพงษ์ทิ้งฉัน สำหรับฉัน แล้ว เกรงว่าจะเป็นหายนะใหญ่ยิ่งกว่า

ในที่สุด อารียาก็อดกลั้นไม่ไหว ฟุบร้องไห้บนพวงมาลัย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ