แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่ 432 สถิติของนายถูกทำลาย



บทที่ 432 สถิติของนายถูกทำลาย

บทที่ 432 สถิติของนายถูกทำลาย

ในคุกใต้ดิน บรรยากาศในห้องหมายเลขที่ 13 ค่อนข้าง กดดัน

จงจินตน์นั่งอยู่ริมขอบเตียง หัวคิ้วขมวดแน่น มองออกว่าค่อน

ข้างเคร่งเครียด

รพีพงษ์สำหรับคนของห้องหมายเลข 13 นี้ เกือบจะเทียบ เท่ากับเทพเจ้า ก่อนที่รพีพงษ์จะปรากฏตัว คนของห้อง หมายเลข 13 แทบจะตกต่ำถึงขั้นต้องกินแต่เศษผัก เป็น เพราะรพีพงษ์นี่เอง พวกเขาตอนนี้ถึงได้สามารถมีปลามีเนื้อ กิน

แต่ทว่าเทพเจ้าท่านนี้ อยู่ที่ห้องหมายเลข 13 เป็นเวลาเพียง ครึ่งเดือน คิดไม่ถึงว่าจะไปเข้าร่วมซิลินเสียแล้ว นี่สําหรับคน ของห้องหมายเลข 13 ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดี

ถ้ารพีพงษ์ทําสําเร็จ พวกเขาอาจจะยังสามารถได้รับผล ประโยชน์บ้าง ตามกฎแล้ว ภายในหนึ่งปีห้องที่ผู้สำเร็จซิลิ นอาศัยอยู่ ไม่ต้องเข้าร่วมสนามประลองการแข่งขันอื่นใดอีก

อย่างไรก็ตามถ้ารพีพงษ์เกิดพ่ายแพ้ขึ้นมา สถานการณ์ที่ พวกเขาจะต้องเผชิญ มีแต่จะเลวร้ายลงยิ่งกว่าแต่ก่อน ห้อง หมายเลข 13 ที่ผ่านวันเวลาที่ดีมากว่าครึ่งเดือนกว่า ตอนนี้ สามารถพูดได้ว่าเป็นหนามยอกอกในสายตาของผู้คนทุกคนในห้องอื่น ถ้าเกิดไม่มีรพีพงษ์แล้ว ห้องอื่นๆ จะต้องเอาคน ของห้องหมายเลข 13 มาเป็นเป้าระบายอารมณ์อย่างแน่นอน ถึงเวลานั้นจุดจบของพวกเขาจะต้องน่าเวทนามากเป็นแน่

“พวกสวะของห้องหมายเลข 13 ได้ยินว่ารพีพงษ์คนนั้นไปเข้า ร่วมชิลินแล้วหรือ ดูท่าแล้ว มันไม่มีโอกาสมีชีวิตกลับมาแล้ว ล่ะ พวกแกเตรียมตัวพร้อมรับกำปั้นของพวกเราแล้วหรือยัง ช่วงนี้ข้ามองพวกแกแล้วขัดตาจริงๆ อยากจะระบายอารมณ์ กับพวกแกมานานแล้ว! ” ในเวลานี้มีเสียงตะโกนดังมาจากผนัง ห้องด้านข้าง

จงจินตน์ได้ยินเสียงนั้น สีหน้าเปลี่ยนเป็นดูไม่ได้ขึ้นมา เขา รู้ว่าคนที่พูดนี้คือลูกพี่ใหญ่ของห้องหมายเลข 12 ด้านข้าง ฉายาหมาบ้า

แกมันหมาบ้าจริงๆ แกรู้หรือไงว่าลูกพี่ใหญ่ของเราจะไม่ผ่าน ” ซิลิน? รอให้ลูกพี่ใหญ่ของพวกเราผ่านซิลินได้แล้ว ถึงเวลานั้น ค่อยจัดการกับพวกแก! ” จงจินตน์ตอบกลับอย่างอารมณ์เสีย

“เหอะๆ เลิกฝันได้แล้ว ซิลินนั่นน่ากลัวแค่ไหนไม่ใช่ว่าพวกแก จะไม่รู้ หลายปีนี้คนที่เข้าร่วมซิลินนั่นมีสักกี่คนที่รอดชีวิตกลับ มากัน? กำลังของรพีพงษ์คนนั้นแข็งแกร่งกว่าพวกเราจริง แต่ มันก็เท่านั้นแหละ มันไม่สามารถผ่านซิลินนั่นได้หรอก” หมาบ้า ตอบกลับอย่างเหยียดหยาม

คำพูดนี้ของเขาเมื่อพูดออกมาแล้ว คนในห้องอื่นๆ รอบด้านต่างก็ตะโกนออกมา

“พวกโง่ของห้องหมายเลข 13 อย่าได้คิดเพ้อฝันว่ารพีพงษ์ คนนั้นจะยังกลับบ้านมาได้เลย คาดว่าตอนนี้มันคงตายไป แล้ว! ”

“ที่พึ่งของพวกแกไม่มีแล้วหลังจากนั้นรอข้าคนนี้จัดการพวก แกเถอะ! *

ทำให้ฉันหัวเราะแทบตายแล้ว พวกแกถึงกับคิดว่ารพีพงษ์ คนนั้นจะสำเร็จซิลินได้หรือ นี่มันช่างเป็นเรื่องตลก! ”

เสียงถากถางเยาะเย้ยในคุกใต้ดินต่อเนื่องกันไปเป็นระลอก คนในห้องหมายเลข 13 ฟังแล้วกัดฟันกรอด ตอนนี้แทบอยาก จะพุ่งออกไปสู้กับคนพวกนั้น

จงจินตน์ก็กำหมัดแน่น ถูกคนในห้องอื่นๆ พวกนั้นเยาะหยัน จนเดือดดาลเป็นฟืนเป็นไฟ

ในตอนที่ทุกคนกำลังเยาะหยันห้องหมายเลข 13 กันอย่าง เต็มที่นั้น ประตูใหญ่ของคุกใต้ดินพลันเปิดออกแล้ว เสียงโซ่ เหล็กดังขึ้น ตามด้วยเสียงในห้องทุกห้องที่เงียบลงทันที

รพีพงษ์ภายใต้การนำของชายในชุดสูทสีดำ กลับมาถึงใน คุกใต้ดิน เลียบไปกับระเบียงทางเดินสายนั้น เดินไปทางห้อง หมายเลข 13
คนในห้องทุกห้องมองเห็นรพีพงษ์กลับมา รูม่านตาต่างหดลง ตามด้วยในใจเกิดความกลัวที่อธิบายไม่ได้ขึ้นมา

หลังจากนั้นไม่นาน เสียงที่เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อได้ ทำลายความเงียบในคุกใต้ดินลง : “นี่…คนคนนี้ ถึงกับรอด ชีวิตกลับมาแล้ว เขาผ่านซิลินแล้วหรือ? ”

ทุกคนต่างสูดลมหายใจเย็นเข้าลึก กำลังมองรพีพงษ์ที่ก้าว

เข้ามาทีละก้าวอย่างยากจะเชื่อถือ

คนในห้องหมายเลข 13 ทางนี้มองไม่เห็นสถานการณ์ ตรงระเบียงทางเดิน แต่คำพูดของคนคนนั้นทำให้พวกเขา ตระหนักว่าเรื่องมันเป็นมาอย่างไร

บนหน้าของจงจินตน์เผยสีหน้าตื่นเต้น ใบหน้าคาดหวังกำลัง รอเงาร่างที่กำลังจะปรากฏ ร่างกายเป็นเพราะตื่นเต้นจนเกิน ไปจึงสั่นระริกขึ้นมา

“เมื่อครู่คนนั้นพูดอะไร? รอดชีวิตกลับมาแล้ว? รพีพงษ์ผ่าน ซิลินแล้ว? ” หมาบ้าของห้องหมายเลข 12 มองไปยังคนที่อยู่ ข้างกายด้วยความสงสัย เปิดปากถามออกมา

คนด้านข้างส่ายหัว แสดงออกว่าได้ยินไม่ชัด

จะต้องเป็นฉันที่ฟังผิดไปแน่ ไอ้หมอนั่นจะรอดชีวิตกลับมา ได้อย่างไร ถ้ามันสามารถผ่านซิลินได้ ฉันก็…” หมาบ้ากำลัง พูด ก็เป็นตอนนี้เองที่รพีพงษ์ผ่านประตูห้องหมายเลข 12 ไปหมาบ้าที่เห็นเงาร่างของรพีพงษ์ก็เอาคำพูดของตนเองกลืน กลับเข้าไปทันที ตาทั้งสองข้างจ้องจนเกือบจะทะลุออกมา

รพีพงษ์กลับหลังหันมองไปทางหมาบ้าแวบหนึ่ง หมาป่าตกใจ จนร่างกายสะดุ้งโหยง เขาที่ไหนจะคิดได้ ว่ารพีพงษ์ถึงกับ ผ่านชิลินได้จริง รอดชีวิตกลับมาแล้ว

“นี่จะเป็นไปได้อย่างไร เขาทำสำเร็จแล้วจริงหรือ? ” หมาบ้า พึมพำกับตัวเองประโยคหนึ่ง

หลังจากชายใส่สูทสีดำคนนั้นส่งรพีพงษ์เข้าไปในห้อง หมายเลข 13 ก็ออกจากที่แห่งนี้ไป

จงจินตน์และผู้คนในห้องหมายเลข 13 ใบหน้าเต็มไปด้วย ความตื่นเต้นกำลังมองรพีพงษ์ ครูใหญ่ จงจินตน์ถึงได้เปิดปาก ถาม : “ลูกพี่ นายผ่านซิลินนั่นแล้วหรือ? ”

รพีพงษ์พยักหน้า ไม่ได้แสดงความตื่นเต้นจนเกินไป ถึง อย่างไรสำหรับเขาแล้ว ไม่ได้มีความยากลำบากอะไร

ทุกคนในห้องหมายเลข 13 ต่างก็โห่ร้องดีใจขึ้นมา ทั้งคุก ใต้ดินก็ถูกเสียงโห่ร้องดีใจนี้ปกคลุมทันที

“ซิลินเล็กๆ เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องตื่นเต้นขนาดนี้” รพีพงษ์พูด ออกมา จากนั้นเดินไปที่เตียงทางด้านนั้น

กล้ามเนื้อบนใบหน้าของจงจินตน์กระตุกสองครั้ง ซิลินที่น่าหวาดกลัวที่อัตราความสำเร็จไม่ถึงหนึ่งในสิบ พูดออกมาจาก ปากของรพีพงษ์เหมือนกำลังพูดถึงเกมหนึ่งเกมอย่างไรอย่าง นั้น ป่าไปแล้วจริงๆ

บาร์แห่งหนึ่งในเทือกเขากิสนา

แสงไฟหลากสีสันด้านใน คนที่มาดื่มเหล้าไม่เยอะ หลักๆก็ เพราะว่าจํานวนคนในเทือกเขาก็สนามีไม่มาก

ปกติที่มาดื่มเหล้าที่นี่นอกจากกลุ่มนายทุนระดับสูงพวกนั้น ที่มาพักผ่อนและคนในตระกูลแล้ว ที่เหลือแน่นอนว่าต้องเป็น เจ้าหน้าที่และผู้ที่อยู่ในอันดับเทพเจ้าแห่งสงครามที่ได้รับ อิสรภาพในเทือกเขากิสนาเหล่านั้น

พื้นที่เต้นรําตรงกลางบาร์ในเวลานี้ หญิงสาวที่งดงามหลาย คนกำลังยักย้ายส่ายสะโพก เสื้อผ้าร่วงกระจัดกระจายบน พื้น ในขณะที่พวกเธอก่าลังเต้นรํา เสื้อผ้าบนร่างของพวกเธอ ดูเหมือนว่าเปลี่ยนเป็นลื่นไหลยิ่งขึ้น ไม่มีทางอยู่บนร่างกายที่ ร้อนผ่าวของพวกเธอต่อได้…..

ที่นั่งโซนหนึ่งในบาร์ มีคนไม่กี่คนนั่งล้อมอยู่ด้วยกัน ดื่มเหล้า ในแก้วของแต่ละคนอย่างกล้าได้กล้าเสีย

คนเหล่านี้ล้วนมีชื่อเสียงอยู่ในอันดับเทพเจ้าแห่งสงคราม และหนึ่งในนี้ที่เป็นที่จับจ้องของผู้คนมากที่สุด คือคนที่ใช้เวลา แปดนาทีสิบเจ็ดวินาทีผ่านซิลินนั่นเอง หลังจากนั้นท้าประลอง กับยอดฝีมืออันดับเทพเจ้าแห่งสงครามสำเร็จ ตอนนี้กลายเป็นยอดฝีมืออันดับเทพเจ้าแห่งสงครามลำดับที่สิบห้า ฉายาคือจิรภาสปินเหล็ก

คนที่เหลือโดยรอบ ล้วนมีอันดับเทพเจ้าแห่งสงครามอันดับที่ ยี่สิบสามสิบ พวกเขาปกติแล้วมีความสัมพันธ์อันดีกับจิรภาส ดังนั้นจึงดื่มเหล้าด้วยกันบ่อยครั้ง

เพราะจิรภาสนั้นต่อสู้ออกมาจากในคุกใต้ดิน ไม่เพียงแต่ผ่าน ซิลิน ยังอาศัยกำลังของตนเองบรรลุมาถึงอันดับเทพเจ้าแห่ง สงครามลำดับที่สิบห้า ดังนั้นคนจำนวนมากต่างก็เลื่อมใสเขา

หนึ่งในที่จิรภาสภาคภูมิใจที่สุด ก็คือสถิติซิลินของเขาแปด นาทีสิบเจ็ดวินาทีนั้น จนถึงตอนนี้ต่างยังไม่มีใครทำลายได้ เลย

จิรภาสคนนี้ยามปกติชอบฟังที่สุดก็คือคนอื่นชื่นชมสถิตินั้น ของเขา ดังนั้นทุกครั้งที่ดื่มเหล้า ผองเพื่อนเหล่านี้ของเขาต่าง ก็จะพูดถึงสักสองสามประโยค หยอกล้อให้จิรภาสมีความสุข

“พี่จิน พี่ในเทือกเขากิสนาตอนนี้ ก็นับว่าเป็นคนมีหน้ามีตา แล้ว สามารถเข้าอันดับเทพเจ้าแห่งสงครามยี่สิบอันดับแรก ได้ แต่ทุกๆอย่างล้วนไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะพี่จินเมื่อปีนั้น พี่ฉีก สถิติซิลินนั้นลง ฉันได้ยินมาว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครทำลาย ได้เลย ”
“ใช่ สถิตินี้ของพี่จินรักษาไว้ได้มาหลายปีแล้ว ซิลินในเทือก เขากิสนานั้น ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น สามารถทำได้เหมือน ระดับนี้ของพี่จิน นั่นก็น้อยซะยิ่งกว่าน้อย”

“นี่เป็นสัญลักษณ์ของกำลังของพี่จินนั่นเอง ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ ได้ออกมาจากคุกใต้ดิน แต่ถ้าให้ฉันไปเข้าร่วมซิลินนี้ แน่นอน ว่าไม่สามารถทำได้ถึงระดับนี้ของพี่จินหรอก”

จิรภาสกำลังฟังคำพูดชมเชยของคนรอบข้าง ใบหน้าเผย รอยยิ้มภาคภูมิใจ จากนั้นชนแก้วกับทุกคน หลังดื่มเหล้าแล้ว พูดว่า : “นี่มันเป็นเรื่องเล็กน้อย ซิลินนั้นจริงๆ แล้วไม่ได้ยาก ขนาดนั้น พวกนายไปลองดูก็รู้แล้ว ไม่แน่ว่าใครก็สามารถ ทำลายสถิติของฉันได้ ”

ทุกคนต่างรู้ นี่ก็เป็นแค่คำพูดหยอกล้อของจิรภาส ไม่มีใคร ถือเป็นจริงเป็นจัง

ก็เป็นในตอนนี้ ที่บนโทรศัพท์ของหลายคนได้รับข้อความ หนึ่งพร้อมกัน

โทรศัพท์ของพวกเขาเป็นเทือกเขากิสนาจัดสรรให้เป็นพิเศษ แม้ว่าพวกเขาอยู่ในเทือกเขากิสนาจะเป็นอิสระ แต่เมื่อเทือก เขากิสนามีเรื่องอะไรขึ้น พวกเขายังคงต้องทำตามคำสั่งโยก ย้าย ดังนั้นโทรศัพท์นี้จึงเป็นเครื่องมือที่ใช้เพื่อติดต่อกับพวก เขา ใช้ได้แค่ในเทือกเขากิสนา ไม่สามารถส่งข้อความไปยังภายนอกได้

หลายคนต่างมีอาการแปลกใจ ไม่รู้ว่าในเวลานี้จะมีข้อความ แบบไหน ถึงกับส่งให้พวกเขาหลายคนพร้อมๆ กัน

หนึ่งในนั้นหยิบโทรศัพท์ออกมาดู หลังจากเห็นเนื้อหาด้าน บน ตาทั้งสองข้างเบิกกว้างทันที จากนั้นหันหน้ากลับไปเหลือบ มองจิรภาสแวบหนึ่ง

“มีอะไรหรือ? ดูท่าทางนายสิ เหมือนกับตกใจมาก” คนด้าน ข้างเขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมา มองพักหนึ่ง จากนั้นปรากฏ สีหน้าแบบเดียวกับคนเมื่อครู่นี้

จิรภาสเห็นพวกเขาล้วนเป็นเช่นนี้ ก็พูดขึ้น “เกิดเรื่องอะไรขึ้น หรือ พูดหน่อยเถอะ ฉันไม่ดูโทรศัพท์แล้ว”

พูดแล้วก็ยกแก้วเหล้าตรงหน้าของตนขึ้น คิดจะดีมสักคํา

“พี่จิน สถิตินั้นของพี่ ถูกคนทำลายแล้วลังเลเล็กน้อย แต่คน คนนั้นยังคงพูดออกมา

มือที่กําลังยกขึ้นของจีรภาสหยุดลงกลางอากาศทันที สายตาของเขาตกลงบนร่างของคนที่พูด ขนบนตัวของคนคน

นั้นลุกชันขึ้นมา

ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น จิรภาสก็แสดงออกราวกับว่าไม่สนใจ ยกมือขึ้นดื่มเบียร์ไปอีกหนึ่ง แสร้งทำเป็นไม่สนใจแล้วพูดว่า:
“ไม่ใช่ว่าแค่ทําลายสถิติหรือไง ดูท่าทางตื่นตกใจของพวก นายสิ เมื่อครู่ฉันก็พูดแล้ว ซิลินนี้ก็แค่เรื่องเล็กน้อย ถูกคน ทำลายสถิติก็เป็นเรื่องปกติ ”

ถึงแม้ว่าปากจะพูดเช่นนี้ แต่ในใจของจิรภาสกำลังเริ่มด่าแม่ แล้ว เขาที่โอ้อวดสถิติของตนเองมานาน ไม่คิดว่าจะมีคนมา แย่งไปแล้ว ยังเป็นสถานการณ์ตอนที่เขาเพิ่งเสแสร้งเสร็จอีก ด้วย นี่ทำให้ในใจของเขาไม่สบอารมณ์

“คนที่ทำลายสถิติฉันใช้เวลาไปเท่าไหร่? ถ้าฉันเดาไม่ผิดนะ น่าจะอยู่ในช่วงแปดนาทีสินะ แปดนาทีผ่านซิลินนั้นได้ ก็เป็น ขีดจำกัดแล้ว ถึงแม้จะทำลายสถิติ ก็น่าจะไม่เกินไปสักเท่า ไหร่” จิรภาสแสร้งปลอบตัวเองไปอย่างนั้น

“แค่กๆ ” คนคนนั้นกระแอมในลำคอ จากนั้นพูดเรียบๆ ว่า “คน ที่ทำลายสถิติพี่ ใช้เวลาผ่านซิลินไปสี่นาทียี่สิบสองวินาที”

จิรภาสที่เดิมทีแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไร กระแทกแก้วเหล้า ในมือลงบนโต๊ะ หลังจากนั้นลุกยืนขึ้น ตะโกนว่า : “สี่นาทียี่สิบ สองวินาที? นี่มันจะเป็นไปได้ยังไง! “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ