แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่ 487 เป็นทรัพย์สินของตระกูลลัดดาวัลย์ทั้งหมด



บทที่ 487 เป็นทรัพย์สินของตระกูลลัดดาวัลย์ทั้งหมด

บทที่ 487 เป็นทรัพย์สินของตระกูลลัดดาวัลย์ทั้งหมด

“เธอพูดอะไร! ส่วนมากราคาขึ้นและหยุดอย่างคงที่งั้นหรอ? นี่เป็นไปได้ยังไง! ” นิรมัทตะโกนเสียงตกใจใส่ญาดา จากนั้นก็ แย่งมือถือในมือเธอทันที

ทุกคนในตระกูลลัดดาวัลย์ ตอนนี้ก็ได้เห็นถึงผลสรุปแล้ว เลือกที่จะจงรักภักดีต่อตระกูลลัดดาวัลย์จึงคลายยิ้มอันผ่อน คลายออกมา และคนพวกนั้นที่เลือกที่จะยืนอยู่ฝ่ายนิรมัทต่าง ก็ขมวดคิ้วเป็นปม สีหน้าดูหม่นหมองขึ้นมา

“เป็นแบบนี้ได้ยังไง? บริษัทที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ที่อยู่ภาย ใต้นามของตระกูลลัดดาวัลย์พวกนั้นจะราคาขึ้นและหยุด อย่างคงที่แบบนี้ได้ยังไง? กรุ๊ปKINออกหน้าออกตา หุ้นพวก นั้นน่าจะลงถึงจะถูก ต่อให้รพีพงษ์มีเงินหนึ่งหมื่นล้านจริงๆ ก็ทำได้เพียงทำให้ราคาหุ้นคงที่เท่านั้น ทำไมถึงได้ปรากฏ สถานการณ์แบบนี้ขึ้น? ” นิรมัทจับจ้องตัวเลขในมือถือ สีหน้าดู ฉงนสงสัย

ท่านคทาที่ยืนอยู่ข้างๆ รพีพงษ์ได้ยินคำพูดของนิรมัท จึง ถอนหายใจออกมายาวๆ ถึงแม้เมื่อคืนเขาจะรู้ถึงที่พึ่งพิงของ รพีพงษ์ ทว่าภายในใจก็ยังคงไม่สบายใจเล็กน้อย วันนี้พอเห็น ผลสรุปแล้ว เขาก็มั่นใจ นนทภูให้การสนับสนุนกับรพีพงษ์ เป็น สิ่งที่ทำให้คนรู้สึกตกตะลึงจริงๆ อีกอย่างยังเหนือสิ่งที่เขาคาด หมาย
“คง…..คงเป็นเพราะกรุ๊ปKIN ยังไม่ได้ลงไม้ลงมือหรือเปล่า? ” ญาดาถามอย่างไม่สบายใจเล็กน้อย ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ผลสรุปแบบนี้ทําให้เธอรู้สึกกระวนกระวายมาก

“ไม่มีทาง เรื่องนี้เกี่ยวเนื่องกับการลงเงินทุนมหาศาลแบบนี้ ทางฝั่งกรุ๊ปKINไม่มีทางชักช้าแน่นอน สถานการณ์แบบนี้ใน ตอนนี้ เกรงว่ากรุ๊ปKINออกหน้าแล้ว ทว่าก็ถูกพลังอีกพลังหนึ่ง จัดการ” นิรมัทอธิบายไปด้วย แล้วมองไปยังรพีพงษ์ไปด้วย

ญาดาก็มองไปทางฝั่งรพีพงษ์ ถ้ามีพลังอีกพลังหนึ่งดำรงอยู่ จริง งั้นก็คงมีแค่รพีพงษ์

ไอ้หมอนี่ กลับสามารถต่อต้านการลองเชิงของกรุ๊ปKINจริงๆ อีกอย่างยังสามารถทำให้ราคาหุ้นของตระกูลลัดดาวัลย์พุ่ง ขึ้นสูง นี่เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อจริงๆ

พอนึกถึงแบบนี้ ภายในใจของญาดาก็รู้สึกเสียดายเล็กน้อย

คนพวกนั้นที่เลือกเชื่อรพีพงษ์ ตอนนี้ทำใบหน้าดูผ่อนคลาย แล้วสายตาที่มองรพีพงษ์ก็เคล้าด้วยความนับถือ รพีพงษ์ สามารถจัดการวิกฤตของตระกูลลัดดาวัลย์ได้อย่างชิวขนาด นี้ ก็ได้เป็นเครื่องยืนยันได้ว่าเขาสามารถทําให้อนาคตของ ตระกูลลัดดาวัลย์กลายเป็นยังไง

และพวกคนที่เชื่อในคำพูดของนิรมัท ตอนนี้ก็มองนิรมัทด้วย สายตาที่โมโห เหมือนสามารถพุ่งเข้าไปกินเขาตลอดเวลา

“นิรมัท นายไม่ใช่ว่ากำลังหลอกพวกเราอยู่ใช่ไหม? นายให้ พวกเราเลือกฝั่งนาย สุดท้ายตระกูลลัดดาวัลย์ไม่ได้เป็นอะไร ไป ไหนๆ ก็เป็นแบบนี้แล้ว ทำไมพวกเรายังจะจากตระกูลลัด ดาวัลย์ไปกับนายด้วย? ”

“พูดถูก หรือว่าเพราะว่านายถูกไล่ออกจากตระกูลลัดดาวัลย์ ภายในใจจึงไม่พอใจ ดังนั้นเลยอยากจะทำให้พวกเราพลอย ซวยไปด้วย? ”

“ทำให้ฉันรู้สึกเครียดจริงๆ รู้แบบนี้ฉันน่าจะยืนหยัดหน่อย ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ลุ่มหลง ไปเชื่อคำพูดของนาย! ”

ทุกคนต่างก็ก่นด่านิรมัทขึ้นมา เหมือนอยากจะใช้สิ่งที่มา ยืนยันกับรพีพงษ์ว่าพวกเขาแค่ถูกนิรมัทยั่วยวนเท่านั้นจริงๆ

นิรมัทได้ยินคำพูดของทุกคน สีหน้าก็ดูแย่เล็กน้อย ยังไงเขา ก็ไม่เข้าใจว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น

“รพีพงษ์ ถือว่านายโชคดี ต่อให้นายสามารถฝ่าครั้งนี้ไป ยัง ไงก็มีครั้งต่อไป ครั้งนี้เกรงว่าคงจะถึงขีดจำกัดของนายแล้ว รอให้ถึงครั้งหน้า ฉันจะดูว่านาจะรับมือยังไง! ” นิรมัทตะโกน ใส่รพีพงษ์ด้วยความโหดเหี้ยม
“รพีพงษ์ ก่อนหน้านี้พวกเราถูนิรมัทยั่วยวน จึงตัดสินใจผิด พลาดไป จริงๆ พวกเขาก็คิดเผื่อตระกูลลัดดาวัลย์นะ นายต้อง เข้าใจเรา” คนพวกนั้นที่ยืนอยู่ข้างหลังนิรมัทก็เริ่มอยากจะ ฟื้นฟูภาพลักษณ์ที่มีต่อหน้ารพีพงษ์

“ใช่ เราต่างก็ถูกนิรมัทยั่วยวน รพีพงษ์ วันนี้ตระกูลลัดดาวัลย์ ก็ไม่เป็นอะไรแล้ว เรายอมที่จะทํางานเพื่อตระกูลลัดดาวัลย์ ต่อ วันข้างหน้าจะไม่มีทางสองจิตสองใจอีก! ” คนที่เหลือต่าง ก็พูดอย่างคล้อยตาม เพื่อแสดงว่าตั้งแต่วันนี้ตนเองต้องจงรัก ภักดีต่อตระกูลลัดดาวัลย์

ญาดามองเห็นฉากนี้ ก็อยากจะกลับตัวกลับใจไปอยู่ตรงหน้า รพีพงษ์อีก ยังไงตระกูลลัดดาวัลย์ก็ไม่เกิดเรื่องอะไรแล้ว คนที่ เกิดเป็นคนของตระกูลลัดดาวัลย์ แน่นอนว่าเธอต้องยอมอยู่ใน ตระกูลลัดดาวัลย์ต่ออยู่แล้ว

ทว่าสําหรับนิสัยของรพีพงษ์ก็มีความเข้าใจอยู่บ้าง ตอนที่รู้ ว่าเธอเลือกที่จะต่อต้านรพีพงษ์ เธอก็คงไม่มีทางได้กลับตัว กลับใจอยู่แล้ว

ดังนั้นหลังจากที่ลังเลไปสักพัก สุดท้ายญาดาก็แค่เม้มปาก แล้วก้มหน้าที่ดูหม่นหมองเล็กน้อย

รพีพงษ์มองคนพวกนั้นที่อยู่ข้างหลังนิรมัทด้วยความเย็นชา ผ่านไปสักพัก ก็พูดด้วยเสียงเสนาะหู “ตอนที่ตระกูลลัดดา วัลย์ต้องเผชิญกับขั้นวิกฤต พวกเธอไม่เพียงแต่ไม่ได้ตัดสิน ใจอย่างเด็ดขาดว่าจะต่อต้านวิกฤตไปพร้อมกับตระกูลลัดดา วัลย์ กลับเพราะว่าคำพูดที่ยั่วยวนเพียงไม่กี่คำของเขา ก็ไม่ได้สนใจในความเป็นความตายของตระกูลลัดดาวัลย์ ตอน นี้พวกเธอยังอยากให้ฉันเข้าใจพวกเธอ พวกเธอเห็นว่าฉันเป็น คนโง่หรือไง?

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเธอก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆ กับ ตระกูลลัดดาวัลย์อีก วันข้างหน้าพวกเธอจะเป็นยังไงก็ไม่ได้ เกี่ยวข้องกับตระกูลลัดดาวัลย์ของฉันอีก”

ทุกคนได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ก็สายหัวอย่างประหม่า และรู้ ว่าเรื่องนี้ก็ไม่มีทางดีขึ้น

“ไหนๆ ก็เป็นแบบนี้แล้ว งั้นพวกฉันก็จะไปเอาของของพวก ฉันก่อน ตอนนี้คิดๆ ดูแล้ว นายก็แค่สามารถต่อนต้านวิกฤต ของตระกูลลัดดาวัลย์แค่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ ถ้าเทียบกับ กรุ๊ปKINแล้ว นายยังแย่ไปกว่าเยอะ”

ทันใดนั้นก็มีคนกลับห้องของตัวเองแล้วไปเอาของสำคัญ หลังจากที่เอาเงินทุนแล้วก็ออกจากตระกูลลัดดาวัลย์

และในตอนนี้ ท่านคทาก็พากลุ่มคนยอดฝีมือของตระกูลลัด ดาวัลย์ไปขวางพวกเขาไว้

“รพีพงษ์ นี่นายความหมายว่ายังไง? พวกเราแค่วางแผนหา ทางออกอื่น หรือว่าของของพวกฉันก็ยังนำออกไปไม่ได้? ” จากนั้นก็มีคนๆ หนึ่งที่มีอายุเป็นรุ่นอาวุโสก็ขึงตามองรพีพงษ์ ด้วยความโมโห
“ตระกูลลัดดาวัลย์เป็นตระกูลหนึ่ง ไม่ใช่บริษัท หากพวกเธอ เป็นแค่พนักงานของตระกูลลัดดาวัลย์ อยากจะหาทางออกอื่น ฉันไม่มีสิทธิ์เข้าแทรกแซงอยู่แล้ว แต่ว่าพวกเธอเป็นคนของ ตระกูลลัดดาวัลย์ ตอนที่ตระกูลเผชิญกับความยากล่ามาก พวกเธอแค่หาทางออกให้ตัวเอง แม้กระทั่งยังยืนอยู่ทางฝั่ง ศัตรู”

“นี่เป็นการทรยศตระกูล! ”

“ของของพวกเธอ เป็นทรัพย์สินของตระกูลลัดดาวัลย์ ทั้งหมด วันนี้พวกเธอจะไป ฉันไม่ห้าม แต่ตั้งแต่วันนี้ถึงวันข้าง หน้า ทุกสิ่งทุกอย่างของตระกูลลัดดาวัลย์พวกเธออย่าคิดที่จะ ทําให้แปดเปื้อน ไม่งั้น อย่าหาว่าฉันไร้จิตใจ! ”

พูดจบ เรือนร่างของรพีพงษ์จึงระเบิดความอาฆาตออกมา

ทันที

ทุกคนสัมผัสได้ถึงความอาฆาตบนเรือนร่างของรพีพงษ์แล้ว ภายในใจจึงรู้สึกหวาดกลัว พวกเขาไม่ได้สงสัยเลยสักนิด ถ้า ตอนนี้พวกเขาเอาของของตัวเองออกไปจริงๆ รพีพงษ์คงจะลง ไม้ลงมือกับพวกเขา

ภายในใจของคนไม่น้อยรู้สึกเสียใจอย่างน่าแปลก ตอนที่รู้ว่า ตระกูลลัดดาวัลย์กำลังเผชิญกับวิกฤต พวกเขาต่างก็คิดหาวิธี เพื่อที่จะได้รับผลประโยชน์ไม่น้อยจากตระกูลลัดดาวัลย์ รอ ให้ตระกูลลัดดาวัลย์ไม่ไหวแล้วจริงๆ ก็จะพึ่งพาของพวกนี้ใน การดำรงชีวิตอยู่
ตอนนี้รพีพงษ์กลับตัดทางออกของพวกเขา แน่นอนว่าพวก เขาก็ต้องรู้สึกขุ่นเคืองใจอยู่แล้ว

“เหอะ ต่อให้ไม่เอาของพวกนี้แล้วจะทําไม เงินในบัญชีที่ฉัน ออมไว้ยังไงเขาก็ไม่มีทางขวางฉันให้ไปถอนออกมาได้ ข้างใน ก็แค่พวกวัตถุโบราณ ไม่เอาก็ไม่เอาก็ได้” ภายในใจของบาง คนคิดว่าโชคดี ยังดีที่ก่อนหน้านี้ตัวเองโอนเงินจากบริษัทออก มาไม่น้อย

แค่ว่าความคิดแบบนี้ก็กลายเป็นความคิดที่โง่ๆ ในวินาทีต่อ ไป เพราะว่าพวกเขาได้รับข้อความสั้น ข้างบนได้ปรากฏว่า บัญชีทั้งหมดถูกล็อค เงินข้างในไม่สามารถเอาออกมาแม้แต่ สลึงเดียว

รพีพงษ์ได้ควบคุมบัญชีหลักของตระกูลลัดดาวัลย์ และจะ ยอมให้คนพวกนี้เอาของแม้แต่ชิ้นเดียวจากตระกูลลัดดาวัลย์ ไปได้ยังไง พวกเขาเลือกที่จะยืนอยู่ตรงฝั่งนิรมัท รพีพงษ์ก็ เห็นว่าพวกเขาเป็นศัตรูไปแล้ว

“พวกนาย มาไล่พวกคนทรยศตระกูลออกไปเดี๋ยวนี้ ถ้ามีใคร กล้าขัดขืน ก็ให้ลงมือเลยทีเดียว ตีให้ตายก็ไม่ได้เป็นไร พวก เขาไม่ใช่คนของตระกูลลัดดาวัลย์แล้ว! ” ท่านคทาตะโกนขึ้น

พวกคนตระกูลลัดดาวัลย์จึงไล่คนของนิรมัทออกไปอย่างรวดเร็ว
นิรมัทหันไปขึงตามองรพีพงษ์เพียงพริบตาเดียวด้วยความ โหดเหี้ยม ภายในใจรู้สึกไม่พอใจ ทีแรกนึกว่าครั้งนี้รพีพงษ์ จะพ่ายแพ้แล้ว กลับนึกไม่ถึงว่าฝ่ายตรงข้ามจะสามารถรับมือ อย่างง่ายดาย

“ครั้งหน้า ครั้งหน้าฉันจะต้องทำให้แกไม่สามารถพลิกชีวิต อีก! ” นิรมัทกัดฟันกรอด

รพีพงษ์มองนิรมัทด้วยความนิ่งเฉย เขาก็ไม่ได้คิดจะจัดการ กับพวกคนนี้ในตอนนี้ เขาไม่สามารถเพราะว่าคนพวกนี้ทรยศ ตระกูล แล้วก็ฆ่าพวกเขา แบบนั้นเกรงว่าถึงเวลาตำรวจคงจะ มาหาเยือนถึงที่

ทว่าเขาก็รู้ดี คนพวกนิรมัทคงไม่สามารถกระโดดโลดเต้นไป ได้นานหรอก ตอนนี้ที่พึ่งพิงของพวกเขา ก็แค่กรุ๊ปKINเท่านั้น รอให้รพีพงษ์จัดการกับจิรเวชและโยษิตาเสร็จ คนพวกนี้ก็คง ไม่มีจุดจบที่ดีอยู่แล้ว

“ท่านคทา ที่นี่มอบให้คุณแล้ว” รพีพงษ์หันไปมองท่านคทา แล้วพูดขึ้น จากนั้นก็เดินไปยังห้องหนังสือ

เวลานี้มือถือของเขาดังขึ้น จึงได้เอาออกมาดู ไกรเดชเป็นคน ส่งข้อความมา

คุณรพี พรุ่งนี้มีเวลาว่างไหม มีคนนัดผมไปตลาดโบราณ สวรรค์ไปเยี่ยมชม คุณรพีจะไปกับผมอยู่ใช่ไหม ถึงเวลาผม จะเลือกของขวัญส่งให้คุณรพีไม่กี่อัน”
กรุ๊ปKIN

จิรเวชและโยษิตานั่งหันหน้าเข้าหากัน โยษิตามองข้อความ บนมือถือ แล้วขมวดคิ้วเป็นปม

“ตอนที่พวกเราลงไม้ลงมือกับตระกูลลัดดาวัลย์ มีพลังอัน ลึกลับกำลังก่อกวนการควบคุมของพวกเราอย่างลับๆ หุ้นของ บริษัทที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ไม่เพียงแต่ไม่ได้ลดลง กลับยัง ขึ้นสูงและอยู่ในจุดคงที่ รพีพงษ์คนนี้ อย่างที่คาดไว้ เขาไม่ได้ ง่ายอย่างที่เราคิด

ใบหน้าของจิรเวชเผยรอยยิ้มที่ไม่แคร์ แล้วพูดขึ้น “ถ้าเขาถูก ล้มง่ายขนาดนี้ ก็คงไม่น่าสนใจอะไร ทีแรกครั้งนี้ก็แค่การลอง เชิงเท่านั้น ไม่ต้องเอามาใส่ใจหรอก”

แม้ว่าโยษิตาจะประหม่ามาก เธออยากจะเห็นรพีพงษ์ล่มจม ต่อหน้าเธอตอนนี้จวนใจจะขาด แต่เธอก็รู้ดี การจู่โจมของรพี พงษ์ ยังคงต้องมีขบวนการ

“การลองเชิงครั้งนี้นอกจากอยากให้ตระกูลลัดดาวัลย์ล่มจม แล้ว จริงๆ แล้วก็คือต้องการลองเชิงความสามารถของรพีพงษ์ ต่อให้เขาสามารถจัดการวิกฤตครั้งนี้ แน่นอนว่าก็ต้องใช้การ พึ่งพาทั้งหมดของตัวเองไปแล้ว แบบนี้ดูๆ แล้ว การวางแผน เปลี่ยนแปลงเขตเมืองเก่า เขาต้องไม่มีโอกาสใดๆ อีกแน่นอน”
“วิธีที่พวกเราทำให้ตระกูลลัดดาวัลย์ล้มละลายจริงๆ ก็คือ แผนการเปลี่ยนแปลงเขตเมืองเก่า แค่การร่วมมือนั้นตกมาอยู่ ในมือของพวกเรา งั้นตระกูลลัดดาวัลย์ต้องไม่มีโอกาสพลิก ชีวิตตลอดกาล ตอนนี้ดูๆ แล้ว แผนการของเรา สำเร็จไปหนึ่ง ครึ่งแล้ว”

ได้ยินคำพูดของจิรเวช ภายในใจของโยษิตาก็รู้สึกสบายใจ เล็กน้อย จากนั้นก็ทำสีหน้าที่เคล้าด้วยรอยยิ้มที่รอคอย

งานเลี้ยงของผู้ที่รับผิดชอบแผนการเปลี่ยนแปลงเขตเมือง เก่า อีกไม่กี่วันก็จะเริ่มแล้ว ถึงเวลาที่จะแก่งแย่งการได้เป็นผู้ ร่วมงานแล้ว

วันนี้รพีพงษ์ใช้ไพ่ทั้งหมดที่มีไปแล้ว ถึงเวลา เขาจะเอาอะไร ไปแย่งกับกรุ๊ปKIN!

“รพีพงษ์ รอไว้ ต้องมีสักวันที่แกต้องคุกเข่าขอร้องฉัน” โยษิ ตาพึมพำนําในใจ

“ใช่แล้ว ผ่านไปอีกไม่กี่วัน งานเลี้ยงก็จะเริ่มขึ้นแล้ว ของขวัญ ต้องไม่ขาด ได้ยินว่าผู้รับผิดชอบชอบเล่นของวัตถุโบราณ สองวันนี้หาโอกาสไปหาวัตถุโบราณที่ดีๆ หน่อย ถึงเวลาจะได้ ส่งไป” จิรเวชพูดขึ้น

โยษิตาไม่ได้พูดอะไร แค่พยักหน้า


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ