แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่428 เธอเป็นคนวางแผน ส่วนฉันแค่ผู้ช่วย



บทที่428 เธอเป็นคนวางแผน ส่วนฉันแค่ผู้ช่วย

บทที่428 เธอเป็นคนวางแผน ส่วนฉันแค่ผู้ช่วย

อารียาเห็นไตรทศที่มาปรากฏกายขึ้นฉับพลัน ประสาทที่ตึง เขม็งก็คลายลง เธอรู้ดีว่ามีไตรทศอยู่ อันตรายใดๆก็มลายสูญ สิ้น

เพียงแต่ยิ่งเป็นแบบนี้ เธอก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า เรื่องวัน นี้เธอหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยแม้แต่น้อย หากแต่เธอแค่เชื่อมั่นใน บุษบากรมากเกินไปต่างหาก ต่อให้เธอรู้สึกแล้วว่า สถานที่มัน แปลกๆ เธอก็ยังไม่ระวังตัวอะไรเลย

และทุกครั้งที่เธอเจอเรื่องยุ่งยากแบบนี้ มักจะมีรพีพงษ์กับคน ที่รพีพงษ์จัดไว้ให้ยื่นมือเข้ามาช่วยเสมอ มันยิ่งทำให้เธอรู้สึก ว่าตัวเองด้อยค่า เธอไม่เคยจัดการความยุ่งยากของตัวเองได้ เลยสักครั้ง ได้แต่พึ่งรพีพงษ์กับธฤตญาณและไตรทศ

ความรู้สึกจิตตกเกิดขึ้นในใจ ต่อให้อันตรายถูกแก้ไปแล้ว ก็เถอะ เธอยิ่งรู้สึกว่าระหว่าง เธอกับรพีพงษ์ มีอะไรที่ต้อง ชดใช้ให้กันเยอะ

หลังจากที่ไตรทศตะบันชายวัยกลางคนจนลอยละล่อง จึง รีบรุดไปอยู่ข้างอารียา แล้วแก้มัดออกให้เธอ ถามขึ้นว่า “อาซ้อ ไม่เป็นอะไรนะ”

อารียาส่ายหน้า ดูเหมือนคนวิญญาณหลุดลอยออกจากร่าง พอขึ้นมาค่าหนึ่ง“ขอบใจนะ”
ไตรทศยิ้มขึ้นมา เปิดปากพูด“ยังจะต้องเกรงใจอะไรกันอก เล่า ปกป้องข้อเป็นหน้าที่ผมอยู่แล้ว ถ้าข้อเป็นไรไป พีรพีไม่ เอาผมไว้แน่ และผมก็รับปากแล้ว”

อารียายิ้มอย่างขมขื่น ไม่ได้พูดอะไรต่อ รู้สึกว่าค่าพูดของ ไตรทศทําให้ความรู้สึกของ เธอปักแน่นยิ่งขึ้น

ตอนนี้สภาพเธอเหมือนลูกนกโดนคันศร ที่อยู่ในช่วงจังหวะ อ่อนไหวมาก ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร เธอมักจะรู้สึกว่าคน รอบตัวเธอทำให้เธอยืนยันมากขึ้น เธอเป็นอีกเงาร่าง ของรพี พงษ์ ที่ระดับความสัมพันธ์นั้นไม่เข้ากันเลย

ความรู้สึกที่ถูกละเลยไม่อาจประเมินได้ สถานภาพของรพี พงษ์ในตอนนี้สูงกว่าอารียามากนัก และความคาดหวังที่อารี ยามีให้รพีพงษ์ในตอนนั้น มันเทียบกันไม่ได้เลย

ถ้าหากว่าตอนนี้รพีพงษ์อยู่ข้างๆเธอละก็ เธอคงจะบอกเรื่อง นี้กับรพีพงษ์ ที่จริงก็ไม่มีอะไรแล้วหรอก ที่สำคัญที่สุดคือ รพีพงษ์ไม่ได้อยู่ด้วยในตอนนี้ อารียาไม่สามารถระบายอา รมณ์ในใจตัวเธอเองออกมา จึงได้แต่คิดฟุ้งซ่าน

“อาซ้อ รออยู่ตรงนี้ก่อนนะ ผมไปจัดการไอ้บ้าสองคนนั้นก่อน พวกมันกล้าทำกับซ้อแบบนี้ ผมไม่ปล่อยพวกมันไว้แน่”

ไตรทศพูดมาคำหนึ่ง จากนั้นจึงหันหลังเดินกลับไปที่ชาย หญิงสองคนนั้น
ชายวัยกลางคนโดนไตรทศซ้อมจนกระอักเลือด ซีโครงหก ไปไม่น้อย แต่ยังไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต

ส่วนหญิงวัยกลางคนกองทับอยู่บนตัวชายวัยกลางคน เธอก็ ร้องโหยหวนเช่นกัน แต่ไม่นานเธอก็ผละชายวัยกลางคนออก ปัดก้นแล้วลุกขึ้นยืน

แม้ว่าการพังประตูของไตรทศจะทำให้เธอตกใจไม่น้อย แต่ เธอเองก็ยังไม่แน่ใจในฝีมือของไตรทศ สำหรับเธอแล้ว พวก ชายหนุ่มก็คงจะมีพละกำลังไม่ต่างจากไตรทศนักหรอก

พอลุกขึ้นจากพื้น หญิงวัยกลางคนจึงหันหน้าไปประจัญกับ ไตรทศ แล้วด่ากราดออกมา”มึงเป็นไอ้บ้าที่ไหนโผล่มาวะ มา ลงไม้ลงมือกับพวกเราทำไม ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือไง”

“พวกแกลงมือกับคนที่ไม่ควรลงมือ คนที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่น่ะ คือพวกแกต่างหาก”ไตรทศพูดเสียงเย็นชา

หญิงวัยกลางคนคนนั้นราวกับแม่ค้าปากตลาด เธอ เธอไม่เห็น ไตรทศอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย สำหรับเธอแล้ว ไตรทศ ก็แค่ขู่ให้เธอตกใจเท่านั้นล่ะ แต่คงไม่กล้าทำอะไรพวกเขา หรอก

“ไม่ต้องมาตอแหลกับกู มึงรีบชดใช้ค่ารักษามาสองแสนเลย แล้วก็ไสหัวไปเลย พวกกูน่ะมีคนหนุนหลังหมดนะ ถ้าแกทำให้ หัวหน้าเราเคือง หัวแกหลุดแน่! “หญิงวัยกลางคนตะโกนก้อง

ไตรทศแค่นเสียงเย็นชา ก่อนที่เขามาเขารู้อยู่แล้วว่ามีคน บงการเพียงแค่คนเดียว

ธฤตญาณก็ได้ลากให้คนพาไปหาตัวการแล้ว ไตรทศไม่ต้อง เป็นห่วงอะไรเลย

เขาเดินไปหยุดตรงหน้าหญิงวัยกลางคน แล้วตบหน้าลงฉาด หนึ่ง น้ำหนักของฝ่ามือ ทำให้เกิดรอยแดงบนใบหน้าหญิงคน นั้น

“ชีวิตตัวเองยังเอาไม่รอด ยังจะมาค่ารักษาอะไรอีก เศษ มนุษย์อย่างพวกแก มีชีวิตต่อบนโลกมนุษย์ก็สิ้นเปลือง เปล่าๆ ! “ไตรทศแค่นเสียงเย็นชา

หญิงวัยกลางคนขนลุกซู่ เธอยกมือขึ้นตามสัญชาตญาณ ตวัดไปทางไตรทศ ปากก็พร่ำด่าไม่หยุด: ไอ้เด็กเวร มึงกล้า ตบกูเหรอ กูจะฆ่ามึง! ‘

ไตรทศจับแขนหญิงวัยกลางคนนั้นไว้ จากนั้นออกแรง แล้ว หักแขนเธอออกเป็นสองท่อน

สำหรับพวกค้ามนุษย์แบบนี้แล้ว ไตรทศไม่เคยคิดปราณี

หรอกนะ

ถ้าตอนนี้มีโอกาสคงฆ่าสองคนนั้นทิ้งไปแล้ว แต่เขาก็คิดว่าฆ่าทิ้งก็น่าเสียดาย ก่อนที่จะส่งสองคนนี้ลงไปเจอกับยมบาล เขาจะต้องให้สองคนนี้ลิ้มลองความเจ็บปวดให้สาสม

พอหญิงวัยกลางคนเห็นว่าตัวเองแขนหัก จึงรีบร้องโอดโอย ขึ้นมา สีหน้าแสดงความหวาดกลัว รู้ว่าเวลานี้เธอถึงได้สำนึก ว่า คนที่อยู่ตรงหน้านั้น ล้อเล่นด้วยไม่ได้

เธอถอยหลังกรูด้วยความหวาดผวา มือหนึ่งกุมแขนที่หักเอา ไว้ กัดฟันกรอดๆพูด” มึง…..อย่าเข้ามานะ ถ้ามึงกล้าลงมือ กับกูอีก ตำรวจไม่ปล่อยพวกมึงไว้แน่ ที่พวกแก ทำตอนนี้ เรียกว่าอาชญากรรม! ”

ไตรทศนําก๊าก พูดว่า “เรื่องที่พวกแกทำก่อนหน้า มันไม่เรียก ว่าอาชญากรรมหรือไง ที่ฉันทำอยู่เนี่ย แค่เรียกว่าลงโทษ ป้องกันตัวโว้ย!

พูดจบ เขาจึงก้าวเท้าออกไปอีก จับแขนอีกข้างของหญิงวัย กลางคนโดยไม่ลังเล หักแขนเธอทิ้งโดยที่คิดว่าไม่มีความ จําเป็นจะต้องมีอีกต่อไป

ตอนนี้หญิงวัยกลางคนรู้แล้วว่าคนที่ลักพาตัวมาในรอบนี้ไม่ ได้กระจอกอย่างที่คิด คนที่ มาช่วยหล่อนนั้นเป็นปิศาจชัดๆ

“ฉันผิดไปแล้ว พ่อหนุ่ม ไว้ชีวิตฉันเถอะ ฉันไม่กล้าอีกแล้วจ้า ปล่อยฉันไปเถอะนํา หญิง วัยกลางคนวิงวอน

“มาขอร้องตอนนี้ สายไปแล้ว! “ไตรทศถีบท้องหล่อนเปรี้ยง ถีบจนหล่อนตัวขดตัวงออยู่บนพื้น จากนั้นจึงพุง เปราว สายฟ้าแลบ หักขาสองท่อนของเจ้าหล่อน

หญิงวัยกลางคนสีหน้าซีดเผือด เธอหายใจรวยริน แขนขาสี่ ข้างขาไปหมดในหัวเวิ้งว้างมีแต่ความเจ็บปวด

ทําเรื่องพวกนี้เสร็จ ไตรทศหันหลังไปหาชายวัยกลางคน ที่นอนพะงาบๆอยู่ ชายวัยกลางคนนั้นเห็นทุกขั้นตอนที่ไตรทศ ทรมานหญิงวัยกลางคน ตอนนี้เขาขนหัวลุกไปทั้งตัว แวว ตา เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

เขาพยายามตะเกียกตะกายหนีซมซานตามสัญชาตญาณ แต่ว่าตอนที่โดนไตรทศถีบนั้น เขาแทบจะไร้เรี่ยวแรงลงทันที ได้แต่คลานเหมือนไส้เดือน ค่อยๆกระเถิบออกไป

“ปล่อยฉันไป…………คือยัยผู้หญิงโง่นั่นชวนให้ฉันทำ มัน เป็นต้นคิด ผมเป็นแค่ผู้ช่วย ชายวัยกลางคนตะโกนร้องออก มาด้วยสีหน้าผิดหวัง

“มาจนป่านนี้แล้ว มาพูดแบบนี้ จะมีประโยชน์อะไร แกคิดว่า ฉันจัดการหล่อนจนเป็นสภาพนั้นแล้ว จะปล่อยแกไปง่ายๆเห รอ หาเรื่องใส่ตัวชัดๆ”

ไตรทศยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างร้ายกาจ ค่อยๆก้าวเท้าไปหา

ชายวัยกลางคน

ไม่ถึงสองนาที ชายผู้นั้นก็ร้องโอดครวญเสียงสะท้อนไปทั่วเมืองเก่า

แก้ปัญหาชายหญิงวัยกลางคนคู่นี้เสร็จ ไตรทศจึงเดินไปหา อารียา เปิดปากพูด “อาซ้อ ผมส่งกลับบ้านนะ”

อารียาลุกโพลงขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินตามไตรทศออกไป

ตอนนี้มีสองคนที่วิ่งวนอยู่ในบ้าน หลังจากที่เห็นไตรทศ จึง รีบพูดขึ้น”พี่ไตรทศ พี่ธฤตญาณหาเบื้องหลังเจอแล้ว เป็นชาย หนึ่งหญิงหนึ่ง เขาได้พาพรรคพวกล้อมบ้านไว้หมดแล้ว แต่ว่า ผู้ชายคนนั้นเก่งมาก พี่ธฤตญาณเลยบอกให้พวกเรามาตาม

ไตรทศพยักหน้ารับรู้ แล้วหันหลังไปมองอารียา พูดขึ้น“อา ซ้อ ตามผมไปก่อน พวกมันมีแค่สองคน เดี๋ยวซ้อก็หลบหน่อย แล้วกัน ขอแค่ไม่โดนซ้อก็พอ”

อารียาก็ไม่ได้ปฏิเสธ เธอเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าใครกัน แน่ที่เป็นคนบงการอยู่เบื้องหลัง เธอยังคิดว่าบุษบากรอาจจะ ถูกข่มขู่คุกคามให้ทำแบบนี้

เธอนึกถึงคนที่ปลอมตัวเป็นแฟนคนแรกของรพีพงษ์ อารียา แอบรู้สึกว่า เรื่องราวในสองครั้งนี้ น่าจะเป็นคนๆนั้นนั่นแหละที่

ก่อนที่จะออกไป ไตรทศมองไปทางชายหญิงคู่นั้นทีหนึ่ง เปิด ปากพูดขึ้น“โดนพวกมันไว้ ในหุบเขา ให้จิ้งจอกกิน”
สองคนรีบพยักหน้าโดยทันที พอได้ยินคำพูดของ ไตร ตาของชายหญิงกลางคนคู่นี้ก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง แต่ว่า จะมาเสียใจตอนนี้ ก็สายไปเสียแล้วล่ะ

ไตรทศพาอารียาออกจากบ้านไปด้วยกัน แล้วรีบสาวเท้าไป ยังที่ๆพวกธฤตญาณอยู่

ไม่นานนัก ทั้งคู่มาถึงกลางตรอก เห็นธฤตญาณพาคนล้อม

ชายหญิงคู่หนึ่งอยู่ไม่ไกลนัก

โยษิตากับธนาตย์ต่างก็คิดไม่ถึง แผนการกลับเมืองริเวอร์ เพื่อลักพาตัวอารียาในครั้งนี้ โดนจับได้เสียเร็วเหลือเกิน พวก เขาเพิ่งออกจากห้องมาได้ไม่นานเท่าไหร่นัก ก็โดนพวกธฤต ญาณล้อมเข้าเสียแล้ว

พวกเขาไม่รู้หรอก หลังจากเกิดเหตุเมื่อคราวก่อน รพีพงษ์จึง จัดวางความปลอดภัยของ อารียาไว้เป็นอันดับหนึ่ง เขาจัดผู้ อารักขาล้อมรอบตัวอารียา ถ้าแบบนี้ยังทำให้แผนการของโย ษิตากับธนาตย์สําเร็จได้อีกละก็ ธฤตญาณก็คงจะเรียกว่าใช้ ไม่ได้จริงๆ

ธฤตญาณไม่รู้จักโยษิตา ก่อนหน้าที่โยษิตาจะมาเมืองริเวอร์ ปฤตญาณไม่เคยเห็นหล่อนมาก่อน เพียงแค่เคยได้ยินรพีพงษ์ เอ่ยถึงก็เท่านั้น ก็เลยไม่รู้ว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ก็คือผู้หญิง สารพัดพิษที่ชื่อว่าโยษิตาตามที่รพีพงษ์เคยเล่า

เวลานี้โยษิตากับธนาตย์มองธฤตญาณอย่างระแวดระวัง ธฤตญาณเองก็ป้องกันตนไว้เช่นกัน แม้ว่าตรงหน้ามีคนแคสอง คน แต่เขาก็ไม่ประมาท

“พวกแกสองคนเป็นใครกันแน่ ทำไมต้องลงมือกับอารียา”ธ ฤตญาณพูดเสียงขรึม

โยษิตาหรี่ตามองธฤตญาณ เปิดปากพูด เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ แก ฉันว่าพวกแกรีบไสหัวไปจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นจุดจบไม่สวย แน่! ”

“โยษิตา! ทําไมถึงเป็นเธอ! เธอตายแล้วไม่ใช่เหรอ”ใน เวลานี้เอง น้ำเสียงของอารียาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

โยษิตา นมองข้าง หลังจากที่เห็นอารียาเดินมา สีหน้า ตึงเครียด เธอคิดไม่ถึงว่าแผนการของตัวเองจะล้มเหลว

อารียามองไปยังโยษิตาอย่างเหลือเชื่อ หลังจากที่รพีพงษ์ กลับมา บอกกับเธอว่าเกิดเรื่องขึ้นที่เกียวโต อารียาก็รู้แล้วว่า โยษิตาคงจะสำแดงฤทธิ์ใส่รพีพงษ์เต็มที่ ไม่อย่างนั้นรพี พงษ์ คงจะออกจากเมืองริเวอร์อย่างสบายใจไม่ได้

แล้วจู่ๆคนที่ตายไปแล้วกลับมาปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเธอเสีย ดื้อๆแบบนี้ จะไม่ให้เธอตกใจได้อย่างไร

หลังจากที่ธฤตญาณได้ยินเสียงร้องตกใจของอารียา เขาก็ รู้ถึงฐานะของผู้หญิงที่อยู่ตรง หน้าโดยทันที แม้ว่าในใจจะตื่น ตระหนก แต่ว่าเขารู้ดี ว่าหน้าที่หลักของเขาตอนนี้คือจับสองคนนี้ไว้ แค่จับสองคนนี้ไว้ เรื่องอื่นๆก็จะตรวจส วจสอบ โดย จ่ายเอง

“ในเมื่อเป็นศัตรูของรพีพงษ์ ก็อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจก็แล้ว กัน! ทุกคนฟังคำสั่ง จับสองคนนั้นไม่ว่าจับเป็นหรือจับตาย ถ้าจับไม่ได้ ก็จับเป็นศพก็ได้! “ธฤตญาณตะโกน

ตอนนี้ธนาตย์เข้าบังตัวโยษิตาเอาไว้ มองไปรอบๆด้วย สายตาเย็นชา เปิดปากพูด “คิดจะจับเธอ ผ่านด้านข้าไป ก่อน! “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ