แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่ 434 ฉันยอมแพ้



บทที่ 434 ฉันยอมแพ้

บทที่ 434 ฉันยอมแพ้

วันที่สอง หอแข่งขันศิลปะการต่อสู้กิสนา

ทุกคนในคุกใต้ดินถูกพามาถึงสนามประลองทั้งสี่ทิศ มารับ ชมการจัดการท้าประลองในวันนี้ รพีพงษ์ท้าประลองยอดฝีมือ อันดับเทพเจ้าแห่งสงครามลำดับที่สิบสามยมราชเตชัส

เพราะเป็นการท้าประลองส่วนในของเทือกเขากิสนา ดังนั้นจึง ไม่ได้เปิดเผยต่อกลุ่มคนที่มาท่องเที่ยวพักผ่อนของเทือกเขากิ สนา เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะว่าการท้าประลองประเภทนี้ตลอด ทั้งปีก็ไม่แน่ว่าจะมีสักครั้ง อีกเหตุผลหนึ่งคือการท้าประลอง ประเภทนี้กำลังความสามารถของทั้งสองฝ่ายล้วนแตกต่างกัน อย่างมาก หลายครั้งที่ผลลัพธ์ไม่ต้องพูดก็เห็นได้ชัดเจน ดัง นั้นจึงไม่จำเป็นต้องจัดเป็นการแสดงการแข่งขันแสดง ภายใน ส่วนในของเทือกเขากิสนาหาผู้ชมจำนวนหนึ่งมาก็เพียง พอแล้ว

ในเวลานี้ทุกคนในคุกใต้ดินต่างกำลังถกเถียงกันดังระงม มี เพียงห้องหมายเลข 13 เท่านั้นที่ค่อนข้างเงียบ คนเหล่านั้น รอบตัวพวกเขามักจะส่งความเห็นใจหรือไม่ก็เย้ยหยันมาให้ เหมือนกับว่ากําลังมองเรื่องตลก

แม้ว่ารพีพงษ์จะสามารถผ่านซิลินมาได้ พิสูจน์ให้เห็นว่าเขา มีกำลังความสามารถแข็งแกร่งมากยิ่งว่าคนส่วนใหญ่ในคุก ใต้ดิน ทว่าคนเหล่านี้ไม่ได้มีความเลื่อมใสชื่นชมต่อรพีพงษ์แม่นกน้อย แต่กลับส่วนเบาะหวั่นจากทาง เพราะในความคิด 24 มกเขา ถึงแปรพีพงษ์จะนับว่าผ่านซิลิน การท้าประลอง อยากให้ลองเอาชีวิตของเขา

“พีพงษ์อนนี้หาเรื่องตายโดยแท้ เขาเพิ่งจะมาเทือกเขา สนาได้ครึ่งเดือนกว่า เดิมทีก็สร้างชื่อเสียงในคุกใต้ดินได้ แล้ว ไม่มีคนกหาเรื่อง ถ้าอยู่ต่อไป ห้องหมายเลข 13 ห้อง นั้นภายใต้การนำของเขาก็ไม่แน่ว่าสามารถกลายเป็นห้อง ที่แข็งแกร่งที่สุด น่าเสียดายในหัวของคนคนนี้ไม่รู้กำลังคิด อะไรอยู่ ถึงกับไปสมัครซิลิน เช่นนี้ดีนัก ตัวเองเล่นตัวเองจน สามแล้ว มได้ยอดฝีมืออันดับเทพเจ้าแห่งสงครามลำดับที่ รับสาม ถ้าเอาชนะได้ ฉันจะเขียนชื่อกลับหัวเลย

โสมสร้งน่ะสิ คิดว่าตัวเองชนะการแข่งขันประลองในคุก ใต้ดินไม่กี่สนาม ก็ตัวลอยแล้ว ถึงกับคิดว่าตัวเองจะสามารถ ท้าประลองกับยอดฝีมืออันดับเทพเจ้าแห่งสงครามได้ ครั้งนี้ ยมราชเตซัสจะต้องสั่งสอนเขาให้รู้สำนึก”

“จุ๊ๆ ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ความกล้าของคนคนนี้ไม่ใช่กล้า หาญธรรมดานะ เปลี่ยนเป็นฉัน เกรงว่าความกล้าที่จะสมัครชิ สินยังไม่มีเลย”

“นี่มันเรียกว่าใจกล้าที่ไหน? นี่ชัดเจนว่าไม่มีสมอง ทำอะไรไม่ นึกถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา คนประเภทนี้อยู่ในเทือกเขาสนา ทิ้งชีวิตไปได้ง่ายดายที่สุด”
ในบริเวณของห้องหมายเลข 12 หมาบ้าใบหน้าเต็มไปด้วย การยิ้มเยาะจ้องมองคนของห้องหมายเลข 13 มุมปากโค้งขึ้น เต็มไปด้วยความดูถูก

“จงจินตน์ ลูกพี่ของพวกแกกำลังจะได้ไปเจอพญายมแล้ว แก มีความรู้สึกยังไงบ้างล่ะ? ” หมาบ้าตะโกนใส่จงจินตน์

จงจินตน์ทำหน้าเย็นชามองเขา พูดขึ้น : “ก่อนที่ผลลัพธ์จะ ออกมา ฉันเตือนแกว่าดีที่สุดอย่าเพิ่งลำพองใจ ไม่เช่นนั้น สุดท้ายแล้วจะเป็นการตบหน้าตัวเอง”

“ฉันลำพองใจ? แกกำลังเล่นตลกอะไรกัน ฉันก็แค่กำลังพูด ความจริงที่ทุกคนต่างเห็นด้วยเท่านั้น หรือแกมองไม่เห็นท่าที ของทุกคนหรือไง? แกไปถามคนที่อยู่ที่นี่ นอกจากพวกแก คนของห้องหมายเลข 13 แล้ว มีใครสักคนที่คิดว่ารพีพงษ์จะ สามารถชนะยมราชเตชัสได้กัน? ” หมาบ้าตอบกลับอย่างไม่ สนใจ

จงจินตน์ในใจลุกโชนด้วยความโกรธ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะโต้แย้ง หมาบ้ายังไง สุดท้ายจึงได้แต่กัดฟันถลึงตาจ้องเขา หันหน้า กลับมา ไม่สนใจเขาอีก

หมาบ้ามองเห็นท่าทีของจงจินตน์ พอใจอย่างยิ่ง ตอนนี้เขา ชอบมองท่าทางคนของห้องหมายเลข 13 ที่ทำอะไรเขาไม่ได้

“รอให้ไอ้เด็กรพีพงษ์นี่ตายแล้ว พวกแกห้องหมายเลข 13 ก็แต่การรวมกันของกลุ่มสวะเท่านั้น ถึงตอนนั้นฉันจะต้อง เหยียบย่ำพวกแกอย่างเต็มที่ ทำให้พวกแกหมอบอยู่ใต้ฝ่าเท้า ตลอดไป พูดอย่างมั่นใจประโยคหนึ่ง จากนั้นย้ายสายตาไป ที่บนสนามประลอง

เวลานี้รพิพงษ์ยืนอยู่บนสนามประลองแล้ว เขามีสีหน้าสงบ แม้ว่าข้างหูจะเต็มไปด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของกลุ่มคนด้าน ล่าง แต่เขาก็ไม่ขยับเลยสักนิด

ความรู้สึกที่ไม่ถูกทุกคนยอมรับประเภทนี้ ตอนอยู่โลก ภายนอก เขาก็คุ้นชินเสียแล้ว ดังนั้นจึงไม่รู้สึกว่าคำพูดของคน พวกนี้จะเกิดผลกระทบอะไรต่อเขา

และแต่ไหนแต่ไรมาเขาก็ชอบใช้ผลลัพธ์ท้ายสุดในการพูด รอการประลองจบลง พวกคนที่อวดดีคิดไปเองเหล่านั้น ก็จะ หุบปากตัวเองไปในท้ายที่สุด

หอแข่งขันศิลปะการต่อสู้ชั้นสอง มีคนจำนวนไม่น้อยกำลัง ยืนอยู่รอบรั้วกั้น มองที่สนามประลองด้านล่าง

คนกลุ่มนี้หลังได้ยินมาว่ารพีพงษ์ท้าประลองกับยมราชเตชัส รีบมาชมการประลองของยอดฝีมืออันดับเทพเจ้าแห่งสงคราม

หนึ่งในคนที่ยืนอยู่หน้าสุด ก็คือจิรภาสปืนเหล็กอันดับเทพเจ้า แห่งสงครามลำดับที่สิบห้า
หลังจากได้ยินว่าสถิติซิลินของตนถูกทำลาย ความรู้สึก ภายในใจของจิรภาสค่อนข้างสับสน ถึงแม้ว่าในปัจจุบันกำลัง ความสามารถของเขาจะไม่เห็นซิลินเล็กๆ นี้อยู่ในสายตามา นานแล้ว แต่ว่าหลายปีมานี้เขาและเพื่อนๆ พูดคุยกัน สิ่งเดียว ที่นํามาโอ้อวดได้ก็มีเพียงไม่กี่เรื่องนี้ ตอนนี้ถูกรพีพงษ์แย่งเอา ไปเรื่องหนึ่ง ในใจของเขาเป็นธรรมดาที่จะไม่สบอารมณ์

ดังนั้นเขากับเพื่อนๆ จึงมาดูการท้าประลองของรพีพงษ์ด้วย กัน ดูคนที่ใช้เวลาเพียงสี่นาทีก็ผ่านซิลินได้คนนี้ แท้จริงแล้ว เป็นใครกันแน่

“ดูแล้วโชคของไอ้หนุ่มนี่ก็ไม่เท่าไหร่ ถึงกับสุ่มได้ไอ้บ้ายม ราชเต สคนนั้น น่าเสียดายจริงๆ เดิมทียังจะรอให้เขาผ่าน การประลอง ไปถามเขาว่าทําอย่างไรถึงใช้เวลาสั้นขนาดนั้น ในการผ่านชิลินได้” จิรภาสพูดขึ้น

คนที่อยู่ข้างเขาคนหนึ่งรีบประจบว่า : “พี่จิน นี่มีอะไรน่าถาม กัน ด้วยกำลังความสามารถของพี่ในตอนนี้ อยากจะผ่านซิลิ นนั่น เกรงว่าคงจะเร็วยิ่งกว่าไอ้หนุ่มนั่นมากโข อีกอย่าง โชค ก็เป็นส่วนหนึ่งของความสามารถ ไอ้หนุ่มนี่โชคย่ำแย่ขนาดนี้ พูดได้แค่ว่าความสารถก็คงไม่เท่าไหร่ คาดว่าโชคทั้งชีวิตของ เขา คงใช้ไปในซิลินทั้งหมดแล้ว”

จิรภาสเพียงแค่ยิ้มๆ ไม่ได้ปฏิเสธอะไร สายตายังคงจ้องรพี พงษ์ที่อยู่ล่างสนาม

ผ่านไปไม่นาน การท้าประลองได้เริ่มขึ้น ตอนนี้เงาร่างหนึ่งที่เดินเข้ามาจากด้านนอกของหอแข่งขันศิลปะการต่อสู้ ก็คือ ยมราชเตชัสผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในเทือกเขากิสนา เตชัส

หลังจากเตชัสเข้ามาถึงในหอแข่งขันศิลปะการต่อสู้ ตรงขึ้น

ไปบนสนามประลอง ยืนอยู่ตรงข้ามรพีพงษ์

เขาจ้องมองรพีพงษ์ทีหนึ่ง บนใบหน้าเต็มไปด้วยความจำใจ

เขาก็คิดไม่ถึงว่า คู่ต่อสู้ที่รพีพงษ์สุ่มได้จะเป็นตัวเขาเอง ตอน นั้นชั่วขณะที่ได้ยินข่าวนี้ ที่เขาคิดได้คือยอมแพ้ ในความคิด เขา ตนเองไม่มีโอกาสที่จะชนะรพีพงษ์ได้เลย

ดังนั้นเขาคิดดีแล้วว่าวันนี้บนสนามประลองตนเองจะทำ อย่างไร ก็เพียงเสียหน้าเล็กน้อยเท่านั้น

ในความคิดเขา เสียหน้ากับเสียชีวิตเทียบกันแล้ว อย่างแรก ไม่มีค่าให้เอ่ยถึง

อย่างรวดเร็ว ชนายุสผู้ดูแลคุกใต้ดินก็เดินเข้ามาถึงสนาม ประลอง หยิบไมโครโฟนขึ้นมา ประกาศเริ่มการประลองอย่าง เป็นทางการ

ทุกคนต่างจดจ่อมองไปยังรพีพงษ์และเตชัสที่ด้านบนสนาม ประลอง รอคอยการประมือระหว่างทั้งสองคนนี้

รพีพงษ์จ้องมองเตซัส จากนั้นบนใบหน้าเผยรอยยิ้มสงบนิ่ง ออกมา เปิดปากพูด “ฉันถามพวกเขาแล้ว การประลองนี้ไม่จำเป็นต้องกำจัดคู่ต่อสู้ให้ถึงตาย เพียงแค่มีคนยอมแพ้ก็นับว่า สิ้นสุด นายคงจะคิดดีแล้วว่าจะทำอย่างไรสินะ? ”

เตชัสเผยรอยยิ้มขมขื่น พยักหน้าให้รพีพงษ์ พูดขึ้น “ชื่อเสียง ที่ฉันสะสมมาอย่างยากลำบากในเทือกเขากิสนา เกรงว่าจะ ต้องตกต่ำลงในวันนี้แล้ว”

หลังจากนั้นเขาหันกาย กวาดตาไปรอบสนาม ใช้เสียงที่ทรง พลังตะโกนว่า : “ฉันยอมแพ้!!! “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ