แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่85 จะซื้อธนาคารมาเลยก็ยังได้



บทที่85 จะซื้อธนาคารมาเลยก็ยังได้

บทที่85 จะซื้อธนาคารมาเลยก็ยังได้

ผู้จัดการพูดเสียงดัง ทำให้ทุกสายตาในห้องโถงพุ่งมาที่ จุดเดียว

พวกเขาพินิจพิเคราะห์รพีพงษ์ ก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไร

ขั้น

“คุณวรดรเป็นเศรษฐีน่ะ ธนาคารต้องเอาใจเป็นธรรมดา คนไม่มีเงินจะไปเทียบกับเขาได้ไง”

“สังคมสมัยนี้ใครมีเงินก็มีสิทธิ์ขาด คนนี้ก็อุตส่าห์ซื้ออยู่ ตรงนี้ ถ้าเขามีเงินแบบคุณวรดร ธนาคารก็คงจะเอาใจเป็น พิเศษ”

“จ๊า คนๆนั้นแต่งตัวซอมซ่อขนาดนั้น ดูก็รู้แล้วว่าไม่มีเงิน หรอก ยังเพ้อเจ้อจะไปเทียบกับคุณวรดรอีก ตลกดีเนอะ”
คุณวรดรหันไปมองรพีพงษ์ ใบหน้ายิ้มเยาะ พูดขึ้นว่า”พี่ น้อง ผมเป็นสมาชิกบัตรทองคำของธนาคารนี้ มีสิทธิพิเศษ ถ้าอยากจะให้เขาปฏิบัติกับพี่ชายแบบนี้ ก็ต้องทำสักใบ แต่ ว่าเงินที่ใช้ทำบัตร น่าจะมากกว่าเงินฝากทั้งหมดที่พี่ชายมี ล่ะมั้ง”

ผู้จัดการหัวเราะเสียงดัง พูดว่า”คุณวรดรพูดถูกแล้วครับ เขาจะมีปัญญาสมัครบัตรทองคำของธนาคารเราได้ไง ก็แค่ ยาจกคนหนึ่ง”

ธฤตญาณเห็นทั้งสองคนร้ายกาจขนาดนี้ ในใจเกิดไม่สบ อารมณ์ขึ้น ไม่ว่ารพีพงษ์จะมีเงินมากขนาดนี้หรือไม่ ก็ไม่ ควรจะปฏิบัติด้วยแบบนี้

“พี่รพี จะให้ไตรทศมาช่วยไหม จัดการพวกมันสองคน”ธ ฤตญาณถามขั้น

รพีพงษ์สายหน้า จากนั้นจึงหยิบบัตรธนาคารตัวเองออก มา แกว่งไกวตรงหน้าผู้จัดการธนาคาร พูดขึ้น”เรียกผู้ อำนวยการใหญ่ออกมา”

ผู้จัดการจ้องมองบัตรในมือรพีพงษ์ เบ้ปากทันที
เขาไม่รู้จักบัตรในมือรพีพงษ์แม้แต่น้อย เพราะบัตรใบนี้ มีจำนวนจำกัดเหลือเกิน มีแต่กลุ่มคนที่มีเงินมากที่สุดใน ธนาคารไม่กี่คนเท่านั้นถึงจะมี ระดับผู้จัดการคงยังสัมผัส ไม่ถึง

“คุณจะบ้าหรือไง สมาชิกของเราที่นี่ถ้าไม่ใช่บัตรทองคำ ก็คือบัตรเงิน คุณเอาบัตรดำมาแกว่งไปแกว่งมาหาอะไร แถมยังอยากพบผู้อำนวยการ ฝันไปเถอะนะ”ผู้จัดการ ธนาคารไม่สนใจ

ในเวลานี้คุณวรดรที่อยู่ข้างๆเบิ่งตาโต เขามองบัตรดำใน มือรพีพงษ์ พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

“คุณวรดร พวกเราเข้าไปเถอะครับ อย่าไปสนใจยาจกนั่น เลย เสียลูกตาคุณเปล่าๆ”

ผู้จัดการพูดขึ้น

คุณวรดรไม่ได้สนใจเขา หากแต่ดวงตาคู่นั้นยังคงจับ จ้องไปที่บัตรในมือของรพีพงษ์ อุทานออกมาด้วยความ ตกใจ”นี่….บัตรดำของธนาคารโลกเหรอ”

ในใจของรพีพงษ์คิดว่าอย่างน้อยก็มีคนที่รู้จักของดีไม่งั้น วันนี้คงจะไม่มีทางได้โอนเงินให้ธฤตญาณแน่นอน

ผู้จัดการธนาคารกามขั้นอย่างงงงัน“บัตรดำของ ธนาคารโลกเหรอ คืออะไรครับ”

ธฤตญาณเองก็ไม่เคยได้ยินบัตรดำของธนาคารโลก เขา

จึงมองบัตรในมือของ

รพีพงษ์อย่างละเอียด แต่ก็ไม่เห็นอะไรพิเศษ

ถ้าเขารู้ว่าบัตรดำในมือของรพีพงษ์นั้นรูดได้ไม่จำกัด วงเงิน ก็คงไม่คิดแบบนี้

รีบไปเรียกผู้อำนวยการมาเร็ว คุณวรดรหันหลัง พูดกับผู้

จัดการ

“คุณวรดร”ผู้จัดการธนาคารไม่รู้ว่าคุณวรดรเป็นอะไร ถึงได้พูดแทนยาจกนั่น

“บอกให้ไปก็ไปไง อย่ามาพิรีพิไร ! “คุณวรครตะโกน

เสียงดัง
ผู้จัดการธนาคารไม่กล้ารอช้า รีบพยักหน้าให้คุณวรดร แล้วเข้าไปเรียกผู้อำนวยการ

ออกมา

คุณวรดรพูดและยิ้มให้รพีพงษ์อย่างนอบน้อม”พี่ชาย ครับ ขอโทษจริงๆนะครับ เมื่อกี้ผมพูดจาไม่เหมาะสม ผม ขออภัยนะครับ หวังว่าจะไม่ถือสา”

“หรือผมขออนุญาตเลี้ยงอาหารสักมือ เป็นการขอโทษ

ได้ไหมครับ”

ไม่ต้องหรอกครับ”รพีพงษ์พูดเสียงเรียบ

คุณวรดรเองก็ไม่กล้าพูดอะไร ในใจเขารู้ดีว่าคนที่มีบัตร ดำของธนาคารโลก ไม่ใช่คนที่จะไปมีเรื่องได้ด้วยแน่นอน

ต่อให้จะเป็นเพื่อนกับรพีพงษ์ไม่ได้ ก็ไม่ควรจะเป็น ปฏิปักษ์กับรพีพงษ์

คนที่มีบัตรดำของธนาคารโลก ส่วนมากมักจะมีอิทธิพล ในวงสังคม บ้านเขาทำธุรกิจ ย่อมรู้ว่าคนประเภทนี้เก่งกาจอย่างไร ถ้าหากรพีพงษ์เห็นเขาเป็น ปฏิปักษ์ ธุรกิจบ้าน

เขาจะต้องเดือดร้อนแน่นอน

คุณวรดรเป็นคนรู้ตัวดี พอคิดถึงจุดนี้ จึงรีบขอโทษรดี พงษ์

คนรอบตัวมองรพีพงษ์ด้วยความประหลาดใจ พวกเขา ไม่เข้าใจว่าคุณวรดรเป็นอะไร ถึงได้รู้ๆขอโทษรพีพงษ์ ไม่ เหมือนกับคุณวรดรที่พวกเขารู้จัก

ธฤตญาณเดินไปหยุดข้างรพีพงษ์แล้วถามเสียงค่อยที่ รพี บัตรดำนี้เป็นบัตรสูงสุดของธนาคารเหรอ มิน่าละพี่ถึง

ให้ผมได้ร้อยล้าน”

รพีพงษ์หัวเราะ แล้วพูดขึ้น”ธนาคารนี้ทำบัตรแบบนี้ออก มาไม่ได้หรอก เงินของฉันในบัตรนี้จะซื้อมันทั้งธนาคารยัง ไม่มีปัญหา”

ธฤตญาณรู้สึกทั่ง มองบัตรในมือธฤตญาณอีกครั้งซื้อ ธนาคารนี้ได้เลยเหรอ มันต้องใช้
เงินเท่าไหร่กัน

ผ่านไปสักพัก ผู้จัดการนำทางชายสวมสูทวัยกลางคนคน หนึ่งเดินมา คนๆนั้นเป็น

ผู้อำนวยการธนาคาร

ผู้อำนวยการเห็นคุณวรดรยืนตรงนั้น จึงรีบเข้าไปจับมือ คุณวรดรเพื่อทักทาย สำหรับรพีพงษ์กับธฤตญาณ เขาไม่ แม้แต่จะมองด้วยซ้ำ

“คุณวรดร คุณนั่นเอง ผมคิดว่าใครเสียอีก เรียกผมออก มาเร่งด่วนมีธุระอะไรหรือครับ”

ผู้อำนวยการยิ้มให้

คุณวรดรแค่นเสียงเย็นชา พูดขึ้น”พนักงานคุณบริการได้ แย่มาก ที่เรียกออกมาก็เพราะเรื่องนี้แหละ”

ตอนนี้เขาพยายามเอาใจรพีพงษ์เต็มที่ และไม่เข้าข้างคน

ของธนาคาร
ผู้อำนวยการตะลึง ถามขึ้น” คุณวรดร ไม่ทราบว่าคนไหน ทำให้คุณไม่พอใจครับ”

คุณวรดรชี้ไปที่ผู้จัดการ พูดขึ้น”ไม่ได้ทำให้ผมไม่พอใจ แต่ทำให้คุณผู้ชายท่านนี้ไม่พอใจ ผู้จัดการของคุณไม่ บริการลูกค้า แถมยังอวดดีใส่ ไม่เห็นลูกค้าอยู่ในสายตา เรื่องนี้จะต้องมีคำตอบ”

ผู้อำนวยการหันไปมองรพีพงษ์ เห็นเขาแต่งตัวซอมช่อ ในใจคิดว่าไม่น่าจะใช่บุคคลสำคัญอะไร จึงเอ่ยปาก พูด”คุณวรดรอย่าล้อเล่นเลยครับ ถ้าผู้จัดการทำให้คุณไม่ พอใจ ผมจะอบรมเขาแน่นอน แต่ถ้าเป็นคนนี้ ช่างเถอะ ครับ”

“ผู้อำนวยการพูดถูกแล้วครับ จะให้ไปพูดคุยอะไรกับ ยาจก แต่จุดนี้อาจทำให้คุณวรดรไม่พอใจ ผมต้องขออภัย คุณวรดรด้วยครับ “ผู้จัดการธนาคารเอ่ยปากพูด

“คุณว่าใครเป็นยาจก”คุณวรดรบันดาลโทสะ ถ้าเขาทำให้ รพีพงษ์ไม่พอใจไปกว่านี้ คนที่ซวยที่สุดคงจะเป็นเขา

“คนๆนี้น่ะสิครับ คุณวรดร คุณอย่าโดนเขาหลอกล่อเลย บัตรดำธนาคารโลกอะไรนั่น ของแบบนี้ หลอกคน ครับ”ผู้จัดการธนาคารพูดเข้าข้างตนเอง

ครั้งนี้คุณวรดรยังไม่ทันพูดอะไร ผู้อำนวยการก็หันกลับ มา จ้องตาถลึงใส่ผู้จัดการ พูดว่า”ว่าไงนะ ! บัตรดำของ ธนาคารโลก ! ?”

“ใช่น่ะสิครับ คนๆนี้หยิบบัตรดำขึ้นมา คุณวรดรบอกว่าเป็น

บัตรดำธนาคารโลก”

ผู้จัดการยังพูดเข้าข้างตัวเองต่อไป

ผู้อำนวยการหันไปหารพีพงษ์ทันที ด้วยท่าทางที่ นอบน้อมขึ้นมามาก

“คุณผู้ชายครับ ขอโทษด้วยนะครับ กระผมขออนุญาตดู

บัตรของท่านได้ไหมขอรบ”

รพีพงษ์ยื่นบัตรธนาคารของตนเองส่งให้

พอผู้อำนวยการดูแล้ว จึงสุดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วรีบ โค้งคำนับให้รพีพงษ์”คุณลูกค้าที่เคารพยิ่ง กระผมขออภัย

อย่างสูงในความยุ่งยากที่นำมาให้แก่ท่านกระผมจะทำการอบรมและลงโทษพนักงานผู้ไม่นอบน้อม คนนี้อย่างเข้มงวด หวังว่าคุณท่านจะอภัยซึ่งความบกพร่อง และผิดพลาดของพวกเราในครั้งกระนี้”

ผู้จัดการที่ยืนข้างๆเซ่อไปในบัดดล เขาไม่เข้าใจว่าทำไม เพื่อบัตรใบนี้ จู่ๆผู้อำนวยการ

ถึงได้นอบน้อมกับยกจกคนนี้ได้ขนาดนี้

“ผู้อำนวยการ ทำอะไรน่ะครับ บัตรใบนี้ไม่ใช่บัตรวีไอพี ของธนาคารเราสักหน่อย ทำไมต้องนอบน้อมด้วยขนาดนั้น ล่ะครับ”ผู้จัดการเปิดปากพูด

ผู้จัดการจ้องเขม็งให้ผู้จัดการสำนึก แล้วพูดขึ้น”บัตรของ คุณท่านน่ะ เป็นบัตรที่ธนาคารโลกผลิตออกมาอย่างจำกัด ทั่วโลกมีแค่หนึ่งร้อยใบ บัตรของคุณท่านน่ะใช้ได้ทั่วโลก และมีอภิสิทธิ์สูงสุด และรูดได้ไม่จำกัดวงเงิน ขอแค่คุณ ท่านประสงค์จะรูดซื้อธนาคารเราก็ยังไม่มีปัญหาเลย ที่นี้ คิดว่าสมควรแก่การนอบน้อมหรือยัง”

พอผู้จัดการฟังผู้อำนวยการพูดจบ หัวใจก็เต้นไม่เป็นระส่ำ มองไปที่รพีพงษ์อย่างหวาด
กลัว มาจนตอนนี้ เขาถึงได้รู้ว่าได้สร้างความขุ่นเคืองให้ บุคคลที่น่ากลัวเสียแล้ว

“คุณ…คุณผู้ชาย ขอโทษขอรับ คือก่อนหน้ากระผมหัว ร้อนไปหน่อย อภัยให้กระผมด้วยนะขอรับ”ผู้จัดการรีบโค้ง สุดตัวให้กับรพีพงษ์

รพีพงษ์ไม่ได้สนใจผู้จัดการแม้แต่น้อย เขาบอกกับผู้ อำนวยการว่า”ทำตามกฎของพวกคุณเถอะ ไม่อย่างนั้น กฎ ธนาคารของพวกคุณล่มแน่นอน”

ผู้อำนวยการรีบพยักหน้าเข้า หันไปมองผู้จัดการ พูด ขึ้น พรุ่งนี้ไปยื่นใบลาออกที่ฝ่ายบุคคลชะนะ เรื่องนี้ผมช่วย คุณไม่ได้

ผู้จัดการแทบจะร้องไห้ออกมา เขาเพิ่งได้เลื่อนตำแหน่ง เป็นผู้จัดการไม่เท่าไหร่ เดิมที่คิดว่าอนาคตก้าวไกลแน่นอน

และแล้วอนาคตอันก้าวไกลยังไม่ทันได้เริ่ม ก็โดนตัวเอง ทำลายลงเสียนี

ตอนนี้ต่อให้เสียใจสำนึก ก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว
“คุณผู้ชายขอรับ เชิญตามกระผมมาทางนี้ หากท่าน ต้องการทำธุรกรรม กระผมสามารถช่วยเป็นธุระให้ ขอรับ”ผู้อำนวยการบอก

“ผมต้องการโอนเงิน”รพีพงษ์เปิดปากพูด

คนรอบๆตัวมองอย่างประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะ เป็นแบบนี้

“บัตรในมือคนๆนั้นเป็นบัตรจริงหรือบัตรปลอมน่ะ ดูเขา แต่งตัวสิ ไม่เหมือนคนมีตังค์เลย เขาคงไม่ไล่ผู้จัดการออก เพียงเพราะจะโอนเงินไม่กี่พันหรอกมั้ง”

“จ๊า บัตรนั่นท่าจะเป็นของจริงนะ แต่ถ้าบัตรนั่นรูดไม่จำกัด วงเงิน เขาจะมาโอนอะไรล่ะ จะโอนก็น่าจะโอนได้ไม่มาก เสียดายก็แต่ผู้จัดการ โดนไล่ออกเพราะเรื่องแค่นี้”

ผู้จัดการฟังคนรอบข้างวิจารณ์แล้ว ในใจไม่พอใจยิ่ง ถ้า รพีพงษ์จะโอนแค่เงินไม่กี่พัน
แต่ต้องทำให้ตัวเองโดนไล่ออก แบบนี้ก็ไม่ยุติธรรมเกิน

ไป

อย่างไรเสียตู้ATMก็โอนเงินไม่กี่พันได้ เขาไม่ได้พูดอะไร ผิดนี่นา ก็แค่ท่าทีแย่หน่อย

“คุณผู้ชายครับ ขอเรียนถามว่าต้องการโอนเงินเท่า ไหร่ ต่อให้จะไล่กระผมออก ก็ต้องให้กระผมไปแบบ เข้าใจอย่างไรเสียตู้ATMโอนเงินได้จริง ผมพูดแบบนี้เพื่อ ประสิทธิภาพการทำงานนะขอรับ”ผู้จัดการถามไปอย่าง หน้าด้าน

รพีพงษ์ยิ้มให้ พูดขึ้น” หนึ่งร้อยล้าน ตู้ATMโอนได้ไหม”

คนทั้งห้องโถงธนาคารเงียบลงด้วยความตกตะลึง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ