แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่407 เข้าใจจารุณีผิดไป



บทที่407 เข้าใจจารุณีผิดไป

บทที่407 เข้าใจจารุณีผิดไป

ในคอนโด จารุณียืนอยู่ที่ประตูอยู่นานแสนนาน ในหูยังคง ดังก้องไปด้วยคำพูดของรพีพงษ์ก่อนที่จะจากไป

“ความน่าสงสาร คุณเสแสร้งแสดงออกมา มันไม่ซาบซึ้ง ใดๆหรอกนะ”

จารุณีไม่รู้จริงๆว่าตัวเองทำผิดอะไร รพีพงษ์ถึงได้พูด แบบนี้ออกมา

เธอโดนตบโดยไม่รู้เรื่องใดๆ ได้แต่รู้สึกน้อยใจ และอด ไม่ได้ที่จะร้องออกมา ทำไมถึงได้กลายเป็นเสแสร้งให้ดู สงสารได้ล่ะ?

ตนไม่ได้อยากให้ใครมาซาบซึ้งใดๆหรือการร้องไห้นี่ผิด มากเลยหรอ?

สิ่งที่สําคัญที่สุดคือ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมรพีพงษ์ต้องทำ แบบนี้ เขาหาเธอเจอ แล้วตบเธอ พูดหนึ่งคำ แล้วจากไป สำหรับคนที่คิดถึงเขามานานขนาดนี้ ซึ่งทำร้ายจิตใจกัน มากเหลือเกิน
หรือที่เขาทำแบบนี้ เพื่อหยุดความคิดถึงของเธอที่มีต่อ เขาหรอ?

ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆล่ะก็ งั้นเขาก็ค่อนข้างเลือดเย็น

หลังจากงานแต่งงานของรพีพงษ์ จารุณีได้อยู่ที่เมืองริ เวอร์ต่อ เธออยากลิ้มลองการที่อยู่เมืองเดียวกันกับคนที่ ตัวเองชอบนั้นเป็นอย่างไร

ในตอนแรก เธอยังคิดว่า สิ่งที่ตัวเองชอบนั้น ไม่ว่าจะเป็น อย่างไร ก็ต้องเอามาให้ได้ แม้ต้องใช้วิธีก็ไม่เป็นไร

แต่เมื่อหลังจากที่เธอดูซีรี่ย์เหล่านั้นแล้วเพราะรักคนๆ หนึ่ง และคนที่ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เขามา สุดท้ายแล้วก็ ต้องมีจุดจบที่ไม่ดีทุกคน

เธอเคยคิดจะลงมือกับอารียา ให้อารียาจากรพีพงษ์ไป แบบนี้เธอถึงจะมีโอกาส

แต่ต่อมาเธอเข้าใจแล้ว การทำแบบนี้ มีแต่จะทำให้รพี พงษ์รู้สึกต่อต้านเธอมากเข้าไปอีก สิ่งที่เธอต้องการ คือ ตนเองใช้ความพยายาม ให้รพีพงษ์ชอบเธอให้ได้แต่ไม่ใช่ใช้วิธีทำลายความสัมพันธ์ปัจจุบันที่รพีพงษ์มีอยู่ แล้วบีบให้เขามาอยู่กับตน

กังนั้นช่วงที่ผ่านมาจารุณีอยู่ตัวคนเดียวมาโดยตลอด เดิน ไปรอบๆเมืองริเวอร์คนเดียว และเธอก็ไม่คิดที่จะไปรบกวน รพีพงษ์และอารียาทั้งคู่

แน่นอนว่าเธออยากให้รพีพงษ์เห็นว่าตัวเธอเองก็ใช้ชีวิต อยู่ในเมืองนี้เช่นกัน เธออยากเจอกับรพีพงษ์โดยบังเอิญ ถึงแม้จะมากับอารียาก็ตาม เธอก็จะไม่ใส่ใจ

วันนี้รพีพงษ์หาเธอเจอแล้วจริงๆ แต่ทว่าความจริงไม่ได้ สวยงามอย่างที่เธอคิดไว้ รพีพงษ์ไม่ได้เจอกับเธอด้วย ความบังเอิญอย่างที่เธอวาดไว้ แต่กลับตบเธอไปหนึ่งฉาด กับคําพูดที่บาดใจคนอย่างเยือกเย็น

ผ่านไปนาน เธออดกลั้นไม่ไหว ร้องไห้ดังออกมา จนข้าง ห้องออกมาดู

จารุณีกลับไปในห้อง ปิดประตูอย่างดัง ทรุดลงไปที่โซฟา ไม่นาน ก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก

“ไอ้บ้ารพีพงษ์ ไอ้เลว ไอ้เง่า แกกล้าตบฉัน ฝากไว้ก่อน ฉันไม่ได้ให้แกรังแกได้ง่ายๆหรอกนะ ฉันจะแยกพวก แกทั้งคู่ออกจากกัน แกทำฉันเสียใจ ฉันก็จะไม่ให้แกมี ความสุขเหมือนกัน!

พลบค่ำ รพีพงษ์เดินคนเดียวบนถนน ใช้เวลาทั้งวัน สงบ สติอารมณ์

เขาเดินไปเรื่อยๆ ก็หยุดเดินลงมาถึงประตูคอนโดนั้นอีก ครั้ง

เขาได้คิดทบทวนเรื่องนี้หลายครั้ง พบว่าเรื่องนี้มีข้อสงสัย เกิดขึ้นมากมาย เขาน่าจะเข้าใจจารุณีผิดจริงๆ

ไม่ว่าเรื่องนี้จารุณีจะเป็นคนทำหรือไม่ อย่างน้อยเจ้าก็ควร คุยกับจารุณี แบบนี้จึงจะไม่เกิดความผิดพลาดขึ้น

แต่ทว่าตอนนี้เขาโกรธจนหน้ามืดตามัว ไม่ได้ควบคุมสติ อารมณ์ของตัวเอง เลยลงไม้ลงมือกับจารุณีไป

ตอนนี้เมื่ออารมณ์เย็นลง รพีพงษ์รู้สึกเสียใจ เขาไม่ได้ทำ อะไรแบบไม่คิดอย่างนี้มานานแล้ว
ลังเลสักพัก รพีพงษ์ก็ได้เดินเข้าไปในคอนโด รปภ.ของ คอนโดก็ยังคงเป็นคนเดียวกับเมื่อเช้า

รปภ.คนนั้นเห็นรพีพงษ์มา ก็รีบวิ่งเข้าหา แล้วโค้งคำนับ ให้ “พี่ชาย คุณจะไปหาคนอีกแล้วหรอ? ครั้งนี้ผมจะไม่ ห้ามคุณไว้แล้ว คุณเข้าได้ตามสบายครับ”

รพีพงษ์พยักหน้า แล้วเดินเข้าไปอย่างเร็ว

ขึ้นลิฟต์ไปชั้นสิบแปด รพีพงษ์เดินไปยังห้องของจารุณี ในใจรู้สึกร้อนรุ่ม ถ้าเขาเข้าใจจารุณีผิดไปจริงๆล่ะก็ งั้นเขา ก็ทำร้ายจิตใจจารุณีเป็นอย่างมาก

มาถึงห้อง1803 รพีพงษ์ชะงัก ประตูไม่ได้ปิด แต่กำลัง เปิดอยู่ สามารถเห็นได้ถึงเหตุการณ์ข้างใน

รพีพงษ์เกินเข้าไป มองไปรอบๆ พบว่าห้องนี้ไม่ใหญ่ มี หนึ่งห้องรับแขกและหนึ่งห้องนอนเท่านั้น แต่ห้องรับแขก และห้องนอนนี้ไม่มีคนอยู่

รพีพงษ์มองไปในห้องอย่างละเอียด เห็นชุดโบราณสีดำ เหล่านั้นที่จารุณีได้ซื้อมาวางอยู่บนพื้น ราวกับว่าเธอได้ ระบายอารมณ์โดยผ่านชุดโบราณพวกนี้
บนโซฟามีรอยมากๆ จารุณีน่าจะนอนร้องอยู่บนโซฟาอยู่

นาน

เห็นสถานการณ์ในห้อง รพีพงษ์ก็ถอนหายใจอย่าง หมดอาลัยตายอยาก ดูๆแล้ว จารุณีน่าจะออกจากเมืองนี้ ไปแล้ว

แน่นอน ในห้องนี้ยังมีของอีกเยอะ ถ้าเป็นคนอื่น ต้องคิด ว่าจารุณียังกลับมาอย่างแน่นอน แต่รพีพงษ์รู้จักจารุณีดี เธอคือคุณหนูใหญ่ของหอการค้าสมน. แค่ห้องๆเดียวไม่มี คุณค่าใดๆต่อเธอ

ถ้าเธอจะไป นอกจากสิ่งจำเป็นเหล่านั้นแล้ว ที่เหลือเธอ น่าจะไม่เอาไปแล้ว

รพีพงษ์หยิบมือถือขึ้นมา โทรหาจารุณี ปลายทางขึ้นว่า ปิดเครื่อง รพีพงษ์ทำอะไรไม่ได้

ชุมชนคําแหง

รพีพงษ์ได้ไปถึงประตู เคาะประตู ไม่นาน ศศินัดดาที่หน้าตาฟกช้ามาเปิดประตู หลังจากที่เห็นคนที่ยืนอยู่นอก ประตูคือรพีพงษ์ ก็รีบปิดประตูทันที

ผ่านไปไม่นาน อารียาเดินมา เปิดประตู พารพีพงษ์เดิน

เข้าไปข้างใน “แกยังให้ตัวซวย เข้าบ้านเราอีกหรอ มันจะพาดวงซวย

มาให้ครอบครัวเรานะ” ศศินัดดาพิมพ์

ศักดากระพริบตาให้เธอ แล้วพูดเบาๆว่า “ความจริงเรื่อง ส่วนใหญ่ของครอบครัวเรา ล้วนเป็นเธอที่หาเรื่องทั้งนั้น ถ้าพูดแบบนี้ คุณเป็นตัวซวยมากกว่ารพีพงษ์อีกนะ

แม่เสียงของเขาจะเบามาก แต่ศศินัดดาก็ได้ยินแล้ว

ศศินัดดาตบโต๊ะ ยื่นมือไปหยิกหูของศักดา แล้วด่าว่า “แก รีบไสหัวไปซะ เข้าข้างคนนอก แกมีสิทธิ์พูดด้วยหรือไง!”

ชนิสราเห็นรพีพงษ์กลับมา ก็ดีใจ รีบวิ่งเข้ามาถามรพีพงษ์ ว่ามื้อค่ำจะทานอะไร เธอจะไปทำเดี๋ยวนี้ การทะเลาะกัน ของศศินัดดาและศักดานั้น เธอคุ้นชินไปแล้ว
อารียารู้สึกได้ว่ารพีพงษ์รู้สึกไม่ค่อยดี จึงได้ถาม “สืบเรื่อง นั้นไปถึงไหนแล้ว? รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครหรือยัง?”

รพีพงษ์สายหัว แล้วกล่าว “เรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อนกว่าที่ คิดไว้ แต่ไม่น่าจะมีปัญหา คุณไม่ต้องสนใจแล้ว

อารียาพยักหน้า รู้ว่าเรื่องนี้ ถ้าไม่มีสิทธิ์ข้องเกี่ยว

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เธอก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา แม้จะรู้ว่าเรื่อง นี้มีคนอยู่เบื้องหลัง แต่คำพูดที่ผู้หญิงคนนั้นพูดกับเธอมัน สะท้านไปถึงเบื้องลึกของจิตใจ ความรู้สึกนี้ไม่มีทางหาย ไปได้อย่างรวดเร็ว

เพียงแค่ตอนนี้เรื่องราวยังไม่ชัดเจน ไม่เหมาะที่จะไปคุย กับรพีพง ในตอนนี้

ข่วงกลางคืน รพีพงษ์นอนที่บ้าน แม้ศศินัดดาจะรู้สึกไม่ สบายใจ แต่เมื่อถูกรพีพงษ์ตบไปแล้ว เธอทำได้เพียงค่า รพีพงษ์เท่านั้น ไม่กล้าไล่เขาออกไปจริงๆ

ในตอนกลางคืนอารียาอยากจะพูดเรื่องราวของตนให้กับ รพีพงษ์ฟัง อยากรู้ว่ารพีพงษ์คิดอย่างไร แต่เมื่อเห็นรพีพงษ์ไม่สบายใจอย่างมาก จึงไม่ได้พูด

วันรุ่งขึ้น ธฤตญาณโทรหารพีพงษ์ พบบางสิ่ง ให้รพีพงษ์ ไปหา

รพีพงษ์ไปยังสถานที่ที่ธฤตญาณนัดไว้ เป็นตรอกลึกลับ เส้นหนึ่ง ห่างจากคอนโดที่จารุณีอยู่ไม่ไกล ในตรอกมีถัง ขยะอยู่หลายใบ และบนถังขยะ มีกระโปรงยาวสีดำ และผ้า คลุมหน้าสีดำโยนทิ้งไว้

“ถ้าฉันเดาไม่ผิดล่ะก็ น่าจะมีคนตั้งใจดึงพวกเราให้สงสัย ในตัวของจารุณี เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับจารุณี พวกเราถูก คนร้ายหลอกเสียแล้ว” ธฤตญาณกล่าว

รพีพงษ์เห็นผ้าคลุมหน้าบนถังขยะ ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา ถ้า เป็นแบบนี้จริงๆล่ะก็ นั่นหมายถึง เขาเข้าใจผิดจารุณีแล้ว จริงๆ

กลับมาคิดถึงท่าทีของเขาที่มีต่อจารุณีเมื่อวาน รพีพงษ์ รู้สึกผิดขึ้นมาทันใด เขาไม่คาดคิดว่าตนเองจะเข้าใจจารุณี ผิดไปได้ แล้วยังลงมือกับเธออีก

“ฉันดูจากกล้องวงจรปิดบริเวณนี้ เห็นผู้หญิงทิ้งชัดไว้ที่นี่แล้วเดินเข้าไปยังโรงแรมหนึ่ง เมื่อเช้าฉันได้เช็ค โรงแรมนั้นแล้ว มีอยู่ห้องหนึ่งที่น่าสงสัยพักกันอยู่สอง คน แต่ที่นั่นไม่มีคนตั้งนานแล้ว แล้วฉันยังเห็นกระดาษ แผ่นหนึ่งอยู่ในห้องนั้นด้วย” ธฤตญาณกำลังพูด พลางยื่น กระดาษแผ่นหนึ่งให้รพีพงษ์

รพีพงษ์รับไป เห็นบนกระดาษเขียนว่า “แกไม่มีทางหาฉัน ได้ตลอดไป”

“กล้องวงจรปิดของโรงแรมสามารถดูรูปพรรณสัณฐาน ของสองคนนี้ได้ไหม? รพีพงษ์ถาม

“ฉันสืบมาแล้ว พวกมันปลอมตัวมาอย่างดี ไม่เห็นใบหน้า แต่แน่ชัดว่าหญิงคนชายคน ฉันได้ให้คนสืบตามรูปลักษณ์ และการแต่งกายของพวกมันแล้ว ตอนนี้พวกมันน่าจะออก จากเมืองริเวอร์ไปชั่วคราว” ธฤตญาณกล่าว

รพีพงษ์พยายามคิดอย่างถี่ถ้วน แต่ไม่ว่ายังไงก็คิดไม่ ออก นี่เป็นใครกันแน่

แต่ช่วงนี้สามารถวางใจได้แน่ๆคือ มันคงไม่กล้าลงมือ อะไรในช่วงระยะเวลานี้ ที่แน่ๆนอนรพีพงษ์สามารถรับประกันได้ว่าอารียาจะไม่เป็นอะไร เพราะตอนนี้ในเมือง เวอร์ อยู่ในมือของเขา

ครั้งนี้ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เป็นเพราะรพีพงษ์ไม่ได้ เตรียมการล่วงหน้า

“สืบพวกมันต่อไป เมื่อจับเธอได้ รีบบอกฉัน” รพีพงษ์

กล่าว

ธฤตญาณพยักหน้า

“ใช่ แล้วก็มีบหน่อยนะว่าจารุณีไปไหน เมื่อวานฉันเข้าใจ เธอผิดไป เธอน่าจะเสียใจเป็นอย่างมาก ฉันกละวว่าเธอ จะทําเรื่องบ้าๆ ต้องรีบหาเธอให้เจอ เรื่องนี้ ฉันทำผิด ถ้า ชดเชยได้ ก็จะชดเชย” รพีพงษ์พูดต่ออีก

ธฤตญาณยิ้ม พฤติกรรมนี้ของรพีพงษ์ พบได้ไม่บ่อยนัก จารุณีได้ใช้ความพยายามของตัวเอง เข้าไปอยู่ในใจของ รพีพงษได้แล้ว

แน่นอน รพีพงษ์เป็นคนรักเดียวใจเดียว ชาตินี้จะรักแค่ อารียาเท่านั้น เขาคิดกับจารุณีเป็นเพียงน้องสาวจริงๆ
หลังจากที่ได้รับคำสั่งของรพีพงษ์แล้ว ธฤตญาณรีบจัด คนไปหาจารุณี

รพีพงษ์ไม่ได้กลับบ้าน แต่ไปที่สวนสาธารณะ นั่งอยู่บน เก้าอี้ยาวทั้งวัน

กลางคืนช่วงสองทุ่ม มือถือของรพีพงษ์ดังขึ้น หลังจาก

รับสายแล้ว ปลายทางเป็นเสียงของธฤตญาณ

“หาที่อยู่ของจารุณีเจอแล้ว อยู่ที่cocoบาร์ แกต้องรีบมา ที่นี่มีปัญหานิดหน่อย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ