แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่316 เงินใส่ซองหนึ่งล้านแปดแสนแปดหมื่น



บทที่316 เงินใส่ซองหนึ่งล้านแปดแสนแปดหมื่น

บทที่316 เงินใส่ซองหนึ่งล้านแปดแสนแปดหมื่น

ผู้คนด้านล่างเวทีไม่รู้ว่าเธียรวิชญ์พูดอะไรในโทรศัพท์ แต่พวก เขามองเห็นใบหน้าเจ้าบ่าวเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์กำลังหัน หน้ามาทางรพีพงษ์ ภายในใจคิดว่าคนอื่นเขาต้องพูดเกี่ยวกับงาน แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งดูลักษณะที่เจ้าบ่าวตื่นตกใจเต็มหน้า ดูไม่ค่อยเหมือนเป็นเรื่องดีอะไร

“เจ้าบ่าว ผมบอกคุณแต่แรกแล้ว รพีพงษ์สวะคนนี้ไม่อาจนำโชค ดีอะไรมาให้คุณได้ ดูท่าทางของคุณ เรื่องงานน่าจะเกิดปัญหา อะไรขึ้นแล้วสิ นี่ล้วนเป็นความรับผิดชอบของรพีพงษ์ คุณปล่อย เขาไปไม่ได้เด็ดขาด” โศรวิทย์พูดแบบดีใจที่เห็นคนอื่นโชคร้าย

คนโดยรอบฟังคำพูดของเขาต่างค่อยๆ คล้อยตามคำพูดคนอื่น

ขึ้นมา

“พูดถูก ถ้าคุณเสียงานเพราะพีพงษ์เจ้าหมอนี้แล้ว งั้นวันนี้จะไว้ ชีวิตเขาไปไม่ได้เด็ดขาด

“ที่แท้รพีพงษ์เอาความซวยมาให้คนอื่นได้จริงๆ ด้วย น่ากลัว เหลือเกิน ฉันต้องอยู่ห่างเขาไกลๆ หน่อย”
“รพีพงษ์คนนี้ปากเสียจริง ดูสิตอนนี้เขายังกล้าพูดจามั่วชั่วอึ กมั้ย กลัวว่าเจ้าบ่าวจะซัดเขาแรงๆ สักยกให้สิ

เจ้าบ่าวไม่สนใจคำวิจารณ์ของผู้คนด้านล่างเวทีไปโดยตรง แต่ ว่าใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเดินไปที่ตรงหน้ารพีพงษ์ เอ่ย ปากบอก “รพีพงษ์ คุณช่างเหมือนเทพจริงๆ เลย ปากคุณอย่างกับ ให้พรมาเลย เมื่อกี้ประธานบริษัทของพวกผมโทรมาหาผม บอก ผมได้เลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดแล้ว นี่ช่างเยี่ยมเหลือ เกิน”

รพีพงษ์หัวเราะกับเจ้าบ่าว บอกว่า “ส่วนนี้คุณใช้ความสามารถ ของตัวเองได้มา ผมก็แค่พูดเล่นเฉยๆ สร้างบรรยากาศชื่นมื่น เท่านั้นเอง”

ถึงแม้จะรู้ว่าบนโลกใบนี้ไม่มีการมีอยู่ของเทพธิดาโชคลาภแบบ นี้ แต่ว่าเจ้าบ่าวเลื่อนตำแหน่งหลังรพีพงษ์พูดประโยคนั้นไป สร้างแรงสั่นสะเทือนใหญ่มากให้เขาเลย

ผู้คนด้านล่างได้ยินคำพูดของเจ้าบ่าวล้วนตกตะลึง พวกเขาคิด ว่าเจ้าบ่าวเจอปัญหาด้านการงานเข้า กลับคาดไม่ถึงว่าจะเป็นการ เลื่อนตำแหน่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังเลื่อนเป็นผู้จัดการฝ่ายการ ตลาดโดยตรง
คนทั้งหมดส่งสายตาไปทางรพีพงษ์แล้ว เผยความคาดไม่ถึง ออกมาเต็มใบหน้าต่อรพีพงษ์

“โอ้มายก็อด เจ้าบ่าว คุณไม่ได้เข้าใจผิดนะ คุณเลื่อนตำแหน่ง เพราะคำพูดหนึ่งของเจ้าหมอนี่จริงเหรอ?” คนหนึ่งเอ่ยปากถาม

เจ้าบ่าวหัวเราะ ตอบว่า “ใช่สิ ดูแล้วรพีพงษ์เอาโชคดีมาให้คนอื่น จริงๆ ด้วย วันนี้พวกเขามากินเลี้ยงที่งานผม ความจริงเป็นเกียรติ อย่างหนึ่งของผมเลย

สายตาของคนที่อยู่ด้านล่างมองทางรพีพงษ์เปลี่ยนทันที คนที่ ตอนนั้นบอกว่าต้องอยู่ห่างรพีพงษ์ให้ไกลหน่อย ตอนนี้อยากจะ กระโจนไปที่ตัวของรพีพงษ์โดยตรงจนใจจะขาด

“นี่รพีพงษ์เอาโชคดีมาให้คนอื่นได้จริงด้วย ฉันต้องอยู่ใกล้ๆ เขา จะได้อาศัยดวงดีเขาหน่อย

“ช่างปาฏิหาริย์เสียจริง ไม่ว่าจริงหรือไม่ ฉันก็ต้องไปขออาศัย ดวงดีหน่อย ไม่แน่ว่าพรุ่งนี้ดวงชะตาของฉันจะกลายเป็นดีล่ะ”
เดิมทีโศรวิทย์ที่ดีใจที่เห็นคนอื่นโชคร้ายมองเห็นฉากนี้ ใบหน้า เปลี่ยนไปเขียวปัดขึ้นมาทันที อย่างไรเสียเขาก็นึกไม่ถึงว่าร พงษ์จะนำโชคดีมาให้เจ้าบ่าวจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังให้เขา เลื่อนเป็นผู้จัดการแผนกการตลาดโดยตรง นี่เหมือนกำลังตบหน้า เขาอย่างโหดเหี้ยมเลยทีเดียว

ตอนนี้รพีพงษ์ไม่ได้นำความซวยมาให้เจ้าบ่าว จึงอธิบายว่าความ ต่ำต้อยของโครวิทย์ทั้งครอบครัว เดิมทีเป็นปัญหาของตัวเอง เท่านั้น

“เชอะ จับพลัดจับผลูโชคดีเท่านั้นแหละ มีอะไรน่าแปลกใจ เพียงแค่เรื่องบังเอิญเอง หรือพวกคุณคิดว่ารพีพงเอาโชคดีมา ให้คนอื่นได้จริง น่าตลก เขาเป็นคนที่แม้แต่เงินใส่ซองยังจ่ายไม่ ไหวเลย” ใบหน้าโศรวิทย์เต็มไปด้วยความเคียดแค้นพูดขึ้น

คำพูดนี้ของเขาพึ่งจบ ก็มีชายสองคนใส่ชุดสูทเดินเข้ามาจาก ด้านนอกประตู ในมือยังถือถุงไว้ใบหนึ่ง

ผู้คนมองเห็นสองคนนั้น ต่างเผยความสงสัยเต็มใบหน้า

“ขอโทษนะพวกคุณมาทำอะไรกัน?” เจ้าบ่าวถามไปที่สองคนนั้น

“พวกเรามาหาเจ้านายของพวกเราครับ” สองคนประสานเสียงบอกไป

เวลา รพีพงษ์เดินลงมาจากบนเวที เดินไปที่ด้านข้างสองคนนั้น ยิ้มบอก “พวกเขาสองคนเป็นคนที่ผมเรียกให้เอาเงินใส่ซองมา

โครวิทย์จ้องมองถุงกระสอบนั้นทีหนึ่ง พูดแบบหน้าเต็มไปด้วย การเหยียดหยาม รพีพงษ์ แกอย่าบอกนะว่าในกระสอบนั้นใส่เงิน ช่วยงานที่แกจะให้ แกคงไม่ใช่เอากระสอบใหญ่ใบหนึ่งแต่ใส่มา หน่งเหมา ง หรือว่านี่เป็นเงินที่แกหามาจากการเก็บของในกอง ขยะเหรอ?”

ทุกคนเข้าไปใกล้ด้วยใบหน้าสงสัยเต็มที่ อยากจะดูว่าในถุง กระสอบนั้นใส่อะไรกันแน่ ถึงแม้ว่าเมื่อสักครู่รพีพงษ์จะทำให้ พวกเขาประหลาดใจยกใหญ่ แต่ว่าพวกเขาก็ยังคงไม่ลืมว่าร พงษ์เป็นแค่สวะคนหนึ่ง ในใจมักรู้สึกว่ารพีพงษ์ไม่อาจนําเงินใส่ ซองออกมามากเท่าไร

รพีพงษ์มองสองคนนั้นแวบหนึ่ง เอ่ยปากถาม “ยังเหลือเงิน เท่าไร?”

“หลังจ่ายเงินรางวัลหมด ยังเหลือทั้งหมดหนึ่งล้านเก้าแสนครับ อยู่ในนี้ทั้งหมดครับ” ชายคนหนึ่งตอบคำถาม

รพีพงษ์พยักหน้าแล้ว จากนั้นหันหน้ามองทางเจ้าบ่าวบอกว่า “ด้วยเรื่องเวลา เลยไม่ได้เอาใส่ซองแดง หวังว่าคุณอย่าได้ ถือสา นี่เป็นเงินใส่ซองที่ผมเตรียมให้คุณในครั้งนี้ ถือว่าอาศัย บรรยากาศ นมนของคุณแล้วล่ะ”

“ไม่ต้องๆ คุณนำโชคดีมาให้ผมก็ถือว่าให้ของขวัญดีที่สุดกับผม แล้ว เงินใส่ซองอะไรเอาไม่เอาก็ไม่เป็นไร” เจ้าบ่าวรีบเอ่ยปาก บอก

“ผมมาดื่มเหล้ามงคลที่นี่ เงินใส่ซองย่อมต้องมี ไม่อย่างนั้นจะมี คนว่าเอาได้” รพีพงษ์หันหน้ามองทางโศรวิทย์แวบหนึ่ง

ใบหน้าโศรวิทย์เต็มไปด้วยการเหยียดหยาม บอกว่า “เอาถุงหนึ่ง เหมาหนึ่งเข้ามา แกยังมีหน้ามาพูด ขายขี้หน้าจริงๆ

รพีพงษ์ไม่ได้สนใจโศรวิทย์ แต่ว่าหยิบกระสอบนั้นขึ้น เดิน เข้าไปบนเวที

เขานำเงินด้านในกระสอบเทออกมาทั้งหมด ธนบัตรแต่ละมัด ปรากฏแก่สายตาผู้คนตรงหน้า ทำเอาทุกคนมองตาค้างกันแล้ว

“นี่…….นี่เป็นไปได้ยังไง? ฉันไม่ได้ตาลายมั้ง ที่เขาเทออกมา เป็นแบงก์ร้อยนะ โดยเฉพาะยังเป็นมัดๆ นี่รวมกันขึ้นเยอะกว่าสัก หนึ่งล้านกว่ามั้ง?”
“โอ้มายก็อด นี่น่ากลัวเกินไปมั้ง นี่ฉันยังเคยเห็นเป็นครั้งแรก มี คนใส่ซองช่วยงานหนึ่งล้านกว่า

โครวิทย์มองเห็นธนบัตรสีแดงพวกนั้นก็ตาค้างเช่นกัน ในสา คอเขาส่งเสียงขลุกขลักออกมา ตั้งนานยังไม่พูดจาอะไร แม้ กระทั่งถอยหลังสองก้าวอย่างความคุมตนเองไม่ได้ ก่อนที่ก้นจะ กระแทกนั่งลงบนพื้น

รพีพงษ์หยิบธนบัตรสองมัดออกมาจากธนบัตรพวกนี้ จากนั้น น หน้ามองทางเจ้าบ่าว บอกว่า “หักสองหมื่นนี้ออก ที่เหลือน่าจะ หนึ่งล้านแปดแสนแปดหมื่น รวมเป็นตัวเลขมงคล สองหมื่นนี้ผม จะเอาไปซื้อของกินให้ภรรยาผม

เจ้าบ่าวจ้องธนบัตรกองเป็นภูเขาเล็กๆ บนพื้นนั้นอยู่ กลืนน้ำลาย อีกหน่ง ผ่านไปสักพัก ถึงเอ่ยขึ้น ไม่…….ไม่ได้ นี่ไม่ได้เด็ดขาด ที่จริงนี่มีค่าเกินไปแล้ว ผมรับไว้ไม่ได้

“รับไว้เถอะ ของพวกนี้ผมเอากลับไปก็หนักเปล่าๆ ไม่สิ้นเปลือง เรื่องนี้แล้ว” รพีพงษ์ยิ้มบอก

ทุกคนต่างตกอกตกใจกัน นี่พวกเขาพึ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก มีคน รังเกียจเงินมากขนาดนี้ว่าหนักเกินไป ไม่อยากเอากลับไป

คนไร้น้ายาในคําเล่าลือคนนี้ เดิมทีไม่ใช่ลักษณะนั้นที่พวกเขาจินตนาการกัน แวบเดียวก็สามารถนำเงินช่วยงานหนึ่งล้าน กว่าออกมาได้ เป็นสวะธรรมดาคนหนึ่งได้อย่างไรกัน ดูแล้วข่าว ลือพวกนั้นของผู้คนล้วนเป็นเรื่องปลอม

เวลานี้ผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาที่เจ้าบ่าวทางนี้ ยื่นซองอังเปา หนึ่งให้เขา บอกว่า “นี่คือลั่งเปาของชายขี้เมาคนนั้นให้มา ตอน นั้นที่เขาให้ยั่งเปาผมมาดูสายตาล่องลอย ระวังไว้มากหน่อย ตอนนี้คุณดูด้านในหน่อยว่ามีเงินเท่าไรกัน”

เจ้าบ่าวรับอังเปาซองนั้นเข้ามา พอเปิดออกดู พบว่าในนั้นมีเพียง สิบหยวน รีบเงยหน้ามองเข้าไปทางโศรวิทย์ทันที ในสายตาเผย ความโกรธเคืองนิดๆ

เขาไม่ได้แค้นเคืองเพราะเงินน้อยนิดของโศรวิทย์ แต่เพราะโค รวิทย์ให้เงินน้อยขนาดนี้ ยังมาประณามรพีพงษ์อย่างมีเหตุผล เต็มปากเต็มคำอยู่ที่นี่ ความจริงช่างหน้าไม่อายอยู่บ้าง

เงินสิบหยวนนี้กับเงินหนึ่งล้านแปดแสนแปดหมื่นของรพีพงษ์ กลายเป็นความต่างมหาศาล เขาไม่รู้จริงๆ ว่าโศรวิทย์เอาความ กล้ามาจากที่ไหนกันแน่ เงินใส่ซองแค่สิบหยวน ยังมีความกล้า มาวิจารณ์เรื่องใหญ่โต

“คุณอา นึกไม่ถึงว่าเงินใส่ซองของคุณจะใส่แค่สิบหยวน ตอน นั้นฟังคุณพูดมีเหตุผลเต็มปากเต็มคำขนาดนั้น ยังคิดว่าคุณให้มากมายเชียวล่ะ คาดไม่ถึงคุณยังอยากไล่รพีพงษ์คนอื่น เขาออกไป คนอื่นเขาให้เงินช่วยงานมาหนึ่งล้านแปดแสนแปด หมื่นนะ ไม่รู้จริงๆ ว่าคุณไปเอาความกล้ามาจากไหน” เจ้าบ่าวถลึง ตาใส่โศรวิทย์แล้วพูดขึ้น

ผู้คนทั้งหมดหันหน้ามองเข้าไปทางโศรวิทย์ เผยท่าทางที่ เหยียดหยามเขาออกมา

ใบหน้าโศรวิทย์เต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วน รีบเอ่ยปากบอก “คุณพูดมั่วแล้ว นั่งเปานั้นไม่ใช่ที่ผมให้ พวกคุณเข้าใจผิดแน่ๆ ผม ใส่นั่งเปาไปให้พวกคุณมากเลยนะ”

“คุณมาเล่นลิ้นที่นี่ให้น้อยหน่อย ตอนนั้นคุณให้ดั่งเปามา ผม ซ่อนเอาไว้ในกระเป๋ากางเกงตัวเองทันที จะเข้าใจผิดได้ยังไง กัน?” ผู้ชายคนนั้นพูดขึ้น

ใบหน้าของโศรวิทย์อัดอั้นจนแดง ภายใต้สายตาที่ดูถูกของผู้คน ในที่สุดก็ทนไม่ไหวรีบหมุนตัว หนีออกไปจากโรงแรมอย่างกระ เซอะกระเซิง

ตอนที่เดินไปยังด่ามาอีก “ดวงซวยจริงๆ มากินเหล้ามงคลยัง โดนใส่ร้าย บอกพ่อนายด้วย ต่อไปเพื่อนอย่างเขา ฉันไม่คบแล้ว” ใบหน้าเจ้าบ่าวเต็มไปด้วยความเดือดดาล คำพูดนี้น่าจะเป็นเขาที่ พูดถึงจะถูก
เจ้าบ่าวหมุนตัวมองเข้าไปรอบด้าน อยากจะพูดกับรพีพงษ์อีก หน่อย ให้รพีพงษ์เอาเงินใส่ซองหนึ่งล้านกว่านี้กลับไป

แต่รอตอนที่เขาหมุนตัวมา เห็นว่ารพีพงษ์ไม่อยู่แล้ว อารียาที่ เดิมทีนั่งอยู่ที่โต๊ะก็ไม่เห็นเงาเช่นกัน

ทั้งสองคนถือโอกาสเมื่อสักครู่ตอนที่ความสนใจของผู้คนอยู่ที่ ตัวโศรวิทย์ แล้วค่อยๆ ออกไป

เจ้าบ่าวสูดหายใจลึกๆ ที่หนึ่ง หันหน้ามองเจ้าสาว เดินเข้าไป โอบเธอเอาไว้ เอ่ยปากบอก “วันนี้สำหรับผมแล้วที่จริงช่างสำคัญ เหลือเกิน ผมเชื่อว่ามีคำอวยพรของรพีพงษ์ ต่อไปพวกเราสอง คนจะต้องอยู่กันไปจนแก่เฒ่าได้แน่”

เจ้าสาวพยักหน้าติดๆ กัน บนหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น คิดว่า ต่อไปต้องไปทำภาพเหมือนของรพีพงษ์ไว้หรือไม่ พอถึงช่วงวัน ครบรอบแต่งงานก็ไหว้สักหน่อย รพีพงษ์ในตอนนี้กลายเป็นร พงษ์ในดวงใจของเขาไปแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ