แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่ 435 ยังไม่เริ่มก็จบลงแล้ว



บทที่ 435 ยังไม่เริ่มก็จบลงแล้ว

บทที่ 435 ยังไม่เริ่มก็จบลงแล้ว

ฉันยอมแพ้!

สามคำนี้ดังก้องอยู่ในหูของทุกคนในสนาม ทำให้คนที่กำลัง รอเตชัสลงมือตกตะลึงไปทันที

“ฉัน…เมื่อครู่ฉันไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม? เมื่อครู่ยมราชเตชัส ตะโกนยอมแพ้หรือ? ”

“เห้ย นี่มันอะไรกัน? นั่นถึงกับเป็นยอดฝีมืออันดับเทพเจ้าแห่ง สงครามลำดับที่สิบสามนะ ทำไมยังไม่ได้เริ่มสู้ ก็ยอมแพ้เสีย แล้ว? ”

“นี่ต้องมีเบื้องหลังร้ายแฝงอยู่แน่นอน รพีพงษ์นี่แท้จริงแล้ว เป็นใครกันแน่ ทําอย่างไรให้ยมราชเตชัสที่ยังไม่เริ่มรู้ก็ยอม แพ้ตรงๆ ได้? หรือว่าก่อนหน้านี้ติดสินบนไปแล้ว? ”

“นายมันโง่หรือไง นายคิดว่า คือโลกภายนอกหรือ นอกเสีย จากยมราชเตชัสสมองจะบ้าไปแล้ว ไม่เช่นนั้นแน่นอนว่าไม่มี ทางเป็นเพราะติดสินบนถึงได้ยอมแพ้ต่อหน้าคนมากมาย หรอก”
“งั้นนายว่าเพราะอะไรล่ะ? นี่ก็ทำให้คนคาดไม่ถึงเกินไปแล้ว มั้ง ยังไม่ทันได้เริ่มสู้เลยนะ ก็ยอมแพ้ตรงๆ แล้ว นี่ไม่มีเหตุผล เลย”

“พวกนายว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่ายมราชเตชัส รู้จักกับรพีพงษ์ มาก่อนแล้ว รู้ว่าตัวเองสู้ไม่ได้ ดังนั้นจึงถือโอกาสรับยอมแพ้ โดยตรง แบบนี้ยังสามารถตัดปัญหายุ่งยากไปได้? ”

“งั้นนายก็คิดมากเกินไปแล้ว รพีพงษ์คนนี้มีดีอะไร ยมราช เตชัสเขาเป็นถึงยอดฝีมือที่สร้างชื่อเสียงมาแล้วหลายปีของ เทือกเขากิสนาเชียวนะ”

บริเวณของห้องหมายเลข 12 หมาบ้าใบหน้าที่กำลังรอคอย ภาพที่เตชัสลงมืออย่างรวดเร็ว จัดการรพีพงษ์ลง ในความคิด เขา รพีพงษ์ตกอยู่ในมือเตชัส แม้แต่หนึ่งรอบการต่อสู้ก็ทนไม่ ไหวแน่นอน

อย่างไรก็ตามภาพในจินตนาการของเขาไม่ได้เกิดขึ้น หลัง จากในตอนที่ชนายุสประกาศเริ่มการประลอง เตชัสถึงกับ ยอมแพ้ในสนามแล้ว อีกทั้งฟังเสียงนี้ ยังมีความมั่นอกมั่นใจอยู่ ด้วย

อารมณ์ที่แสดงออกบนใบหน้าของหมาบ้าแข็งค้างทันที ทั้ง สมองมีแต่เสียงหึ่งๆ เหมือนว่าได้ยินเสียงฟ้าผ่าอย่างไรอย่าง นั้น
“นี่มันจะเป็นไปได้ยังไง! ยมราชเตชัส ยอมแพ้ออกมา โดยตรงได้ยังไงกัน? นี่ยังไม่ได้เริ่มสู้เลยนะ! ” หมาบ้าตะโกน ออกมา

ตามด้วย ก้นบึ้งในหัวใจเขาเกิดความหวาดกลัวสายหนึ่งตาม มาติดๆ ถ้ารพีพงษ์ผ่านการท้าประลองได้ง่ายๆ เช่นนี้จริง งั้น ต่อไปเขาก็มีอิสระภายในเทือกเขากิสนาแล้ว

ที่เขาเย้ยหยันรพีพงษ์ไปทั้งหมด ก็เพราะเชื่อมั่นว่ารพีพงษ์ไม่ สามารถสู้ชนะยมราชเตชัสได้ ในสมองของเขา ตอนนี้รพีพงษ์ ควรจะเป็นคนที่กําลังจะตายถึงจะถูก

อย่างไรก็ตามภายในคำพูดเดียวของเตชัสก็ทำให้ สถานการณ์นี้เปลี่ยนไปแล้ว เตชัสยอมแพ้โดยตรง รพีพงษ์ เท่ากับว่าท้าประลองสำเร็จ ในสถานการณ์ที่เขาไม่ตาย ก่อน หน้านี้ที่ตนเองยั่วยุเขาอย่างบ้าบิ่น นี่จึงเป็นการรนหาที่ตาย อย่างแท้จริง

ในใจของหมาบ้าเกิดความเสียใจภายหลังขึ้นอย่างลึกล้ำ รู้ตัวทันทีว่าก่อนหน้านี้ตนเองไม่ควรยั่วยุรพีพงษ์

ชั้นสอง หลังจากตอนที่จิรภาสได้ยินเตชัสยอมแพ้ออกมา ตรงๆแล้ว บนใบหน้ามีความประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่าการท้า ประลองสนามนี้ในวันนี้ ยังไม่ได้เริ่ม ถึงกับยุติลงแล้ว นี่ใน ประวัติศาสตร์ของเทือกเขากิสนา ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เช่นกัน
เขาหรี่ตามองไปที่รพีพงษ์รอบหนึ่ง แล้วมองไปยังเตชัสรอบ หนึ่ง คิดไม่ตกว่าเตซัสทำไมต้องทำเช่นนี้

คนผู้นี้มีความแข็งแกร่งยิ่งกว่าเขาเสียอีก และตามที่เขา เข้าใจ นิสัยของเตชัสตรงไปตรงมายิ่งกว่าเขามากนัก บน สนามประลอง แต่ไรมาไม่เคยเกิดความหวาดกลัวใดๆ ใน จิตใจ ถึงแม้จะสู้ไม่ได้ เขาก็ต้องกัดฟันทุ่มเทเต็มกำลัง คว้า โอกาสที่จะมีชีวิตรอดสายหนึ่งเอาไว้

สถานการณ์ที่สามารถทำให้เตชัสยอมแพ้ตรงๆ ได้มีความ เป็นไปได้สองอย่าง หนึ่งคือกำลังความสามารถของฝ่ายตรง ข้ามอยู่ในสถานะที่สามารถบดขยี้สภาพของเขาได้ เตชัสรู้ ว่าตนเองต้องแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็น ต้องลงมือ

ความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่งคือก่อนที่เขาจะลงสนามได้สมรู้ ร่วมคิดกับคู่ต่อสู้ก่อนแล้ว จัดการแสดงฉากหนึ่ง ข้อเสนอแรก นี้จะต้องเป็นคู่ต่อสู้ที่ให้ผลประโยชน์ที่ทำให้เตชัสใจสั่นได้ มิ เช่นนั้นเตชัสไม่มีทางที่จะบุ่มบ่ามทำลายชื่อเสียงของตนทำ เรื่องเช่นนี้

ในมุมมองของจิรภาส สองสถานการณ์นี้ดูเหมือนว่าไม่น่าเกิด ขึ้นบนตัวของรพีพงษ์

แต่ทว่าตอนนี้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นแล้ว เช่นนั้นเขาก็ไม่อาจไม่ พิจารณาอีกครั้งได้ ว่ารพีพงษ์มีที่ไหนที่พิเศษหรือไม่
หรือว่าคนคนนี้ไม่ได้ง่ายดายแบบที่ฉันคิดไว้ กำลังความ สามารถของเขามาถึงขั้นที่ทำให้ยมราชเตชัสหวาดกลัวแล้ว?

ความคิดนี้ปรากฏขึ้นในสมองของจิรภาส เขาหรี่ตามองไป ทางรพีพงษ์ คนรอบข้างต่างมองไม่ออกว่าเขาคิดอะไรอยู่

รพีพงษ์ก็คิดไม่ถึงว่าเตชัสจะยอมแพ้ออกมาตรงๆ เดิมทีเขา คิดว่าเตชัสอย่างน้อยที่สุดจะต้องเดินไปรอบๆ สนามกับเขา ประมือกับเขาสักหลายกระบวนท่า ทั้งสองหยุดลงเพียงเท่านี้ จากนั้นตอนเตชัสตกอยู่ในสภาพเป็นรอง ค่อยยอมแพ้ก็ใช้ได้ แล้ว

เช่นนี้ไม่เพียงแต่เผยให้เห็นกำลังความสามารถของรพีพงษ์ แล้วยังทำให้ทุกคนเข้าใจว่า เตชัสพ่ายแพ้นั้นไม่ใช่ใส่ความ กัน

ใครจะไปคาดคิดว่าเจ้านี่ถึงกับขึ้นมาแล้วก็ยอมแพ้เลย กลับ ทำเอารพีพงษ์ไม่รู้จะทำอย่างไรเสียด้วยซ้ำ

แต่เขาก็ตอบสนองกลับมาอย่างรวดเร็ว รู้สึกว่าที่เตชัสทำ แบบนี้ก็ไม่มีอะไรไม่ถูก กลับยังสามารถประหยัดเวลาไปได้ พอสมควร เพียงแต่ว่าจะทำให้ทุกคนงงงันว่าเหตุใดเตชัสจึง ยอมแพ้ตรงๆ เท่านั้น

เขาหันกลับไปมองชนายุสที่ด้านข้างสนาม ชนายุสเวลานี้ก็ ยังไม่มีสติกลับมา รอจนรพีพงษ์มองมา ถึงได้เก็บสายตาของตนกลับ

“เขายอมแพ้แล้ว นี่คงจะนับว่าฉันท้าประลองสำเร็จแล้วสินะ? ” รพีพงษ์เปิดปากถาม

ชนายุสลังเลใจอยู่ครู่หนึ่ง แต่ว่าสุดท้ายแล้วยังคงพยักหน้า

ต่อมาชนายุสก็ประกาศว่ารพีพงษ์ท้าประลองสำเร็จ ผล สุดท้ายได้รับอิสรภาพในเทือกเขากิสนา คนในห้องหมายเลข 13 ต่างโห่ร้องขึ้นมา ทั้งสนามมีเพียงแค่พวกเขาที่มีปฏิกิริยา เช่นนี้ คนที่เหลือล้วนแต่มีสีหน้างุนงงและหาคำตอบไม่ได้

ผ่านสถานการณ์ที่การท้าประลองยังไม่ทันเริ่มก็จบลงแล้ว อย่างแท้จริง มาถึงหอแข่งขันศิลปะการต่อสู้ยังไม่ทันได้ยืนให้ มั่น ก็ต้องกลับไปแล้ว ผู้คนทั้งหลายมองไปแล้วบนใบหน้าล้วน เหมือนกับถูกปกคลุมด้วยหมอกหนึ่งชั้น อยากจะเสาะหาคำ ตอบ แต่ก็ไม่มีคนมาอธิบายเหตุผลให้กับพวกเขา

ทุกคนกลับไปถึงในคุกใต้ดิน ต่างก็กำลังพูดคุยอย่าง กระตือรือร้นถึงการท้าประลองเมื่อครู่ เดาถึงเหตุผลว่าทำไม เตชัสจึงยอมแพ้กับรพีพงษ์โดยตรง

รพีพงษ์เดินตามชนายุสมาถึงประตูห้องหมายเลข 13 ชนา ยุสหยุดลง พูดขึ้น : “ตอนนี้นายเป็นอิสระแล้ว แต่เงื่อนไขของ อิสรภาพ คือนายจะต้องปฏิบัติตามการส่งตัวไปทำงานของ เทือกเขากิสนา ถ้าไม่ปฏิบัติตาม จะมียอดฝีมือของ
เทือกเขากิสนาดำเนินการไล่ล่านายทันที ถึงตอนนั้นนายก็จะ ต้องเผชิญหน้ากับจุดจบที่มีชีวิตอยู่ก็ไม่ได้จะตายก็ไม่ได้ ฟัง เข้าใจแล้วใช่ไหม

รพีพงษ์พยักหน้า ชนายุสยื่นมือส่งโทรศัพท์ให้รพีพงษ์เครื่อง หนึ่ง บอกรพีพงษ์ว่าโทรศัพท์เครื่องนี้ใช้งานได้แค่ในเทือกเขา กิสนา คือเครื่องมือสื่อสารที่เบื้องบนใช้ส่งคำสั่ง หลังจากนั้น ยังอธิบายกับรพีพงษ์อีกเล็กน้อยเกี่ยวกับปัญหาที่จำเป็นต้อง ระมัดระวังเมื่อกลับคืนสู่อิสรภาพในเทือกเขากิสนา

หลังจากพูดจบแล้ว ชนายุสมองห้องหมายเลข 13 ครั้งหนึ่ง พูดว่า : “วันนี้นายมีเวลาทั้งวันที่อยู่ในคุกใต้ดินได้ หนึ่งวันหลัง จากนั้น นายก็สามารถออกไปได้แล้ว”

“ฉันมีคำขอร้องหนึ่ง ไม่ทราบว่านายจะรับปากหรือไม่? ” รพี พงษ์เปิดปากถาม

คำขอร้องอะไร? ” สายตาของชนายุสตกลงบนหน้าของรพี

พงษ์

“ฉันอยากไปห้องหมายเลข 12 สักรอบ”

ชนายุสจ้องมองรพีพงษ์ไม่กี่วินาที จากนั้นกล่าวเสียงเรียบว่า “ได้ แต่ว่าเข้าไปเป็นพิเศษได้แค่ห้องนี้เท่านั้น”

แค่ห้องนี้ก็พอแล้ว” ใบหน้าของรพีพงษ์เผยรอยยิ้มเยาะ “จากนั้นเดินไปทางห้องหมายเลข 12 ด้านนั้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ