แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่214 ใส่ร้ายป้ายสี



บทที่214 ใส่ร้ายป้ายสี

ในบ้าน ศศินัดดาเดินไปที่สวนดอกไม้ด้านหน้าของ วิลล่าอย่างหลบหลบซ่อนซ่อน ยื่นมือเอาถึงใบหนึ่ง ทิ้งเข้าไปที่สวนดอกไม้นั้น

ข้างในใส่เครื่องประดับ รพีพงษ์ซื้อให้เธอ ทั้งหมด มีสามอย่าง เป็นสิ่งที่เธอคิดว่าไม่สวยทั้งหมด แต่ ของสามอย่างนี้รวมกันแล้วราคาก็ราวๆแสนกว่าๆ

เธอโยนเครื่องประดับสามสิ่งนี้เข้าไปในสวน ดอกไม้ ไม่ใช่เพราะตนเองไม่อยากได้แน่นอน แม้ไม่ สวยก็ยังมีราคาแพง

เธอโยนเครื่องประดับสามสิ่งนี้เข้าไปในสวน ดอกไม้ อยากที่จะใส่ร้ายป้ายสีให้กับชนิสรา

เธอมองว่างานบ้านรพีพงษ์ควรจะเป็นผู้ทำ ทําไม ต้องเสียเงินจ้างแม่บ้าน ดังนั้นเธอจึงคิดหาวิธีที่จะไล่ ชนิสราออกไป
หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าได้โยนเครื่องประดับทั้งสาม นั้นไปที่สวนดอกไม้แล้ว ศศินัตตาเดินเข้าไปในวิลล่า อย่างมีความสุข

ขณะนี้ชนิสราทำความสะอาดอยู่ในห้องครัว ตอน นั้นโดนศศินัดดาตบไปหนึ่งฉาก เธอก็รู้สึกเสียใจ แต่ ก็พูดอะไรไม่ได้ เพราะยังไงรพีพงษ์ก็เป็นคนให้งาน นี้กับเธ อ ทําให้เธอซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก

ในขณะเดียวกันนี้เอง ศศินัดดาก็เดินเข้ามา แล้ว กล่าว “นิสา แกขึ้นไปทำความสะอาดห้องฉันหน่อย

“ได้ค่ะ พี่นัดดา”

ชนิสรารีบวางงานในมือ แล้วถือไม้กวาดขึ้นไปชั้น

ศศินัดดามองเธอเดินขึ้นไป ก็หัวเราะขึ้นมา คิดใน ใจเตี๋ยวอีกแป๊ปก็จะเจอดีแล้ว

เมื่อใกล้ถึงช่วงเที่ยงวัน รพีพงษ์และอารียากลับมา ถึงบ้าน

เรื่องที่บริษัทได้จัดการหมดแล้ว รพีพงษ์ได้ให้เธียรวิชญหาทีมบริหารบริษัทให้กับอารียา ไม่น่าจะ ใช้เวลานาน บริษัทก็จะกลับมาสู่สภาพเดิม

ในระหว่างที่ทั้งสองเดินเข้าไปข้างใน เห็นศศินัดดา นอนบนโซฟาอย่างผ่อนคลาย ดูๆแล้วอารมณ์ดีไม่ น้อยเลยทีเดียว

รพีพงษ์เดินเข้าไปในวิลล่า เริ่มรู้สึกแปลกๆ เขา มองไปที่ศศินัดดา แล้วถาม “พี่สาล่ะ เธอไปไหน แล้ว?!

“ไอ้หัวขโมยนั้นหรอ ถูกยามจับตัวไปแล้ว ตอนนี้น่า จะกำลังถูกไต่สวนอยู่” ศศินัดดามีท่าทีเฉยๆ

“ถูกจับแล้ว? เธอขโมยอะไร?” รพีพงษ์รีบเดินไป ข้างหน้า แล้วเพ่งไปที่ศศินัดดา

“หญิงคนนั้นไปทำความสะอาดที่ห้องของฉัน แต่ แล้วของในห้องสามอย่างของฉันก็หายไปจากห้อง แสนกว่าบาทนะ รพีพงษ์ แกก็นะ ทำไมถึงได้เอาคน ที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าเข้าบ้านมาได้ วันนี้ดีนะของ ที่หายไปไม่ได้เป็นของมีค่าอะไรมากมาย แค่เครื่อง ประดับสามอย่าง ต่อไปถ้าแกยังกล้าเอาคนแบบนี้ กลับมาที่บ้านอีก งั้นแกก็อย่ากลับมา” ศศินัดดากล่าว

สําหรับคุณแล้วแสนกว่าๆก็ถือว่ามีค่าป๊ะ ทำไมคุณ ยังนอนชิลๆอยู่ตรงนี้ แล้วผมดูอารมณ์ของคุณก็ไม่ เสวด้วยนะ” รพีพงษ์ถามเน้นไปที่ศศินัดดา

แป๊ปเดียวเขาก็ดูออกว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดา สำหรับ รพีพงษ์แล้วไม่ได้รู้จักชนิสรามากมาย ถ้าจะบอกว่า เธอมาที่นี่เพื่อขโมยของล่ะก็ ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ ได้เลย

แต่ด้วยนิสัยของศศินัดดา แม้ผ้าเช็ดเท้าหายฝัน นึง ก็ต้องค่าเป็นครึ่งค่อนวัน แต่ครั้งนี้เครื่องประดับ ราคาแสนกว่าๆหาย เธอกลับไม่เป็นเดือดเป็นร้อน ใดๆ แต่กลับนอนชิลๆอยู่บนโซฟา ทำให้รพีพงษ์ สงสัยเป็นธรรมดา

เมื่อศศินัดดาได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ สีหน้า เปลี่ยนทันที รีบลุกขึ้นจากโซฟา แล้วกล่าว “ใครว่า ฉันไม่เดือดร้อน ฉันเครียดจนจะบ้าอยู่แล้ว ฉันนอน อยู่ตรงนี้ เพราะยามได้จับขโมยนั่นไปแล้ว ถึงเวลา นั้นต้องรู้แน่ว่าเธอเอาของไปซ่อนไว้ที่ไหน

อารียาก็มองศศินัดดาอย่างสงสัย แล้วหันไปพูดกับรพีพงษ์ “ไม่งั้นเราไปดูที่ห้องทำงานของยามกัน เกอะ”

รพีพงษ์พยักหน้า จากนั้นก็ออกไปจากวิลล่า พร้อม กับอารียาไปที่ห้องทำงานของยาม

ศศินัดดาเห็นดังนี้ ก็รีบตามออกไป

ทั้งสามเดินถึงห้องทำงานของยามพร้อมกัน ยัง ไม่ทันไม่เข้าไป ก็ได้ยินเสียงร้องอวดครวญออกมา

รพีพงษ์ ขมวดคิ้ว แล้วรีบเดินเข้าไป

ในห้องทำงานมียามนั่งอยู่หลายคน แต่ขณะนี้ชนิส รากำลังคุกเข่าอยู่ในมุม ใบหน้าเธอบวมและฟกช้ำ ขึ้นมา หน้าซีด มียามสองคนยืนอยู่ข้างเธอ มองเธอ ด้วยใบหน้าที่ดุดัน

“รีบพูดความจริงออกมา แกเอาของที่ขโมยได้ไป ซ่อนไว้ที่ไหน ถ้าไม่พูด พวกเราจะตีต่อไป!”

ชนิสราหวาดหลัว แล้วรีบกล่าว “พี่ยาม ฉันไม่ได้ ขโมยของจริงๆ ได้โปรดอย่าตีฉันอีกเลย ถึงแม้ฉัน จะจน แต่ฉันก็ไม่เคยทําผิดกฎหมายนะ”
แม่ง มึงนี่อยากโดนตีจริงๆสินะ เค้าบอกกูแล้ว ใน ” บ้านก็มีแค่แก มาใหม่ แล้ววิลล่าหลังนั้นของเขาเป็น หลังที่มีความปลอดภัยมากที่สุด เป็นไปไม่ได้ว่าจะมี ขโมย ถ้าไม่ใช่มึงที่ขโมยของ แล้วจะเป็นใครไปได้ อีก?”

ยามพูดพลาง ก็ลงมือกับชนิสราพลาง

ในขณะนี้เอง รพีพงษ์ก็มาถึง เขาห้ามยามเอาไว้ แล้วกล่าว “ยังไม่แน่ชัดว่าใครเป็นคนขโมยของ พวก แกก็ลงมือแบบนี้ เกรงว่าจะไม่ค่อยเหมาะสมนะ”

ยามคนนั้นหันไปมอง เห็นว่าเป็นรพีพงษ์ สีหน้าก็ เปลี่ยนทันที แล้วกล่าว “คุณรพี นี่ ของแม่ยายคุณครับ” ..…….นี่เป็นคำสั่ง

รพีพงษ์หันไปมองที่ศศินัดดา ศศินัดดามองอย่าง ไม่พอใจ แล้วกล่าว แล้วไง เธอขโมยของฉัน ฉันให้ คนสั่งสอนไม่ได้หรือไง”

“รพีพงษ์ ฉันไม่ได้ขโมยของจริงๆ คุณดีกับฉัน ขนาดนี้ ฉันจะขโมยของได้ยังไงกัน” ชนิสราเห็นรพี พงษ์มาแล้ว ก็รีบพูดออกมา ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยความทุกข์ ไม่ว่าเธอจะอธิบายยังไง ก็ไม่มีใครเชื่อ เธอทำได้เพียงหวังให้รพีพงษ์เชื่อเท่านั้น

คุณอย่าเพิ่งร้อนรน ช่วยเล่าความเป็นมาของ เหตุการณ์ให้ผมฟังหน่อย” รพีพงษ์กล่าว เขาไม่ได้ ลดความสงสัยในตัวของชนิสราลง แต่ไม่ว่ายังไง เขาก็ต้องเข้าใจเรื่องทั้งหมดก่อน

“วันนี้พี่นัดดาให้ฉันไปทําความสะอาดในห้องของ เธอ ฉันทําความสะอาดเสร็จแล้ว พี่นัดดาก็ขึ้นไป ไม่นาน เธอก็ลงมาบอกฉันว่าเครื่องประดับหาย ให้ ฉันเอาออกมา ฉันไม่รู้เลยจริงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้น ที่ นัดดาก็เรียกยามมา จับฉันมายังที่นี่” ชนิสราอธิบาย

“แกหยุดพูดมั่วได้แล้ว แกนั่นแหละขโมยเครื่อง

ประดับ แกตั้งใจจะมาขโมยของที่บ้านฉัน รพีพงษ์ ดู คนที่แกพากลับมาบ้าน เรื่องนี้แกก็มีส่วนต้องรับผิด ชอบ!” ศศินัดดาโมโหเกรี้ยวกราด

“แม่ คุณคิดๆดูสิ ว่าวางไว้ที่ไหนหรือเปล่า ไม่แน่ อาจจะวางไว้สักจุดภายในบ้านนะ พวกเรากลับไป หาๆดู” อารียากล่าว
“เป็นไปไม่ได้ ฉันหาแล้ว ไม่มีสักที่” ศศินัดดาพูด อย่างมั่นใจ

แม่ ความจริงเครื่องประดับพวกนี้อยู่ในห้องฉัน ใน ” ห้องฉันมีตู้ลับอยู่ คุณยังไม่หาตรงนั้นแน่ๆ เดี๋ยวกลับ ไปจะเอาออกมาให้

ศศินัดดาชะงัก แล้วรีบกล่าว “แกเสแสร้งอะไร เครื่องประดับสามสิ่งนั้นจะอยู่ในห้องแกได้ยังไง”

คุณยังไม่หาเลย รู้ได้ไงว่าไม่มี ตรงมีแน่ๆ ไม่เชื่อ เดี๋ยวผมกลับไปดู” รพีพงษ์พูดต่อ

“จะบ้าหรอ เครื่องประดับสามอย่างนั้นฉันเป็นคน

พูดถึงประโยคนี้ เธอก็รีบปิดปากตัวเองโดยเร็ว

สีหน้ารพีพงษ์ตะลึง เมื่อกี้เขาแค่หลอกศศินัดดา เท่านั้น ไม่คาดคิดว่าเธอจะหลุดปากออกมา

แม่ เมื่อกี้คุณพูดอะไรนะ?” รพีพงษ์ถาม
“ไม่มีอะไร ผู้หญิงคนนี้เป็นคนขโมย พวกแกรีบพา เธอไปส่งสถานีตำรวจ ต่อไปอย่าให้เธอปรากฏตัวที่ หมู่บ้าน อีก” ศศินัดดามองไปที่ยามอย่างบึ้งตึง

แม่ คุณพูดมาตามตรง คุณตั้งใจแอบของไว้ใช้ ไหม แล้วใส่ร้ายป้ายสี สา?” รพีพงษ์พูดอย่างเยือก

“รพีพงษ์ แกพูดบ้าอะไร ฉันศศินัดดาเป็นคนแบบ นั้นหรอ! ถ้าแกยังกล้าดูถูกฉันอีก ต่อไปแกอย่าคิด จะเข้าบ้านอีกเลย” ศศินัดดาตะคอก

คุณพูดเองนะ เรื่องนี้ผมจะให้คนสืบ ถ้าถึงเวลานั้น คุณแอบของเอาไว้จริงๆ แม้คุณจะแก่กว่าผม แต่ผม ก็จะต้องคืนความบริสุทธิ์ให้กับพี่สา

” แกนี่มันน่ารำคาญจริงๆ งั้นแกก็สืบสิ ฉันไม่เชื่อว่า แกจะหาอะไรเจอ ยังกล้าที่จะดุฉันอีก แกมันก็แค่ ไอ้สวะ ไม่มีฉัน แกอดตายไปนานแล้ว!” ศศินัดดา ตะคอก

เธอคิดว่าสิ่งที่เธอท่านั้นเนียบเนียนแล้ว วันนี้ที่จุดที่ เธอโยนเครื่องประดับไปนั้นเป็นมุมอับ เธอไม่กังวล ใดๆเกี่ยวกับการสืบของรพีพงษ์”ถ้าแกสามารถสืบจนรู้ว่าฉันตั้งใจจะใส่ร้ายป้ายสี เธอล่ะก็ แกจะทําอะไรกับฉันก็ได้” ศศินัดดาบินปาก ใบหน้าไม่พอใจ

ในขณะเดียวกันนี้เอง มีคนทําความสะอาดเคืนมา มอบถึงใบหนึ่งให้กับยาม แล้วพูดว่า “ตอนนั้นฉันเห็น คนโยนถุงนี้ไปในสวนดอกไม้ ข้างในเหมือนจะเป็น ของมีค่า พวกเธอดูสิ…เอ๊ะ คนนี้แหละที่เป็นคนโยน ถุงนี้ทิ้ง”

พนักงานทําความสะอาด ไป ศศินัดดา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ