แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่ 144 ภรรยาของคุณ งแล้ว



บทที่ 144 ภรรยาของคุณ งแล้ว

ธนาตย์กลืนน้ำลายลงคอ บอดี้การ์ตระดับสูงที่ถึง แม้จะตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายเพียงใดก็ยังคง สงบนิ่ง แต่ทว่าในตอนนี้เหงื่อของเขากลับไหลเต็ม ตัว

เขารู้ถึงความน่ากลัวของโยษิตาดี อีกทั้งการที่มา เมืองริเวอร์ในครั้งนี้ โยษิตาเอาแต่เน้นถึงความ สำคัญของรพีพงษ์ รับรู้ได้เลยว่าโยษิตาให้ความ สําคัญกับรพีพงษ์ขนาดไหน

ตอนนี้การที่เขาฟังคำของกุมุทแล้วลงมือทำร้ายร พงษ์ นี่มันเป็นการฆ่าตัวเองชัดๆ

“พี่ ธนาตย์ เป็นอะไรไป ไอ้รพีพงษ์มันก็แค่สวะ พี่ ไม่ต้องไปเกรงใจมันหรอก” กุมุทพูดด้วยสีหน้าที่เต็ม ไปด้วยความสงสัย

ธนาตย์ ถีบลงไปที่ท้องของกุมุทจนทำให้เขาลอย ถลาไปอีกครั้ง
“ฉันทำให้ฉันรวยจริงๆ” ธนาตย์ก่นค่าออกมา

จากนั้นเขาจึงรีบหันไปหารพีพงษ์แล้วโค้งให้ “คุณชาย… แค่ก แค่ก คุณรพีพงษ์ ผมขอโทษจริงๆ ครับที่รุนแรงกับคุณเมื่อครู่ หวังว่าคุณจะให้อภัย

บอดี้การ์ดของบ้านตระกูลกุลสวัสดิ์ต่างพากันมอง เหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความตกตะลึงเป็นอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าท่าทีของ ธนาตย์ จะเปลี่ยนไปขนาดนี้

พวกเขารู้ถึงความเก่งกาจของ ธนาตย์เป็นอย่างดี ถึงธนาตย์จะถีบกุมุทไปหนึ่งที พวกเขาก็ไม่กล้าทำ อะไรปุมปาม

รพีพงษ์มองธนาตย์แล้วถามขึ้นมาว่า “นายมากับ โยษิตาใช่ไหม”

ธนาตย์รีบพยักหน้า

รพีพงษ์ถึงรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

กุมุทกุมท้องตัวเองแล้วลุกขึ้นมาจากพื้นอีกครั้ง สีหน้าของเขาซีดเผือดเป็นอย่างมาก ขาทั้งสองข้างอ่อนยวบไปหมด กุมุทโดนกีบจน ในไปหมด

“พี่ ธนาตย์ ทำไมถึงเกรงใจไอ้สวะนั้นขนาดนี้ อีก อย่างทำไม ถึงกับผม พวกเราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เห รอ” กุมุทพูดด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ

ธนาตย์จ้องเขาเขม็ง เขาเกือบจะทำให้ ธนาตย์ท่า พลาดครั้งใหญ่ ตอนนี้ธนาตย์จะไปเป็นเพื่อนกับเขา ทําไมอีก

ขณะนั้นเองกุนลโรจน์เดินเข้ามาจากข้างนอก เมื่อ ครูเขาได้ยินเสียงนกหวีดของกุมุท นึกว่าเกิดเรื่อง อะไรขึ้นที่นี่ หลังจากที่เขาช่วยรพีพงษ์เก็บภาพนั้น เรียบร้อย จึงรีบมาที่นี่

เมื่อเห็นสีหน้าซีดเผือดของกุมุท บนเสื้อมีรอยเท้า อยู่ กุนลโรจน์จึงรีบเดินเข้าไปถามทันที “ลูก นี่มัน เกิดอะไรขึ้น?”

“รพีพงษ์มันบ้าไปแล้ว มันจะฆ่าผม เมื่อกี้มันถีบผม จนเกือบตาย” กุมุทพูดด้วยความเคียดแค้น

เขาไม่กล้าพูดว่า ธนาตย์ ก็ถีบเขาเช่นกัน เพราะว่า ตระกูลกุลสวัสดิ์ไม่กล้าหาเรื่องธนาตย์และโยษิเมื่อกาลโรจน์ได้ยินสิ่งที่พูดจึงรับหันไปหาร พงษ์แล้วพูดว่า “คุณรพีพงษ์ ผมรู้ว่าคุณยังโมโหกับ สิ่งที่ลูกผมทำในครั้งนั้น แต่ว่าผมได้อบรมเขาแล้ว ตอนนี้คุณมาสั่งสอนเขาแถมยังทำร้ายเขาอย่าง รุนแรง ผมว่ามันค่อนข้างไม่ค่อยเหมาะสมนะครับ”

ไม่ว่าอย่างไรแล้วกุนลโรจน์ยังคงรักลูกชายของตัว เอง ในตอนที่ไม่รู้ถึงสาเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อ เห็นสภาพของลูกชาย แน่นอนว่าเขาต้องไม่พอใจ

รพีพงษ์เหลือบมองกุนลโรจน์แล้วพูดว่า “เมื่อกี้ ลูกชายของคุณจะทำมิดีมิร้ายกับภรรยาของผม คุณว่าผมควรหรือไม่ควรสั่งสอนเขา?”

สีหน้าของกุนลโรจน์แปรเปลี่ยนไปในทันที เขา รีบมองไปยังอารียา แล้วพบว่าเสื้อผ้าของเธอดูยับ ราวกับถูกคนขย้ำมาอย่างไรอย่างนั้น

ดูเหมือนว่าเขาจะโกรธเป็นอย่างมาก ทำไปทำมา ลูกชายเกเรของเขาไปหาเรื่องรพีพงษ์อีกแล้ว ตอนนี้เขาโกรธจนแทบบ้า

กุนลโรจน์หมุนตัวกลับไปมองมุทแล้วพูดด้วย ความโมโห “แกอยากให้ฉันโมโหมายใช่ไหม ทำไม ฉันถึงมีลูกแบบแก!”

กุมุทไม่ได้ตระหนักถึงความผิดของตัวเอง แถมยัง คิดว่าพ่อของตัวเองอยู่ข้างรพีพงษ์

“พ่อ มันก็แค่ไอ้สวะเท่านั้น อารียาก็แค่คนของ ตระกูลฉัตรมงคล ผมได้กับเธอแล้วมันจะทำไม? ไม่ แน่เรื่องนี้อาจทำให้ตระกูลฉัตรมงคลดีใจก็ได้ ทำไม เพราะพวกมันพ่อถึงทำกับผมขนาดนี้?” กุมุทยิ่ง โกรธขึ้นเรื่อยๆ

กุนลโรจน์สะบัดฝ่ามือลงไปบนหน้าของลูกชายตัว เองแล้วพูดว่า “ถ้าเขาเป็นสวะ แกมันก็ยิ่งกว่าสวะ! ฉันบอกแกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าไปหาเรื่องคุณรพีพงษ์ แต่แกก็ไม่ฟัง เขาไม่ใช่คนที่ตระกูลกุลสวัสดิ์ของเรา จะไปมีเรื่องด้วยได้!”

“ใช่ ตระกูลกุลสวัสดิ์ไม่สามารถไปมีเรื่องกับคุณ รพีพงษ์ได้” ธนาตย์ พูดเสริม
“ทําไมทุกคนถึงพูดแทนมัน มันก็แค่ไอ้สวะ ผม คือคุณชายของตระกูลอันดับหนึ่งแห่งเมืองริเวอร์ ทำไมถึงจะหาเรื่องมันไม่ได้? มันเป็นใคร ทำไมทุก คนต้องกลัวมันด้วย?” กุมทพูดอย่างไม่สบอารมณ์

กุนลโรจน์ไม่รู้ว่าจะอธิบายให้กุมุทฟังอย่างไร

ขณะนั้นเองก็มีเสียงส้นสูงดังกังวานออกมาจากข้าง นอก หลังจากนั้นโยษิตาก็ปรากฏตัวตรงหน้าประตู พร้อมกับออร่าแห่งความแข็งแกร่ง

“เขาเป็นหลานของฉันเอง” โยษิตาเอ่ยขึ้น

แกพูดอะไรบ้าบอ!” กุมุทไม่รู้ว่าคนที่พูดคือใคร จึงค่าออกไป พอหันหลังกลับไปพบว่าเป็นโยษิตา สีหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยนไปในทันที ขาทั้งสองข้าง อ่อนยวบจนลงไปกองกับพื้น

“คะ…คุณโยษิตา ผมไม่ได้ตั้งใจ” กุมทพูดอย่าง

สํานึกผิด

รพีพงษ์คิดไม่ถึงว่าโยษิตาจะปรากฏตัวที่นี่ เขาดู ตกใจ ส่วนอารียาที่อยู่หลังชายหนุ่มมีสีหน้าที่เต็มไป ด้วยความสงสัย การที่ผู้นำของตระกูลกุลสวัสดิ์เกรงอกเกรงใจรพีพงษ์ขนาดนี้ สาเหตุเป็นเพราะคน

คนนี้งั้นเหรอ

แท้จริงแล้วคนนี้เป็นใครกันแน่? มีความสัมพันธ์ อะไรกับรพีพงษ์?

เมื่อครู่เธอบอกว่ารพีพงษ์เป็นหลาน แต่จาก ลักษณะแล้วดูเหมือนอายุยังไม่มากเท่าไร อย่าบอก นะว่ามันเป็นการปิดบังอะไรบางอย่างงั้นเหรอ?

เมื่อคิดได้ดังนั้น จู่ๆ อารียาก็รู้สึกดึงขึ้นมา โยษิตา หน้าตาสะสวย แถมยังดูมีอำนาจและแข็งแกร่ง ถ้า รพีพงษ์มีความสัมพันธ์อะไรกับโยษิตา เธอจะต้อง ไม่ยอมให้อภัยเขาอย่างแน่นอน

โยษิตาก้มหน้าลงมองกุมุท จากนั้นจึงใช้ส้นรองเท้า เหยียบลงไปบนมือของกุมุท

กุมุทร้องโอดครวญออกมาด้วยความเจ็บปวด กุนล โรจน์เห็นภาพนั้นแล้วปวดใจแต่เขาก็ไม่กล้าเข้าไป ห้าม

“นายกล้าว่าหลานชายฉันเป็นสวะงั้นเหรอ คิดว่า ตระกูลกุลสวัสดิ์ของนายเป็นผู้มีอำนาจในเมืองริเวอร์นานเกินไปแล้วใช่ไหม” โยษิตาพูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา

กุมุทเพิ่งตระหนักได้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปใน ทันที เขามองโยษิตาอย่างแทบไม่อยากจะเชื่อ

เขารู้ว่าการที่โยษิตามาเกียวโตในครั้งนี้เพื่อมาหา หลานชาย เขาคิดไปโดยตลอดว่าหลานชายของโย ตาต้องเป็นคนที่มีความสามารถ ไม่ใช่คนธรรมดา แน่ๆ

แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่ารพีพงษ์จะ เป็นหลานชายของโยษิตา

เห็นได้ชัดว่ากุนลโรจน์ก็ต้องรู้เช่นกัน มิน่าล่ะเขาถึง เกรงอกเกรงใจรพีพงษ์มาก

ขณะนั้นเอง ความสงสัยทั้งหมดที่อยู่ในหัวของ กุมุทได้รับการถูกเฉลยออกมาหมดแล้ว ที่แท้พ่อ ของเขาสั่งสอนเขาไม่ได้ทำไปอย่างไร้เหตุผล แต่ เพราะรพีพงษ์ไม่ใช่คนที่ตระกูลกุลสวัสดิ์จะไปยั่ว โมโหได้ ถ้าพ่อของเขาไม่สั่งสอนเขา ป่านนี้ก็คงไม่มี ตระกูลกุลสวัสดิ์แล
กุมุทสั่นไปทั้งตัว ความหวาดกลัวก่อตัวขึ้นในใจ ของเขา นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกกลัวเช่นนี้

“คะ… คุณโยษิตา ผมผิดไปแล้ว ผมสำนึกผิดแล้ว ไว้ชีวิตผมเถอะ ผมมีตาหามีแววไม่ ผมไม่ควรไปยั่ว โมโหรพีพงษ์ ผมจะขอโทษเขา คุณไว้ชีวิตผมสัก ครั้งเถอะนะครับ”

กุมุทคำนับร้องขอชีวิตกับโยษิตา

โยษิตาเตะกุมทออกไปแล้วพูดว่า “นี่เป็นเรื่อง ระหว่างนายกับรพีพงษ์ นายขอร้องฉันไปก็ไร้ ประโยชน์ จะลงโทษนายยังไงต้องขึ้นอยู่กับรพีพงษ์ แล้ว”

กุมุทรีบคุกเข่าลงต่อหน้าของรพีพงษ์ จากนั้นจึงก้ม ห้าค่านับเขา

“รพีพงษ์ ฉันสํานึกผิดแล้ว คุณไว้ชีวิตผมเถอะ ไว้ ชีวิตตระกูลเราเถอะ หลังจากนี้ผมไม่กล้าทำแล้ว กุมุทร้องขอชีวิต

รพีพงษ์ปรายตามองกุมุท แววตาของเขาไม่มี แม้แต่อารมณ์ใดๆ
“ฉันเคยให้โอกาสนายแล้วครั้งหนึ่ง แต่นายไม่รู้จัก รักษามันเอาไว้เอง ไม่ใช่มาขอร้องให้ไว้ชีวิตทุกครั้ง แล้วจะได้ผลหรอกนะ” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น

กุมุท นับแล้วเอาหัวโขกพื้นแรงขึ้น เขา กระวนกระวายจนแทบจะร้องไห้ออกมา

“ครั้งก่อนฉันบอกนายแล้วว่าถ้านายยังมาวุ่นวาย กับภรรยาฉันอีก ฉันจะหักขาแก ฉันพูดคำไหนคำ นั้น!”รพีพงษ์พูดขึ้นอีกครั้ง

โยษิตาหันไปหา ธนาตย์ แล้วพูดว่า “ธนาตย์ นาย จัดการแทนคุณชายด้วยนะ สวะแบบนี้จะทำให้มือ คุณชายสกปรกเปล่าๆ

ธนาตย์รีบพยักหน้า จากนั้นจึงเดินเข้าไปหากุมุท

รพีพงษ์ไม่ได้บอกเรื่องที่ธนาตย์ทำร้ายตัวเอง ทำให้เขาซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้น เขาต้องทำตัวให้ดี ช่วยรพีพงษ์จัดการกับกุมุทให้ เรียบร้อย

กุนลโรจน์เห็นธนาตย์กำลังจะลงมือ จึงรีบพูดขึ้น มาว่า “คุณโยษิตา ได้โปรดปราณีด้วยเถอะครับผมมีลูกชายแค่คนเดียว ถ้าเขาเป็นอะไรไปตระกูล กุลสวัสดิ์คงไม่เหลืออะไรแล้ว

“เหอะ เหอะ มันไม่ใช่เหตุผลเลยนะ ทำผิดต้องโดน ลงโทษ เป็นสัจธรรมความถูกต้องที่เปลี่ยนแปลงไม่ ได้ ตอน ลูกชายของคุณกลั่นแกล้งคนอื่นคงจะไม่ เคยคำนึงถึงความรู้สึกของคนอื่นเลยด้วยซ้ำ” โยษิ ตาเอ่ยขึ้น

กุนลโรจน์รู้ว่ามันไม่ใช่เหตุผล ขณะนั้นเขาก็ไม่รู้ว่า จะพูดอะไรอีก

“พ่อ ช่วยผมด้วย ผมไม่อยากเป็นคนพิการนะ!”

กุมุทพูดอ้อนวอน

“กุนลโรจน์ คุณไม่อยากให้ลูกชายตัวเองโดน ลงโทษใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นก็ได้ ฉันจะให้คนทั้ง ตระกูลกุลสวัสดิ์มารับโทษแทนลูกชายของคุณ” โย ษิตาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

น้ำเสียงของเธอดูจริงจังและไม่ได้พูดล้อเล่น ราวกับไม่มีใครสามารถขัดขืนคำพูดของเธอได้ อย่างไรอย่างนั้น
เมื่อ พงษ์เผชิญหน้ากับความแข็งแกร่งของโย ตา เขาก็ปวดหัวเหมือนกัน คงไม่ต้องพูดถึง แล โรจน์เลย

เมื่อกุนลโรจน์ได้ฟังสิ่งที่โยษิตาพูด ตัวของเขาถึง กับสั่นสะท้าน ถ้าให้เทียบกับคนทั้งตระกูลกุลสวัสดิ์ ให้กุมุทโดนลงโทษคนเดียวยังดีกว่า

เขาถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ จากนั้นจึง พูดขึ้นมาว่า “มิกล้า ลูกเนรคุณคนนี้ทําผิดใหญ่หลวง แน่นอนว่าต้องโดนลงโทษ ให้คุณโยษิตาจัดการเลย ครับ”

พูดจบเขาก็หมุนตัวเดินออกไปเพราะเขาทนไม่ ได้ที่จะเห็นลูกชายโดนลงโทษ

เมื่อกุมทเห็นว่าพ่อไม่ช่วยตัวเอง สีหน้าของเขาเต็ม ไปด้วยความผิดหวัง สีหน้าของเขาเหมือนคนที่กำลัง จะตาย ซีดเผือดจนน่าตกใจ

ธนาตย์ไม่ลังเลอีกแล้ว เขาผลักกุมุทลงไปบนพื้น จากนั้นจึงใช้แรงอันมหาศาลของตัวเองเหยียบลงไป บนขาทั้งสองข้างของกมุทสองสามครั้ง
เสียงกระดูกหักดังออกมา กุมุทกลิ้งไปมาด้วย

ความเจ็บปวด

เสียงร้องอันน่าเวทนาดังก้องอยู่ในบ้านตระกูล กุลสวัสดิ์ ทําให้คนที่มาร่วมงานเลี้ยงต่างพากัน ประหลาดใจ โดยไม่รู้ว่าเสียงนี้ดังขึ้นมาในบ้าน ตระกูลกุลสวัสดิ์ได้อย่างไร

กุนลโรจน์น้ำตาไหลออกมาทันที เขารู้เรื่องนี้ดี เขา ไม่ควรจะโอ๋กุมุทตั้งแต่แรก ไม่งั้นกุมุทคงไม่ต้องมี จุดจบที่น่าสลดใจเช่นนี้

ธนาตย์ใช้พละกำลังได้เป็นอย่างดี ส่วนที่เขาทำ หักคือตำแหน่งสำคัญของกุมุท ถึงจะส่งไปให้หมอ รักษา แต่ทว่ากุมุทก็คงต้องใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็นไป ตลอดชีวิต

เมื่อเห็นกุมุทได้รับโทษที่สมควรได้รับ รพีพงษ์จึง หันไปหาอารียาแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไรแล้ว ต่อจากนี้ เขาจะไม่มาวุ่นวายกับคุณอีก

อารียาพยักหน้าด้วยสีหน้าหลากหลายอารมณ์ ภาพเมื่อครู่มันน่าตกใจเป็นอย่างมาก มันทำให้เธอ รู้สึกอึดอัด
กุนลโรจน์รับบอกให้บอดี้การ์ดของตระกูลกุล สวัสดิ์นำตัวกุมุทไปส่งโรงพยาบาล เพราะเรื่องนี้ท ให้งานเลี้ยงสิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างพากัน ไม่เข้าใจว่าทำไมกุนลโรจน์ถึงให้พวกเขารีบกลับ

ภายในห้องเหลือเพียงแค่โยษิตา ธนาตย์ รพีพงษ์ และอารียา คน

โยษิตามองอารียาอย่างขำๆ จากนั้นจึงพูดขึ้นมา ว่า “กลับไปกับฉัน จากนี้นายจะได้ไม่ต้องเจอเรื่อง วุ่นวายแบบนี้อีก”

“เธอคิดมากไปแล้ว” รพีพงษ์ตอบกลับไป

อารียาได้ยินที่โยษิตาบอกให้รพีพงษ์กลับไปกับ เธอ อารียามีสีหน้าที่ไม่ค่อยจะได้เห็นนัก หญิงสาว คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะมาแย่งผู้ชายของเธอ

โยษิตาเหลือบมองอารียา จู่ๆ เธอก็เอามือปิดปาก แล้วหัวเราะออกมา

“เธอหัวเราะอะไร” รพีพงษ์ถามขึ้น

โยษิตาปรายตามองอารียาแล้วพูดขึ้นมาว่า “ดูเหมือนว่าฉันจะทำให้กรรยาของนาย งแล้วล่ะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ