แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่497 ฉันไม่ได้ง่ายอย่างที่แกคิด



บทที่497 ฉันไม่ได้ง่ายอย่างที่แกคิด

บทที่497 ฉันไม่ได้ง่ายอย่างที่แกคิด

“แกเองเหรอรพีพงษ์ เดิมทีฉันคิดว่าแกจะไม่เหมือนใครเสีย อีก ตอนนี้ดูแล้ว ก็คนธรรมดานี่นา ไม่สิ แกก็ไม่เหมือนใคร จริงๆแหละ นั่งรถแท๊กซี่มางานแบบนี้ คิดว่าคงมีแต่แกที่กล้า ทํา”จิรเวชพูดแล้วหัวเราะ

“ดนตระกูลนิธิวรสกุลก็เท่านี้แหละ เดิมทีฉันคิดว่าพวกปาก ว่างจะมีแต่พวกว่างงานชอบหาเรื่องชาวบ้าน ที่แท้คุณชาย บ้านนิธิวรสกุลก็ชอบแบบนี้ด้วย รพีพงษ์ตอบกลับ

จิรเวชหรี่ตาลงทันที มองไปทางรพีพงษ์อย่างไม่สบอารมณ์

“รพีพงษ์ แกหยุดเสแสร้งสักที คุณชายจิรเวชไม่ใช่คนที่แก จะมาวิจารณ์ได้นะ อีกไม่นานแกก็คงไม่ต่างอะไรจากหมาไร้ บ้าน ฉันว่าแกห่วงตัวเองก่อนเถอะ! “นิรมัทพูดพลางจ้องรพี พงษ์

“หึ คนอย่างแก ไม่มีวันเทียบคุณชายจิรเวชได้หรอก ตอน เด็กฉันเคยเห็นแกเป็นไอดอล ตอนนี้มาคิดดู ทุเรศว่ะ”ญาดา ช่วยจิรเวชพูดเสริม

รพีพงษ์ได้แต่ยิ้ม หันไปหาโยษิตา พูดว่า”แกล่ะ จะแดกดัน อะไรสักสองสามคำหน่อยมั้ย
โยษิตาจ้องไปที่รพีพงษ์ด้วยสายตาอาฆาตมาดร้าย หลังจาก ที่ได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ยิ่งกัดฟันพูดกรอดๆว่า”เหน็บแนม แกไม่สามารถบรรเทาความเกลียดชังของฉันได้หรอกฉัน อยากให้แกตาย!

รพีพงษ์ยักไหล่ แสดงออกว่าไม่ใส่ใจ ทำราวกับว่าคำพูดของ โยษิตาขู่เขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

“เห็นแกเป็นแบบนี้ น่าจะตกกระป๋องสุดๆแล้วสินะ วางใจได้ ฉันไม่ให้แกผิดหวังหรอก เรื่องบูรณะเมืองเก่าน่ะ ฉันจะต้อง คว้ามาให้ได้ ถึงเวลา แกกับตระกูลลัดดาวัลย์ ก็จะอันตรธาน ไปจากเกียวโตเลย”จิรเวชพูดพลางยิ้มให้รพีพงษ์

รพีพงษ์เองก็ยิ้มให้เขา”หวังว่าแกจะสมปรารถนาหรอกนะ ฉัน ก็จะมอบคำๆเดียวกันให้กับแกนี่แหละ ฉันรพีพงษ์ไม่ได้ง่าย อย่างที่แกคิด ในเมื่อแกทำได้ขนาดนี้ งั้นก็ระวังหน่อยแล้วกัน อีกไม่นานแกกับตระกูลนิธิวรสกุล ก็จะหายไปจากโลกใบนี้ เช่นกัน”

จิรเวชหัวเราะขำขัน สำหรับเขาแล้ว รพีพงษ์กล้าที่จะท้าทาย ตระกูลนิธิวรสกุลแบบนี้ช่างเป็นเรื่องที่น่าขบขันเสียจริง แค่ เขาคนเดียวก็ทำให้บ้านลัดดาวัลย์เป็นแบบนี้แล้ว ถ้าบ้านนิธิ วรสกุลจะลงมือกับลัดดาวัลย์แล้วละก็ เกรงว่ารพีพงษ์คงไม่มี โอกาสมายืนพูดปาวๆแบบนี้หรอก

รพีพงษ์รู้ว่าจิรเวชกำลังคิดอะไร เพียงแค่จิรเวชไม่รู้ว่า บ้าน ลัดดาวัลย์ตอนนี้ ไม่ได้มีแค่กำลังเพียงเท่านี้ สิ่งที่หนุนหลัง พวกเขาอยู่ คือเทือกเขากิสนา ซึ่งเป็นกองกำลังที่จะทำลายล้างโลกได้เป็นอันดับหนึ่ง!

เขาไม่ได้เสียเวลาอยู่ต่อปากต่อคำกับพวกจิรเวช เขาเดิน ผ่านคนทั้งสี่ เข้าไปด้านใน

ญาดายืนขวางรพีพงษ์ด้านหน้า มองเขาด้วยสายตาดูแคลน อย่างเต็มที่ รพีพงษ์ไม่สนใจ เธอ เขาเดินชนไหล่เธอ จนเธอ เกือบล้ม

หลังจากที่ทรงตัวได้แล้วญาดาจึงจ้องเขม็งไปที่เงาร่างของ รพีพงษ์ กัดฟันกรอด แกมันไอ้ฉิบหาย จะต้องมีวันที่แกได้ เสียใจเข้าสักวัน! ”

ในห้องโถงใหญ่ ชั้นที่จัดเรียบร้อยแล้วมีของกินวางอยู่เต็ม คนจํานวนไม่น้อยยืนอยู่ข้างชั้นวาง กินพลางคุยพลาง

ตอนที่รพีพงษ์ออกจากบ้านมาเขายังไม่ได้กินข้าว ดังนั้นตอน ที่เข้าไปเขาจึงเดินไปที่ชั้น

วาง ยื่นมือไปตักอาหาร แล้วกินคำโต

ญาดาเห็นท่าทีการกินของรพีพงษ์ สีหน้าเต็มไปด้วยความ รังเกียจ พูดขึ้นว่า “ช่างไม่กลัว ขายหน้าเลยนะ หรือว่าตกอับ จนไม่มีข้าวกิน ถึงได้มาสวาปามเอาที่นี่ ฉันว่าคนแบบนี้ต้องไล่ ออกไปนะ”

นิรมัทยืนหัวเราะเย็นชาอยู่ข้างๆ พูดขึ้น“ให้มันได้กินดีๆอีกสักมื้อเถอะ ผ่านวันนี้ไปแล้ว มันคงจะไม่มีอะไรกินอีกแล้วล่ะ”

“อย่าไปใส่ใจแค่ขอทานคนเดียวเลย เอาของขวัญที่ซื้อมา ไปส่งเถอะ รพีพงษ์มาร่วมงานเลี้ยงก็ไม่รู้จักเอาของขวัญมา ด้วย ไม่มีอีคิวเอาซะเลย ถ้าผู้รับผิดชอบโครงการเมืองเก่ารู้ว่า มันนั่งแท็กซี่มา แล้วยังมามือเปล่าอีก เกรงว่าคงจะไม่มองมัน ด้วย “จิรเวชพูดดูแคลน

พอนิรมัทฟังคําพูดของจิรเวช จึงรีบนําของขวัญไปวางที่โต๊ะ ของขวัญ ซึ่งตอนนี้มีของขวัญกองเต็มไปหมด มีของขวัญ ต่างๆนานานับไม่ถ้วน

ผู้รับผิดชอบของขวัญได้รับข่าวสารเรียบร้อย รอจนงาน เลี้ยงจบลง ของขวัญทั้งหมดตรงนี้ ต้องส่งไปที่บ้านลัดดาวัลย์ แม้ว่าจะดูแปลกๆ แต่คนๆนั้นก็ไม่กล้าพูดอะไร เรื่องของพวก ผู้ใหญ่ไม่ต้องถามอะไรมากมายดีที่สุด

นี่เป็นความประสงค์ของไกรเดช เขาไม่สนใจของขวัญพวก นี้แม้แต่น้อย ยกของพวกนี้ให้รพีพงษ์หมด และก็จะได้สร้าง ความประทับใจให้รพีพงษ์ด้วย

ในตอนที่รพีพงษ์กำลังกินอาหาร มีคนๆหนึ่งเดินไปหยุดข้าง เขา รพีพงษ์เงยหน้ามองปรากฏว่าเป็นธีรศานติ์

“จะเอาด้วยสักหน่อยไหม”รพีพงษ์ยื่นพิซซ่าในมือตนเองให้ธีรศานติ์
ธีรศานติ์ยิ้มส่ายหน้า พูดขึ้น”หมอที่นายเชิญมาฝีมือไม่เบา จริงๆ ถึงขั้นที่ร่างทรงได้เลยนะ หมอชั้นนำหลายคนต่างก็ไม่ สามารถรักษาลูกสาวฉันได้ คิดไม่ถึงว่าเขาดูไม่กี่ที ก็ทำนาย ได้ว่าลูกสาวฉันจะฟื้น นี่เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุดของฉันเลย”

“ถ้าเขาบอกว่า ยังฟื้นได้ งั้นก็มีโอกาสสูง คุณพ่อไม่ต้องเป็น ห่วงหรอกครับ วางใจในฝีมือได้ ณีจะต้องหายดีแน่ๆ”รพีพงษ์ พูด

ธีรศานติ์พยักหน้า คิ้วที่ขมวดก่อนหน้าค่อยคลายออก

ผ่านไปไม่นานนัก ผู้ที่มาร่วมงานในวันนี้ต่างมากันเกือบจะ ครบแล้ว พวกบริกรต่างวางอาหารลง และยืนนิ่งอยู่ข้างๆ รอ คอยคําสั่งเจ้านาย

ในเวลานี้เอง เงาหนึ่งทอดลงมาจากบันไดชั้นสอง ห้องโถงทั้ง ห้องจึงนิ่งเงียบลง

คนที่มาคือไกรเดช เขาเป็นตัวนำในงานเลี้ยงวันนี้ ทุกคน ต่างรู้ว่าผู้รับผิดชอบโครงการบูรณะเมืองเก่าอยู่ในสถานภาพ อะไร จึงไม่มีใครกล้าพูดอะไรทั้งสิ้น

เมื่อจิรเวชเห็นการปรากฏตัวของไกรเดช จึงยิ้มออกมา พูด พึมพำ“ในที่สุดก็มาแล้ว ก็ถึงเวลาแล้วล่ะที่จะได้รู้ว่าใครคือผู้ ร่วมมือในโครงการบูรณะเมืองเก่า ไม่ผิดไปจากที่คิดหรอก โครงการนี้ต้องเป็นของพวกเรา”
โยษิตากับพรรคพวกสองสามคนพยักหน้า จากนั้นก็จ้องเขม็ง ไปทรพีพงษ์

หลังจากที่ไกรเดชลงมาจากชั้นสอง ก็กวาดตามองไปรอบๆ งาน พอเห็นรพีพงษ์ ก็ยิ้มให้ เล็กน้อย จากนั้นจึงไปยืนต่อหน้า ทุกคน

“ทุกท่านครับ! “ไกรเดชกล่าวเสียงก้อง”คิดว่าทุกท่านคงจะ ทราบดี งานเลี้ยงในวันนี้ เพื่อที่จะหาผู้ร่วมมือโครงการบูรณะ เมืองเก่า เนื่องจากโครงการครั้งนี้สำคัญมาก พวกเราต้องการ ผู้ร่วมมือที่มีศักยภาพ เพื่อให้บรรลุภารกิจ”

“และคนที่จะมาร่วมกับพวกเรา ก็อยู่ท่ามกลางพวกท่านนี่ แหละครับ!

เพิ่งสิ้นเสียงของไกรเดข จิรเวชจึงก้าวขึ้นหน้าก้าวหนึ่ง พูด ด้วยน้ำเสียงมั่นใจเต็มเปี่ยม“ผมกรุ๊ปKIN ขอเสนอตนเอง ว่าถ้า มาร่วมมือกับผม พวกเราจะร่วมกันบรรลุภารกิจกันอย่างเต็ม ความสามารถครับ!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ