แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่500 ไม่ทันระวังออกแรงมากไปหน่อย



บทที่500 ไม่ทันระวังออกแรงมากไปหน่อย

บทที่500 ไม่ทันระวังออกแรงมากไปหน่อย

“เป็นไปไม่ได้! “จิรเวชที่กําลังลําพองใจพอได้ยินผล

ประกาศเรื่องรพีพงษ์ สีหน้าจึงเปลี่ยนทันที เขาตะโกนออกมา

อย่างความคุมตัวเองไม่อยู่ โยษิตา นิรมัทและญาดาทั้งสามคนผู้ที่ยืนอยู่ข้างเขาเบิ่งตา

โพลงโตขึ้นมา สีหน้าแสดงความไม่อยากจะเชื่อ

“รพีพงษ์ไม่มีทางที่จะมีสามแสนล้าน จะต้องมีอะไรผิดพลาด แน่ๆ! “นิรมัทหันไปมองไกรเดช มองเขาด้วยสายตาแสดง ความสงสัย

“อย่างนั้นเหรอ ความหมายของคุณคือ สมุห์บัญชีของผมไม่ น่าเชื่อถือสินะ”ไกรเดชทำหน้านิ่ง พูดใส่นิรมัท

ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการบูรณะเมืองเก่า ไกรเดชก็ต้อง วางท่าเอาไว้บ้าง เขาก็แค่ทําตัวสบายๆเวลาอยู่ต่อหน้ารพีพงษ์ นิดหน่อย พอเขาพูดแบบนี้ออกไป นิรมัทก็ตกใจจนตัวสั่น

“เปล่า…..เปล่าครับ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”นิรมัท พูดกระอ้อมกระแอ้ม

คนในงานต่างก็คิดแบบนิรมัท แต่หลังจากที่เห็นท่าทีของไกรเดชแล้ว ก็ไม่มีใครกล้าเปิดปากพูดอะไรอีก

“ผู้ถือหุ้นสามคนของโครงการบูรณะเมืองเก่าในครั้งนี้ได้บท สรุปแล้ว มีท่านไหนที่อยากจะแสดงความเห็นอีกบ้างครับ”ไกร เดชกวาดตามองไปรอบๆแล้วถามขึ้น

จิรเวชได้แต่กําหมัดทั้งสองแน่น เบากัดฟันกรอดๆมองไปทาง รพีพงษ์ ส่วนรพีพงษ์ก็ยิ้ม ให้เขาอย่างหยอกล้อ ทำให้เขายิ่ง เดือดดาลมากขึ้น

“ผมกรุ๊ปKIN ไม่สมัครใจที่จะเป็นตัวเสริมให้ตระกูลลัดดา วัลย์! “จิรเวชตะโกนออกไป

ไกรเดชมองไปทางเขา พูดขึ้นว่า “ได้ครับ เพียงแค่คุณลงเงิน สามแสนล้านขึ้นไป ผู้ถือหุ้นใหญ่ ก็จะเป็นกรุ๊ปKIN”

จิรเวชสามารถควักเงินสองแสนล้านออกมา ก็เป็นขีดจำกัด ของเขาแล้ว มากกว่าสามแสนล้านเป็นไปไม่ได้ นอกเสียจาก ว่าเขาจะยื่นขออนุมัติจากตระกูลอีกครั้ง แต่ถ้าแบบนั้น คนใน ตระกูลก็จะสงสัยในความสามารถของเขา กับแค่รับมือกับ ตระกูลเล็กๆอย่างลัดดาวัลย์ ต้องใช้เงินทุนมากขนาดนั้นเชียว หรือ แบบนี้จะมีผลกระทบต่อตำแหน่งเขาในวงตระกูล

แต่ถ้าควักเงินมากกว่าสามแสนล้านไม่ได้ ตระกูลลัดดาวัลย์ ก็จะกลายเป็นหุ้นใหญ่อย่างแน่นอน กรุ๊ปKINได้แต่เป็นลูกมือ การร่วมมือแบบนี้ไม่มีความหมายอะไร
สับสนอยู่นาน จิรเวชได้แต่ด่าทออยู่ในใจ จากนั้นพูดกับไกร เดชว่า “งั้นกรุ๊ปKINขอถอนตัวจากโครงการนี้ครับ โอกาสนี้ ผมสละสิทธิ์ให้ท่านอื่น”

ไกรเดชหรี่ตาลง พูดเสียงเย็นชา ถอนตัวงั้นเหรอ งั้นจะเสนอ ราคามาทำไม คุณคิดว่าทุกสิ่งอย่างในวันนี้ เป็นการเล่นเกมส์ เด็กหรือไง กรุ๊ปKINจะถอนตัวได้ แต่ผมไม่รับประกันว่า พวก คุณจะมีที่ยืนในเกียวโตต่อไปในวันข้างหน้าหรือเปล่านะ!”

ทุกคนในงานต่างตกตะลึงกับคำพูดของไกรเดช ในฐานะผู้รับ ผิดชอบโครงการ คำพูดนี้มีน้ำหนักอยู่

แววตาจิรเวชหดลงทันที คิดไม่ถึงว่าไกรเดชจะขู่ด้วยคำ พูดแบบนี้ แต่มาคิดดูเขาก็พอเข้าใจอยู่ เดิมทีพวกเขารอ ให้รพีพงษ์ยั่วโมโหไกรเดช ทําให้บ้านลัดดาวัลย์เดือดร้อน ตอนนี้จิรเดชเล่นไม่ไหว อยากถอนตัว ไกรเดชก็จะทำให้ กรุ๊ปKINพินาศเหมือนกัน

เขารู้ดีว่า ตอนนี้เจอความยากลำบากสองเรื่อง ถ้าหากร่วมมือ ต่อไป เรื่องที่จะกำจัดตระ กูลลัดดาวัลย์ก็จะไม่มีความหมาย อะไรแล้ว แต่ถ้าถอนตัวออก ตั้งตัวเป็นศัตรูกับไกรเดช จิร เดชเองอาจจะไม่เป็นอะไร แต่ว่ากรุ๊ปKINไม่ได้จบสวยแน่ ถึง เวลานั้นเงินที่เขาลงไปในกรุ๊ปKINทั้งหมด ก็เท่ากับตำน้ำพริก ละลายแม่น้ำ

เมื่อเทียบกันแล้ว การเป็นผู้ถือหุ้นต่อ แม้ว่าจะซ้ำเติมบ้านลัด ดาวัลย์ต่อไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ยังมีผลกำไรที่ดี
เมื่อลองเปรียบเทียบดู จิรเดชได้แต่ยิ้มขออภัยกับไกรเดช แล้วพูดขึ้น ขออภัยครับ เมื่อกี้ผมวู่วามไปหน่อย กรุ๊ปKINจะ เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นแน่นอนครับ และจะพยายามอย่างเต็ม กาลังสําหรับโครงการนี้

ไกรเดชได้ฟัง จึงพยักหน้ายิ้มให้อย่างพึงพอใจ แล้วหันไปยิ้ม ให้กับฝูงชน พูดอย่างสดใสว่า “ในเมื่อเป็นแบบนี้ การร่วมมือ ในครั้งนี้ก็ลงมติแล้วนะครับ ถัดไปจะมีรายการแสดงและเชฟ ก็ได้เตรียมอาหารรสเลิศไว้ให้เราพร้อมสรรพแล้วครับ หวังว่า ทุกท่านคงจะถูกใจนะครับ!”

งานเลี้ยงได้เริ่มขึ้น คนที่มาแสดงที่นี่จริงๆแล้วมีไม่กี่คน คน ส่วนมากเริ่มกล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ผลสรุปในค่ำคืนนี้อยู่เหนือ ความคาดหมายของพวกเขาจริงๆ พวกเขาล้วนคิดว่า เป็นไป ไม่ได้ที่รพีพงษ์จะมาเป็นผู้ถือหุ้น แต่รพีพงษ์ดันตะโกนขึ้นมา ว่าสามแสนล้าน

ทำให้ผู้คนตะลึงไปทั้งงาน

ที่สําคัญที่สุดคือ สมุห์บัญชีที่ไกรเดชเชิญมายังยืนยันอีก ด้วยว่ารพีพงษ์มีทรัพย์สินจํานวนนั้นจริง ทําให้คนที่สงสัยใน ตัวรพีพงษ์หุบปากลงในบัดดล

รพีพงษ์กับธีรศานติ์ต่างเดินไปหาจิรเวช ในมือของทั้งคู่ถือ จอกเหล้า ใบหน้ามีรอยยิ้มด้วยกันทั้งคู่

ตอนนี้จิรเวชโกธรจนหน้าเขียว พอเห็นรพีพงษ์กับธีรศานติ์เดินมาหา สีหน้ายิ่งดูไม่ได้

“ต่อไปพวกเรานับว่าอยู่ในสมรภูมิเดียวกันแล้วนะ ก็ยังคงหวัง ว่าจิรเวชจะคอยช่วยเหลือตระกูลลัดดาวัลย์พยายามร่วมกัน สร้างโครงการบูรณะเมืองเก่านี้ให้เสร็จ รพีพงษ์พูดพลางยิ้ม ให้จิรเวช

จิรเวชถลึงตาจ้องรพีพงษ์พร้อมพูดเสียงเย็นชา”แม้จะไม่รู้ว่า แกได้เงินมากมาย มาจากไหน แต่แกอย่าคิดนะว่าเรื่องจะจบ ง่ายๆ ตระกูลลัดดาวัลย์ของพวกแกจะต้องพินาศลงในมือของ กรุ๊ปKINของเรา!

รพีพงษ์เองก็หรี่ตา รัศมีในตัวเริ่มเปลี่ยน พูดกับจิรเวช ว่า แค้นของเมียฉันยังไม่ได้นําระ เรื่องนี้ก็ไม่จบง่ายๆแน่นอน พวกแกเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ จะไม่มีใครหนีรอดสักคน! ”

พูดจบ เขาก็ส่งสายตาไปทางโยษิตา

โยษิตาตัวสั่นงันงก เดิมทีเธอคิดว่าในงานเลี้ยงนี้ กรุ๊ปKINจะ เป็นผู้ถือหุ้นที่ใหญ่ที่สุด ส่วนตระกูลลัดดาวัลย์จะพังพินาศ แบบนี้เธอจะได้ยืมมือจิรเวช ทำให้รพีพงษ์แม้ตายก็ไม่มีที่ฝัง

แต่เรื่องวันนี้อยู่เหนือความคาดหมาย ตระกูลลัดดาวัลย์ไม่ เพียงแต่จะไม่พินาศ แต่ยังได้มาแทนที่กรุ๊ปKIN อีกด้วย กลาย มาเป็นผู้ถือหุ้นที่ใหญ่ที่สุด ส่วนกรุ๊ปKINได้เป็นเพียงตัวสํารอง

แบบนี้ การที่กรุ๊บKINต้องการกำจัดตระกูลลัดดาวัลย์ ก็ กลายเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แล้วสิ กลับกลายเป็นว่าตระกูล ลัดดาวัลย์สามารถใช้โอกาสนี้ในการเกทับกรุ๊ปKIN

โยษิตาไม่เข้าใจว่าทำไมเหตุการณ์ถึงกลับตาลปัตรมาเป็น แบบนี้ เมื่อครู่นี้รพีพงษ์เห็น แววตาของเธอ ทำให้เธอรู้สึกได้ ถึงทูตมรณะได้อย่างแท้จริง

โยษิตาผู้ที่รักตัวกลัวตายสัมผัสได้ถึงความรู้สึกแบบนั้นจาก รพีพงษ์ เดิมทีเธอคิดอยากจะหนีออกจากเมืองนี้อยู่แล้ว เธอมี ลางสังหรณ์ ถ้าเธออยู่ที่นี่ต่อไป เธอจะต้องตายด้วยน้ำ มือรพี พงษ์

ตอนนี้สีหน้าญาดาทั้งเสียใจและสับสน เธอคิดไม่ถึงว่า ตระกูลลัดดาวัลย์นอกจากจะไม่ได้พินาศเพราะรพีพงษ์ หาก แต่ยังกลายเป็นหุ้นใหญ่ที่สุดของโครงการบูรณะเมืองเก่าอีก ด้วยอานุภาพในอนาคตจะมหาศาลแค่ไหนไม่ต้องบอก

คนที่เดินไปตามทิศทางลมอย่างเธอ ในใจกำลังคิดจะกลับไป เอาใจรพีพงษ์

เพียงแต่ในใจเธอรู้ชัด ไม่ว่าเธอจะอธิบายยังไง รพีพงษ์ก็คง ไม่ให้เธอกลับบ้านลัดดาวัลย์แน่นอน ทรยศครั้งเดียวก็เพียง พอแล้ว
นิรมัทคิดไม่ออกจริงๆว่ารพีพงษ์เอาสามแสนล้านมาจากไหน เรื่องของวันนี้ ไม่เป็นดังที่เขาคิดเลย ในใจของเขา รพีพงษ์มี แต่จะนำความพินาศมาสู่บ้านลัดดาวัลย์ มีเพียงเขาเท่านั้นที่จะ เป็นความหวังของบ้านลัดดาวัลย์

เสียดายที่ตอนนี้รพีพงษ์เหมือนตบหน้าเขาอย่างจัง ต่อให้เขา ไปพึ่งพิงกรุ๊ปKINก็เถอะ เขาก็ไม่มีกำลังที่จะไปต่อกรกับรพี พงษ์อยู่ดี

ความโกธรแค้นชิงชังของมนุษย์ ล้วนมาจากการไร้ความ สามารถของตัวเองทั้งสิ้น ตอนนี้ในใจของนิรมัทมีแต่ความ ชิงชังอย่างบอกไม่ถูก

เขาอยากเห็นรพีพงษ์วอดวาย เพื่อยืนยันว่าตวเองนั้นเก่งกล้า แต่รพีพงษ์ก็เหนือกว่าที่เขาคิดตลอดมา ในใจเขาเริ่มยอมรับ การมีตัวตนของรพีพงษ์ไม่ได้แล้ว

สองตาแดงก่ำของเขาจ้องไปทางรพีพงษ์ กัดฟันกรอดพูดขึ้น ว่า “รพีพงษ์ แกเอาสามแสนล้านมาจากไหน แกไม่มีทางมีเงิน เยอะขนาดนั้นแน่ ฉันสงสัยว่าแกกำลังหลอกพวกเราทุกคน ฉัน จะจับแกให้ได้ ทำความลับทั้งหมดของแกให้กระจ่าง แกสู้ฉัน ไม่ได้เลยสักนิด ที่อยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ แกก็แค่โชคดีเท่านั้น ฉันจะต้องพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น!

พูดจบ นิรมัทจึงยื่นมือออกไปทางรพีพงษ์

รพีพงษ์จ้องมองเขาทีหนึ่ง จากนั้นตบฉาดใหญ่ลงบนใบหน้าของนิรมท นิรมทคอเกือบหันไป ร่างหันไปเกือบสาม ร้อยหกสิบองศา ล้มกระแทกพื้นอย่างแรก เป็นลมพับไป

รพีพงษ์สะบัดข้อมือ ยิ้มให้จิรเวช พูดว่า “โทษทีนะ พอดีเห็น เขาดูคัน ก็เลยอยากช่วยสักที ไม่ทันระวังออกแรงมากไป หน่อย แต่ยังดีที่คุมอาการเขาไว้ได้ ปกติเวลาฉันรักษาคน มัก จะฟรีเสมอ พวกแกไม่ต้องให้ค่ารักษาฉันหรอกนะ”

พูดจบ รพีพงษ์จึงหันตัวกลับออกจากที่นี่ ทิ้งให้พวกจิรเวชชิ่ง i พูดอะไรไม่ออกเป็นนานสองนาน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ