แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่ 450 พ่อลูกพบกัน



บทที่ 450 พ่อลูกพบกัน

บทที่ 450 พ่อลูกพบกัน

เทือกเขากิสนา เกาะทะเลสาบเทียม

รพีพงษ์มาที่นี่ด้วยเรือยอร์ชกับชายวัยกลาง โดยที่ระหว่าง ทางมาที คนชายวัยกลางคนก็ไม่ได้พูดอะไร ในใจของรพี พงษ์เต็มไปด้วยความวิตกกังวล เขารู้ดีว่าเรื่องที่บาร์และเรื่อง ปีนเขา ได้แจ้งให้นนทภูรู้แล้วว่าเขาอยู่ที่นี่

เป็นเพราะมีคนมาและพาเขาไปที่เกาะทะเลสาบเทียมซึ่ง รพี พงษ์มั่นใจว่า ฝนสุดาอาจไม่ได้โกหกเขา จริงๆแล้ว เทพสังหาร เป็นเพียงนามแฝงของ นนทภูและตัวตนที่แท้จริงของเขา คือ พ่อของรพีพงษ์

ไม่อย่างนั้น ไม่มีทางที่เจ้าของกิสนาจะพารพีพงษ์ไปยังพื้นที่ หลักของกิสนา ชายวัยกลางคนพารพีพงษ์ไปที่วิลล่าอันงดงาม บนเกาะทะเลสาบเทียม รพีพงษ์สังเกตเห็นว่าผู้คนมากมาย รอบๆวิลล่ากำลังเฝ้าดูสภาพแวดล้อมโดยรอบ ชายวัยกลาง คนพา รพีพงษ์มาและคนเหล่านั้นก็มองมาที่ รพีพงษ์หลายครั้ง

รพีพงษ์รู้สึกว่าผู้คนรอบๆวิลล่านี้มีพลังที่แข็งแกร่งมาก ความ รู้สึกที่คนเหล่านี้มอบให้เขานั้นเหมือนกับความรู้สึกที่ดัมพ์รงค์ มอบให้เขา ทำให้เขาได้สัมผัสถึงกลิ่นอันตรายจางๆ
ถ้าคน ๆ เดียวทำให้รพีพงษ์รู้สึกอันตรายเล็กน้อย แล้วถ้ามี คนจำนวนมากมารวมกัน สำหรับรพีพงษ์มันอันตรายมากเลยที เดียว

เขารู้ดีถ้าเขากล้าที่จะเปลี่ยนแปลงที่อะไรของนี่ละก็ แน่นอน ว่าต้องรีบแก้ปัญหาบอดี้การ์ดที่อยู่รอบๆวิลล่านี้ทันที

ชายวัยกลางคนพา รพีพงษ์ไปที่ชั้นสองของวิลล่า การ ตกแต่งที่นี่เรียบง่ายและดูเก่าแก่มากตามกาลเวลา บันไดทำ ด้วยไม้และผนังด้านหนึ่งเต็มไปด้วยหนังสือ

“เมื่อเข้าไปทีหลัง อย่ามีคิดที่จะต่อต้านเจ้านายพวกเรา ไม่ อย่างนั้น ผมคิดว่าคุณคงไม่อยากพบกับจุดจบแบบนั้น” จนถึง เวลานี้ ชายวัยกลางคนเพิ่งจะคุยกับ รพีพงษ์

รพีพงษ์พยักหน้า เขามาที่นี่เพื่อตามหา นนทภูดังนั้นจะไปต่อ ต้านเขาได้อย่างไร

ไม่นาน คนสองคนก็มาถึงหน้าห้อง ชายวัยกลางคนก็หยุด และพูดกับรพีพงษ์ว่า: “เข้าไปสิ”

รพีพงษ์พยักหน้าหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นก็ผลักประตูห้องนั้น แล้วเดินเข้าไปข้างในอย่างเคร่งขรึม

นี่คือห้องทำงานที่มีชั้นหนังสืออยู่รอบ ๆ ห้อง มีหนังสือทุก ประเภทอยู่ด้านบน และทางด้านตะวันออกของห้องมีโต๊ะที่ เรียบง่ายและหรูหรา พร้อมเอกสารทุกชนิดบนโต๊ะ ดูเหมือนว่าจะใช้ในเป็นสำนักงาน แต่ตอนนี้ไม่มีใครนั่งอยู่

สายตาของรพีพงษ์มองไปด้านข้าง พบว่าข้างหน้าต่าง มีชาย คนหนึ่งสวมกางเกงขายาวสีดำ เสื้อเชิ้ตสีขาวและผมยุ่งเล็ก น้อยยืนอยู่

ชายคนนี้หันหน้าไปทางหน้าต่างและหันหลังให้ รพีพงษ์เพียง แวบเดียว จากแผ่นหลังของชายคนนี้รพีพงษ์ก็สามารถอ่าน ออกได้ว่าเขาผ่านโลกมาอย่างโชกโชน เช่นเดียวกับกลิ่น กระหายเลือดที่ไม่สามารถปกปิดได้

นี่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคนที่ชื่นชอบการสังหาร รพี พงษ์เคยติดต่อกับคนแบบนี้มาก่อน คนพวกนั้นส่วนใหญ่เป็น คนบ้า ทีฆ่าคนเพื่อทําให้พวกเขาตื่นเต้น ดังนั้นบนตัวของพวก เขาเหล่านี้จึงมีกลิ่นเลือดติดอยู่

ช่วงเวลาแรกที่เขารู้สึกถึงนิสัยใจคอของคน ๆ นี้ ในใจของ รพีพงษ์เกิดความรู้สึกที่ไม่คุยเคย เขาไม่เคยรู้สึกถึงความรู้สึก แบบนี้กับ นนทภูดังนั้นในจิตใต้สำนึกของเขาคิดว่าคน ๆ นี้ไม่ ใช่นนทภู

ทันทีที่เขากำลังจะพูด ชายที่ยืนอยู่ข้างหน้าต่างก็หันกลับมา และมองไปที่รพีพงษ์

รพีพงษ์ สังเกตเห็นว่ามีรอยแผลเป็นคล้ายตะขาบสองตัวบน ใบหน้าของชายคนนี้ มีที่หน้าผากและแก้มข้างหนึ่ง ดูดุร้าย และน่ากลัว ให้ความรู้สึกถึงการกดขี่ที่มองไม่เห็น
ในแววตาของเขานั้น ดูท่วมท้นไปด้วยความดุร้ายและ กระหายเลือด ราวกับว่าแค่มองตาเขา ก็จะทำให้ผู้คนบ้าคลั่ง ได้

โชคดีที่สมาธิของ รพีพงษ์ค่อนข้างแข็งแกร่ง ถ้าหากเปลี่ยน เป็นคนธรรมดา เพียงแค่แวบเดียวที่ได้พบ คงจะทำให้เกิด ความกลัวไม่รู้จบในจิตใจ และด้วยเหตุนี้จึงทำให้เขาตัวสั่นขึ้น มา

รพีพงษ์มองไปที่คนตรงหน้าอย่างระมัดระวัง เขาคนนี้แตก ต่างจากนนทภูในความทรงจําของเขามากๆ ในแวบแรก รพี พงษ์ต้องการจะบอกว่าคน ๆ นี้ไม่ใช่ นนทภูเขาท่าพลาดแล้ว

แต่เมื่อเขาสังเกตดีๆ เขาก็พบว่าลักษณะบางอย่างของคน ตรงหน้า ค่อยๆซ้อนทับกับนนทภูขึ้นมา

แม้ว่าเขาจะไม่ได้เห็น นนทภูมาหลายปี แต่ รพีพงษ์ยังคง มีความทรงจำที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับ นนทภูอยู่ในใจ แม้ว่าคนตรง หน้าเขาจะแตกต่างจาก นนทภูในความทรงจำของเขา รพี พงษ์ก็ยังคงมั่นใจ คนคนนี้คือพ่อของเขา คนที่เขาตามหามา นานหลายปี

นนทภูคาดการณ์ปฏิกิริยาของรพีพงษ์ไว้แล้ว รอยยิ้ม ปรากฏบนใบหน้าของเขา แต่เพราะรอยแผลเป็นสองจุดบน ใบหน้าของเขา เวลาที่เขายิ้มจึงทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัว

“ ลูกชายของฉันโตแล้วนะเนี่ย ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาเลย สุขุมมากกว่าตอนก่อนที่ฉันจะจากไปเยอะมาก ใช้ได้ ดูเหมือนจะ กลายเป็นลูกผู้ชายที่มีจิตใจเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ดีนะ” นนทภูพูด ด้วยน้ำเสียงแหบแห้งและทุ้มต่ำ

ในขณะที่รพีพงษ์ได้ยินเสียงนี้ อารมณ์ที่สะสมอยู่ในใจมา นานก็พุ่งสูงขึ้นทันที ดวงตาของเขาก็เริ่มร้อนขึ้นเล็กน้อย สำหรับรพีพงษ์ผู้ซึ่งใจเย็นและสุขุมมาโดยตลอด และสามารถ ควบคุมอารมณ์ได้อย่างเชี่ยวชาญ นี่เป็นเรื่องที่หายากมาก

“พ่อ…..” รพีพงษ์พูด น้ำเสียงของเขาสั่นเล็กน้อย

นนทภูเดินกอดอกมาหาเขา จากนั้นเขาก็กางแขนออก แล้ว ทั้งสองก็กอดกัน นนทภูตบไหล่รพีพงษ์แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม : “นี่สิ ที่คู่ควรที่จะเป็นลูกชายของฉันนนทภูคนนี้ พ่อรู้ว่าลูก สามารถหาเบาะแสที่พ่อทิ้งไว้และสามารถหาที่นี่เจอ ไม่เสีย แรงที่พ่อรอลูกมานานหลายปี

รพีพงษ์อดกลั้นความตื่นเต้นและอยากจะร้องไห้ของเขาไว้ แม้ว่าเขาจะรู้ว่านี่เป็นการแสดงออกทางอารมณ์ปกติ แต่เขาก็ เก่งอยู่แล้วที่ไม่เผลอแสดงอารมณ์ออกมา แม้ว่าจะตื่นเต้นแค่ ไหนเขาก็จะไม่ปล่อยให้ตัวเองแสดงออกที่ชัดเจนเกินไป

บนหอระฆังที่ห่างออกไป ชายคนหนึ่งถือกล้องโทรทรรศน์ เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยบนเกาะทะเลสาบเทียมผ่าน หน้าต่าง เห็น นนทภูที่กำลังยิ้มให้ รพีพงษ์อยู่ด้านใน ร่างกาย ของเขาก็สั่นสะท้าน
“เจ้า……เจ้านายยิ้มแล้ว นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีเลยนะ เนี่ย..………..

รพีพงษ์จ้องไปที่นนทภูและถามว่า: “พ่อครับ พ่อผ่านเรื่องราว อะไรมาบ้างในตลอดหลายปี? ทำไมผมได้ยินมาจากคนอื่น ว่าพ่อกลายเป็นคนฆ่ากระหายเลือด พ่อเป็นหนึ่งในสองคนใน เทือกเขากิสนาที่ปีนบันไดเหินนภาได้สำเร็จ หลังจากที่พ่อเข้า มาที่นี่ พ่อก็เปลี่ยนชื่อเป็น เทพสังหารใช้รึเปล่า? ท่าไมพ่อถึง กลายเป็นเจ้าของเทือกเขากิสนา? จุดประสงค์ของพ่อในการ เข้ามาที่นี่คืออะไร?”

รพีพงษ์มีข้อสงสัยในใจมากเกินไป เขาต้องการคำตอบจาก นนทภูเขานึกไม่ถึงว่าหัวหน้าตระกูลลัดดาวัลย์ จะกลายมา เป็น เทพสังหารที่ฆ่าคนโดยไม่กระพริบตาได้จะมีขั้นตอนได้ อย่างไร และ นนทภูอาศัยอะไร ถึงกลายเป็นเจ้าของเทือกเขา กิสนาได้

เมื่อนนทภูได้ยินคําถามของรพีพงษ์เขาก็ไม่แปลกใจอะไร เขารู้ว่ารพีพงษ์จะต้องถามคำถามเหล่านี้แน่นอน และดูเหมือน ว่าเขาจะเตรียมคําตอบสําหรับรพีพงษ์ไว้แล้ว

“นั่งลงก่อนสิ เรื่องนี้ไม่ใช่ใช้เวลาแค่ชั่วครู่แล้วจะอธิบายได้ อย่างชัดเจน พ่อจะค่อยๆเล่าให้ลูกฟัง”

“และลูกต้องเชื่อ แม้ว่าพ่อจะกลายเป็นเทพสังหารที่ฆ่าคน โดยไม่กระพริบตาและเป็นเจ้าของเทือกเขากิสนา พ่อยังคง เป็นพ่อของลูกในตอนนั้นเหมือนเดิม ที่พ่อกลายเป็นแบบนี้ เพียงเพราะไม่มีทางเลือก หวังว่าลูกจะเข้าใจ”
รพีพงษ์พยักหน้าและนั่งบนโซฟาตรงนั้นกับนนทภู

“ในตอนนี้ของพ่อจริงๆคือ เทพสังหาร หลังจากที่พ่อเข้ามาที่ เทือกกิสนาในปีนั้น พ่อก็ฆ่าทุกคนในห้องเดียวกับพ่อจนหมด เทพสังหาร เป็นชื่อเล่นที่คนเหล่านั้นตั้งให้พ่อ มันหมายความ ว่าพ่อฆ่าทุกคนจนหมด ต่อมาพ่อก็ค่อยๆยอมรับชื่อเล่นนี้และ ใช้เป็นชื่อของพ่อเอง”

เทพสังหารกล่าวกับรพีพงษ์การแสดงออกบนใบหน้าของเขา หดหู่เล็กน้อย ราวกับหวนนึกถึงเวลาที่ผ่านมามันทำให้เกิด ความรู้สึกบางอย่างในใจของเขา

รพีพงษ์มองไปที่ นนทภูด้วยสีหน้าเคร่งขรึมและถามว่า ทำไมพ่อถึงต้องทำแบบนี้? พ่อเข้ามาในเทือกเขากิสนาเพื่อที่ จะฆ่าคนเหรอครับ?”

“เดิมทีไม่ใช่ เพียงแต่คนพวกนั้นสมควรตายจริงๆ หลังจาก ที่พ่อเข้ามาในเทือกเขากิสนา พ่อไม่สามารถควบคุมความ อาฆาตแค้นในใจได้ เลยเลือกที่จะฆ่าเพื่อระบายอารมณ์ พ่อ ไม่รู้ว่าตอนนั้นที่พ่อเข้าสู่สภาวะแบบไหน แรงกระตุ้นที่ก้นบึ้ง ของหัวใจผลักให้พ่อทำเรื่องแบบนั้น ความคิดของพ่อในตอน นั้น ทุกคนในเทือกเขากิสนาสมควรตาย” นนทภูกล่าวอย่าง เรียบเฉย

“ความอาฆาตแค้นในหัวใจ?” รพีพงษ์จับประเด็นสำคัญ

“ใช่” นนทภูพยักหน้า “เจ้าของเทือกเขากิสนาคนก่อนคือคนที่ฆ่าปู่ของลูก”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ