แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่ 388 ในนามของการจา



บทที่ 388 ในนามของการจา

บทที่ 388 ในนามของการจา

เช้าวันรุ่งขึ้น รพีพงษ์มาที่มหาวิทยาลัยบาสแตร์อีกครั้ง

เมื่อคืนที่ผ่านมาอธิชนม์ได้จัดสถานที่พักให้กับรพีพงษ์ แต่ภารจากลับไปที่หอพักของมหาวิทยาลัย

เมื่อรพีพงษ์เห็นภารจา รู้สึกว่าเธอกระปรี้กระเปร่ามากกว่า เมื่อวาน แล้วถามด้วยรอยยิ้ม

“เมื่อคืนที่หอพักเป็นยังไงบ้าง ไอศิราคนนั้นได้รังแกคุณ หรือเปล่า?”

ภารจารีบส่ายหัวทันที แล้วพูดว่า “เมื่อคืนไอศิราไม่ได้ กลับไปที่หอพัก และเช้านี้อาจารย์ของเราได้แจ้งในกลุ่มว่า ไอศิราได้

ลาออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว”

“ลาออกแล้วเหรอ?” รพีพงษ์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยแต่ก็โล่งใจทันที ไม่คาดคิดว่าคุณกำจรจะเป็นคนที่เข้าใจ ง่าย

นี่เป็นสิ่งที่ดีสำหรับการจา เชื่อว่าเธอคงอึดอัดที่ต้องอาศัย อยู่ในหอพักเดียวกับไอศิรา และเมื่อไอศิราลาออกไป รพี พงษ์ก็ไม่

ต้องกังวลว่าเธอจะกลั่นแกล้งการจาอีก

ทั้งสองเดินไปที่สนามของมหาวิทยาลัย วันนี้อธิการจะ อธิบายเรื่องความบริสุทธิ์ใจของภารจาต่อหน้าอาจารย์และ นักศึกษา

ทุกคนในมหาวิทยาลัย และเปิดเผยการกระทำที่น่า เกลียดของกอบบุญและอัคคพล

อาจารย์และนักศึกษาทุกคนในมหาวิทยาลัยต่างได้รับ แจ้ง ให้ไปรวมตัวกันที่สนามก่อนสิบโมงเช้า

ระหว่างทาง หลายคนเห็นรพีพงษ์และภารจาเดินไปด้วย กัน โดยยังคงแสดงสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม และยังคงพูด ในสิ่งที่ดู
หมิ่นภารจา

“นางแพศยายังอยู่กับผู้ชายคนนั้น เมื่อวานฉันก็เห็นพวก เขาเดินด้วยกัน ฉันได้ยินมาว่าผู้ชายคนนั้นเป็นแขกของ การจา

เธอนี่ไม่รู้จักความละอายใจเลย ถึงกับพาคนแบบนี้มาที่ มหาวิทยาลัย

“ฉันได้ยินมาว่าการประชุมวันนี้เป็นเรื่องของเธอ ฉันเดาว่า เธอจะถูกท่านอธิการวิพากษ์วิจารณ์เธอต่อหน้าทุกคน

“คนแบบนี้ที่ทำให้มหาวิทยาลัยของเราเสื่อมเสียชื่อเสียง ควรถูกไล่ออก หวังว่าท่านอธิการจะขับไล่เธอออกไป อย่างไร้ความ

ปราณี”

ภารจาได้ยินความรู้สึกที่คนอื่นมีต่อเธอยังไม่เปลี่ยน ในใจ รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ชั่วขณะเธอก็โล่งอก คิดในใจว่าวันนี้ท่าน

อธิการจะช่วยเธอพูดให้ทุกอย่างกระจ่างขึ้น ดังนั้นเธอจึง ไม่ต้องกังวลอะไร

ไม่นาน เมื่อมาถึงสนาม รพีพงษ์และการจาก็เดินตรงไปที่ เวทีสูง ขณะนี้ท่านอธิการก็รออยู่ที่นั่นแล้ว

จะเห็นได้ว่าใบหน้าของท่านอธิการดูไม่ค่อยดีนัก สิ่งที่ เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดและเลวร้าย ที่สุดในชีวิต

ของเขา เขาเสียใจมาก แต่เสียใจไปก็เปล่าประโยชน์

ทั้งกอบบุญและอัคคพลยืนอยู่ข้างหลังท่านอธิการด้วย ใบหน้าซีดเซียว เมื่อคิดว่าสักครู่สิ่งที่พวกเขาทำทั้งหมดจะ ถูกเปิด

เผยให้ทุกคนในมหาวิทยาลัยรับรู้ พวกเขาก็กังวลมาก

ถ้าพูดเรื่องนี้ออกมา ในอนาคตพวกเขาจะไม่สามารถ ดำรงอยู่ในมหาวิทยาลัยได้
หลังจากที่เมื่อคืนนี้กอบบุญกลับบ้านเขาไม่ได้บอกภรรยา ของเขาเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าภรรยาของเขารู้ว่า เขาและ

หลานชายได้ร่วมกันทำเรื่องที่น่าอัปยศเช่นนี้ เขาก็คงจะ กลับบ้านไม่ได้

ในเวลานี้ในสนามเต็มไปด้วยผู้คน อาจารย์และนักศึกษา ทั้งมหาวิทยาลัยมารวมตัวกันที่นี่ และทุกคนก็ซุบซิบกันว่า วันนี้จะพูด

เรื่องอะไรกัน

ในบรรดานักศึกษาเหล่านี้ มีกลุ่มหนึ่งที่เป็นศัตรูกับภาร จา และส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง เหตุผลของการเป็นศัตรูนั้น ก็ เหมือนไอ

ศิรา คืออิจฉาริษยา

ดังนั้นเมื่อกอบบุญได้เผยแพร่ข่าวเชิงลบเกี่ยวกับการจา ในมหาวิทยาลัย พวกเขาจึงกลายเป็นผู้บงการและยุยง ปลุกปั่นเรื่องนี้
พวกเขากระตือรือร้นอยากจะเห็นภารจาเกิดเรื่องไม่ดี ถ้า การจายิ่งขายหน้า ในใจพวกเขาก็จะยิ่งมีความสุขมากขึ้น

บางคนเห็นคนอื่นไม่ได้ เมื่อพวกเขาพบโอกาสที่จะใส่ ร้ายคนที่พวกเขาเทียบไม่ได้ ก็จะซ้ำเติมเข้าไปอีก

“พวกเรารีบดูเร็ว ภารจามากับผู้ชายคนนั้น พวกเขาเดิน ตรงไปหาอธิการ ดูเหมือนว่าวันนี้จะพูดเรื่องของการจา จริงๆ”

“พวกเราดูสีหน้าของอธิการสิ เคร่งเครียดมาก คงรับรู้ถึง ความไร้ยางอายของการจา ทำให้มหาวิทยาลัยของเรา เสื่อมเสียมาก

วันนี้ประชุมทั้งมหาวิทยาลัย ภารจาจะต้องถูกไล่ออกแน่”

“นางแพศยาเช่นนี้ น่าจะถูกไล่ออกไปนานแล้ว เรียนเก่ง แค่ไหนจะมีประโยชน์อะไร ก็ไปทำสิ่งที่น่าอับอายแบบนี้”
รพีพงษ์และการจาเดินไปถึงตรงหน้าท่านอธิการ ท่าน อธิการรีบเข้าไปทักทายพวกเขา ด้วยความเคารพทันที

ได้จัดการทุกอย่างเรียบร้อย สักครู่กอบบุญกับอัคคผลจะ พูดเรื่องนี้ทั้งหมดต่อหน้าคนทั้งหมดในมหาวิทยาลัย จาก นั้นจะขอโทษ

การจา คุณรพีพงษ์ ไม่ทราบว่าคุณยังมีสิ่งไหนที่ต้องการ ให้เราทําอีก?” ท่านอธิการถาม

“ในเมื่อเป็นการขอโทษ ก็ต้องมาจากใจจริง สักครู่ให้ทั้งคู่ คุกเข่าพูด” รพีพงษ์พูด

อธิการตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่กล้าที่จะคัดค้าน และเดินไป ที่กอบบุญและอัคคพลทันที และบอกความต้องการของรพี พงษ์

ให้ทั้งคู่ฟัง

หลังจากทั้งสองคนได้ยินสิ่งที่ท่านอธิการพูด สีหน้าของ พวกเขาก็ยิ่งแย่ลง แต่พวกเขาไม่ต้องการที่จะติดคุก ดังนั้น พวกเขา
จึงต้องยอมรับคําขอของรพีพงษ์

หลังจากนั้นไม่นาน คุณอธิชนม์ก็มาถึงสนาม วันนี้เขาต้อง ประกาศการจัดตั้งกองทุน ดังนั้นเขาจึงต้องมาถึงที่ อีก อย่าง

เพื่อให้เกียรติคุณรพีพงษ์ เขาก็ต้องมาด้วยตัวเองแน่นอน

“พวกเราดูสิ คุณอธิชนม์มาแล้ว โอ้พระเจ้า คนระดับสูง เช่นนี้มาถึงตรงนี้ การจาคงจะทำเรื่องที่ไร้ยางอายมาก!

“ช่างน่าอับอายมาก แม้แต่คุณอธิชนม์ยังรู้เรื่องเกี่ยว กับภารจา ถ้าเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป ในอนาคต มหาวิทยาลัยของเรา

จะดำเนินต่อไปยังไง บางทีมันอาจจะส่งผลต่อการลง ทะเบียนสมัครเรียน

“การจาไม่ใช่คนแล้วมั้ง ทำเรื่องใหญ่จนเฮียอธิชนม์ต้อง มาดูด้วยตัวเอง คนแบบนี้ควรถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัย ให้เร็วที่สุด!
ผู้ที่เป็นศัตรูกับภารจาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อยุยง เพื่อ ให้ทุกคนรอบๆเริ่มโจมตีภารจา

พวกเขาไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์จะรุนแรงขนาดนี้ แม้แต่ คุณอธิชนม์ยังต้องมา รู้สึกพอใจมาก

มีคุณอธิชนม์อยู่ตรงนี้ ท่านอธิการคงไม่อาจปกป้องการ จาอย่างแน่นอน และบางทีเขาอาจจะยังมองว่าเธอเป็น ตัวอย่างเชิง

ลบ ก่อนหน้านี้ความพราวเสน่ห์ของการจาจะกลายเป็นสิ่ง ไร้ค่า

ท่านอธิการและรพีพงษ์ขึ้นไปยืนบนเวทีสูงด้วยกัน กอบ บุญและอัคคพลหน้าถอดสี ร่างกายของพวกเขาเริ่มสั่น ไหว

“วันนี้เรียกทุกคนมาที่นี่มีเรื่องหนึ่งต้องประกาศให้ทุกคน ทราบ ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีบุคคลเช่นนี้ปรากฏ ตัวใน

มหาวิทยาลัยของเรา “
ท่านอธิการพูดอย่างเศร้าโศก

“ก่อนหน้านี้ผมหลงผิดไป คิดว่าเขาเป็นคนที่มีประโยชน์ และสับสนกับการกระทำของเขา จนกระทั่งผมพึ่งรู้ธาตุแท้ ของเขา

ผมถึงรู้ว่าเขาน่ารังเกียจขนาดไหน!

“ในมหาวิทยาลัยของเรา ไม่ควรมีคนแบบนี้อยู่ และเขาก็ ไม่สมควรจะอยู่ในมหาวิทยาลัยนี้ต่อไป”

คำพูดของท่านอธิการไม่ได้ระบุว่าคนนี้เป็นใคร จากการ คาดเดาของคนข้างล่าง คิดว่าเป็นการจาแน่นอน

ไม่คาดคิดว่าท่านอธิการจะเกลียดการจามากขนาดนี้ ช่าง น่าตลก อดีตนักศึกษาที่มีเกียรตินิยมอันดับหนึ่งในวันนี้จะมี จุด

จบเช่นนี้

“สมน้ำหน้าจริงๆ ถึงจะเรียนเก่งแค่ไหน ไม่ว่าจะสวยแค่ ไหน ก็ต้องถูกไล่ออก ถึงแม้ว่าฉันจะเรียนไม่เก่งเท่าเธอ และหน้าตา
ไม่สวยเท่าเธอ แต่ฉันก็ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกไล่ออก”

“ในตอนนี้ฉันอยากจะหัวเราะจริงๆ สรุปแล้วคนที่โดดเด่น เช่นนี้จะมีจุดจบที่ไม่ดี

บรรดาผู้ที่อิจฉาการจาต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอดูการจาถูก

ไล่ออก

“ตอนนี้ก็จะให้พวกเขามาชี้แจงความผิดของตัวเอง” ท่าน อธิการพูดต่อ

สายตาของผู้คนมากมายจับจ้องไปที่ภารจา

ในวินาทีต่อมา มีบางสิ่งที่ทำให้ทุกคนตกตะลึงเกิดขึ้น

ทั้งกอบบุญและอัคคพลก้าวไปข้างหน้า แล้วคุกเข่าต่อ หน้าทุกคน

ความเงียบ!
ทั้งสนามมีแต่ความเงียบ

ไม่มีใครคาดคิดว่า กอบบุญและอัคคพลจะคุกเข่าลงใน ขณะนี้

“เขา…….พวกเขากำลังทำอะไร?”

ท่านอธิการยื่นไมโครโฟนในมือให้กอบบุญทันที

หลังจากกอบบุญรับไมโครโฟนมา พูดด้วยเสียงสั่น “ผม ขอโทษมหาวิทยาลัย ขอโทษท่านอธิการ ขอโทษภารจา ผมเป็นคนบาป

ในมหาวิทยาลัย และหลานชายที่สมควรตายของผม เขา เป็นคนที่สมควรตายที่สุด!

ทุกคนต่างตกตะลึงกับคำพูดของกอบบุญ และทุกคนก็ ตั้งใจฟังกอบบุญรับสารภาพความผิดของตัวเอง

เนื่องจากคุณอธิชนม์อยู่ข้างสนาม กอบบุญจึงไม่กล้าที่จะ ปกปิดอะไร และบอกความจริงทุกอย่างออกมาจนหมด
เพื่อที่จะทำให้ทุกคนรู้สึกว่าเขาไม่ได้ทำอะไรที่น่ารังเกียจ เกินไป เขายังกล่าวเกินจริงถึงการกระทำของอัคคพล เพื่อ ลด

บทบาทของตัวเอง

อัคคพลที่อยู่ข้างๆโกรธจนสีหน้าซีดเซียว แต่ขณะนี้เขา ไม่สามารถทำอะไรได้ ในตอนนี้ถ้าเขาทะเลาะชกต่อยกับ กอบบุญ

ขึ้นมา มันจะยิ่งเป็นเรื่องตลกในสายตาของทุกคน

หลังจากที่กอบบุญพูดจบ ท่านอธิการก็เหลือบมองไปที่ อัคคพล และถามว่า “คุณอัคคพล คุณมีข้อขัดข้องกับสิ่งที่ กอบบุญ

พูดหรือไม่?”

อัคคพลกัดฟัน และในที่สุดก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญา

เกิดความโกลาหลขึ้นในหมู่ผู้ชม และพวกเขาไม่เคยคาด คิดว่า ความจริงของเหตุการณ์นี้ จะเป็นเช่นนี้
บรรดาผู้ที่อิจฉาการจาแต่เดิมมีความพอใจซึ่งแสดงบน ใบหน้าของพวกเขา แต่หลังจากได้ยินสิ่งที่กอบบุญพูด ใบหน้าของ

พวกเขาก็เคร่งเครียดเล็กน้อย

“คุณภารจาถูกกอบบุญและอัคคพลใส่ร้ายป้ายสี อยู่ใน มหาวิทยาลัยได้รับผลกระทบอย่างหนัก จุดประสงค์หลัก ของการประชุม

ในวันนี้ เพื่อช่วยภารจาชี้แจงว่า ภารจาในฐานะนักศึกษาดี เด่นในมหาวิทยาลัยของเรา คือต้นแบบที่ทุกคนควรเรียนรู้ หวังว่าทุก

คนจะมีเป้าหมายเหมือนการจา ตั้งใจและขยันหมั่นเพียร

“และคนชั่วสองคนนี้ จะถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัยของ เราตลอดไป และชาตินี้จะไม่มีวันได้รับอนุญาตให้กลับมา อีก!”

จากนั้นท่านอธิการก็เปลี่ยนเรื่องคุย และกล่าวว่า “วันนี้ ทางเรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เชิญคุณอธิชนม์มาด้วยเนื่องจากได้

สัมผัสถึงทัศนคติผู้ที่มีจิตใจสกปรก คุณอธิชนม์จึงเต็มใจ ที่จะจัดตั้งกองทุนในมหาวิทยาลัยของเรา เพื่อช่วยเหลือ บางคนในมหา

ลัยที่มีผลการเรียนดี และครอบครัวยากจน ต่อจากนี้ขอ เชิญคุณอธิชนม์มาพูดรายละเอียดของกองทุนนี้

คุณอธิชนม์เดินไปที่เวที รับไมโครโฟนมา และพูดเสียง ดัง “ใช้ในนามของคุณภารจา ผมจะจัดตั้งกองทุนใน มหาวิทยาลัย จำนวน

เงินของกองทุนนี้คือสองร้อยล้านบาท ผมหวังว่า นักศึกษาทุกคนจะตั้งใจเรียนและมุ่งมั่น และสามารถเป็น นักศึกษาที่ยอด

เยี่ยมเหมือนคุณภารจา

ผู้คนข้างล่างต่างพากันสนทนาอย่างดุเดือด

สองร้อยล้าน……..ในนามของการจา………
บรรดาผู้ที่อิจฉาการจารู้สึกไร้เรี่ยวแรง แน่นอนว่าความ อิจฉาริษยาไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร คนที่ตั้งใจ มีแต่จะ

เปล่งแสงระยิบระยับมากขึ้นเท่านั้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ