แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่347 ข่าวคราวของเทือกเขากิสนา



บทที่347 ข่าวคราวของเทือกเขากิสนา

บทที่347 ข่าวคราวของเทือกเขากิสนา

เมื่อรพีพงษ์เห็นจันทรไชยเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นขึ้นมาทันใด ก็ตก ตะลึงไปชั่วครู่ แต่ในใจก็แสดงออกมาถึงความปีติยินดี

เนื่องจากจันทรไชยมีแสดงปฏิกิริยาเช่นนี้ ก็หมายความว่าเขา รู้ถึงการมีอยู่ของเทือกเขากินา ก่อนหน้านี้เขาถามมาหลายคน คนเหล่านั้นไม่เคยได้ยินชื่อของเทือกเขากิสนามาก่อนเลย นับ ประสาอะไรกับการรู้ที่อยู่ของเทือกเขากิสนา

รพีพงษ์ถึงกับคิดว่าสถานที่เทือกเขากิสนาฏกนนทภูสร้าง ขึ้นเพื่อหลอกรพีพงษ์ อันที่จริงแล้วนนทภูตายไปแล้ว ได้ทิ้ง จดหมายไว้ เพื่อให้รพีพงษ์มีความหวังเท่านั้นเอง

ดังนั้นจึงตรวจสอบข่าวคราวของเทือกเขากิสนาไม่เจอเป็นเวลา นาน ในใจของรพีพงษ์จึงกังวล

ในที่สุดตอนนี้ก็เจอกับคนที่รู้ว่าเทือกเขากิสนามีอยู่จริง ในใจร พงษ์รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก

“ศิษย์พี พูดแบบนี้ รู้จักเทือกเขากิสนาเหรอ? พี่รีบบอกฉันมานะ ว่าเทือกเขากิสนาอยู่ที่ไหน?”รพีพงษ์กล่าวอย่างตื่นเต้น
จันทร์ไชยมองรพีพงษ์เหมือนสัตว์ประหลาด และกล่าวว่า “นาย บอกฉันมาก่อนว่านายรู้จักเทือกเขากิสนามาจากที่ไหน ที่สำคัญ คือทำไมถึงอยากจะไปที่นั่น? ทั้งประเทศที่รู้จักเทือกเขากิสนา ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น โดยทั่วไปแล้วหากมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับ สถานที่นี่ ในที่สุดก็จะมีจุดจบที่ไม่ดี ทำไมนายถึงจะไปที่นี่ล่ะ?”

รพีพงษ์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ที่เขารู้เรื่องของเทือกเขากิสนา ก็เป็น เพราะนนทฏ แต่ทุกคนก็รู้ดี ว่านนทภูตายไปแล้ว เห็นได้ชัดว่า ก่อนที่นนทภูจะจากไป ไม่ได้บอกใครเลยว่าเขาไปที่ไหน แต่ ปล่อยให้ทุกคนรู้สึกว่าเขาตายไปแล้ว มันอธิบายได้แล้วว่า เขา ไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ที่อยู่ของเขา

ตอนนี้เรื่องของนนทภูมีเพียงแค่รพีพงษ์คนเดียวที่รู้ สิ่งนี้อาจ กล่าวได้ว่าเกี่ยวข้องกับความลับการตายของนนทภู แม้แต่จันทร์ ไชย รพีพงษ์ก็รู้สึกว่าไม่สามารถบอกความจริงได้ในตอนนี้

“เรื่องนี้สำคัญมาก ตอนนี้ฉันยังบอกใครไม่ได้ หวังว่าศิษย์พี่จะ อภัยให้ด้วย แต่ สบายใจได้ ว่าฉันไม่ใช่คนบุ่มบ่าม ฉันแค่อยาก รู้ข้อมูลบางอย่างที่เกี่ยวกับเทือกเขากิสนาเท่านั้นเอง ถ้าหากว่า ศิษย์พี่รู้ ได้โปรดบอกฉันด้วย รพีพงษ์กล่าว

จันทร์ไชยถอนหายใจ เขารู้นิสัยของรพีพงษ์ดี และรู้ว่าเมื่อรพี พงษ์ต้องการจะรู้เรื่องอะไร ไม่ตรวจสอบอย่างละเอียดจนรู้ก็ไม่มีทางหยุด แม้ว่าเขาจะรู้ว่าคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเทือกเขากิ สนาจะมีจุดจบที่ไม่ดี แต่ตอนนี้รพีพงษ์ถาม เขาไม่พูดก็ไม่ได้

“ฉันได้ยินข่าวลือบางอย่างเกี่ยวกับเทือกเขากิสนามาเท่านั้น จริงๆแล้วเทือกเขา สนาเป็นสถานที่แบบไหน แต่ก็ไม่มีความคิด ที่ชัดเจน ฉันรู้เพียงแต่ว่าที่นั่นสามารถเข้าไปได้ แต่ไม่สามารถ ออกมาได้ มีคนเล่าว่าเทือกเขากิสนาเป็นสวรรค์สําหรับพวกคน ร่ำรวยที่สร้างขึ้นโดยสมานคมคนชั้นนำของโลกในเทือกเขาแห่ง หนึ่ง ไม่มีข้อจํากัดทางกฎหมาย คนรวยเหล่านั้นสามารถทำ อะไรก็ได้ที่ต้องการในเทือกเขากิสนา พวกเขาคัดเลือกคนจํานวน มากจากสังคมสมัยใหม่ให้เข้าไปและรับใช้พวกเขา คนเหล่านั้น ถูกส่งไปตั้งแต่ในวัยเด็ก และอยู่ในเทือกเขากิสนาตลอดชีวิต ดัง นั้นพวกเขาก็คิดว่าเทือกเขากิสนาเป็นทั้งหมดของโลก”

คนรวยพวกนั้นเพื่อที่จะสามารถมาเพลิดเพลินกับความ สนุกสนานได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นจะทำกิจกรรมที่น่าทึ่งทุกประเภท ในนั้น ปฏิบัติต่อคนบางคนเยี่ยงทาส สัตว์ร้าย ให้พวกทำการ แสดงเพื่อตัวเอง และทำกิจกรรมที่โหดร้ายบางอย่าง เพื่อบรรลุ จุดประสงค์ในการทําให้คนรวยเหล่านี้พอใจ

“ในช่วงปีแรกๆพวกเดนตายบางคนไม่มีทางที่จะหลบหนี ดังนั้น จึงเลือกที่จะไปอยู่ที่เทือกเขากิสนา เพียงแต่เมื่อพวกเขาเข้าไป ในเทือกเขากิสนาแล้ว และไม่สามารถเพลิดเพลินกับการปฏิบัติ ต่อคนรวยได้ พวกเขาเข้าไป ก็เข้าไปในฐานะทาสเท่านั้นเอง”

“ยิ่งไปกว่านั้นมีการกล่าวกันว่าเงื่อนไขในการเข้าสู่เทือกเขา สนานั้นสูงมาก พวกเดนตายที่ฉันรู้จัก ทุกคนมีความแข็งแกร่ง เหนือกว่าฉัน หรือว่ามีสถานะตาแหน่งอ่านาจที่เทียบกันไม่ติด คนพวกนั้นเคยอยู่ในสังคมที่อยากได้อะไรก็ต้องได้ เข้าไปที่ เทือกเขากิสนาแล้ว ก็เป็นได้แค่ทาส

“ฉันยังเคยได้ยินมาอีกว่า หัวหน้าของสมาคมชั้นนําทั่วโลก จะ ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขบางประการ ถึงจะมีคุณสมบัติในการเข้า สู่เทือกเขากิสนา ผู้คนในระดับนั้นจะไปที่เทือกเขากิสนา เข้าไป เพื่อความสนุกสนาน

“ว่ากันว่าในเทือกเขากิสนา สิ่งที่พวกคนรวยชอบดูมากที่สุด คือ การต่อสู้เข่นฆ่าระหว่างยอดฝีมือ พวกเขาจะสร้างสภาพแวดล้อม ที่ยากลำบากหลากหลายรูปแบบสำหรับยอดฝีมือพวกนี้ ปล่อย ให้พวกเขาเข่นฆ่ากันในสภาพแวดล้อมนี้ จริงๆแล้วคนเหล่านั้น ในเทือกเขากิสนาทำเพื่อผลของการแสดง ครั้งหนึ่งเคยลักพาตัว ยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงบางคนในสังคมไปเพื่อต่อสู้ และยอดฝีมือ เหล่านั้นที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครออกมาจากข้างใน ได้สักคน”

“ข้อมูลที่ฉันรู้เกี่ยวกับเทือกเขากิสนา ก็มีเพียงเท่านี้ สิ่งนี้ สําหรับคนร้ารวยเหล่านั้น เทือกเขากิสนาคือสวรรค์ของพวกเขา ที่นั่นไม่มีข้อจํากัดทางกฎหมาย ผู้คนที่ต้องการควบคุมดูแลเทือกเขากิสนา ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเทือกเขากิสนาอยู่ที่ไหน แต่ สําหรับผู้ที่ถูกบังคับให้เข้าไปที่เทือกเขากิสนา หรือว่าผู้ที่ถูกส่ง ไปเพื่อรับใช้คนรวย เทือกเขากิสนาเป็นนรกทั้งเป็น เพราะไม่มี ข้อจํากัดทางกฎหมาย

ที่นั่นคนรวยคือพระเจ้า พวกเขาสามารถตัดสินชีวิตและความ ตายของทุกคนในเทือกเขากิสนยาได้ตามต้องการ บรรดายอด ฝีมือที่อยู่ในสังคมที่มีสถานะทางสังคมสูง ดารา อัจฉริยะ ใน สายตาของพวกเขาก็เป็นแค่ของเล่นเท่านั้นเอง”

“คนร่ำรวยที่ฉันพูดถึง ไม่ใช่ตระกูลที่ร่ำรวยอย่างตระกูลลัดดา วัลย์ หัวหน้ากลุ่มใหญ่พวกนั้น ทุกคนมีความแข็งแกร่งในการ ปั่นป่วนสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจทั่วโลก ในสายตาของพวก เขาตระกูลลัดดาวัลย์ คงจะเป็นแค่มดตัวหนึ่งเท่านั้น ไม่อย่างนั้น นายจะไม่มาหาฉันและถามเรื่องของเทือกเขากิสนา”

“ดังนั้นนายต้องเข้าใจว่า มีสถานที่ที่นั่นไม่ใช่ที่บนดิน หาก นายไม่ใช่กลุ่มคนระดับสมาคมชั้นนำ การเข้าเทือกเขากิสนา ก็ เท่ากับรนหาที่ตาย นี่คือเหตุผลที่ฉันบอกว่าคนที่มีความสัมพันธ์ กับเทือกเขากิสนาจะมีจุดจบที่ไม่ดี ด้วยเหตุนี้จึงมีกลุ่มบริษัทชั้น นําเพียงไม่กี่แห่ง ยกเว้นพวกเขา สิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับเทือกเขากิ สนา ก็ถูกคนของเทือกเขากิสนาเฝ้ามองเป็นเหยื่อเท่านั้นเอง”
หลังจากที่รพีพงษ์ได้ยินสิ่งที่จันทร์ไชยพูด ก็ขมวดคิ้วทันที เขาคิดไม่ถึงว่าเทือกเขากิสนาจะเป็นสถานที่เช่นนี้ ตามคำกล่าว ของจันทร์ไชย ตระกูลลัดดาวัลย์ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะรู้เกี่ยวกับ เทือกเขากิสนา เว้นแต่ว่าคนใหญ่คนโตในเทือกเขากิสนาจะถูกใจ คนของตระกูลลัดดาวัลย์ ต้องการให้พวกเขาไปเป็นทาสหรือ แสดงบางอย่าง ถึงจะมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับตระกูลลัดดา วัลย์

ทําไมนนทฏถึงเลือกเข้าไปที่เทือกเขากิสนาเองล่ะ?

หรือว่านนทภูไม่ได้เข้าไปเอง แต่ถูกคนของเทือกเขากิสนา จับตามอง สุดท้ายถูกจับเข้าไป ดังนั้นจึงหายไปอย่างไร้ร่องรอย เหรอ?

หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ อย่างนั้นสถานการณ์ของนนทภูอยู่ที่เทือก เขากิสนาค่อนข้างอันตราย ตอนนี้เวลาผ่านไปหลายปี เขาจะเป็น หรือตายก็ยังไม่รู้ ที่สำคัญจากคำกล่าวของจันทร์ไชย ระดับของ นนทภูอาจจะเสียชีวิตไปแล้ว

เมื่อนึกถึง สิ่งนี้หัวใจของรพีพงษ์กังวล แต่เขาก็หายใจเข้าลึกๆ อย่างรวดเร็ว ไม่ว่านนทภูจะเป็นหรือตาย เขาจะไม่ล้มเลิกความ หวังใดๆ เพื่อให้แน่ใจว่านนทภูตายแล้วหรือยัง ต้องรอให้หลัง จากร พงษ์เข้าไปที่เทือกเขากิสนาถึงจะสามารถได้ข้อสรุปที่ แน่นอน
“ดูเหมือนว่าหลังจากที่ผู้คนไปถึงที่ระดับสูงแล้ว สิ่งที่ไล่ตาม ก็ จะแตกต่างจากพวกเราคนทั่วไปอยู่บ้าง สมาคมคนชั้นสูงเหล่า นั้นจะไปที่เทือกเขาเพื่อสร้างสวรรค์แบบนี้ ก็คงจะว่างจริงๆ พี พงษ์กล่าว

“มีข่าวลือว่าเทือกเขากิสนาถูกสร้างขึ้นโดยคนที่ร่ำรวยเหล่านี้ และบางคนบอกว่าเทือกเขากิสนามีเจ้านายอยู่เบื้องหลัง เจ้านาย คนนี้สร้างเทือกเขากิสนาขึ้นมา จากการรวบรวมเงินจากสมาคม ชั้นนํา เพื่อให้พวกเขาได้รับความบันเทิง เทือกเขากิสนามันเป็น ธุรกิจ ถ้าหากว่าเป็นเช่นนั้นจริง อย่างนั้นเงินที่เจ้านายที่อยู่เบื้อง หลังได้ กลัวว่ามันจะมากกว่ากลุ่มเดียว ที่สำคัญเครือข่ายนี้ก็ไม่มี ใครเทียบได้ จันทรไชยกล่าวต่อ

รพีพง หายใจเข้าลึกๆ สิ่งที่เรียกว่าสมาคมเหล่านี้สำหรับเขา แล้วไม่คุ้นเคย เขาต้องการตามหาเทือกเขากิสนา เพียงเพื่อหา ที่อยู่ของพ่อ และหาคำตอบว่าทำไมพ่อจึงไปที่เทือกเขากิสนา ในตอนนั้น ถ้าหากว่าไม่มีเรื่องพวกนี้ เขาก็คงจะยอมใช้ชีวิตอยู่ที่ เมืองริเวอร์ และใช้ชีวิตแบบธรรมดาอยู่กับอารียา

ไม่ว่าเทือกเขากิสนาจะมีเจ้านายอยู่เบื้องหลังหรือไม่มี ดูเหมือน ว่าตอนนี้ รพีพงษ์ต้องไปที่เทือกเขากิสนาสักพักแล้ว

“นอกเหนือจากการตกเป็นเป้าหมายของคนในเทือกเขากิสนา หากฉันต้องการเข้าสู่เทือกเขากิสนา ควรใช้วิธีใด?”รพีพงษ์

ถาม

จันทรไชยมองไปที่รพีพงษ์สีหน้าซับซ้อน และพูดว่า “ฉันไม่รู้ นายอย่าถามฉันเลย

รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า: “ศิษย์พี่ พี่อย่าโกหกฉันเลย ตอนนั้นพี่บอกว่าพวกเดนตายบางคนไม่ทางหลบหนี และเลือกที่ จะเข้าสู่เทือกเขากิสนา ดังนั้นอยากเข้าสู่เทือกเขากิสนา น่าจะไม่ ได้มีแต่วิธีที่ถูกคนของเทือกเขาสนาพาเข้าไป ต่อให้พี่ไม่บอก ฉัน ฉันก็จะไปถามคนอื่น

จันทร์ไชยต้องการที่จะพูดเกลี้ยกล่อมรพีพงษ์อีกสองสามคำ แต่เมื่อคำพูดนั้นมาถึงริมฝีปาก เขาก็กลืนมันกลับไป ในใจเขารู้ดี ว่า เมื่อรพีพงษ์ตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง ต่อให้เป็นตัวร้อยตัว ก็ เป็นไปไม่ได้ที่จะลากเขากลับมาได้

ไม่ว่าเขาจะพูดเกลี้ยกล่อมรพีพงษ์มากแค่ไหน มันก็เป็นเพียง คำพูดที่ไร้ประโยชน์ ดังนั้นในที่สุดคำพูดทั้งหมด ก็กลายเป็นการ ถอนหายใจ

“ทำอะไรนายไม่ได้จริงๆ ทุกคนที่รู้จักเทือกเขากิสนา ต้องค่อย ระวังไม่ให้พวกเขามาหาถึงที่ แต่นายกลับกัน ต้องการส่งตัวเอง ไปถึงที่เอง นายรู้ไหมว่าถ้านายเข้าไปที่นั่นจริงๆ อยากออกมา มันยากเท่าปืนขึ้นฟ้า”จันทรไชยกล่าว
“พี่ก็รู้ ฉันเป็นลูกศิษย์ที่อาจารย์ชื่นชอบที่สุด ที่ผู้อาวุโสชื่นชอบ ชะตากรรมของฉันนั้นยิ่งใหญ่ ดังนั้นแม้ว่าเทือกเขากิสนามันจะ ยากและอันตรายแค่ไหน ด้วยวาสนาของฉัน ก็จะไม่มีเรื่องอะไร อย่างแน่นอน รพีพงษ์กล่าว

จันทรไชยกลอกตาไปที่รพีพงษ์ แม้จะรู้ว่ารพีพง แค่ล้อเล่น แตรพีพงษ์เป็นคนมหัศจรรย์ รพีพงษ์สามารถนําหลายสิ่งหลาย อย่างที่เขาคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ ถ้าหากว่าเขาไปที่เทือกเขากิ สนาจริงๆ ก็สามารถมีชีวิตรอดออกมาได้

ศิษย์พี่ ไม่บอกฉันจริงๆเหรอ?”รพีพงษ์จ้องมองไปจันทร์ไชย อย่างเจ้าเล่ห์

จันทร์ไชยจ้องเขาอยู่สักพัก และพูดว่า “ฉันไม่รู้วิธีเข้าไปที่ เทือกเขากิสนาจริงๆ เรื่องที่เกี่ยวกับเทือกเขากิสนา ฉันก็ฟังคน อื่นเล่ามา แต่ว่าฉันรู้จักคนคนหนึ่ง เขาไม่รู้วิธีเข้าสู่เทือกเขากิ สนา แต่อาจรู้ว่าเทือกเขากิสนาอยู่ที่ไหน

“หอ? ใครเหรอ?”

“ชายบ้าคลั่งเพราะภรรยาถูกจับเข้าไปในเทือกเขากิสนา จันทร์ ไชยพูดเบาๆ พร้อมกับใบหน้าที่แสดงออกมาถึงความเคร่งขรึม


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ