แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่179 อย่าฟังครอบครัวเขาคุยโม้



บทที่179 อย่าฟังครอบครัวเขาคุยโม้

ปั๊มน้ำมัน

รพีพงษ์เอารถปอร์เช่จอดไว้ข้างๆตู้น้ำมัน พนักงาน เห็นโลโก้รถก็ตะลึง แทบจะไม่รู้สึกตัวแล้ว

“พี่ชาย รถคันนี้ของคุณ คือปอร์เซใช่ไหม?” คนนั้น กาม

รพีพงษ์หัวเราะพลางพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก กล่าว “เต็มถัง วันนี้ต้องเดินทางไกล”

วันนี้ศศินัดดาทั้งครอบครัวจะกลับบ้านพ่อแม่ ดัง นั้นรพีพงษ์จึงมาเติมน้ำมันให้เต็มไว้ก่อน

คนนั้นรีบพยักหน้าทันที เติมน้ำมันให้รพีพงษ์ แล้ว ถาม “รถคันนี้ราคาเท่าไหร่หรอ?”

“สี่ล้านกว่า ฉันก็ไม่ค่อยมั่นใจ คนอื่นให้มา” รพีพงษ์ กล่าว
คนนั้นสูดหายใจอย่างตกใจ มองรพึ่งพษ์ด้วย ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ รถราคาสี่ล้านกว่า คนอื่นให้มา คนที่ให้มานี้ต้องมีเงินมากเท่าไหร่กันนะ

ในเวลาเดียวกันภายในใจของเขาก็เต็มไปด้วย ความประหลาดใจ สามารถทําให้คนอื่นเอารถที่แพง ให้นั้น สถานะผู้ขับรถคันนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ

เขามองไปที่รพีพงษ์ด้วยสายตายิ้มแย้ม คนใหญ่ คนโตแบบนี้ เขาห้ามยั่วโมโหเด็ดขาด

หลังจากเติมน้ำมันเต็มถังแล้ว รพีพงษ์ให้เงิน แล้ว ขับรถกลับไปที่บ้าน

ระหว่างทางกลับ เขาโทรไปหาเบอร์ที่เธียรวิชญ์ ได้ให้ไว้ ไม่นาน ก็มีคนรับโทรศัพท์ ทางนั้นมีเสียงที่ สงบด้งขึ้นมา

“ใครครับ?”

“รพีพงษ์”

ปลายทางนั้นมีเสียงเงียบไปสักพัก แล้วมีเสียงกล่าวอย่างตื่นเต้นที่ตั้งขึ้นมา ” …..รฟ์ คุณจริงๆ ใช่ไหม? สุดท้ายคุณ โทรหาผมเสียที มาสองวัน ก่อนพี่เธียรวิชญ์บอกกับผมแล้ว ผมรอโทรศัพท์จาก มาตลอดเลย”

“วันนี้ฉันไปอำเภอหยก ถึงเวลานั้นถ้าต้องการ ความช่วยเหลือ ฉันอาจจะให้แกช่วยนะ” รพีพงษ์ไม่ เกรงใจแต่อย่างใด

“ไม่มีปัญหา พีรพี ตอนนี้ที่อำเภอหยก คำพูดของ ผมก็พอจะมีอำนาจอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ผมก็สามารถเคลียร์ให้พี่ได้ครับ”จิรายุศกล่าว

รพีพงษ์อืมหนึ่งครั้ง แล้วกล่าวถึงเวลานั้นค่อย ติดต่อกัน

จิรายุศรีบถามว่ารพีพงษ์จะเดินทางมาอย่างไร ถึง เมื่อไหร่ เขาจะได้จัดคนต้อนรับ

รพีพงษ์พูดถึงเวลาที่จะไปถึง พึมพำบอกจิรายุคว่า ไม่ต้องต้อนรับอะไร เขากับอารียาพวกเขาไปด้วย กัน อยากจะทําตัวให้ติดดิน

แม้จิรายุคจะรับปาก แต่เมื่อหลังจากวางสายแล้วรู้สึกว่ายังต้องต้อนรับร พงษ์อย่างเป็นทางการ ก หน่อย เพราะรพีพงษ์ บุญคุณกับเขา ไม่ได้เจอกัน ตั้งนาน ทำให้ผ่านๆไม่ได้ แลดูเหมือนไม่เห็นค่าร พงษ์

ดังนั้นเขาจึงโทรศัพท์หาผู้ใต้บังคับบัญชาเหล่านั้น ทันที ให้พวกเขามาพร้อมกัน เพื่อหารือเรื่องต้อนรับ รพีพงษ์

วิลล่าดงเย็น

ศศินัดดาพลางเก็บของใช้ส่วนตัว พลางการพีพงษ์ หน้าของเธอยังบวมอยู่บ้าง แต่หลังจากใช้ไข่ขาว พอกหน้าแล้ว ก็ดีขึ้นมาก

“ไอ้บ้ารพีพงษ์ เขาตั้งใจ เขาต้องรู้แน่ๆว่าถ้าฉันเอา บัตรของเขาไปจะเกิดอะไรขึ้น ตั้งใจไม่บอก เขา อยากให้ฉันโดนซ้อม ลูกสาว คนประเภทนี้ร้ายกาจ แกอยู่กับเขาต่อไปไม่ได้แล้วนะ” ศศินัดดาใน

สายตาอารียามองบนต่อศศินัดดา แล้วกล่าว “แม่ อย่ามาชวนทะเลาะไร้เหตุผลแบบนี้นะ นี่ก็ไม่ใช่ เพราะแม่ทําเองหรอ รพีพงษ์ไม่คาดคิดว่าแม่จะ ขโมยบัตรของเขาด้วยซ้ำ”
“อย่างนั้นเรียกว่าขโมยหรอ? เขากินฟรีอยู่ฟรีกับ ครอบครัวเรามาตั้งหลายปี ให้เงินฉันสักหน่อย เป็นสิ่งที่ควรปะ? เดี่ยวแกไปบอกเขานะ ให้เอาเงิน ทุกบาททุกสตางค์ใบบัตรของเขามาให้ฉันด้วย ไม่ อนุญาตให้ฝากเงินเอาไว้ในบัตรเฮงซวยนั่น” ศศินัด ดาแถๆไป

เธอไม่รู้เลยสักนิด เงินในบัตรของรพีพงษ์ถ้าจะ ต้องถอนออกมาจริงๆ เกรงว่าวิลล่าสิบหลังก็วางไม่ พอ

อารียาไม่อยากใส่ใจศศินัดดาอีกแล้ว แล้วหลับไป ที่ห้องดูว่ามีสิ่งไหนหลงลืมไว้บ้าง

ไม่นาน โทรศัพท์ของอารียาดังขึ้น ปรางทิพย์โทร มา

“อารี พวกเธอเก็บของเสร็จหรือยัง พวกเธอจะขับ รถร้ายๆคันนั้นมาจริงๆหรอ ไม่งั้นฉันให้แฟนของ ฉันไปรับพวกเธอมาดีกว่า ให้พวกเธอได้นั่งรถหรู ปรางทิพย์ใช้น้ำเสียงของคนรวยผู้สูงส่งกล่าว

อารียา นปากแล้วปีนปากอีก แล้ว “ไม่ต้องหรอก พวกเราสี่คนบวกกับธีริทธิ์ นั่งได้พอดี พวกเธอขับรถมารับ นั่งไม่พอแล้ว

“อะไรนะ! ปรางทิพย์กล่าวอย่างตกใจ แกยังอยาก ให้ไอ้สวะรพีพงษ์นั่นมาด้วยหรอ แกไม่กลัวเขาจะ ทําให้แกอับอายหรือไง”

“รถคันนี้มีเพียงเขาที่สามารถขับมันได้” อารียา หาเหตุผล

“โธ่ นี่ซื้อรถเฮงซวยอะไรเนี่ย มีแค่รพีพงษ์ขับได้ เท่านั้น คงจะพังจนไม่ไหวแล้วสินะ ถึงมีแค่ไอ้สวะรพี พงษ์ ขับได้” ปรางทิพย์พึมพำอย่างแปลกใจ

“รอไปถึงเดี๋ยวแกก็รู้เอง” อารียากล่าวอย่างรำคาญ

แล้วจากวางสายแล้ว อารียาเกรี้ยวกราดกับศศิ นัดดาด้วยใบหน้าที่ไม่สบายใจแล้วกล่าว “แม่ ปราง ทิพย์นี่น่าเกลียดจริงๆ ชอบคิดว่าชีวิตของพวกเราไม่ เหมือนพวกเขา พูดตลอดว่ารถของเราเฮงซวย

ศศินัดดายักคิ้ว แล้วกล่าว “ครอบครัวลุงใหญ่ของ แกเป็นคนยังไงไม่ใช่ว่าแกไม่รู้ อย่าถือสา รอพวก เราขับรถหรูคันละสี่ล้านไป พวกเขาก็พูดอะไรไม่ออกแล้ว

อารียาพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก แล้วไม่คิดเรื่องนี้ อีกต่อไป

อ่าเภอหยก ในบ้านของปรางทิพย์ ปรางทิพย์และ แฟนเขาโมไนยอยู่ด้วยกันพอดี

” ตลกจริงๆ อารียายังจะขับรถร้ายๆของครอบครัว เธอมาอีก ยังบอกว่ารถคันนั้นมีเพียงไอ้สวะรพีพงษ์ เท่านั้นที่ขับได้ หรือเธอไม่รู้ว่าอะไรคือความอับอาย หรอ” ปรางทิพย์กล่าว

“ไอ้สวะนั่นที่เธอชอบพูดถึงบ่อยๆนั้นหรอ เขาก็กลับ มาด้วย?” โมไนยถาม

ปรางทิพย์พยักหน้าแล้วหยักหน้าอีก แล้วกล่าว “เขากลับมาด้วย จึงจะดี แบบนี้ฉันถึงจะสามารถ เหยียดหยามเธอได้เต็มที่หน่อย ตอนเด็กทุกคนล้วน คิดว่าอารียาเก่งกว่าฉันดีกว่าฉัน ที่สุดแล้วก็ไม่ใช่ว่า เธอแต่งกับไอ้สวะหรอ”

ในขณะนี้พ่อของปรางทิพย์ตุลยวัตและบจีผู้เป็นแม่ เดินออกมา
กำลังหัวเราะแล้วมองไปที่ปรางทิพย์กับ โมไนย แล้วกล่าว “ปรางพูดถูก เธอเก่งยังไงก็ไม่มี ประโยชน์ แต่งกับไอ้สวะ ชีวิตนี้ก็เหมือนจบสิ้นแล้ว แต่ปรางได้แฟนที่เก่งอย่างโมไนย เป็นโชคดีแปดชั่ว โคตรจริงๆ

“คุณป้า คุณชมเกินไป ผมก็แค่โชคดีนิดหน่อย ได้ ท่ากับจิรายุคท่านยุค แต่หากพวกคุณจะเอาผมไป เทียบกับไอ้สวะนั่น ไม่มีสิทธิ์มาเทียบกัน” โมไนย หัวเราะพลางกล่าว

“โมไนย ตอนนี้แกอยู่กับท่านยุด รายได้ต่อปีอยู่ที่ เท่าไหร่?” ตุลยวัตถาม

“ก็ไม่มาก ปกติก็แค่แสนกว่าๆ ถ้าท่านยุคอารมณ์

ดี ไม่แน่ก็เป็นหลักล้าน” โมไนยพูดอย่างถ่อมตัว แต่ ใบหน้า สะใจ

ตุลยวัตและบจีทั้งคู่หัวเราะอย่างมีความสุข ราย ปีได้หลักล้าน ที่ในอำเภอลักษณะนี้ ถือได้ว่าเป็น เศรษฐีขั้นสูงแล้ว

“โมไนยเก่งจริงๆ เทียบกับไอ้รพีพงษ์สวะที่เกาะ เมียกินนั่นเก่งกว่ามาก ดูสิหลังจากที่พวกเขามาแล้ว จะงามไม่งามหน้า” บ. หัวเราะพลางกล่าว

ฉันได้ยินมาว่าครอบครัวนัดดาไม่ใช่ว่าซื้อวิลล่า แล้วหรอ หลายปีมานี้อารีก็ใช้ชีวิตโอเคอยู่หนิ” ตุลย วัตถาม

บจีบีนปากไปมา แล้วกล่าว “วิลล่าอะไร อย่าฟัง พวกเขาคุยโม้ ก่อนหน้านี้ธีริทธิ์ก็ไปอยู่บ้านเขา เมื่อ สองสามวันก่อนน้องชายภรรยาแกโทรถามเขา ริ ทธิ์บอกว่าเขาอยู่บ้านเพื่อนเขา นี่ก็แปลว่าบ้านข องบินัดดาเล็กเกินไป ถ้านี่คือวิลล่าก็ไม่ใช่ล่ะ”

ช่วงนี้ธีริทธิ์เล่นเกมส์อยู่กับชีพนนท์พวกเขาตลอด เลยนอนที่บ้านของชีพนนท์ เขากำลังเล่นเข้าได้เข้า เข็ม จึงพูดให้มันจบๆไป ไม่ได้พูดถึงเรื่องวิลล่าของ อารียา

ทุกคนๆต่างหัวเราะเยาะเย้ย ครอบครัวศศินัดดา ชอบเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ แม้กระทั่ง นอนให้ธีริทธิ์ก็ ไม่มี แล้วยังมีหน้าจะบอกว่าซื้อวิลล่าอีก

วกเขากลับมาฉันและโมไนยจะขับรถไปดู ว่าพวกเขาซื้อเราเฮงซวยคันไหน รถของโมไนยคือ ออดี้ ราคาสี่แสนกว่านะ” ปรางทิพย์พูดอย่างสะใจ

“แม่ง สี่แสนกว่า แพงเกินไปป่ะเนี่ย โมไนย ลูกสาว ฉันอยู่กับแก ซึ่งมีความสุขจริงๆ” บจีตาลุกวาว

ตอนนี้โทรศัพท์ของเขาดังขึ้นมา แล้วจากรับสาย แล้ว เขารีบลุกขึ้น พูดกับครอบครัวของปรางทิพย์ว่า “ท่านยุคโทรหาผมบอกว่าวันนี้มีแขกสำคัญมาอำเภอ หยก ให้ผมกลับไปหารือว่าจะต้อนรับอย่างไร ผม ขอตัวก่อนนะครับ

ปรางทิพย์ถามทันที “งั้นวันนี้คุณยังสามารถขับรถ พาฉันไปเยาะเย้ยอารีพวกเขาได้ไหม?”

โมไนยคิดสักครู่ กล่าว “น่าจะได้ ผมก็แค่ไปดูลาด ลาวเท่านั้น หลักๆน่าจะเป็นท่านยุดกับพรรคพวก ของเขาจัดการ ได้ยินมาว่าคนสำคัญที่มาครั้งนี้ใหญ่ โตไม่เบา ผมยังไม่มีสิทธิ์เข้าร่วม

ปรางทิพย์พยักหน้า ให้โมไนยไป

“ลูกสาว แกว่าคนที่ท่านยุดต้อนรับ เป็นคนใหญ่คน โตจากไหน ถึงต้องเป็นทางการขนาดนี้?” บจีถาม
ปรางทิพย์กล่าวท่านยุคยังให้ความสําคัญ ต้องไม่ ธรรมดาแน่นอน พวกเราจะมีโอกาสพบปะได้ไงกัน แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร ฉันก็รู้ ว่ายังไงก็ไม่ใช่ครอบครัว อารียาแน่ๆ โดยเฉพาะไอ้สวะรพีพงษ์นั่น”

บจีและตุลยวัดหัวเราะออกมา พยักหน้าแล้วกล่าว “นี่ก็ใช่”

“ใช่แล้ว อีกสองวันจะถึงวันเกิดคุณปู่แล้ว ต้องคิด ว่าจะให้ของขวัญอะไร โมไนยเก่งขนาดนี้ ฉันจะ ต้องเตรียมขอวขวฯที่ดีที่สุดเอาไว้ให้ ให้คุณได้รู้ ฉันได้หาลูกเขยหลานสาวที่เก่งขนาดนี้ให้เขา” ปราง ทิพย์หัวเราะพลางกล่าว

หลังจากที่รพีพงษ์ขับรถกลับบ้านแล้ว ก็ช่วยอารี ยาและศศินัดดาทั้งคู่ นำสัมภาระวางไว้ในรถ

จากนั้นรพีพงษ์โทรหาธีริทธิ์ ให้เขารีบกลับมา พวก เขาจะเดินทางไปอำเภอหยกแล้ว

“อุ๊ย อารี อีกสองสามวันคุณตาของแกจะอายุครบ เจ็ดสิบแล้ว ฉันลืมเตรียมของขวัญให้เขา” ระหว่างรอ ร้ทธิ์ ศศินัดดากล่าวขึ้นมาทันที

” แค่ของขวัญ ถึงอ่าเภอหยกแล้วค่อยขอล่ะกัน” ก ากล่าว

“ไม่ได้ คนที่นั่นล้วนคิดว่าช่วงนีชีวิตฉันแย่มากๆ ครั้งนี้ที่พวกเรากลับไป ไม่แน่มีหลายคนกำลังรอที่ จะหัวเราะเยาะเย้ยอยู่นะ วันเกิดคุณตาครานี้ ฉัน จะต้องเตรียมของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขา ให้ทุกคนนับ หน้าถือตา” ศศินัดดากล่าว

“ตอนนี้ไปซื้อของพิเศษ ช้าไปไหน่อยไหม?” รพี พงษ์กล่าว

ศศินัดดาเคร่งเครียดขึ้นมาทันที ตอนนี้เธอคิดไม่ ออกจริงๆว่าของขวัญแบบไหนจะถือเป็นของขวัญ ชิ้นพิเศษ

รพีพงษ์กล่าว “ไม่งั้นเอาภาพ (ภาพฤๅษีตกปลาใน ชาน) จิตรกรรม Tang huangวาดไว้ มาล่ะกัน เอารูปนั้นมอบเป็นของขวัญ ก็มีค่ามากแล้ว”

สายตาของศศินัดดาลุกวาว แล้วกล่าว “ถูกต้อง พวกเรามีวัตถุโบราณล้ำค่าหลายชิ้น งั้นก็ให้สักชิ้นล่ะกัน ลูกสาว แกไม่ติดใจอะไรใช่ไหม?”

ความจริงอารียาอยากพูดว่าถ้าเธอให้ไปแล้ว คน ของตะกูลลัดดาวัลย์มาเอาคืนจะทํายังไง แต่หันไป คิดอีกครั้ง รพีพงษ์ก็คือคนของตระกูลลัดดาวัลย์ เขาไม่ติดใจอะไร ก็ไม่น่าจะมีปัญหา

ดังนั้นจึงพยักหน้าให้ศศินัดดา แล้วกล่าว “งั้นคุณ ไปเอารูป (ภาพฤๅษีตกปลาในซีซาน) มาเถอะ

ศศินัดดาเอารูปภาพนั้นมาอย่างดีใจ แล้ววางไว้บน รถ

“นี่เป็นภาพที่มีชื่อเสียงที่ราคามากกว่าร้อยล้านเลย นะ คุณจะเอารูปนี้ให้พ่อคุณจริงๆหรอ?” ศักดากล่าว

ศศินัดดาชักตาไปที่เขา แล้วกล่าว “ราคาร้อยกว่า ล้านแล้วยังไง นั่นก็เป็นสิ่งที่คนอื่นให้ลูกสาวฉันมา ทำไมฉันถึงมีสามีที่ไม่ได้เรื่องแบบนี้นะ ฉันรู้สึกว่าแก ยังเทียบไม่ได้กับรพีพงษ์เลย ฉันทำอย่างนี้ ก็ไม่ใช่ เพื่อเอาศักดิ์ศรีของครอบครัวเรากลับมาหรอ

ศักตายักไหล่ ไม่กล้าพูดอะไร
ไม่นาน สิทธิ์ก็กลับมายังคงเป็น ศศินัดดาร ให้ ทุกคนขึ้นรถ เดินทางไปยังอำเภอหยก ระยะทาง จากเมืองริเวอร์ไปอำเภอหยกไม่ใกล้ ขับรถใช้เวลา ถึงห้าชั่วโมง พวกเขาถึงที่นั่น ก็เป็นช่วงบ่ายแล้ว

“รอแป๊ป ให้ผมเข้าไปถ่ายวีดีโอไว้หน่อย

ธีริทธิ์น่าโทรศัพท์ออกมา รีบวิ่งเข้าไปในวิลล่าถ่าย วีดีโอไว้

หลังจากออกมาแล้ว เขาก็ได้เซลล์ฟี่ตัวเองกับ บริเวณรอบๆของวิลล่าด้วย

ใบหน้าอารียาแปลกใจ แล้วกล่าว “แกถ่ายพวกนี้ไว้ ทําไม?

ธีริทธิ์หัวเราะพลางกล่าว “แน่นอนว่าต้องเอากลับ ไปให้คนในครอบครัวดูสิ ไม่งั้นพวกเขาจะรู้ได้ไงว่า

วิลล่าพวกคุณดีขนาดไหน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ