แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่ 112 คุกเข่าให้ฉัน



บทที่ 112 คุกเข่าให้ฉัน

“รพีพงษ์ แกมาได้พอดีเลยปู่จะคิดบัญชีกับแก แกกล้าใช้สมบัติ ของตระกูลเราหรอ ตอนนี้จะไปแจ้งความให้ตำรวจมาจับก็ไม่มี ปัญหาแม้แต่น้อย!” ธายุกร ยิ้มอย่างเป็นซาได้ มองไปทางรพีพงษ์

ทุกคนในตระกูลก็ใช้สายตาที่เต็มไปสั่งสอนมองไปทางรพีพงษ์ ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนี้เป็นสังคมศตวรรษใหม่เพราะเขาคงจะไปกลืน กินรพีพงษ์

พวกเขาต่างก็รู้สึกว่าสมบัติในตระกูลก็มีส่วนแบ่งของพวกเขาและ ตอนนี้ทุกคนมั่นใจว่ารพีพงษ์ใช้เงินในตระกูลไปซื้อบ้านและรถ นั่น เป็นการกระทำที่กำลังดูดเลือดพวกเขา

อย่างน้อยอารียา ก็เป็นหลานสาวของนภทีป์ พวกเขาไม่สามารถที่ จะพูดเกินกว่านี้ได้ แต่รพีพงษ์เป็นเพียงลูกเขยที่มาอยู่ในบ้าน ไม่มี ฐานะอะไรในตระกูล พวกเขาไม่จำเป็นต้องสนใจความรู้สึกของเขา

“ไอ้แมวกินบนเรือนขึ้บนหลังคา รีบเอากุญแจวิลล่าและรถมาเดี่ยว นี้นะ นั่นคือสมบัติของตระกูลที่ซื้อมา เงินที่แกใช้คือของพวกเราทุก

คน!” “ไม่คิดว่าไอ้โง่อย่างแกจะเก็บได้ลึกขนาดนี้ มาอยู่มากินที่ตระกูล แกมอยากจะเอาสมบัติพวกเราไปอีก ฉันว่าคุณจะตีแขนขาของแก ให้หักและโยนไปขอทานที่ข้างถนน!”

“คุณท่าน จะต้องให้เขาเอาวิลล่าและรถคืนมาเดี๋ยวนี้ ตอนนี้ทั้ง สองอย่างเขียนชื่อของเขาอยู่ สำหรับตระกูลพวกเราแล้วนั่นคือการ เสียหายอย่างหนักเลย! ”

รพีพงษ์ พาไออ้วนเดินไปทางห้องรับแขกและไปยืนข้างๆของอารี

ยา

เขาไม่สนใจคำพูดของญาติพวกนั้น แต่ยื่นมือไปจับที่ไหล่ของอารี ยา ยิ้มและพูดว่า “เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”

อารียาสายหัว ไม่รู้ทำไม หลังจากที่รพีพงษ์ปรากฏก็ทำให้อารียา รู้สึกว่าไม่มีอะไรคือปัญหาที่แท้จริง

แต่ตอนนี้ทุกคนเชื่อว่ารพีพงษ์ เอาสมบัติในตระกูลไปซื้อรถและ วิลล่า ไม่ว่าเธอจะอธิบายยังไงก็ไม่มีใครเชื่อ

และคำพูดของรพีพงษ์ก็ยิ่งไม่มีคนเชื่อ ปรากฏการณ์ของเขามัน เป็นการกระโดดเข้าหลุมไฟ

“คุณมาที่นี่ทำไม พวกเขาสงสัยว่าคุณใช้เงินของบริษัท ไม่ว่าจะ อธิบายยังไงพวกเขาก็ไม่ฟัง คุณมาที่นี่พวกเขาจะไม่ยอมปล่อยคุณ ไปแน่ๆ” อารียา พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล

ถึงแม้ ฟิพงษ์ จะทำให้เธอรู้สึกสบายใจ แต่เธอก็ยังกลัวคนในป้าน จะทำอะไรกับ รพีพงษ์

รพีพงษ์ยิ้มและพูดกับเธอว่า “ไม่ต้องเป็นห่วง พวกเราไม่ได้ทำผิด พวกเขาจะทำอะไรพวกเราไม่ได้”

พูดจบ เขาก็มองไปทางนกที่

นกที่ป์มองไปทางรพีพงษ์ ด้วยสายตาที่เย็นชา “รพีพงษ์แกยัง มีหน้ามาอีก เอาเงินในตระกูลพวกเราไปซื้อรถและวิลล่า แกกล้า จริงๆ เลยนะ!”

“คุณท่านอย่าพูดไปมั่วสิครับ ผมไม่ได้ใช้เงินในตระกูลสักบาท” รพีพงษ์พูดด้วยน้ำเสียงที่ปกติ

“อย่ามาพูดคำโกหกที่นี่เลย พวกเราเห็นกับตาว่าแกเอาเงินไปซื้อ วิลล่าและรถ หรือนั่นเป็นของปลอม?” ชรินทร์ทิพย์ พูดดำน้ำ เสียงที่ดุร้าย

“นั่นเป็นเงินของฉันเอง” รพีพงษ์พูด

“ไม่ต้องมาพูดมั่ว รพีพงษ์แกไม่มีแม้กระทั่ง 10 บาทจะมีเงินพัน ล้านมาซื้อวิลล่าและรถได้ยังไง? ก่อนจะพูดก็ไม่ลองคิดดู” ชรินทร์ ทิพย์พูด

“โซ่ ช่วงนี้บัญชีของบริษัทมีปัญหาเยอะมากต้องเป็นเพราะแกกับ อารียาคุยกันแล้วแน่แน่ ไม่ต้องมาพูดมั่วเลยนะ” ธายุกรกีพูดตาม

“ฮ่าๆ พูดถึงเรื่องนี้ พวกแกไม่รู้สึกอะไรเลยหรอ? บัญชีบริษัทมี ปัญหาคนอื่นไม่รู้ไม่เป็นไรแต่พวกแกสองคนไม่รู้หรอ?” รพีพงษ์ ยิ้ม อย่างเย็นชาและพูด

สีหน้าของธายุกรและชรินทร์ทิพย์เปลี่ยนไปทันที แต่ไม่นานก็เป็น ปกติ

“รพีพงษ์ แกพูดอะไรเนี่ย แกเป็นคนเอาเงินบริษัทไปยังจะมาใส่ ร้ายพวกเราหรอ?” ชรินทร์ทิพย์เอ่ยปากพูด

“ใส่ร้าย ? ฉันพูดความจริง” รพีพงษ์พูด “คุณปู่ รพีพงษ์จะเกินไปแล้ว เป็นคนเอาเงินไป แต่ตอนนี้กลับมา ใส่ร้ายพวกเราปู่รีบตัดสินใจเถอะลงโทษรพีพงษ์เถอะ” ธายุกรพูด กับนภทีป

นภทีปทำน้ำเสียงชิชะไม่พอใจ จ้องมองไปทางรพีพงษ์และพูดว่า “รพีพงษ์ ยังมีอะไรจะพูดอีก ปัญหาที่เกิดขึ้นกับโปรเจคของบริษัท ถ้าแกไม่ใช่คนทำแล้วจะเป็นใคร?”

“หวังว่าคุณท่านจะทำการตัดสินใจที่ดี บัญชีของบริษัทมีปัญหาไม่ เกี่ยวกับผม รับผมแน่ใจได้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เกี่ยวข้อ งกับธายุกรและชรินทร์ทิพย์” รพีพงษ์พูด

“คุณมั่วอะไรของแก นี่แกไม่มีข้ออ้างจะพูดก็เลยมาใส่ร้ายพวกเรา ใช่ไหม?” ชรินทร์ทิพย์รีบตอบโต้กลับ

“คุณปู่ อย่าไปเชื่อเขาพูดมั่ว ในตอนเร่งรีบแบบนี้ต้องรีบเอาวิลล่า และรถมาก่อน จากนั้นก็ไล่เขาออกจากบ้าน” ธายุกรก็รีบพูดตาม

รพีพงษ์ เห็นทั้งสองเริ่มกังวลยิ้มและพูดว่า “ฉันไม่ได้พูดมั่ว แต่มี หลักฐานที่แกสองคนใช้เงินส่วนกลาง”

คำพูดของเขาทำให้ทุกคนตกใจไม่คิดว่าเขาจะมีหลักฐาน “ไม่ต้องมาแกล้งที่นี่เลย แกจะมีหลักฐานอะไร ฉันว่าแกถ่วงเวลา

มากกว่า” รายุกรพูด

คนในตระกูลเริ่มคุยกัน รู้สึกว่ารฟ์พงษ์ไม่มีหลักฐานอะไร

นภทีป์ไม่เชื่อคำพูดของรพีพงษ์ “รพีพงษ์ แกมันคนไร้ปัญญา ที่ ไม่มีสิทธิ์ที่จะให้แกผู้เอารถและกุญแจวิลล่ามาเดี๋ยวนี้ จากนั้นก็ ออกจากบ้านของฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งความตอนนี้”

รพีพงษ์ ไม่ได้กลัวหรือโวยวาย “คุณท่าน ไหนๆ ผมก็มาที่นี่แล้ว ไม่ กลัวที่ท่านจะแจ้งความและจับผมไป ผมอยู่ที่นี่ไม่ว่ายังไงก็หนีไม่ พัน ท่านลองดูหลักฐานที่ผมเอามาค่อยคิดว่าจะแจ้งความจับผมดี ไหม?”

นภทีป์ได้ยินคำพูดของรพิพงษ์ ก็รู้สึกว่าไม่เป็นไร ดูหลักฐานที่เขา พูดก็ไม่เสียเวลานัก

ธายุกรและชรินทร์ทิพย์สบตากัน เห็นได้ชัดว่าทั้งสองเริ่มกังวล

“พี่ธายุ ไอ้นี่จะมีหลักฐานจริงๆ หรอ?” ชรินทร์ทิพย์ถามเบาๆ

รายุกรหรี่ตารีบเปิดปากพูด “คงไม่ใช่ บัญชีในบริษัทไม่ได้ตรวจ ง่ายขนาดนั้น เขาไม่ได้ฉลาดขนาดนั้น คงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบัญชี เขียนยังไง ไม่ต้องเชื่อที่เขาพูด”

ชรินทร์ทิพย์ พยักหน้ารู้สึกว่าที่อายุกรพูดมีเหตุผล เธอก็เลยไม่ กังวลต่อจากนั้นกำลังไปทางรพีพงษ์ด้วยสีหน้าที่เป็นชา บนใบหน้า เต็มไปด้วยความประชดประชัน

พวกญาติก็เหมือนเธอไม่เชื่อว่าจะมีหลักฐานอะไร ต่างก็รู้สึกว่าเขา กำลังถ่วงเวลาอยู่

“บัญชีของบริษัทซับซ้อนขนาดนั้นไม่ใช่บอกว่าแค่หาปัญหาก็จะ เจอเขานี่ตลกจริงๆ เลย”

“บริษัทที่ใหญ่ขนาดนี้ ถึงแม้จะมีปัญหาด้านบัญชีก็เป็นเรื่องปกติ นี่ เขากำลังเอาเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างหรอ ไม่รู้เรื่องจริงๆ”

“เช็คบัญชีเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าไม่มีหน่วยงานที่ถนัดมาตรวจสอบ จะ เช็คเองคงจะเป็นเรื่องยาก อย่าว่าแต่รพีพงษ์ที่มาพูดมั่วตรงนี้เลย”

ศศินัดดาจ้องมองไปทางรพีพงษ์ หล่อนอยากให้เขามารับชอบ เรื่องนี้ ในตอนนั้นที่เขามองมาทางตัวเอง หล่อนถอนหายใจเบาๆ ตะลอนคิดไม่ถึงว่าเขาจะมีหลักฐานทำให้ศศินัดดาใจร้อนมาก

ถ้าหลักฐานของรพีพงษ์ไม่มีประโยชน์ ก็ต้องถูกไล่ออกจากบ้าน เผลอๆคุณท่านอาจจะโกรธกว่าเดิมและลามมาถึงตัวหล่อน

ขณะที่พวกเขาอยู่ในตระกูลก็จะอันตราย หลังจากที่รพีพงษ์ถูกไล่ ออก ต่อไปก็คงจะเป็นพวกเขาแล้ว

แต่หล่อนกลัวว่าถ้าพูดออกมาแบบนี้จะทำให้นกทีป์ไม่พอใจ ก็เลย แอบดารพีพงษ์ในใจ

“เป็นไปซวยจริงๆ เลย ถ้าไม่ใช่เพราะเขา บ้านเราจะมีเรื่องแบบนี้ ได้ยังไง ตอนนี้ก็อยู่ไม่ได้แท้กระทั่งวิลล่า รถก็ไม่มีขับ ซวยจริงๆ เลย”

รพีพงษ์มองไปทางไออ้วน ไออ้วนรีบยื่นเอกสารให้รพีพงษ์

รพีพงษ์หยิบเอกสารเดินไปทางนภที่ป์และพูดว่า “นีคือบัญชีหลัง จากที่บริษัทร่วมมือกับบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป จุดที่มีปัญหาผมให้คน หาออกมาแล้ว หลังจากที่ท่านดูเสร็จก็จะรู้ว่าพวกเราไม่ได้ใช้เงิน ส่วนกลางหรือของบริษัทแล้ว”

“โก่ ใครจะรู้ว่าแกได้ปลอมขึ้นมาไหม ปู่ รพีพงษ์ไม่มีตำแหน่ง ใดๆ ในบริษัทเลยนะ เขาจะรู้เรื่องบัญชีได้ยังไง” ชรินทร์ทิพย์ถาม อย่างสงสัย

“ฉันตรวจฝ่านบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป อย่าลืมสิว่าฉันเป็นคนสัญญา นี้มา ฉันก็ต้องมีวิธีตรวจสิ” รพีพงษ์พูด

ชรินทร์ทิพย์รู้สึกไม่พอใจทันที นึกถึงเรื่องเซ็นสัญญาครั้งที่แล้ว เธอก็รู้สึกโกรธ

“บัญชีพวกนี้ยจะเป็นของจริงหรือไม่คุณท่านแค่ดูก็รู้แล้ว” รพีพงษ์

“สร้างเรื่องเอะแก ฉันจะรอดูว่าแกจะสร้างเรื่องอะไรได้” ชรินทร์ ทิพย์พูดด้วยน้ำเสียงที่ดูถูก

นภทีปรับเอกสารและดูอย่าไม่ตั้งใจ

ในเวลนี้อารียาเดินมา ถามรพีพงษ์ด้วยความเป็นห่วง “รพี พงษ์ เอกสารพวกนั้นมประโยชน์จริงไหม? ปู่จะไม่สงสัยคุณจริงๆ หรอ?”

รพีพงษ์ยังไม่ทันพูด ไออ้วนที่อยู่ข้างๆ ก็รีบตอบไปว่า “พี่สะใภ้ สบายใจได้ เรื่องที่ผมทำไว้ใจได้เลย เรื่องตรวจบัญชีไม่มีใคร ถนัดมากกว่าผมแล้ว”

รพีพงษ์ รีบจิกตาไปทางเขา ให้เขาอยู่อย่างเงียบๆ

วันนั้นรพีพงษ์ไม่ให้ไออ้วนไปจัดการพิชญุตม์ด้วย แต่มีงานอื่นให้ เขาไปทำ นั่นก็คือเรื่องตรวจบัญชี

ตอนที่ซื้อวิลล่าเขาก็รู้แล้ว รายุกรอยากจะใช้เรื่องนี้มาจัดการเขา เขาก็เลยเตรียมไว้กก่อน

ไออ้วนถนัดการคำนวณ ก่อนที่จะเปิดปอนเขาก็เป็นคนที่เก่งด้าน การเงินแล้ว เรื่องตรวจบัญชีเป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับเขา

ทีแรกสีหน้าของนภทีป์แค่โกรธและเครียด แต่หลังจากที่ดูเอกสาร เสร็จหน้าของเขาก็มืดครึ้มไปเลย

ธายุกรและชรินทร์ทิพย์เห็นสีหน้าของนภทีป์ก็เริ่มกังวล ในใจเริ่ม

กลัวแล้ว

ผ่านไปนานมาก นกที่ป์ดูจบ มือเริ่มสั่น

เขาเอาเอกสารโยนลงบนพื้น จากนั้นมองไปทางธายุกรและชริน ทร์ทิพย์ตะคอกเสียงดัง “พวกแกสองคน คุกเข่าเดี๋ยวนี้!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ