แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่396 เขาไม่คู่ควรให้ผมขอโทษ



บทที่396 เขาไม่คู่ควรให้ผมขอโทษ

บทที่396 เขาไม่คู่ควรให้ผมขอโทษ

หลายคนในห้องผู้ป่วยจ้องมองไปที่ รพีพงษ์ด้วยความ สงสัย ฟังจากคำพูดที่เขาพูดเมื่อกี้ เดาได้ว่าน่าจะ รพีพงษ์ มีที่พึ่งพิง ดังนั้นจึงกล้าพูดแบบนั้นออกมา

เขารู้สึกว่าคณบดีโรงพยาบาลจิเรนยังไม่กล้าไล่เขาออก ไป ไม่น่าจะใช่คนธรรมดาทั่วไป

เทพยางศ์ก็มองรพีพงษ์อย่างประหลาดใจเล็กน้อย ในใจ คิดถึงสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการรู้เรื่องเทือกเขากิสนา คิดว่าก็ ไม่ใช่คนทั่วไป วันนี้ถ้าเขาสามารถช่วยลูกสาวของเขาต่อสู้ เพื่อสิทธิ์ที่จะอยู่ในห้องผู้ป่วยได้จริงๆ ตัวเองจะบอกเรื่อง ต่างๆที่เกี่ยวกับเทือกเขากิสนาก็ไม่น่าจะเป็นอะไร

ในใจของเขา ลูกสาวสำคัญที่สุด เขาสูญเสียภรรยาไป ลูกสาวก็กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ตอนนี้สิ่งที่เขาทำได้ ก็ คือให้ลูกสาวได้รับการรักษาที่ดีพอ มีเพียงวิธีนี้ เธอถึงจะมี โอกาสฟื้นขึ้นมา

และในขณะนี้ พีรดาก็มาที่ห้องผู้ป่วย ยังพูดว่ารพีพงษ์เป็นผู้ชายธรรมดาคำแบบนี้ออกมา ทันใดนั้นทุกคนที่อยู่ก็ ตกตะลึง

มรรษกรหันไปมองพีรดา ถาม: “คุณมั่นใจนะว่าคุณรู้จักคน

พีรดาพยักหน้าทันที พูดขึ้น: “เขาอาศัยอยู่บ้านหลังที่ฉัน เช่า เป็นคนที่ขนอิฐในไซต์งานก่อสร้าง” หลังจากที่ฟังคำ พูดพีรดา มรรษกรแสดงท่าทีเยาะเย้ยบนใบหน้าของเขา ทันที สายตาที่มองรพีพงษ์ก็ดูถูกขึ้นมา

“ผมก็คิดว่าคุณมีความสามารถแค่ไหนซะอีก คิดไม่ถึงเป็น แค่คนขนอิฐ คุณยังมีหน้าพูดว่าคณบดีของเราก็ยังไม่กล้า ไล่คุณออกไป ผมว่าสมองของคุณถูกประตูหนีบเข้าแล้ว คุณคิดว่าตัวเองเป็นตัวอะไร ไสหัวไปเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างงั้น อย่าหาว่าผมไม่เกรงใจ! ” มรรษกรพูดอย่างโหดเหี้ยม

เขาเป็นผู้อำนวยการของโรงพยาบาล โดยปกติแล้วอยู่ต่อ หน้าคนขนอิฐก็ต้องรู้สึกเหนือกว่าอยู่แล้ว

ใบหน้าของผู้ชายหลายคนในเสื้อคลุมสีขาวรอบๆ ก็เต็ม ไปด้วยการเยาะเย้ย ตอนแรกพวกเขายังคิดว่ารพงษ์จะเป็นคนใหญ่คนโตอะไรซะอีก เสียเวลาตั้งนานเป็น แค่คนขนอิฐ คนแบบนี้คิดว่าคงดูนิยายมากเกินไปแล้ว ที่ คิดว่าคณบดีของโรงพยาบาลจิเรนจะกลัวคนที่ขนอิฐอย่าง เขา

ใบหน้าของเทพยางศ์เผยให้เห็นถึงความผิดหวัง คิดไม่ ถึงว่ารพีพงษ์จะขนแค่คนขนอิฐ เขาแค่ไม่ค่อยเข้าใจ ทำไม ถึงรู้เรื่องเทือกเขาสนา

พีรดาเห็นปฏิกิริยาของผู้คนที่อยู่ในห้องผู้ป่วย ในใจเดา ได้อย่างไม่แน่ชัดว่าเมื่อกี้รพีพงษ์อาจกำลังตอแหลอยู่ เพราะเธอและรพีพงษ์อย่างน้อยก็ถือว่าอาศัยอยู่บ้านหลัง เดียวกัน ดังนั้นจึงมีหน้าที่ที่จะต้องหยุดรพีพงษ์จากการทํา เรื่องตลกในโรงพยาบาลของพวกเขา

มิฉะนั้นเมื่อมีคนพูดถึง รพีพงษ์ในภายหลัง ไม่แน่อาจจะ พาเธอซวยเป็นไปด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอับอายมาก

“รพีพงษ์คุณทำให้ผู้อำนวยการของเราขุ่นเคืองเหรอ โรง พยาบาลจิเรนเป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในเมืองบาสแตร์ ผู้ อำนวยการของที่นี่ไม่ใช่คนที่นายจะมาหาเรื่องมั่วซั่ว คุณ รีบขอโทษผู้อำนวยการของเราเดี๋ยวนี้ จากนั้นไสหัวไป จากที่นี่ ผู้อำนวยการจะไว้หน้าฉันแล้วปล่อยคุณไป รีบ ขอโทษ” พีรดาตะโกนใส่รพีพงษ์
รพีพงษ์มองไปที่พีรดาแล้วหัวเราะ พูดขึ้น: “เขาไม่คู่ควร ให้ผมขอโทษ”

พีรดาขมวดคิ้วทันที รู้สึกว่ารพีพงษ์เป็นคนไร้สองที่โง่ เขลา

“พีรดา คุณก็เห็นท่าทีของเขาแล้ว ต่อให้คุณรู้จักเขา เรื่อง วันนี้ผมจะไม่ปล่อยให้ผ่านไปง่ายๆ ผมจะให้คนเอาเขาออก ไปเดี๋ยวนี้ ส่งไปที่ห้องรักษาความปลอดภัย จัดการเขาให้ หนักสักยก” มรรษกรพูดอย่างเย็นชา

“ผู้อำนวยการ ฉันกับไอ้หมอนี่ก็แค่บังเอิญอาศัยอยู่บ้าน เดียวกันเท่านั้นเอง ฉันไม่สนิทกับเขา และไอ้หมอนี่ก็เป็น โรคจิต ยังอยากจะแอบดูฉันอาบน้ำ ในเมื่อเขาวางตัวไม่ เป็น งั้นผู้อำนวยการก็ไม่ต้องไว้หน้าฉัน คุณอยากจัดการ กับเขายังไงก็จัดการตามนั้นเถอะ” พีรดาละทิ้งความ สัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับรพีพงษ์อย่างรวดเร็ว

หลายคนรอบตัวต่างก็หัวเราะ คิดไม่ถึงว่าโรคจิตที่แอบดู คนอื่นอาบน้ำจะตอแหลต่อหน้าผู้อำนวยการของพวกเขา ในตอนนี้ ไม่รู้จริงๆ ว่าคิดอะไรอยู่
หลังจากมรรษกรฟังคำพูดของ พีรดาไม่มีความกลัวร พงษ์อีกต่อไป มองเขาเป็นเหมือนคนโง่ที่ไม่มีคุณสมบัติ พอที่จะเจรจาตกลงกับตัวเอง

เขาหันหน้าไปมองคนข้างกายตัวเอง พูดขึ้น: “พวกคุณ จับตัวเขาไว้ ส่งไปที่ห้องรักษาความปลอดภัย ให้ผู้รักษา ความปลอดภัยจัดการเขา ให้เขาจดจำไปนานๆ

ชายในเสื้อคลุมสีขาวเหล่านั้นก็ค่อนข้างไม่ชอบหน้ารพี พงษ์ หลังจากได้ยินคำสั่งของมรรษกรในทันใดนั้นก็กำไม้ กำหมัดเดินตรงไปที่ รพีพงษ์

รพีพงษ์ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ ตอนนี้ยังมีผู้ป่วยนอนอยู่ ในห้องผู้ป่วย และมรรษกรคนนี้ดูเหมือนจะไม่สังเกตเห็น ถึงการเป็นอยู่ของเธอตั้งแต่ต้นแล้ว ไม่เพียงแต่ตะโกน เสียงดัง ยังต้องการให้คนลงมือในห้องผู้ป่วยโดยตรง

เขาไม่อยากรบกวนลูกสาวของเทพยางศ์และแล้วเขาจึง หันหลังเดินออกไปข้างนอก

มรรษกรเห็นเช่นนั้น ก็หัวเราะเสียงดังทันที พูดขึ้น: “คิด ไม่ถึงว่าจะเป็นอ่อนแอ ถูกเปิดโปงก็กลายเป็นคนพลาดขนาดนี้ ยังไม่ได้ลงมือก็วิ่งหนีออกไปเองซะแล้ว”

เขายังคงส่งสายตาให้คนเสื้อคลุมสีขาวสามคนนั้น เมื่อกี้ หมอนี่กล้าที่จะยั่วโมโหเขา แน่นอนว่าเขาจะไม่ปล่อยไป ง่ายๆ แบบนี้

คนในเสื้อคลุมสีขาวเหล่านั้นตามรพีพงษ์ออกไป ไม่กี่ วินาที ก็มีเสียงร้องโหยหวนด้านนอกด้งมา ต่อด้วย รพี พงษ์เดินเข้ามาอีกครั้งจากด้านนอก ยังตบที่ไหล่ของตัว เอง

มรรษกรเห็นรพีพงษ์เดินเข้ามาอีกครั้ง ใบหน้าเต็มไปด้วย ความตกใจ เอ่ยถาม: “คุณเข้ามาอีกทำไม พวกเขาไม่ได้พา คุณไปที่ห้องรักษาความปลอดภัยรึไง?”

รพีพงษ์หัวเราะให้กับมรรษกร พูดขึ้น: “คุณอาจจะต้องเตรี ยมเตียงผู้ป่วยเพิ่มอีกหลายเตียงแล้วหล่ะ

ท่าทางมรรษกรกลัว จากนั้นเดินตรงออกไปข้างนอกห้อง ผู้ป่วย เมื่อไปถึงระเบียง เขาก็เห็นชายที่สวมเสื้อคลุมสีขาว เหล่านั้นล้มอยู่ที่พื้น หยุดกลิ้งไปมาไม่ได้ ต่างมีท่าทางที่ เจ็บปวด
ในใจเขาเกิดความกลัวขึ้นมาทันที เมื่อกี้รพีพงษ์ออกไป แค่ไม่เกินสองนาที ก็กลับเข้าไปในห้องผู้ป่วย นี่เป็นชายที่ แข็งแรงก๋าย่าทั้งสี่คนเชียวนะ กลับถูกรพีพงษ์เอาชนะเขา ได้อย่างง่ายดาย

เขาหันเดินไปในห้องผู้ป่วย จ้องมองไปที่รพีพงษ์ด้วย ความโกรธและความกลัวอีกครั้ง ยกมือข้างหนึ่งขึ้น ชี้ไปที่ เขาด้วยอาการสั่นเล็กน้อย พูดขึ้น: “คุณ…….กล้าทําร้าย คนในโรงพยาบาลของเรา คุณรอผมตรงนี้ ผมจะไปเรียก คณบดีเดี๋ยวนี้ ถึงตอนนั้นไม่ใช่แค่คุณที่ต้องชดใช้ คนป่วย ในห้องผู้ป่วยนี้ก็จะไม่สามารถเข้าโรงพยาบาลของเราได้ แม้แต่ก้าวเดียว!”

พูดจบ เขาก็รีบวิ่งออกไป

รพีพง ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่สนใจ เรื่องมาถึงขนาด นี้แล้ว เรียกคณบดีมาก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับเขา ถึงตอนนั้น เขาก็ไม่จําเป็นต้องอธิบายอะไรมากมาย

พีรดาที่อยู่ในห้องผู้ป่วยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอมองออก ไปข้างนอกอย่างแปลกใจ หลังจากเห็นคนเหล่านั้นนอนอยู่ ที่พื้น มองไปที่รพีพงษ์ด้วยสีหน้าตกใจ พูดขึ้น: รพีพงษ์ คุณมันบ้าจริงๆ คุณกล้าลงมือทำร้ายคนที่โรงพยาบาลจิเรน คุณไม่รู้ถึงความร้ายกาจของคณบดีของเรารึไง!”

“ถึงตอนนั้นคุณอย่าพูดว่ามีความสัมพันธ์ใดๆ กับฉันเลย นะ ฉันไม่อยากติดร่างแหไปกับคุณด้วย”

รพีพงษ์เหลือบมองเธอ พูดขึ้น: “ผมกับคุณไม่ได้มีความ สัมพันธ์อะไรกันอยู่แล้ว”

พีรดารู้สึกเหมือนคำพูดของรพีพงษ์เหมือนว่าเธอกำลัง ดึงความสัมพันธ์กับรพีพงษ์กัดฟันด้วยความโกรธ จากนั้นก็ หัวเราะในใจ รู้สึกว่ารพีพงษ์เสแสร้งเก่งมาก สักพักคณบดี มา เขาซวยแน่

เทพยางค์ไม่สนใจเลยว่า รพีพงษ์จะสามารถจัดการคน เหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย เขาเคยเห็นทักษะของรพีพงษ์ มาก่อน แต่คำพูดของมรรษกรทำให้ในใจของเขาเต้นตุ๊บๆ หากเป็นเพราะเรื่องของรพีพงษ์ ลูกสาวของเขาไม่สามารถ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจิเรนต่อไปได้ เขาจะไม่มี วันให้อภัยรพีพงษ์

เขาเดินไปตรงหน้ารพีพงษ์พูดกับรพีพงษ์ด้วยสีหน้าเศร้า หมอง: “นายรู้ไหมพฤติกรรมของนายส่งผลต่อลูกสาวของ ฉัน ถ้าลูกสาวของฉันไม่สามารถอยู่โรงพยาบาลนี้ได้อีกต่อไป ฉันเอานายตายแน่!

“คุณไม่ต้องกังวล พวกเขาไม่กล้าทำแบบนั้นหรอก และ เมื่อกี้ผมก็ทำเพื่อปกป้องลูกสาวคุณ” รพีพงษ์พูด

เวลานี้เทพยางศ์จะไม่กังวลได้ยังไง เขาแทบจะคลั่งอยู่ แล้ว

“ฉันแม่งไม่สนว่านายจะทำเพื่ออะไร ฉันรู้แค่ว่าผู้อำนวย การคนนั้นพูดแบบนั้นเพราะนาย ถ้าลูกสาวฉันเป็นอะไร ไป นายจะต้องรับผิดชอบ! ” เส้นเอ็นพื้นที่หน้าผากของ เทพยางศ์ เห็นได้ชัดว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับลูกสาว เขาไม่ สามารถใช้เหตุผลได้เลย

พีรดาหัวเราะอยู่อีกฝั่ง พูดขึ้น: “มั่นใจในตัวเองจริงๆ คุณ คิดว่าคุณเป็นใคร เดี๋ยวคณบดีมา จะต้องช่วยผู้อำนวยการ แน่นอน คุณคิดว่าเขาจะช่วยคนขนอิฐที่ยากลำบากอย่าง คุณเหรอ อย่ามาเพ้อฝันที่นี่เลย”

รพีพงษ์ไม่ได้พูดอะไรต่อ สักพักคณบดีมา พวกเขาก็จะรู้ ว่าตัวเองตอแหลอยู่หรือเปล่า

ในไม่ช้า ด้านนอกห้องผู้ป่วยมีเสียงฝีเท้าดังมา ต่อด้วยมรรษกรเข้ามาในห้องผู้ป่วย ด้านหลังมีชายผู้รักษาความ ปลอดภัยกลุ่มหนึ่ง

หลังจากคนเหล่านี้เข้ามา เปิดช่องทางเดินทันที จากนั้น คณบดีที่ใส่แว่น ชาคร เดินมาด้วยสีหน้าย่ำแย่

“ไอ้นี่ คณบดีของเรามาแล้ว จะคอยดูตอนนี้คุณจะอวดดี ยังไง กล้ามาหาอะไรโดยภาระการที่โรงพยาบาลจิเรนของ เรา คุณถือเป็นคนแรก! ” มรรษกรตะโกนใส่รพีพงษ์

จากนั้นเขาก็กันหันไป ต้องการบอกคณบดีเกี่ยวกับความ น่าเกลียดชังของรพีพงษ์ แต่หลังจากหันไป เขาก็พบว่า คณบดีตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่น ตระหนก เขาดูกลายเป็นคนระมัดระวังตัวมากขึ้นเล็กน้อย

พีรดามองรพีพงษ์ด้วยยิ้มอย่างเย็นชา คิดว่าคณบดีจะ ต้องให้ผู้รักษาความปลอดภัยเหล่านี้จัดการรพีพงษ์ที่หยิ่ง ผยองอย่างแน่นอน

ใบหน้าเทพยางศ์เต็มไปด้วยความกังวล หากลูกสาวเขา ถูกไล่ออกจากโรงพยาบาลจิเรนจริงๆ เขาคงไม่มีทางหาโรงพยาบาลที่ดีขนาดนี้ให้กับลูกสาวได้อีกแล้ว

คณบดีไม่รอให้มรรษกรพูด จากนั้นก็รับเดินไปหารพีพงษ์ แล้วยื่นมือออกไปอย่างประหม่า พูดขึ้น: “คุณรพี คิดไม่ ถึงว่าคุณจะอยู่ที่นี่ ทางเราเสียมารยาทไปแล้วจริงๆ ผมไม่ แน่ใจว่าที่นี่เกิดอะไรขึ้น หากคนในโรงพยาบาลทำให้คุณ ขุ่นเคือง ผมจะระบายความโกรธให้คุณรพีอย่างแน่นอน”

ทุกคนในห้องผู้ป่วยตกตะลึง มองไปที่ชาครด้วยความ ประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีท่าทีแบบนี้หลังจากที่เจอ รพีพงษ์

รพีพงษ์ไม่สนใจมือที่ชาครยื่นออกมาเลย แต่มองชาคร อย่างเย็นชา ชี้ไปทางมรรษกร พูดขึ้น: “คุณเป็นคณบดีแบบ ไหนกัน คนอย่างเขาที่ไม่จรรยาบรรณแพทย์แม้แต่นิด เดียว ได้อยู่ในตำแหน่งผู้อำนวยการได้ยังไง?

“หรือว่าโรงพยาบาลจิเรนของพวกคุณ มีมาตรฐานแบบนี้ เหรอ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ