แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่ 286 แบกขึ้นมา



บทที่ 286 แบกขึ้นมา

บทที่ 286 แบกขึ้นมา

การปรากฏตัวของรถตญาณทําให้ทุกคนต่างตกตะลึง ไม่มี ใครคาดคิดว่าผู้ชายที่ได้ยินว่าตายแล้ว จะมาปรากฏตัวในงาน วันเกิดของนายหญิงฝนทิพย์

นายหญิงฝนทิพย์กุมหน้าตัวเอง เธอมองธฤตญาณด้วย สายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ จู่ๆ เธอก็รู้สึกเจ็บที่ใบหน้าอย่างอดไม่ ได้

“ธฤตญาณ! ทําไมแกยังมีชีวิตอยู่ แกควรจะตายไปแล้วไม่ใช่ เหรอ!” นายหญิงฝนทิพย์พูดด้วยน้ำเสียงตกใจ

ธฤตญานส่งเสียงหึ แล้วพูดว่า “ผิดหวังมากสินะ ถ้าผมตาย แล้วใครจะมาจัดการคุณล่ะ

นายหญิงฝนทิพย์โมโห เธอมองไปยังนาฬิกาเรือนใหญ่ตรง กลางสวน เธอหายใจฟืดฟัด ได้รับของแบบนี้ในงานวันเกิดตัว เองเนี่ยนะ มันเท่ากับสิ่งอัปมงคลชัดๆ เพราะนาฬิกาในความ เชื่อมันเท่ากับจุดจบน่ะสิ

นาคมมองธฤตญาณด้วยสีหน้าตกตะลึง อันที่จริงเขารู้ว่าธ ฤตญาณอาจจะมีชีวิตอยู่ ตอนแรกที่เขาส่งริชาร์ดไปตามฆ่ามันผ่านไปนานริชาร์ดก็ไม่ติดต่อมา แสดงว่าริชาร์ดทํางานที่ เขามอบหมายให้ไม่สําเร็จ

แต่ทว่าในใจของฆนาคมคิดว่าถึงธฤตญาณจะมีชีวิตอยู่ แต่ คงไม่มีฝีมืออะไรแล้ว เพราะตอนที่มันหนีไปมันได้รับบาด เจ็บสาหัส ถึงจะโชคดีรอดมาได้ แต่ไม่มีอำนาจในเมืองกรีน โคล สุดท้ายมันคงทำได้เพียงหาที่ที่ไม่มีใครรู้จักเพื่อใช้ชีวิต บั้นปลาย

แต่ใครจะไปคิดว่าธฤตญาณจะปรากฏตัวในงานวันเกิดของ นายหญิงฝนทิพย์ แถมยังตบเธออีกด้วย ดูท่าทางเขาจะกลับ มาแก้แค้นจริงๆ

คนที่ยืนอึ้งจับต้นชนปลายไม่ถูกอย่างบุญสิตา ตอนนี้เธอถูก ธฤตญาณกอดเอาไว้ เธอกลอกตาไปมา หลังจากสัมผัสได้ถึง ความอบอุ่นของธฤตญาณ น้ำตาของเธอก็ไหลออกมา

“ธฤดญาณเป็นนายจริงๆ คนเมื่อวานซืนก็เป็นนายใช่ไหม ทั้ง ชีวิตนี้ฉันไม่เคยลืมแววตาของนาย ฉันรู้ว่านายต้องกลับมา ฮือ ฮือ นายรู้ไหมว่าสองสามปีมานี้ฉันคิดถึงนายขนาดไหน ฉันฝัน ถึงนายทุกคืน เพ้อฝันว่าตื่นขึ้นมาแล้วจะเจอนายอยู่ข้างๆ ฉัน ทรมานกับการรอนายเหลือเกิน…

ธฤตญาณกอดบุญสิตาแน่นขึ้น เขาก้มหน้าแล้วเอามือเช็ดน้ำตาให้เธอ “ต่อไปผมจะไม่ไปจากคุณอีก ครั้งนี้ที่ผมกลับมา ผมจะพาคุณไปด้วย จากนี้จะไม่มีใครกลั่นแกล้งคุณได้อีก”

บุญสิตาพยักหน้าให้เขา ในเวลานี้ ไม่ว่าธฤตญาณจะพูดว่า อะไร เธอจะตอบตกลงทุกอย่าง

“รฤตญาณ แกยังมีหน้ากลับมาอีกนะ วันนี้เป็นวันเกิดของ แม่ฉัน แกเอานาฬิกามาหมายความว่าอะไร แกรนหาที่ตายเห รอ!” หลังจากที่ฆนาคมตั้งสติได้จึงรีบต่อว่าธฤตญาณทันที

“คม ไอ้เลวนั่นมันตบแม่ มันบ้าไปแล้ว ลูกรีบให้คนมาจับมัน โยนออกไปข้างนอกเลยนะ มันไม่สมควรมาร่วมงานวันเกิด ของฉัน!” นายหญิงฝนทิพย์มองธฤตญาณด้วยแววตาดุร้าย

ฆนาคมส่งเสียงหี จากนั้นจึงผิวปาก ต่อมาผู้ชายร่างกายกำ ยาสองคนปรากฏตัวออกมาจากมุม แล้วพุ่งเข้าไปหาธฤต ญาณ

เมื่อทุกคนได้เห็นผู้ชายสองคนนั้นก็ถึงกับตาค้าง

เป็นคนที่เก่งด้านชกต่อยของตระกูลรัตนชัยนันท์ พละกำลัง ของสองคนนี้แข็งแกร่งมาก ธฤตญาณซวยแล้วล่ะ
“การที่มันเลือกกลับมาเป็นทางเลือกที่ไม่ฉลาดเอาเสียเลย แถมยังมาคนเดียวอีกด้วย มาหาที่ตายชัดๆ

“คิดไม่ถึงจริงๆ ธฤตญาณที่เก่งกาจในปีนั้นจะยังมีชีวิตอยู่ จริงๆ แต่ดูท่าทางของมันแล้วดูอ่อนแอกว่าแต่ก่อนเยอะเลย มันมาคนเดียวจะสู้กับคนของตระกูลรัตนชัยนันท์ได้ยังไง น่า สงสารจริงๆ

ทุกคนต่างพากันหดหู่ใจ ถึงแม้ว่าธฤตญาณจะกลับมาแก้ แค้น แต่ก็ไม่ควรมาคนเดียวแบบนี้ อย่างน้อยก็ควรพาใครมา ช่วย

ขณะที่ทุกคนกังวลแทนธฤตญาณ ก็มีร่างของใครคนหนึ่งเดิน เข้ามา ร่างนั้นคือรพีพงษ์นั่นเอง

เขาเดินเข้าไปยืนหน้านาฬิกาเรือนใหญ่แล้วพูดว่า “วันนี้ธฤต ญาณกลับมาทวงคืนความยุติธรรม ฉันจะดูสิว่าใครกล้าแตะ ต้องตัวเขา!”

ทุกคนหันไปมองรพีพงษ์ เมื่อเห็นว่าเป็นเขา ทุกคนตาแสยะ ยิ้มเย้ยหยัน
“การที่ธฤตญาณกลับมาครั้งนี้ คงจะไม่พาไอนี่มาด้วยนะ ถ้า เป็นอย่างนั้นจริงๆ คงตลกน่าดู”

“ไอ้หนุ่มนี่ดูกระฉับกระเฉงดีนะ แต่จะเป็นคู่ต่อสู้กับคนของ ตระกูลรัตนชัยนันท์ได้ยังไง ในหาที่ตายชัดๆ

ฆนาคมจ้องรพีพงษ์แล้วหัวเราะออกมา “ธฤตญาณ แกอย่า บอกนะว่านี่คือคนที่แกพามาช่วย คนประเภทนี้คงจะสู้ไม่ได้ แม้แต่คนที่ฝีมือด้อยที่สุดในตระกูลของฉัน ฉันว่าสองสามปีที่ ผ่านมา แกคงจะเพี้ยนไปแล้ว

ธฤตญาณหรี่ตามองฆนาคม “ถ้าแกดูถูกเขา แกคิดผิดมหันต์ เลยล่ะ”

บุญสิตามองรพีพงษ์ สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความตกใจ คนนี้คือคนที่ช่วยเธอจัดการกับคนของนนท์ปวิธเมื่อวานซือนี่

นา

เธอสูดหายใจเฮือก เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมรพีพงษ์ถึงช่วย เธอ ที่แท้คนนี้คือคนที่ธฤตญาณพามาด้วย

แต่ทว่าเธอกังวลใจเล็กน้อย ถึงแม้จะรู้ว่าฝีมือของรพีพงษ์ไม่ ได้ด้วย แต่ตอนนี้คนของตระกูลมีราวๆ สามสิบคน รพีพงษ์กับ ธฤตญาณแค่สองคนจะชนะพวกเขาคงยาก
“ไอ้ใหญ่ ไอ้สอง พวกแกไปจัดการธฤตญาณ ส่วนคนที่เหลือ ไปจัดการไอ้หนุ่มนั่นซะ ให้มันรู้อำนาจของตระกูลเราซะบ้าง! นาคมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ไอ้ใหญ่และไอ้สองวิ่งเข้าไปหาธฤตญาณ ส่วนคนที่เหลือ เข้าไปล้อมรพีพงษ์เอาไว้

ขณะนั้นรพีพงษ์วางมือข้างหนึ่งลงบนนาฬิกาเรือนใหญ่ ส่วน อีกมือก็วางไว้ที่ฐานของนาฬิกาแล้วใช้แรงยกขึ้นมา นาฬิกาที่ ต้องใช้แรงผู้ชายเจ็ดถึงแปดคนในการยก รพีพงษ์กลับยกได้ เพียงคนเดียว

คนที่เห็นภาพนั้นต่างพากันอึ้ง คนที่หัวเราะเยาะรพีพงษ์ต่าง พากันอ้าปากค้าง บางคนถึงกับต้องยืนขึ้น

“แม่เจ้า นาฬิกาเรือนใหญ่เรือนนั้นอย่างน้อยก็หนักห้าหกสิบ กิโลเลยนะ เข้าแบกมันขึ้นมาคนเดียวเนี่ยนะ

คนที่ล้อมรพีพงษ์เอาไว้ เมื่อเห็นภาพนั้น จู่ๆ พวกเขาก็ไม่ กล้าเข้าไปใกล้รพีพงษ์

ยกนาฬิกาเรือนใหญ่คนเดียวได้ ถ้าเขาระเบิดพลังออกมา กลัวว่าจะฆ่าพวกเขาตายแค่หมัดเดียวน่ะสิ
ยิ่งไปกว่านั้นไม่แน่ว่านาฬิกาในมือของรพีพงษ์อาจจะทุบ ลงไปบนหัวใครสักคนก็ได้ คนของตระกูลรัตนชัยนันท์พากัน หวาดกลัว

หลังจากที่รพีพงษ์ยกนาฬิกาขึ้นมา เขาโยนมันไปหาไอ้ใหญ่ และไอ้สอง นาฬิกาลอยขึ้นบนฟ้าและตกลงมา ไอ้ใหญ่กับไอ้ สองไม่ทันตั้งตัวก็โดนนาฬิกาเรือนใหญ่ทับเต็มๆ

นาฬิกาเรือนใหญ่หนักห้าหกสิบกิโล ถึงไอ้ใหญ่กับไอ้สองจะ แข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่สามารถหลุดออกมาได้ง่ายๆ

หลังจากที่จัดการกับไอ้ใหญ่และไอ้สอง รพีพงษ์ก้าวเข้าไป แล้วกระโดดขึ้นไปบนนาฬิกาแล้วปรายตามองคนในงาน “วันนี้ คือความแค้นระหว่างธฤตญาณกับตระกูลรัตนชัยนันท์ ถ้าใคร อยากขวางก็ผ่านศพฉันไปก่อน

“ถ้ามีอะไรไม่พอใจก็พูดออกมาก่อน หมัดมันไม่มีตาหรอกนะ เดี๋ยวถ้ามีใครตายคามือฉันจะมาหาว่าฉันไม่เดือน!”

เมื่อได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ไม่ว่าคนที่มาร่วมงานหรือคน ของตระกูลรัตนชัยนันท์ต่างพากันสูดหายใจเฮือก

ตอนนี้ไม่มีใครสงสัยว่ารพีพงษ์พูดจริงหรือไม่ ดูจากการที่เขา แบกและโยนนาฬิกาด้วยตัวคนเดียว ตอนนี้ไม่มีใครกล้าเข้าไปหาเรื่องธฤตญาณกับรพีพงษ์แล้ว

ฆนาคมมองรพีพงษ์แล้วกลืนน้าลายลงคอ เขาไม่เคยคิดว่า คนที่ธฤตญาณพามาจะสู้กับคนจำนวนมากได้

เขาหันไปมองธฤตญาณแล้วพูดว่า “ธะ ธฤตญาณ แก หมายความว่าอะไร อย่าบอกนะว่าแกกลับมาแสดงอำนาจของ ตัวเองอย่างนั้นเหรอ”

ธฤตญาณมองฆนาคมด้วยสายตาเย็นชา “ฆนาคม ฉัน อุตส่าห์ช่วยแก แต่แกกลับเนรคุณ เอาคนมาหักหลังฉัน แกว่า ฉันกลับมาครั้งนี้ฉันควรจะคิดบัญชีกับแกไหม”

“ไร้สาระ ตอนนั้นแกไม่มีปัญญาเอง ทุกคนเลยไม่นับถือแก คมไปหักหลังแกตอนไหน เขามีวันนี้ได้เพราะความสามารถ ของตัวเอง!” นายหญิงฝนทิพย์พูดแทนมนาคม

ธฤตญาณแสยะยิ้มแล้วมองนายหญิงฝนทิพย์ “เรื่องนี้จะไม่ เกี่ยวกับคุณก็ไม่ได้ วันนี้พวกคุณหนีไม่พ้นหรอก!”

“นายหญิงฝนทิพย์ สองสามปีมานี้คุณปฏิบัติต่อบุญสิตายัง ไง ไม่ต้องบอกก็พอเดาได้ คุณอยากให้เธอแต่งงานกับไอศูรย์ คุณ ตาบอดจริงๆ”
นายหญิงฝนทิพย์ไม่สนใจคำพูดของธฤตญาณ เธอแสยะยิ้ม แล้วพูดว่า “ฉันเดือนแกไว้นะ แกอย่าอวดดี ในเมื่อแกรู้ว่าฉัน จะให้บุญสิตาแต่งงานกับไอศูรย์ งั้นแกก็คงเดาได้ว่าอีกเดี๋ยว คนของตระกูลวรโชติธีรธรรมจะมาร่วมงานเลี้ยง

“ตระกูลวรโชติธีรธรรมเป็นตระกูลด้านการต่อสู้บูโดมาหลาย ชั่วอายุ คนที่มาเป็นคนมีฝีมือทั้งนั้น ตอนนี้พวกแกอวดดีได้ แต่ รออีกเดี๋ยวแกจะไม่ได้อวดดีอย่างนี้แน่นอน

ธฤตญาณแสยะยิ้มมุมปาก “คุณไม่ต้องรอแล้วล่ะ ไอศูรย์กับ พ่อมันไปเฝ้ายมบาลแล้ว มันกล้ามายุ่งกับผู้หญิงของผม คุณ คิดว่าผมจะปล่อยมันไว้เหรอ”

“แกอย่ามาโกหก สองพ่อลูกตระกูลวรโชติธีรธรรมแข็งแกร่ง มาก แกพูดว่าจะฆ่าเขาก็ฆ่าได้งั้นเหรอ ฉันว่าแกแค่พูดอวดดี ไปแค่นั้นแหละ ขนาคมพูดออกมา

นายหญิงฝนทิพย์แสยะยิ้ม “ไม่เจอกันสองสามปี แกนี่พูด อวดเก่งขึ้นนะ แกคิดว่าแกคือธฤตญาณเมื่อปีนั้นเหรอ ฉันจะ บอกให้นะ ในสายตาของตระกูลเรา แกยังมีค่าน้อยกว่าหมา เสียอีก!”

ในขณะนั้นมีคนวิ่งกุลีกุจอเข้ามาหานายหญิงฝนทิพย์ เขาทํา หน้าเหยเกแล้วพูดว่า “แย่แล้วครับนายหญิง หน้าประตูบ้านตระกูลวรโชติธีรธรรมแขวนผ้าขาว พวกเขาบอกว่าวีรนาถ กับไอศูรย์ตายแล้วครับ!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ