แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่ 115 ฉันว่าคงไม่ใช่อย่างนั้น



บทที่ 115 ฉันว่าคงไม่ใช่อย่างนั้น

วันที่สองอารียาไปที่บริษัทเพิ่งนั่งลงก็มีคนมาแจ้งเธอว่านภทีป์ รู้สึกว่าเธอทำงานหนักในช่วงนี้ก็เลยให้วันหยุดกับเธอ

อารียา เข้าใจทันทีเลยว่าหมายความว่าอะไร ดูท่าทีแล้วของจะไล่ เธอออกจากโปรเจคจริงๆ

อารียา ไม่รู้เขาจะทำยังไงและไม่มีวิธีด้วย ก็เลยต้องออกจาก บริษัทแล้วกลับไปที่บ้าน

ช่วงนี้เธอเองก็เหนื่อยจริงๆ พักสักแป๊บก็คงไม่เป็นไร

แต่หลังจากที่เธอกลับบ้านก็พบว่ารพีพงษ์ออกไปแล้วไม่รู้ว่าไปทำ อะไร ที่ไรอยากจะพูดคุยกับรพีพงษ์ แต่ที่นี่ไม่มีคนที่จะรับฟังแล้ว

แต่พอศศินัดดาเห็นอารียากลับมา ก็ถามยังส่งสัยว่า ลูก กลับมา ทำไมวันนี้ไม่ต้องไปทำงานที่บริษัทหรอ?”

อารียา ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ปู่บอกว่าช่วงนี้ฉันเหนื่อยเกินไปก็ เลยให้ฉันมาพักผ่อน โปรเจคครั้งนี้คงจะเปลี่ยนคนรับผิดชอบ” สีหน้าของศศินัดดาเปลี่ยนไปทันที “เพราะเรื่องเมื่อวานหรอ? ไอ้ ชั่วรพีพงษ์ทำให้ลูกสาวฉันตกงานเลย”

“แม่ เมื่อวานแม่ไม่ได้พูดแบบนี้นะ ถ้าเมื่อวานเอารถและบ้านให้ไป ก็จะโทษเรื่องนี้อีก” อารียาขมวดคิ้วพูด

ศศินัดดา ไม่รู้สึกว่าตัวเองผิดเลยแม้แต่น้อย “ลูก ถ้าครั้งนี้ปู่จะไล่ ลูกออกจริงๆ งั้นก็ต้องให้รพีพงษ์รีบโอนชื่อให้ลูกนะ ไม่อย่างนั้น พวกเราคงจะต้องดูสีหน้าของรพีพงษ์”

อารียา ไม่อยากคุยกับศศินัดดา เลยแม้แต่น้อย เพราะได้ยินหล่อน พูดแบบนี้ก็เดินเข้าไปในห้อง

หน้าประตูบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป

รายุกรและนภทีป์ เดินมาทางนี้ ทั้งสองเห็นหน้าตาของสาขาย่อย

ก็รู้สึกดีใจมาก

“นี่เป็นเพียงสาขาย่อยแต่ดูอลังการกับบริษัทพวกเราอีก บริษัทซัน บับเบิล กรุ๊ปทำให้พวกเราเริ่มไม่ถึงจริงๆ ” นภทีป์พูด “ปูอย่าพูดยังงั้น แค่ครอบครัวเราไม่ถึงโอกาสเท่านั้นแหละ รอครั้ง นี้เปลี่ยนคนรับผิดชอบเป็นผม ผมจะนำพาบริษัทและตระกูลเรา ก้าวสู่อนาคตที่ดี ! ” ธายุกรรีบพูดอย่างมั่นใจ

นภทีป์ พยักหน้า จากนั้นก็พยุงกันเดินเข้าไป

ธายุกร เดินไปที่เคาน์เตอร์บอกว่ามาหาผู้จัดการของที่นี่

ครั้งที่แล้วเจตนิพัทธ์ถูกลดตำแหน่ง ผู้จัดการของที่นี่ก็เปลี่ยนคน เรียรวิชญ์รู้สึกว่ารพีพงษ์อยู่ที่นี่บ่อย โอกาสที่จะใช้บริษัทนี้เยอะก็ เลยมาทำงานที่นี่

ตอนนี้คนที่ดูแลบริษัทก็คือเรียรวิชญ์เอง

“ผู้จัดการของพวกเราไม่อยู่ แต่ผู้อำนวยการของเราอยู่ที่ห้อง ทำงาน ถ้าคุณมีธุระอะไรหรือฉันจะไปแจ้งให้” พนักงานเคาน์เตอร์

พูด

ธายุกร ตาสว่างทันที ไม่คิดว่าผู้จัดการของบริษัทจะอยู่ที่นี่ ถ้าได้ พบกับผู้จัดการไม่มีเรื่องไหนดีกว่านี้แล้ว

” งั้นคงจะรบกวนหน่อยแล้ว” ธายุกร ยิ้มบนพูด พนักงานเคาน์เตอร์ถามชื่อของธายุกร ถามเหตุผลที่มา จากนั้นก็

เดินไปทางห้องทำงาน

ธายุกร พูดกับนภทีป์อย่างมีความสุข “ปู่พูดเหมือนกับของบริษัท อยู่ที่นี่ เผลอๆ วันนี้เราจะได้เจอผู้จัดการนะ”

นภทีป พยักหน้า จากนั้นไปจับที่หนวดของตัวเอง เขาคิดว่าตัวเอง ก็ถือเป็นคนมีฐานะในเมืองริเวอร์ ถึงมันจะเป็น ผู้อำนวยการของ บริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปก็ควรจะมาพบเขาก่อน

ในห้องทำงานรพีพงษ์กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ เธียรวิชญ์ยืนอยู่ตรง หน้าของเขา

“พี่รพี สบายใจได้ ถ้าตระกูลฉัตรมงคล มาหาผมเปลี่ยนเรื่องคน รับผิดชอบผมจะให้พวกเขาได้ลองดีแน่ๆ” เธียรวิชญ์ ยิ้มปนพูด

รพีพงษ์ พยักหน้า จากนั้นก็ดื่มชาที่วางอยู่บนโต๊ะและพูดว่า “แกก็ สบายนะ ชานี้ราคาคงไม่เบา”

“พี่รพี พูดอะไรเนี่ย ถ้าชอบผมจะให้คนส่งไป 10 กิโลทันทีเลย” เธียรวิชญ์พูด

รพีพงษ์ส่ายมือ “ฉันไม่ชอบความสบายเก็บไว้ดื่มเองเถอะ” แล้วในตอนนี้ก็มีคนมาเคาะประตู เสียงของเธียรวิชญ์ฟังน่าเกรง ขามขึ้นมาทันที “มีอะไร?”

“ผู้อำนวยการด้านต้องมีคนสองคนจะพบท่านบอกว่าเป็นคนของ ตระกูลฉัตรมงคลมีโปรเจคร่วมกับบริษัทเรา” พลังงานพูด

เธียรวิชญ์ มองไปทางรพิพงษ์ รพีพงษ์ พยักหน้า เธียรวิชญ์ รีบ ตอบกลับไปว่า “ให้พวกเขารอก่อนฉันยุ่งเสร็จจะให้พวกเขาเข้ามา”

“ได้ค่ะผู้อำนวยการ” พนักงานเคาน์เตอร์ได้รับคำสั่งก็รีบไปแจ้ง

“พี่รฟ์จะให้ผมว่าร้ายเพราะเขาบอกหน้าพี่ไหม จะให้เพราะเขารู้ว่า พี่ก็ไม่ใช่คนที่จะหาเรื่องได้ไงง่าย” เธียรวิชญ์ถาม

รพีพงษ์มีหุ้นนอนลุกขึ้นจะเข้าอีก” ไม่ต้องแล้วเรื่องที่เหลือจัดการ

เองเลยฉันจะกลับก่อน ”

พูดจบเขาก็เดินออกจากห้องทำงานและลงลิฟต์

ชั้นหนึ่ง ธายุกรและนภทีป รู้สึกดีใจมาก เพราะเมื่อกี้พนักงานหน้า เคาน์เตอร์มาบอกเขาว่า ผู้อำนวยการกำลังยุ่งอยู่เดี๋ยวก็จะมาพบกับ

เขา ผู้อำนวยการของบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปจะมาพบพวกเขามันก็ หมายความว่าบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปเห็น ความสำคัญของพวกเขา

มาก

“ปู่ ครั้งนี้พวกเราจะต้องพูดดีดีเผลอๆอาจจะได้อย่างอื่นที่ดีกว่านี้” ธายุกรยิ้มแล้วพูด

“แกนี่ฉลาดจริงๆ เลย ถ้ามีสัมพันธ์ไมตรีที่ดีกับผู้อำนวยการบริษัท ซันบับเบิล กรุ๊ป ตระกูลพวกเราจะได้เจริญพัฒนาสักที” นภทีป์ก็ พูดด้วยความมั่นใจ

ฉันในตอนนี้รพีพงษ์ลงจากบันไดกำลังเดินไปดันนอก ได้เจอกับ

นภทีปและธาตุกรพอดี

เขาไม่ได้หลบหนีแต่เดินตรงไป “บังเอิญจังเลยที่ปู่ก็มาที่นี่”

หลังจากที่นภทีป์และธายุกรเห็นรพีพงษ์ก็ประหลาดใจ ไม่คิดว่า รพีพงษ์จะออกมาจากด้านใน

“รพีพงษ์แกมาที่แบบนี้ได้เลยหรอ? มาทำไม?เกรงใจ ธายุกร ถามยังไม่

“มาพบเพื่อนรพีพงษ์ตอบ ธายุกร นึกได้ว่ารพีพงษ์เป็นคนเอาโปรเจคนี้ให้ ที่เขามีเพื่อนอยู่ที่นี่ ก็ไม่แปลก

“ฮ่าๆ อย่าบอกนะว่าเธอมาขอร้องแทนอารียา จะบอกให้แกนะว่า ปู่ตัดสินใจจะเปลี่ยนคนรับผิดชอบโปรเจคนี้แล้ว ถึงแม้แกจะหา เพื่อนก็ไม่มีประโยชน์ เดี๋ยวเพื่อนเขาจะได้พบหน้ากับผู้อำนวยการ ของบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปเลยนะ”

เขารู้สึกว่าถึงแม้จะมีเพื่อนอยู่ที่นี่ก็ไม่ใช่คนที่เก่งนัก เทียบกับ ผู้ อำนวยการไม่ได้เลย

พอแล้ว ไม่ต้องไปพูดกับเขา ให้เขารีบไปจากที่นี่ อย่ามากระทบ การพบหน้าของพวกเรากับท่วมหน่วยการ” นกทีป์ พูดด้วยน้ำเสียง ที่เย็นชา

ธายุกร รีบจิกตาให้รพีพงษ์ “ยังไม่ใส่หัวไปอีก เดี๋ยวทำให้ผู้อำนวย การโกรธ แกจะรับผิดชอบไหวหรอ ? ”

รพีพงษ์ ยิ้มแล้วพูดว่า “งั้นขอให้โชคดี”

พูดจบเขาก็หันหลังเดินไป

ธายุกรเป็ปาก ในใจคิดอยู่ว่าที่เขานิ่งขนาดนี้ต้องเป็นเพราะว่า สั่งภาพแน่นอน ที่พวกเขาจะเจอกับผู้อำนวยการในใจของรพีพงษ์ คงจะใจร้อนเป็นบ้า

ทั้งสองกำลังรอคอยอย่างมีความสุข แต่รอไป 1 ชั่วโมงก็ยังไม่มี ใครมาเรียก

ธายุกร ก็เริ่มจะรอไม่ไหวแล้ว นภที่ป์ เองก็อายุมากยืนนานทำให้ ปวดเอวตอนนี้ก็เริ่มทนไม่ไหวเหมือนกัน

รายุกร เห็นที่ไม่ไกลมีเก้าอี้วางอยู่อยากจะให้นภทีบ์ไปนั่ง แต่ใน เวลาเดียวกันก็มีพลังงานเอาน้ำยาทำความสะอาดไปฉีด แถมยังไม่ เช็ดให้เสร็จแล้วไปทำงานอย่างอื่น

นภทีป์ จะพูดอะไรก็พูดไม่ได้ ปกติเขาไม่เคยโดนแบบนี้ แต่พอดี จะได้เจอกับพวกบริการเขาก็จำเป็นต้องทน

ผ่านไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมงกระดูกของนกที่ป์จะหักแล้ว

พนักงานเช็ดเก้าอี้สะอาดสักที

เขารีบเดินไปกำลังจะนั่งพัก

และในตอนนี้พนักงานเคาน์เตอร์ก็เดินมาหา “ผู้อำนวยการทำธุระเสร็จแล้ว ทั้งสองท่านขึ้นไปได้”

นกที่ป์ กัดกรามแน่นแล้วเดินไปทางลิฟต์พร้อมธายุกร ในใจคิดอยู่ เพื่อที่จะเปลี่ยนคนรับผิดชอบอดทนสักนิดไม่เป็นไร

ทั้งสองเดินไปถึงประตูทางเข้าห้องทำงานของเรียรวิชญ์ รายุกร

หายใจเข้าลึกๆและยื่นมือเคราะห์ประตู

“เชิญ” มีเสียงของเธียรวิชญ์ดังขึ้น

ธายุกร รีบเปิดประตูและพานภห์ป์เข้าไป

“สวัสดีค่ะผู้อำนวยการผมคือธายุกรจากตระกูลฉัตรมงคลนี่คือปู่

ของผมนภที่ป์” ธายุกร รีบแนะนำตัว

เรียรวิชญ์ นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ก้มหน้าดูเอกสาร “เชิญนั่ง”

นภทีป์ รีบไปนั่งที่โซฟาและรับรู้ถึงความนุ่มของโซฟาได้อย่าง ชัดเจน เขาถึงจะโล่งอก

“พวกคุณมาหาผมมีธุระอะไร?” เธียรวิชญ์เงยหน้ามองไปทางทั้ง

สอง เธียรวิชญ์ ในตอนนี้บนใบหน้าเต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม สายตาเฉียบคม ไม่เหมือนตอนที่อยู่กับรพีพงษ์เลย

ทีแรกธายุกรอยากจะพูดแต่ถูกนภทีป์ห้ามไว้ก่อน

นกที่ป์มองไปทางเธียรวิชญ์ “ผู้อำนวยการก็คงจะรู้ว่าระหว่างพวก เรามีโปรเจคที่ร่วมงานอยู่ ครั้งนี้ที่พวกเรามาเพื่อจะมาคุยกับ ผู้ อำนวยการว่าพวกเราจะเปลี่ยนคนรับผิดชอบ หวังว่ากลัวเหมือนกัน จะตกลง”

“อ่อ ? สาเหตุเพราะ ?” เธียรวิชญ์ ถาม

“คือแบบนี้ ตอนนี้คนที่รับผิดชอบของพวกเราชื่ออารี เป็นผู้หญิง ไม่ว่ายังไงก็คือผู้หญิง มีความผิดพลาดเยอะ แถมนี่ยังเป็นโปรเจค ใหญ่ ผมก็เลยอยากจะให้หลานชายของผมมาแทนที่ การทำงานข องธายุดีมาก หลังจากที่รับมือโปรเจคนี้จะสร้างรายได้ให้เราทั้งสอง ฝ่ายได้มากกว่านี้” นภทีป์พูด

“ใช่ ความสามารถของผมมากกว่าอารียา 100 เท่า ตอนที่ทำโปรเจ คเธอ แค่ทำหน้าทำตาทำอะไรไม่เป็น ถ้าเปลี่ยนเป็นผมโปรเจคนี้จะ เสร็จอย่างสมบูรณ์” ธายุกร เองก็พูดอย่างมั่นใจ

เรียรวิชญ์ มองไปทางทั้งสองแล้วหัวเราะ “คุณเก่งกว่าอารียา? ผม ว่าคงไม่ใช่อย่างนั้นมั้ง?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ