แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่108 ฉันไม่ได้คิดจะยุ่งอะไร



บทที่108 ฉันไม่ได้คิดจะยุ่งอะไร

หลังจากบุษบากรทรงตัวได้แล้ว ก็เพิ่งเห็นอย่างชัดเจนว่า ตรงหน้าของตัวเองนั้นคือรพีพงษ์

เธอดื่มเหล้าไป ใบหน้าแดงเรื่อ ดวงตาเบลอลอยนิดๆ หลังจากแน่ใจว่าคือรพีพงษ์แล้ว ก็รู้สึกน้อยใจขึ้นมาทันที แล้วยื่นมือออกไปกอดรพีพงษ์

รพีพงษ์ขวางเธอเอาไว้แล้วเอ่ยถาม “เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยัง ไง?”

บุษบากรเห็นว่ารพีพงษ์ไม่ยอมให้เธอแตะต้อง ทั้งยังมี สีหน้าเย็นชา ก็ร้องไห้ออกมาอย่างน้อยใจ ตอนนี้รพีพงษ์ ถามว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ เธอก็ต้องมาตามหารพีพงษ์ อยู่แล้วน่ะสิ

ไม่นานก่อนหน้านี้ หลังเธอเข้ามาในสตาร์กาย ก็ไปถาม พนักงานต้อนรับว่ารพีพงษ์อยู่ที่ห้องไหน

พนักงานต่างแสดงท่าทีว่าไม่รู้ บุษบากรจึงได้แต่เดินวน ไปรอบสตาร์กาย ตามหาตัวรพีพงษ์ไปทุกที่ และถามหา เขากับทุกคน บุษบากรที่เชื่อคำพูดนั้น ตามเขาไปยังห้องห้องหนึ่ง ภายในห้องนั้นมีผู้ชายนั่งอยู่ไม่น้อย พร้อมด้วยเหล่าหญิง สาวที่สวมชุดเซ็กซี่ ผู้ชายเหล่านั้นดูเหมือนว่าจะมีอิทธิพล มาก เห็นดังนั้นบุษบากรก็เริ่มหวั่นกลัวขึ้นมา

ชายที่พาเธอมานั้นบอกเธอว่ารพีพงษ์ไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาให้ คนไปเรียกให้แล้ว และให้บุษบากรนั่งดื่มที่นี่ก่อน

บุษบากรได้แต่นั่งกับคนพวกนั้น รอให้รพีพงษ์มา

ชายที่พาเธอไปคนนั้นเริ่มให้เธอดื่มเหล้าอย่างรวดเร็ว บุษบากรที่ไม่เคยมาที่แบบนี้มาก่อน เพียงพูดไม่กี่คำก็ถูก เซ้าซี้จนดื่มเข้าไป

เพียงไม่นาน เธอก็ดื่มจนเมามาย

ในขณะนั้นผู้ชายพวกนั้นก็เริ่มใช้มือไม้ลวนลามเธอ ทั้ง ปากก็ยังพูดถ้อยคำสากหู

จนเมื่อถึงตอนนั้น บุษบากรจึงเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองถูกหลอก เธอคิดว่าลุกขึ้นทันที แต่ก็ถูกชายที่สวมสร้อยทองจับเอา ไว้ ชายคนนั้นบอกว่าบุษบากรใส่ชุดวับแวมขนาดนี้ ไม่ใช่ว่า ออกมาหาผู้ชายเหรอ หาใครก็เทียบไม่ได้กับการได้มา เล่นกับพวกเขา

จากนั้นผู้ชายทั้งห้องก็ลุกขึ้นยืน คิดจะรุมล้อมบุษบากร ไว้

บุษบากรปัดป้องมือของคนพวกนั้นอย่างยากลำบาก แล้ว วิ่งออกมานอกห้อง ก่อนจะชนเข้ากับรพีพงษ์

บุษบากรมองรพีพงษ์ด้วยความน้อยใจ กัดริมฝีปาก พูด”ทั้งหมดก็เพราะนาย อีกนิดเดียวฉันก็เกือบจะถูก ข่มเหงอยู่แล้ว นายมันใจร้ายเกินไปแล้ว”

รพีพงษ์สับสนไปหมด เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบุษบากรมาทำ อะไรที่นี่ นี่จะโยนความผิดมาที่ตัวเขางั้นเหรอ?

“อืม” รพีพงษ์ตอบกลับคำหนึ่ง ก่อนจะเดินต่อ เขาไม่ได้ รู้สึกกับบุษบากร แล้วก็ขี้เกียจจะสนเรื่องของเธอด้วย

บุษบากรไม่นึกว่าจะเห็นสีหน้าของรพีพงษ์ที่ไม่สนว่าเธอ จะเป็นยังไง ในใจก็อยากจะร้องไห้ออกมา ผู้ชายคนนี้ ไร้ ความรู้สึกเกิน ในตอนนั้นเองผู้ชายหลายคนก็วิ่งออกมาจากห้อง เมื่อ เห็นบุษบากรยืนอยู่หน้ารพีพงษ์ ก็วิ่งเข้ามาทันที

“เธออยู่นั่น รีบจับตัวเธอไว้ คืนนี้ฉันเล็งเธอไว้แล้ว ผู้หญิง ที่เวทนถูกใจ ต้องไม่มีใครหนีไปได้แม้แต่คนเดียว!”คนที่ เป็นหัวหน้าตะโกนสั่ง

บุษบาเห็นดังนั้น ก็ตื่นตกใจรีบเข้าไปซ่อนด้านหลังของ รพีพงษ์

“พวกนายอย่าเข้ามานะ นี่คือแฟนของฉัน ฉันมาหาเขา พวกนายอย่ามายุ่งกับฉัน”

คนกลุ่มนั้นล้อมรพีพงษ์และบุษบากรเอาไว้ทันที

รพีพงษ์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่คาดคิดว่าบุษบากรจะบอก ว่าเขาคือแฟนของเธอ

เวทนจ้องมองรพีพงษ์ ในดวงตาฉายแววหยามเหยียด “ไอ้นี้ จึงเป็นใครวะ ถึงได้กล้ามายุ่งเรื่องของกู”

“ฉันก็ไม่ได้คิดจะยุ่งอะไร”รพีพงษ์พูด ทาง” เวทนมองรพีพงษ์ คิดว่าเขาเห็นคนของตัวเองมีมาก จึงกลัว ดังนั้นถึงไม่คิดจะยุ่งด้วย

บุษบากรหน้าถอดสี ไม่คิดว่าจะหมดหวังกับรพีพงษ์ ขนาดนี้

“รพีพงษ์ หรือนายพกคนจะตายก็ไม่ช่วยงั้นเหรอ! เรื่องนี้ ถ้าอารีรู้เข้า นายคิดว่าเธอจะมองนายยังไง?”บุษบากรพูด อย่างเจ็บใจ

รพีพงษ์ส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่คิดจะยุ่งจริงๆ ถึงยังไงเขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบุษบากรมาทำอะไรที่นี่ แต่เมื่อ ได้ยินคำพูดของบุษบากร รพีพงษ์ก็รู้สึกว่าคงจะให้เกิด เรื่องกับเธอไม่ได้

บุษบากรคือเพื่อนสนิทที่ดีที่สุดของอารียา ถ้าเกิดเรื่อง กับเธอล่ะก็ อารียาต้องรู้สึกไม่ดีแน่

“งั้นเธอก็ต้องยอมรับว่าฉันไม่ใช่แฟนของเธอ ฉันถึงจะ ช่วย”รพีพงษ์พูด

บุษบากรกัดปากมองรพีพงษ์ ไม่นึกว่าเขาจะจริงจังขนาด นี้ เวทนมองทั้งสองคนคุยกัน บนใบหน้าฉายแววเหยียด

หยาม

“แม่ม พูดอย่างกับว่าแกช่วยเธอแล้ว เรื่องวันนี้มันจะ แก้ไขได้อย่างนั้นแหละ ไอ้นี่ ในเมื่อแกไม่ใช่แฟนของเธอ งั้นฉันก็แนะนำว่าอย่ามายุ่งเรื่องไม่เข้าเรื่อง ไม่อย่างนั้นล่ะ ก็ แกจะได้เสียใจทีหลัง” เวทนพูดอย่างเย็นชา

บุษบากรได้ยินคำพูดของเวทน ก็รู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย เธอเพิ่งจะขอให้รพีพงษ์มาช่วย โดยลืมไปโดยสิ้นเชิงว่า ทางนี้ก็มีคนเยอะ รพีพงษ์แค่คนเดียว จะไปจัดการได้ยัง ไง

“ไสหัวไปตอนนี้ ฉันจะไม่เอาเรื่องพวกนาย ฝ่ายที่จะ เสียใจทีหลังมันพวกนายต่างหาก”รพีพงษ์เอ่ยเสียงเย็น

บุษบากรได้ยินรพีพงษ์พูดแบบนั้น ก็หน้าถอดสีทันที “เจ้า บ้า นายหาเรื่องใส่ตัวแล้วไม่ใช่เหรอ นายคนเดียวจะไปสู้ คนมากขนาดนั้นได้ยังไง ฉันน่าจะรู้ว่าให้โมโหดิ้นตายยังดี กว่าให้นายมาช่วยซะอีก”

“งั้นตอนนี้ฉันก็เดินต่อไปได้ แล้วปล่อยให้เธอจัดการ เอง”รพีพงษ์พูด “กล้ามาบอกให้ฉันเวทนไสหัวไป แกเป็นคนแรกที่พูดคำ นี้ วันนี้ฉันคงไม่ได้แค่อยากเล่นกับผู้หญิงคนนั้นแล้วล่ะ ฉัน จะทำให้แกรู้ซึ้งถึงความแข็งแกร่งของฉัน”

บุษบากรได้ยินเวทนพูดดังนั้น ก็กังวลขึ้นมา เธอบ่นในใจ วีรพงษ์โง่เกินไป แค่ประโยคเดียวก็ทำให้คนโมโหได้ ทีนี้พวกเขาสองคนก็หนีไปไหนไม่ได้แล้ว

“รพีพงษ์ นายนี่มันโง่ชะมัด ทีนี้ก็จบกันแล้ว พวกเราหนีไม่ รอดแล้ว โดนฆ่าจริงๆ แน่”บุษบากรพูด

“เฮ้ๆ สาวน้อย ถ้าเธอมาเล่นกับฉันดีๆ ฉันจะสั่งสอนเขา ให้เธอ ว่ายังไง?” เวทนพูดกลั้วหัวเราะ

“เหลวไหล! นายมีสิทธิ์อะไรมาสั่งสอนเขา ถ้านายกล้าทำ อะไรเขา ฉัน…ฉันจะสู้ขาดใจแน่”บุษบากรพูดพลางจ้อง เขม็ง

แม้ว่าเธอจะโมโหรพีพงษ์ที่ทำให้คนอื่นโกรธได้ด้วย ประโยคเดียว แต่นั่นก็แค่หงุดหงิดรพีพงษ์เท่านั้น ตอนนี้ เธอยังคงโหยหารพีพงษ์ จึงไม่ยอมให้คนอื่นมารังแกรพี พงษ์ได้ สาวคิดจะทำอะไรกันแน่

สีหน้าของเวทนเปลี่ยนไปอย่างดูไม่ดี ดวงตาทั้งสองของ เขาถลึงจ้องไปที่บุษบากร พูดด่า”ไอ้แม่ม ไว้หน้าให้ก็ไม่รู้ จักรับ ฉันจะเก็บไอ้นี่ก่อน แล้วต่อไปฉันจะให้เด็กๆ ของ ฉันเล่นกับแก!”

พูดจบ เวทนก็เบนสายตาไปทางรพีพงษ์ พูดอย่างเย็นชา “จัดการมันซะ ให้มันรู้ถึงความแข็งแกร่งของพวกเรา!”

พวกลูกน้องของเวทนลงมือกับรพีพงษ์ทันที

ในตอนนั้นเองบุษบากรกัดฟัน ขึ้นมายืนอยู่ตรงหน้ารพี พงษ์ “ปล่อยเขาไปเถอะ ฉัน…ฉันจะไปกับพวกคุณ”

เวทนนิ่งอึ้ง ไม่นึกว่าบุษบากรจะถึงกับยอมไปกับเขาเพื่อ ไอ้หนุ่มนี่

รพีพงษ์เองก็ไม่นึกว่าบุษบากรจะเสียสละตัวเองเพื่อเขา แต่เขาไม่ต้องการจะติดหนี้บุญคุณกับบุษบากร แถม อันธพาลกลุ่มนี้ ก็ทำอะไรเขาไม่ได้อยู่ดี บุษบากรหันไปมองรพีพงษ์ พูด “นายบ้าไปแล้วเหรอ พวกเขามีกันตั้งเยอะ นายคนเดียวจะไปจัดการได้ยังไง”

รพีพงษ์ยิ้ม ก่อนดึงบุษบากรไปไว้ด้านหลัง แล้วพูดกับ เวทน “เข้ามาให้หมด รีบสู้รีบเสร็จ”

สีหน้าของบุษบากรเต็มไปด้วยความกังวลด่ารพีพงษ์ใน ใจว่าโง่เง่า ทำแบบนี้มันหาที่ตายชัดๆ

แต่ในจังหวะนั้นคนของเวทนก็ลงมือแล้ว เธออยากจะ ขวางก็ขวางไม่ทัน

พวกลูกน้องของเวทนต่างยื่นมือออกมาคว้าตัวรพีพงษ์ ถ้าเทียบกับลูกน้องของพิชญุตม์แล้วยังห่างไกลกันมาก ไม่มีทักษะอะไรเลยสักนิด ถ้ารพีพงษ์จะจัดการพวกเขา ก็ ทำได้เพียงไม่กี่นาที

เขาก้าวไปข้างหน้า ซัดหมัดใส่หน้าคนพวกนั้น ทุกการ เคลื่อนไหวลื่นไหลราวสายน้ำ เขาจัดการพวกลูกน้องเวทน ล้มลงกับพื้นอย่างรวดเร็วและง่ายดาย

บุษบากรที่เดิมทีกังวลเกี่ยวกับรพีพงษ์เมื่อเห็นว่าเขาเก่ง

ขนาด เวทนเองก็ตกตะลึงเช่นเดียวกับบุษบากร เขามองรพี พงษ์ตาค้าง จนถึงตอนนี้เขาเพิ่งจะรู้ตัวว่า ครั้งนี้ตัวเองไป เล่นของแข็งเข้าให้แล้ว

เขาหมุนตัววิ่งที่โดยไม่ลังเล

รพีพงษ์เห็นดังนนั้นก็หัวเราะออกมา ไล่ตามไม่กี่ก้าว ก็ไป ถึงข้างหลังของเวทน

เขายื่นมือไปคว้าคอเสื้อของเวทนไว้ แล้วเหวี่ยงเวทนลง กับพื้น

เวทนกุมก้นของตัวเองแล้วร้องอย่างเจ็บปวด รพีพงษ์เตะ เข้าไปที่ท้องของเขาอีกครั้ง จนเข้าลุกไม่ขึ้น

“โอ้ย เจ็บจะตายอยู่แล้ว ลูกพี่ ผมผิดไปแล้ว ยกโทษให้ ผมด้วยเถอะ” เวทนรีบขอร้องอ้อนวอน

รพีพงษ์จ้องเวทน ก่อนพูดเสียงเย็น “จะยกโทษให้นาย แบบนี้ มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ” ในตอนนั้นเอง ธฤตญาณก๊กลุ่มของพัชรพลกลับมายังส ตาร์กาย ส่วนด้านพิชญุตม์ก็จัดการอย่างสมเหตุสมผล ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไฟต์คลับของพิชญตม์ก็เป็นของธฤต ญาณแล้ว

เขาพาคนเดินมาถึงรพีพงษ์ เมื่อเห็นรพีพงษ์กำลังจัดการ เวทน ก็อึ้งไปเล็กน้อย

เวทนที่เห็นธฤตญาณพาคนมา ก็ตะเกียกตะกายขึ้นมา จากพื้น แล้ววิ่งไปยังหน้าธฤตญาณ เอ่ยขอร้อง”พี่ธฤต ผมคือเวทน ที่กินข้าวด้วยกันกับพี่ครั้งก่อน พี่ช่วยผม หน่อย ไอ้นั่นมันมาก่อเรื่องในเขตของพี่ แถมยังด่าว่าพี่ เป็นขยะต้องกำจัดทิ้ง ผมได้ยืนแบบนั้นก็เลยจะเข้าไป จัดการสุดท้ายไม่นึกว่าเขาจะต่อสู้เก่งขนาดนี้ พี่ธฤต พี่ ช่วยผมจัดการมันด้วยเถอะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ