บทที่106 ชนะฉันให้ได้แล้วจะบอก
“สุด…สุดยอดอะไรขนาดนี้?”
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ผู้คนโดยรอบจ้องมองรพีพงษ์ด้วยความตกใจ ในตอน นั้นพวกเขาคิดว่ารพีพงษ์คงจะคุยโวไปอย่างนั้น ตอนนี้ไม่นึกว่าเขาจะเอาชนะได้ ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ชั่วขณะนั้นไม่มีใครกล้าหัวเราะสักคน
“รฤตญาณสุดยอดไปเลย!”ในตอนนั้นเองก็มีคนตะโกนขึ้นมา
หลังจากนั้นผู้คนรอบๆ ก็ส่งเสียงโห่ร้องขึ้นมา พวกเขามาเพื่อดูอะไรที่ตื่นเต้น เร้าใจ เป็นธรรมชาติที่จะเชียร์คนเก่งๆ
“ไม่นึกว่าธฤตญาณคนนี้จะสุดยอดขนาดนี้ ฉันยังนึกว่าจะโม้ซะอีก ตอนนี้ดู เหมือนว่าคนเขาจะมีของจริงๆ สินะ”
“จริงๆ ความแกร่งของเขามีพอให้โอ้อวด จากนี้ใครเจอธฤตญาณ คงต้องเดิน หลบแล้วล่ะ”
รฤตญาณที่อยู่ด้านล่างสังเวียนฟังเสียงผู้คนโห่ร้องชื่นชมว่าธฤตญาณสุดยอด บนใบหน้าก็เผยยิ้มออกมา โชคดีที่รพีพงษ์ไม่ได้ทำให้ชื่อเขาต้องอับอาย ไม่อย่าง นั้น เขาต้องไปคิดบัญชีกับรพีพงษ์แน่นอน
“พวกพี่ๆ ยืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ ไม่คิดเหรอว่าธฤตญาณสุดยอดมาก?”คนที่อยู่ ข้างๆ ถามธฤตญาณ
ธฤตญาณหัวเราะออกมาทันที “สุดยอดสุดยอด ธฤตญาณไร้เทียมทาน!” เพราะพลังที่มากเกินไปของรพีพงษ์ หลังจากที่ฟาดกับเสาแล้ว ราชาวาโย
ก็สลบไป
รพีพงษ์จ้องไปที่ราชาวาโย แล้วตะโกนว่า “คนของพิชญุตม์มีแต่พวก ปวกเปียกทั้งนั้น ให้พิชญุตม์ออกมาสู้กับฉันเอง”
เพียงสิ้นเสียงของเขา เสียงทุ้มต่ำเสียงหนึ่งก็ดังไปทั่วชั้นสอง “ไอ้นี่มัน
อะไร กล้ามาสู้กับกหรือ?”
ทุกคนต่างหันไปมอง คนกลุ่มหนึ่งเดินดุ่มมาทางนี้อย่างยิ่งใหญ่
รพีพงษ์ลงจากสังเวียนมาข้างๆ ธฤตญาณ ก่อนเอ่ยปากถาม “เขาคือพิชญุ
ตม?”
ธฤตญาณพยักหน้า เห็นพวกคนที่พิชญุตม์พามาแล้วอดขมวดคิ้วไม่ได้
“คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปให้หมด วันนี้เป็นเรื่องระหว่างผมกับธฤตญาณ ถ้าพวกคุณโดนลูกหลง ผมไม่รับผิดชอบ!”พิชญุตม์พูดเสียงเป็น
เหล่าคนที่มาดูความตื่นเต้นเมื่อได้ยินคำพูดของพิชญุตม์ก็เริ่มวิ่งลงไปชั้น ล่างทันที พวกเขาล้วนรู้ถึงความแข็งแกร่งของพิชญุตม์ และรู้ว่าเขาไม่ได้ พูดเล่น หากสู้กันจริงๆ แล้ว พิชญุตม์อาจไม่สนว่าคนพวกนี้จะเป็นหรือตาย
เพียงพริบตา ทั้งชั้นสองก็เหลือเพียงคนของพิชญุตม์และธฤตญาณกับรพี
พงษ์ สองคน
พิชญุตม์จ้องมองราชาวาโยบนเวที ดวงตาสาดประกายแสงเย็นวาบ ก่อน พูดอย่างเป็นชา “ธฤตญาณ นี่นายทำงั้นเหรอ?”
ราชาวาโยคือเครื่องมือทำเงินที่ทรงพลังที่สุดของพิชญุตม์ เขาให้ความ สำคัญกับราชาวาโยมาก ตอนนี้เมื่อเห็นราชาวาโยถูกตีจนหมดสติ ความ โกรธในใจก็ปะทุขึ้น
ธฤตญาณยังไม่ได้พูดอะไร รพีพงษ์ที่อยู่ข้างๆ ก็พูดขึ้น “ถูกต้อง เขาเป็น
คนทำ”
ธฤตญาณหันมองไปที่รพีพงษ์ทันที ส่งสายตาเป็นคำถามให้กับเขา
พี่ชาย นั่นมันนายทำชัดๆ โยนระเบิดแบบนี้เกินไปรึเปล่า?
รพีพงษ์เพียงแค่ยิ้มโดยไม่พูดอะไร
พวกคนที่มามุงดูตอนนี้ก็หนีไปหมดแล้ว ก่อนหน้านี้คนของพิชญตม์ได้ยิน ชื่อของธฤตญาณ ก็รีบวิ่งไปรายงานแล้ว จึงไม่ได้มองรูปร่างหน้าตาของรพี พงษ์ให้ดี
แถมราชาวาโยก็หมดสติไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่ารพีพงษ์เมื่อครู่นั้นคือ
ตัวปลอมของธฤตญาณ
แน่นอนว่าพิชญุตม์รู้อยู่ว่าธฤตญาณหน้าตาเป็นยังไง ตั้งแต่ต้น เขาก็ไม่ได้ ใส่ใจรพีพงษ์ จนเมื่อรพีพงษ์พูดขึ้น เขาถึงได้หันไปมอง “ธฤตญาณ นายกล้าไม่เบานี่ พามาแค่คนเดียวก็กล้ามาก่อเรื่องที่นี่? หรือ จะบอกว่านายมาขอความเมตตาจากฉันล่ะ?”พิชญุตม์ยิ้มเย็น
อารมณ์ของธฤตญาณก็จริงจังขึ้นเช่นกัน “ถ้าจะคิดว่าฉันมาขอความ เมตตา สงสัยจะยังห่างไกลไปหน่อยนะ”
“พูดอย่างนี้ วันนี้นายมา ลำพังสองคนคิดว่าจะจัดการฉันได้เหรอ? ไม่คิด ว่าสองคนมันน้อยไปหน่อยรึไง”พิชญุตม์หัวเราะออกมา
“ถูกต้อง พวกเราสองคนก็มากเกินพอแล้ว “รพีพงษ์พูด
ทุกคนหันมองรพีพงษ์เล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะเสียงดังลั่น
“บอส คนคนนี้เล่นละครเก่งเกินไปแล้ว พวกเราที่นี่มีกันอย่างน้อยก็สามสิบ
คน ไม่นึกว่าพวกเขาสองคนจะบอกว่าจะจัดการพวกเรา
“สงสัยน้ำคงเข้าไปท่วมสมอง ถึงพาตัวเองมาเข้ารังโจร”
“แม่มเอ๊ย มันกล้าดูถูกพวกเรา ลูกพี่ ให้มันจะลิ้มรสความยิ่งใหญ่ของพวก
เราเถอะ!”
พิชญุตม์มองรพีพงษ์หัวจรดเท้า เขาก็ไม่เคยเห็นรพีพงษ์ จึงพูดขึ้น “นาย เป็นใคร? ถึงได้กล้ามาปากดีต่อหน้าพวกเรา?”
“ฉันชื่อรพีพงษ์” รพีพงษ์ตอบ “รพีพงษ์?”พิชญุตม์แสดงความสงสัยออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เคยได้ยิน ชื่อรพีพงษ์
“ฉันได้ยินมาว่าเมืองริเวอร์มีเจ้ากระจอกคนหนึ่งที่คงจะไม่ใช่ นายหรอกนะ?”ในตอนนั้นแววตามีดมนที่อยู่ข้างๆ พิชญุตม์พูดพลาง หัวเราะเยาะ
ธฤตญาณโน้มตัวไปข้างหูของรพีพงษ์ “คนนั้นคือผู้ช่วยที่พิชญุตม์หามา
ชื่อว่าเลปกร เขาคือคนที่ทำร้ายไตรทศ
รพีพงษ์พยักหน้า ก่อนมองไปที่เลปกร แล้วพูด “ฉันเอง”
ไปชั่วขณะ เมื่อครู่เขาแค่อยากวางอำนาจใส่รพีพงษ์ ไม่คิดว่า อีกฝ่ายจะเป็นเจ้ากระจอกนั่นจริงๆ
“แม่ม ที่แท้ก็ไอ้กระจอกที่รู้จักกันทั่ว ธฤตญาณ นี่นายมาหาฉัน แล้วพาไอ้ ไร้ประโยชน์นี้มางั้นเหรอ?”หัวเราะเยาะ
นายจะทดสอบดูก็ได้นะ ถ้าเขาเป็นไอ้กระจอก คนพวกนี้ก็คงเรียกว่าเป็น ได้แค่ขยะแล้วล่ะมั้ง”ธฤตญาณพูด
เขาไม่รู้ว่าทำไมรถึงต้องยอมรับไปแบบนั้น ดังนั้นเขาจึงหาความ ยุติธรรมให้กับรพีพงษ์
รพีพงษ์ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้มากนัก นอกจากนี้ถ้าประเมินศัตรู ต่ำไป มันก็จะทำให้เรื่องง่ายขึ้น
“ไอ้เวรนี่ ในเมื่อวันนี้นายมารนหาที่ตายเอง แล้วยังพาไอ้ กระจอกนี่มา งั้นก็อย่ามาโทษว่าฉันไม่สุภาพก็แล้วกัน!”พิชญุตม์หัวเราะ
เยาะ ในตอนนั้นเองรพีพงษ์ก็ก้าวไปข้างหน้า พูด “ไม่ต้องรีบร้อน ฉันมาวันนี้ ก็ เพราะคนที่ชื่อเลปกร ไตรทศเป็นพี่น้องของฉัน เขาทำร้ายไตรทศ ก็ต้องมี คำอธิบาย
“พูดแบบนี้ นายอยากจะสู้ตัวต่อตัวกับฉันงั้นเหรอ?” เลปกรมองไปที่รพี พงษ์อย่างขำขัน
รพีพงษ์พยักหน้า “ถูกต้อง”
“พี่เลปกร อย่าไปเสียเวลากับเจ้ากระจอกเลย เรื่องของเขาผมก็พอได้ยิน มาบ้าง เป็นพวกเกาะผู้หญิงกิน จะไปเป็นคู่มือทพี่ได้ยังไง เดี่ยวผมให้คนมา ช่วยเก็บกวาดเขาให้”คนที่อยู่ข้างพิชญตม์พูดขึ้น
เลปกรโบกมือ พลางพูด”ฉันสนใจเขามากทีเดียว รู้ว่าฉันทำร้ายไตรทศ แล้วยังกล้ามาอีก ความกล้าขนาดนี้ไม่เหมือนไอ้กระจอกเลย”
“ขยะก็เป็นขยะอยู่วันยังค่ำ มีความกล้า ก็แค่พาตัวมาตายเท่านั้นล่ะ”พิชญ ตม์ปนพิมพัม แต่เมื่อเห็น เลปกรสนใจรพีพงษ์ ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันจะขึ้นสังเวียนก็นาย ถึงเวลาวัดความเป็นตาย ถ้า นายถูกตีจนตาย ก็โทษฉันไม่ได้นะ” เลปกรเอ่ย
รพีพงษ์ยิ้ม ก่อนพูด”นายจะไม่มีโอกาสนั้นหรอก”
ธฤตญาณรีบเตือนรพิพงษ์ “เลปกรคนนี้ฝีมือแข็งแกร่งมาก แทบเทียบกับ พิชญุตม์ได้นะ นายจะสู้กับเขาจริงๆ เหรอ? ไม่รอคนอื่นๆ มาก่อนล่ะ?”
“วางใจเถอะ ฉันมีวิธีรับือ จะให้ไตรทศเจ็บตัวเปล่าไม่ได้”รพีพงษ์พูด ใน แววตาฉายแววอำมหิต เมื่อธฤตญาณเห็นความแน่วแน่ของรพีพงษ์ ก็ไม่ขวางอีกต่อไป
รพีพงษ์กระโดดเข้าไปในสังเวียน ก่อนจ้องไปที่ เลปกร
เลปกรก็ตามขึ้นสังเวียนไปอย่างไม่ลังเล ก่อนเตะราซาวาโยไปที่หนึ่ง
พิชญตม์เพียงรู้สึกปวดเจ็บแว่บหนึ่ง รีบให้คนไปแบกราซาวาโยไปส่งโรง พยาบาล
เขาจ้องไปที่รพีพงษ์อย่างร้ายกาจ ในใจอยากให้เลปกรตีให้เจ้าขยะนั่นให้ ตายไปซะเลย แบบนี้ถึงจะถือว่าราชาวาโยของเขาไม่ได้โดนเตะฟรีๆ
“พี่เลปกร ฆ่าเจ้ากระจอกนั่นเลย ให้พี่น้องได้เห็นความแข็งแกร่งของ พี่”พิชญุตม์ตะโกนออกไป
พวกลูกน้องของพิชญุตม์ต่างพากันหัวเราะแล้วคุยกัน
“ไอ้รพีพงษ์นี่มันรนหาที่ตายจริงๆ ถึงกับกล้ามายั่วโมโหพี่เลปกร พี่เลปกร คือคนที่ทำให้ไตรทศบาดเจ็บสาหัสเขียวนะ”
“สงสัยจะสมองฝ่อไปแล้ว ส่วนเจ้าธฤตญาณก็ไม่มีสมอง ถึงได้พาเจ้าขยะ นี่แล้วมากันแค่สองคน”
“เดี๋ยวจะมีโชว์ดีๆ ให้ดูแล้ว วันนั้นฉันได้ยินลูกพี่พิชญตม์บอกว่า พี่เลปกร เป็นคนยิ่งใหญ่ในเมืองริเวอร์ของเราเขียวล่ะ รพีพงษ์นั่นจะไปเทียบเขาได้ บังไง”
พิชบุตม์หันมองคนคนนั้นทันที พุดด้วยเสียงเย็นชา “ถ้ายังพูดมากอีกฉัน
จะฉีก ปากแกซะ”
คนกลุ่มนั้นหุบปากเงียบทันที
เลปกรมองไปที่พีรพวษ์ พูดพลางยิ้ม” วันนั้นไอ้ไตรทศนั่นก็บ้าบิ่นเหมือน นายนี่ล่ะ สุดท้ายก็โดนฉันอัดจนกระอักเลือด ที่ฉันชอบที่สุด ก็คือการได้สั่ง สอนพวกบ้าที่ไม่รู้เรื่องราวอย่างพวกนาย
“เพียงแต่ไตรทศยังพอมีเรี่ยวแรงอยู่บ้าง แต่นายเป็นแค่ไอ้กระจอก วันนี้ ฉันจะทำให้นายพิการอย่างสมบูรณ์ ให้สมกับฉายาของนายซะเลย”
สีหน้าของรพีพงษ์นิ่งขรึมลง ไตรทศรู้จักกับเขามาหลายปีแล้ว ถึงทั้งสอง คนจะมีโอกาสเจอกันไม่บ่อย แต่ความสัมพันธ์นั้นเทียบกับเพื่อนธรรมดาไม่
ได้เลย
ดังนั้นเมื่อรพีพงษ์เห็นไตรทศบาดเจ็บแล้ว สิ่งแรกที่คิดถึง นั้นก็คือการแก้
แค้น
ตอนนี้เห็นเจ้าเลปกรหยิ่งผยองขนาดนี้แล้ว เป็นธรรมดาที่เขาไม่คิดจะ
วางมือ
“ไม่ต้องพูดไร้สาระให้มาก!”
รพีพงษ์พุ่งตรงไปข้างหน้า พร้อมเหวี่ยงหมัดใส่เลปกร
กำปั้นแหวกอากาศด้วยความเร็วสูง
ดวงตาของเลปกรหรี่ลงทันที เขาไม่คิดว่าความเร็วของรพีพงษ์จะเร็ว
ขนาดนี้ เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
การต่อสู้ของทั้งสองคนในขณะนั้น เป็นความเร็วที่เรียกได้ว่าลานตาไป
หมด
ในใจของเลปกรเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น เพราะพบว่าเขาใช้พลังไป ทั้งหมด ก็เพิ่งจะตามความเร็วของรพีพงษ์ทันเท่านั้น รู้สึกแม้แต่แรงกดของ การถูกโจมตี
นี่มันใช่ไอ้กระจอกที่ผู้คนเอาไปพูดเป็นเรื่องตลกจริงๆ งั้นเหรอ?
กลุ่มคนดูล้วนคิดว่าเลปกรจะจัดการรพีพงษ์ด้วยเวลาอัรสั้น แต่หลังจาก
ได้เห็นรพีพงษ์ลงมือแล้ว ก็ต่างตกตะลึง
พิชญุตม์ขมวดคิ้ว ถ้าเขาได้ประมือกับรพิพงษ์ เขาคิดว่าเขาเองก็ไม่แน่ใจ
ว่าจะรับมือกับท่วงทำของรพีพงษ์ได้
เขาหันไปมองธฤตญาณ ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงเหตุผลที่ธฤตญาณกล้ามาที่นี่
แค่สองคน ตัวตั้งตัวดี ก็คือรพีพงษ์
แต่เจ้ากระจอกชัดๆ อย่างรพีพงษ์ ทำไมถึงได้แกร่งขนาดนี้?
“ทำไมนายถึงเร็วขนาดนี้?”หน้าผากของเลปกรเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น เขา รู้สึกว่าตัวเริ่มตามความเร็วของรพีพงษ์ไม่ทันแล้ว
รพีพงษ์เหยียดยิ้มให้กับเลปกร “ชนะฉันให้ได้แล้วจะบอกให้”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ