แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่ 101 ถ้าผมพูดว่าไม่ล่ะ



บทที่ 101 ถ้าผมพูดว่าไม่ล่ะ

บทที่ 101 ถ้าผมพูดว่าไม่ล่ะ

ทุกคนต่างยืนนิ่ง หัวหน้ายามรักษาความปลอดภัยไม่ได้จับตัวรพี พงษ์ไปด้วย แต่กลับจะมาจับตัวพวกเขาไปซะงั้น?

ไม่ต้อง” รพีพงษ์ส่ายหน้าไปมา “เมื่อครู่ผมแค่ลืมกุญแจตอนที่ ออกมาจากบ้าน ก็เลยกระโดดข้ามกำแพงไปเอากุญแจมา พวก เขาแค่เข้าใจผิดเท่านั้นเอง”

หัวหน้ายามรักษาความปลอดภัยถึงกับตกใจ พร้อมทั้งหันไป มองประตูขนาดใหญ่ที่สูงถึง 4-5 เมตรเห็นจะได้ การที่คิดจะปืน กำแพงข้ามไปนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยด้วย รพีพงษ์ทำได้ยัง

ไงกัน?

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เองงั้นพวกเราไม่รบกวนคุณรพีพงษ์แล้ว” หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยไม่ได้ถามอะไรเพิ่มอีก เพราะเขา เข้าใจกฎของที่นี่เป็นอย่างดี เลยพากลุ่มยามฯ เดินห่างออกไป

ชรินทร์ทิพย์เห็นภาพนั้น ก็รีบเอ่ยปากพูดทันควัน “เขาแอบ ลักลอบเข้าบ้านคนอื่น พวกแกทำไมไม่ไปจับตัวเขาไว้?”

ทางหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยหันไปมองชรินทร์ทิพย์อยู่แวบหนึ่ง พร้อมทั้งเอ่ยปากพูดออกมา “เขาเป็นเจ้าของบ้าน ของที่นี่ไง ไม่สามารถพูดได้ว่าแอบลักลอบเข้าบ้านคนอื่น

พูดจบ เขาก็พาคนของเขาออกไป แถมไม่สนใจคนที่กำลังเรียก ร้องความสนใจที่ต้องการจะให้จับตัวรพีพงษ์ไปเลยด้วยซ้ำ

สีหน้าทุกคนของตระกูลฉัตรมงคลต่างตกตะลึงไปตามๆ กัน ไม่ คิดเลยว่าพวกยามจะเคารพรพีพงษ์ซะขนาดนี้ แค่พูดสองสามคำ ก็เดินหนีไปซะแล้ว

“ตอนนี้พวกคุณคงเชื่อกันแล้วใช่ไหม อยากจะเข้าไปดู ก็เดินเข้า มากัน รพีพงษ์เอ่ยปากพูด

สีหน้าของศศินัดตากับศักดาเริ่มกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ว่า ก่อนหน้านี้มีเรื่องอื่นเกิดขึ้นมา พวกเขาสองคนเลยไม่กล้าเดิน เข้าไป เพราะกลัวว่าเดี๋ยวเกิดเรื่องบ้าบออะไรเข้าแล้วจะโดนคน อื่นพูดหัวเราะเอาอีก

ใครจะไปรู้บางทีแกอาจจะเอาเงินไปฟาดหัวพวกเขาก็ได้เพื่อ ให้พวกเขาช่วยแกแสดงละคร แกต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อที่จะ ได้ยืนยันว่าแกเป็นเจ้าของวิลล่านี้ ไม่งั้น พวกเราไม่เข้าไป ชริน ทร์ทิพย์เอ่ยปากพูด
ที่พูดมาก็ถูกต้อง พวกยามก็ไม่ได้สามารถบอกอะไรได้ แค่ให้ เศษเงินก็สามารถจัดการเรื่องนี้ได้เรียบร้อยแล้ว ชางที่ทั้งหมดนี้ อาจจะเป็นฉากละครที่พวกเขากำลังแสดงกับแกอยู่ก็ได้” ธายุกร พูดเสริมทันที

ทุกคนต่างเห็นด้วยพร้อมทั้งพยักหน้าให้กันเป็นแถว

รพีพงษ์หมดคำพูด ในใจได้แต่ยอมรับเลยกับเรื่องที่จะบอกว่า เขาเป็นคนซื้อวิลล่าหลังนี้มาทำให้กับคนกลุ่มนี้เชื่อนั้น มันเป็น เรื่องที่ยากมากกว่าการเห็นขึ้นฟ้าเสียอีก

ตอนที่เขากำลังปวดหัวกับคนกลุ่มนี้อยู่นั้น ไม่ไกลนักก็มีชายวัย กลางคนสวมสูทเดินมาทางนี้พอดี เขาคือผู้จัดการฝ่ายขายในวัน นั้นพอดี

ยามเมื่อผู้จัดการเห็นรพีพงษ์ ที่อยู่ทางนี้พอดี เลยรีบยิ้มให้ พร้อมทั้งวิ่งมาหาทันที

“คุณรพี ไม่คิดเลยว่าคุณจะอยู่ที่นี่ นี่กำลังพาญาดิๆ ไปชมวิลล่า ใช่ไหม?” ผู้จัดการเอ่ยปากถาม

รพิพงษ์พยักหน้าให้เขา แล้วเอ่ยถามเขากลับ “คุณมาอยู่ที่นี่ได้

ยังไง?
ทางผู้จัดการหยิบโฉนดเจ้าของบ้านออกมาจากกระเป๋าเอกสาร ของตนเองออกมาหนึ่งฉบับ จากนั้นก็ยื่นให้รพีพงษ์ พร้อมทั้งพูด ขึ้นมา โฉนดของวิลล่าหลังนี้จัดการเรียบร้อยแล้วครับ ผมเอา โฉนดมาให้คุณครับ”

รพีพงษ์ยื่นมือออกไปรับโฉนดมา พร้อมทั้งเปิดดู เพื่อดูว่านี่เป็น โฉนดบ้านเขาจริงๆ ด้านบนยังมีชื่อของเขาเขียนเอาไว้

“ขอบใจนะ” รพีพงษ์/เอ่ยปากพูด

ไม่เป็นไรครับ ถ้าคราวหน้ามีเรื่องอะไร ก็สามารถแจ้งผมได้ ทันที ตอนนี้ผมไม่รบกวนเวลาแล้วครับ เชิญคุณตามสบายครับ”

ทางผู้จัดการตอบกลับเขามาอยู่ประโยคเดียว พร้อมทั้งมองผู้คน ทางฝั่งนี้ว่ามีคนอยู่ไม่น้อย กลัวว่าจะรบกวนรพีพงษ์อยู่ เลยต้อง รีบขอตัวไปก่อน

ในใจของรพีพงษ์คิดว่าผู้จัดการมาทันเวลาพอดี ที่อยู่ในมือของ โฉนดบ้าน คนพวกนี้คงไม่มีทางที่จะไม่เชื่อเขาได้แล้ว

“โฉนดบ้านอยู่นี่ ถ้าพวกคุณไม่เชื่อ ก็เอาไปดูสิ” รพีพงษ์ชูโฉนด ที่อยู่ในมือ
ศศินัดดา/นัดดารีบแย่งโฉนดบ้านมาดูก่อนใครเพื่อน พอเห็นว่า โฉนดมีชื่อของรพีพงษ์จริงๆ ทันใดนั้นดวงตาก็คลี่ยิ้มทันที

บรรดาญาติตระกูลฉัตรมงคลต่างเข้ามารุมล้อมเพื่อแย่งกันดู พร้อมทั้งเห็นว่าวิลล่าหลังนั้นเป็นชื่อของรพีพงษ์จริงๆ

ชรินทร์ทิพย์กับธายุกรทั้งสองคนก็มองโฉนดบ้านอยู่แวบหนึ่ง จากนั้นสีหน้าก็เหยเกทันที ท่าทางเหมือนกับรับไม่ได้ที่วิลล่า หลังนี้เจ้าของคือรพีพงษ์จริงๆ

“อารียา ก็ช่างโหดจริงๆ ถึงขนาดไปยักยอกเอาเงินจากโครงการ มาได้เยอะขนาดนี้ เดี๋ยวกลับไปต้องไปฟ้องปู่เรื่องเธอที่เธอทำ แล้วสิ” ชรินทร์ทิพย์เปิดปากพูด

ธายุกรรีบใช้สายตาส่งสัญญาณให้เธอเอาไว้ พร้อมทั้งพูด กระซิบกระซาบกับเธอ “เบาเสียงหน่อย ให้พวกเขาได้ใจไปก่อน เถอะ ถ้ารู้เรื่องนี้เข้า ต้องเอาวิลล่ากับรถของเธอทวงคืนกลับมา แน่นอน ถึงเวลานั้นพวกเขาจะไม่ได้อะไรสักอย่าง!”

ชรินทร์ทิพย์พยักหน้าให้ทั้งสองคนต่างยิ้มให้กันอย่างเจ้าเล่ห์

“พวกแกยังยืนอึ้งกันอยู่ทำไม รีบเข้าไปดูในตัวบ้านของฉัน” ศศิ นัดดาตะโกนเรียก
เมื่อครู่เธอเองยังสงสัยในตัวของรพีพงษ์อยู่เลย แถมยังพูดว่า รพีพงษ์กำลังหลอกคนให้สับสนอยู่ แต่พอเวลาเปลี่ยนไปแวบ เดียวก็พูดออกมาเต็มปากว่าบ้านของเธอ รพีพงษ์เองก็ไม่เคยเห็น ใครที่หน้าด้านกว่าเธอเลย

หลังจากที่กลุ่มคนเหล่านั้นมั่นใจแล้วว่าวิลล่าหลังนี้เป็นของรพี พงษ์ ต่างก็ดีใจกันยกใหญ่พร้อมทั้งเดินตามศศินัดดาเข้าไปดูใน ตัวบ้าน เพราะว่าเป็นวิลล่าที่หรูหราของดงเย็น โอกาสน้อยมากที่ พวกเขาจะได้เห็นของแบบนี้

รพีพงษ์เดินตามอารียาที่เดินอยู่ด้านหน้า พร้อมทั้งยิ้มให้เธอ จากนั้นก็เดินเข้าไปตัววิลล่าพร้อมกันกับเธอ

ภายในวิลล่าตกแต่งได้อย่างหรูหรา ภายในเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น ในตัวบ้านตกแต่งด้วยของแบรนด์เนมมีราคาสูงลิ่ว บรรยากาศ ในตัวห้องก็ตกแต่งได้จนรู้สึกว่าสุขสบายท่ามกลางความหรูหรา บรรดาญาติพี่น้องในตระกูลฉัตรมงคลต่างอิจฉาไปตามๆ กัน

“นัดดา พวกแกนี่ช่างโชคดีจริงๆ ที่เข้ามาพักอยู่ในบ้านที่ดีมาก ขนาดนี้ได้ ชาตินี้พวกเราคงไม่มีหวังที่จะคิดว่าจะมีบ้านแบบนี้ได้”

“ถูกต้อง วิลล่าหลังนี้เกรงว่าน่าจะเป็นวิลล่าที่ดีที่สุดในเมืองริ เวอร์นี้เลย แกนี้มันช่างทำให้คนเขาอิจฉาจริงๆ เลย”
สีหน้าของศศินัดดาพออกพอใจมาก เพราะว่าตอนนี้เธอเองไม่ ต้องคอยมัวแต่กังวลกับการที่ถูกคนอื่นคอยมาดูถูกว่าบ้านของ เธอเล็กเท่ารูหนูอีกแล้ว

แต่สีหน้าของคิมหัตต์กลับหม่นหมองมากกว่าเดิม เขาได้แต่ยืน อยู่ทางด้านนั้นไม่ปริปากพูดสักคำ บ้านหลังใหม่ของเขาเมื่อเอา มาเปรียบเทียบกับวิลล่าหลังนี้แล้ว มันเหมือนกับเอาฟ้ากับดินมา เปรียบเทียบกัน

ศศินัดดาเห็นอาการที่เขาแสดงออกมาแบบนั้น เลยจงใจเดิน เข้าไปหา พร้อมทั้งเอ่ยถาม พี่สอง บ้านหลังใหม่ของฉันเป็นยัง ไงบ้าง”

“ก็ดี…ดีมาก” คิมหัตต์พูดไปก็ฝืนยิ้มไป

“เหรอ ฉันรู้สึกว่ามันดีมากเลยทีเดียว เมื่อเอามาเทียบกับบ้าน ของฉันแล้ว มันแย่ลงไปหน่อย แต่ฉันก็ชอบสถานที่ที่มันเงียบ สงบ ที่นี่กว้างใหญ่มาก แถมยังสงบเงียบมากเลย ” ศศินัดดาพูด ด้วยอารมณ์เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจับต้นชนปลายไม่ถูก

“ที่แกพูดออกมาหมายความว่ายังไงบ้านของฉันจะเอามาเปรียบ เทียบกับวิลล่าที่นี่ได้ยังไง” สีหน้าของคิมหัตต์ทำท่าเหมือนอยาก จะอาเจียนออกมา แถมสบถด่าศศินัดดาออกมาอยู่หลายประโยค
ศศินัดดารู้สึกสะใจ เธออยากจะเห็นคิมหัตต์ที่มีเรื่องขัดใจแบบนี้ แต่ก็พูดออกมาไม่ได้

เวลานี้เองชรินทร์ทิพย์ก็เดินเข้ามา พร้อมทั้งพูดกับศศินัดดาอยู่ ประโยคหนึ่ง ใครจะไปรู้ล่ะว่าพวกแกไปเอาเงินมากมายขนาดนี้ มาจากไหนที่เอามาซื้อวิลล่าได้ ถ้าเป็นเงินที่ผิดกฎหมาย ต้องติด คุกหัวโต นี่ฟ่อ ดูก็ดูแล้ว เรากลับกันเถอะ”

พูดจบ เธอก็พาคิมหัดแล้วยังมารดาของเธออีกคนออกไปจาก วิลล่า แล้วก็ยังมีธายุกรอีกคน

ศศินัดดาเบะปากให้ในใจคิดว่า “เงินที่ซื้อบ้านหลังนี้มาเป็นเงิน ของลูกสาวฉันเองที่หามาได้จะผิดกฎหมายได้ยังไง พวกแกไม่มี ปัญญาก็อย่าพูดใส่ร้ายคนอื่นส

ทางด้านบรรดาญาติพี่น้องของตระกูลฉัตรมงคลต่างเดินดูวิลล่า กันอยู่นาน กลางวันรพีพงษ์เลยให้พวกเขาอยู่กินข้าวเที่ยวด้วย กัน ศศินัดดาดีใจมาก เลยรีบเข้าครัวทำอาหารด้วยตัวเอง เพื่อจะ ทำอาหารเที่ยงให้สมบูรณ์แบบญาติพี่น้องเหล่านี้

หลังจากที่รับประทานอาหารกลางวันกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทุก คนต่างเข้ามาขอโทษขอโพยกับศศินัดดากันเป็นแถว แล้วก็ไป จากดงเย็น ตอนที่ออกไปทุกคนต่างมีสีหน้าที่อิจฉาตาร้อนอยู่เช่น เดิม
“ต่อไปถ้าพวกแกว่างๆ ก็มาเที่ยวเล่นที่บ้านฉันได้นะ การเดิน ทางละแวกนี้ดีมาก พวกแกมาได้สบายเลย” ศศินัดดาพูดออกมา

เธอคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของบ้านไปซะแล้ว แทบจำไม่ได้เลยว่า ในตอนแรกเธอเป็นคนเอ่ยปากพูดออกมาเองว่าให้รพีพงษ์กับอารี ยาย้ายออกไปจากบ้าน แล้วเธอก็จะไม่ย้ายตามไปด้วย

หลังจากทุกคนกลับไปแล้ว รพีพงษ์กับอารียาก็นั่งลงบนโซฟา จนรพีพงษ์ถึงกับพูดไปยิ้มไปว่า “การดูแลปรนนิบัติคนพวกนี้ เหนื่อยมากจริงๆ”

อารียามองรพีพงษ์อยู่แวบหนึ่ง เลยอ้าปากพูดกลับมา “พวกเขา ก็เป็นแบบนี้ คุณอย่าไปสนใจพวกเขาเลย”

“ชอบบ้านที่ผมซื้อให้คุณไหม?” รพีพงษ์ถามไถ่

อารียาพยักหน้าให้ แล้วพูดขึ้นมา “ชอบสิ”

วิลล่านี้ถือว่าเป็นบ้านที่ดีที่สุดของเมืองริเวอร์แล้ว ถ้าเธอยังไม่ ชอบ เกรงว่าก็ต้องไปพักบนสวรรค์แล้วแหละ

“แต่ว่า บ้านหลังนี้มันแพงขนาดนี้ คุณเอาเงินจากไหนมาเยอะแยะมากมายขนาดนี้?” อารียาเอ่ยปากถาม

“เงินเก็บส่วนตัวนะ ” รพีพงษ์พูดออกมาพร้อมกับยิ้มให้

อารียาถึงกับกลอกตามองบน ในใจคิดว่ารพีพงษ์เริ่มเอาเหตุผล นี้ขึ้นมาหลอกทำให้เธอสับสนอีกแล้ว ถ้าครั้งหน้าเขาพูดอย่าง นี้อีก เธอจะเอาความเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายนี่แหละ จัดการยึดเงินเก็บส่วนตัวของเขาเอาไว้ทั้งหมด

ตอนที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยหยอกล้อกันอยู่นั้น ศศินัดดากับศักดาก็ เดินเข้ามา

ศศินัดดาเอาโฉนดบ้านโยนลงบนโต๊ะ พร้อมหันไปทางรพีพงษ์ ด้วยอารมณ์โมโห พร้อมทั้งเอ่ยปากพูดออกมา พูดมาสิว่า บน โฉนดนี้ทำไมเป็นชื่อแกล่ะ? นี่แกคิดจะยักยอกเงินทางบ้านเราใช้ ไหม?”

รพีพงษ์มองศศินัดดาอยู่แวบหนึ่งจากนั้นก็อ้าปากพูด “ผมซื้อ บ้าน บ้านก็ต้องเขียนเป็นชื่อผมสิ”

“แกปากหมา! บ้านหลังนี้แกเอาเงินลูกสาวของฉันไปซื้อมา แก คิดว่าฉันไม่รู้หรือไง? รพีพงษ์ ความทะเยอทะยานของแกมันเห็น ชัดดำตาแล้ว ฉันคิดว่าแกคงไม่ได้คิดดีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว” ศศิ นัดดาพูดข่มขู่แกมบังคับ
“แม่คะ บ้านหลังนี้รพีพงษ์ซื้อเองจริงๆ ฉันจะเอาเงินที่ไหนมา มากมายขนาดนั้นมาซื้อบ้านที่แพงหูฉีหลังนี้ได้ล่ะ” อารียารีบ อธิบายในทันที

“ก็ช่วงนี้นี้แกรับผิดชอบโครงการของสำนักงานสาขาบริษัทชั้น บับเบิลกรุ๊ปอยู่นี่ยังไงก็มีเงินค่าหัวคิวที่ยังสามารถหามาได้อีก อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ ไอ้คนกระจอกอย่างรพีพงษ์ จะมีปัญญาไป หาเงินที่ไหนมาได้มากมายขนาดนี้ ก็ต้องเป็นเงินที่เอามาจากแก นี่แหละ” ศศินัดดาพูดสรุปความอย่างมั่นใจ

“โครงการที่ฉันรับผิดชอบก็มีค่าหัวคิวเยอะจริง แต่ฉันก็ไม่เคย เอามันมากสักแดงเดียว อีกอย่าวิลล่าหลังนี้ราคาสิบห้าล้าน ถ้า ฉันเอาเงินมาจากโครงการนั้นจริงแล้ว โครงการนี้มันคงล้มไม่ เป็นท่าไปตั้งนานแล้ว! ” อารียาพูดขึ้นมาด้วยความเคร่งเครียด

ศศินัดดาห่อเหี่ยวใจลงทันที เมื่อเอาคิดอย่างละเอียดรอบคอบ แล้วอารียาไม่มีทางเงินมากมายมาจากโครงการนี้ได้จริงๆ

“ถึงแม้ว่าแกจะเอาเงินมาจากโครงการนี้หรือเปล่า แต่เงินพวกนี้ ต้องไม่ใช่เงินมันแน่ ยังไงวิลล่าหลังนี้ก็ไม่สามารถใส่ชื่อมันได้ ศศินัดดาพูดพลิกลิ้นอย่างเจ้าเล่ห์ทันที

“อีกอย่างรพีพงษ์ เดี๋ยวแกกลับไปแล้วจัดการเก็บของให้พวกเราด้วย แล้วจัดการขนย้ายมาที่นี่ จากนี้ต่อไปพวกเราจะไป ไม่กลับไปอยู่ที่นั่นแล้ว” ศศินัดดาพูดเสริมทันที

อารียาตะลึงทันที แล้วก็เอ่ยปากพูด “แม่ แม่ไม่ใช่บอกว่าจะไม่ ย้ายออกมาอยู่กับเราไม่ใช่เหรอ? แล้วตอนนี้มันหมายความว่ายัง ไง?

ศศินัดดาจ้องตาเขม็งทันที พร้อมทั้งเอ่ยปากพูดว่า “ตอนไหนเห รอที่ฉันพูดออกมา อีกอย่างวิลล่าของฉัน แล้วทำไมฉันจะอยู่ที่นี่ ไม่ได้?”

“แต่นี่มันเป็นวิลล่าของรพีพงษ์เขา” อารียารีบพูดเถียงกลับอีก ครั้ง

ฝันไปเถอะ! ก็แค่โฉนดเขียนแค่ชื่อเขาเท่านั้นเองแล้วมันจะยัง ไงต่อ นั่นก็หมายความว่าเป็นสมบัติของตระกูลฉัตรมงคลเช่นกัน ฉันจะอยู่ที่นี่ เขามีสิทธิ์ไม่ยอมด้วยเหรอ?” ศศินัดดาหันไปมองรพี พงษ์แถมพูดจาด้วยความโกรธพุ่งปรี๊ด

ใช่สิลูก บ้านหลังนี้แค่เขียนชื่อเขาเท่านั้นเอง อีกอย่างที่นี่ออก จะใหญ่โตขนาดนี้ เราย้ายมาอยู่ที่นี่ก็สมควรแล้ว” ศักดาพูดสมทบ ความคิดนี้ด้วย

รพีพงษ์มองคนหน้าด้านหน้าตายอยู่สองคนอยู่แวบหนึ่ง แล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ