บทที่496 งานเลี้ยง
บทที่496 งานเลี้ยง
โครงการบูรณะเมืองเก่าที่ เกียวโตกลายเป็นประเด็นทอล์ กออฟเดอะทาวน์ เพราะต้องการความร่วมมือจากฝ่ายตรง ข้าม ตระกูลใหญ่ๆแห่งเมืองเกียวโตต่างก็กระโดดเข้ามามีส่วน ร่วม
แม้ว่าทุกคนต่างรู้อยู่แก่ใจ โครงการบูรณะครั้งนี้ คงจะตก เป็นของแค่กรุ๊ปKIN กรุ๊ปTY และตระกูลลัดดาวัลย์ตระกูล ใหญ่ไม่กี่ตระกูลนี้เท่านั้น แต่ว่าผู้เกี่ยวข้องในการบูรณะครั้งนี้ มีมากมาย แค่โครงการเล็กๆก็มีผู้เข้าร่วมผลประโยชน์หลาย คนแล้ว ดังนั้นทุกคนจึงรอคอยการเปิดตัวของโครงการบูรณะ ครั้งนี้
ส่วนการซ้ำเติมตระกูลลัดดาวัลย์จากกรุ๊ปKIN ตอนนี้ทุกคน ต่างรู้ว่าตระกูลลัดดาวัลย์ได้ สิ้นลายไปเรียบร้อยแล้ว ไม่มี กำลังวังชาที่จะมาสู้กับกรุ๊ปKINหรอก
แม้ว่ากรุ๊ปTYจะไม่ได้มีกำลังขนาดนั้น แต่ว่าระยะนี้ก็มีข่าว ออกมาว่า กรุ๊ปTYเคยลองดี กับกรุ๊ปKIN แต่สุดท้ายก็โดน จัดการเสียเรียบอย่างง่ายดาย
ยิ่งไปกว่านั้น มีคนพูดว่ากรุ๊ปTYไม่ใช่คู่ต่อสู้กรุ๊ปKINเลย แม้แต่น้อย ที่กรุ๊ปTYยังอยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงทุกวันนี้ เป็น เพราะกรุ๊ปKINไม่ใส่ใจในการลงมือของเขาต่างหาก
ช่วงเวลาหนึ่ง ทุกคนต่างคิดว่า การร่วมมือกันในครั้งนี้ จะต้อง ตกเป็นของกรุ๊ปKINอย่าง ไม่ต้องสงสัย
ส่วนในช่วงเวลาไม่กี่วันนี้ มีข่าวปล่อยออกไป บอกว่าตระกูล ลัดดาวัลย์ทนการโจมตีของกรุ๊ปKINไม่ไหว เหมือนหมาจน ตรอก เลยทำร้ายร่างกายผู้จัดการของกรุ๊ปKIN
ทุกคนต่างรู้สึกว่าการที่ตระกูลลัดดาวัลย์ทำแบบนี้ไม่มีความ เป็นผู้ดีเอาเสียเลย สู้เรื่องการค้าไม่ได้ ก็หาเรื่องทำร้ายคน ช่างหน้าด้านเสียจริง
และก็เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าตระกูลลัดดาวัลย์สู้กรุ๊ปKINไม่ได้ จริงๆ ไม่อย่างนั้นจะเกิดเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายกันขึ้นมาได้ อย่างไร
รพีพงษ์รู้ว่าข่าวนี้โยษิตาเป็นคนหาคนปล่อยข่าวออกไป แต่ว่าเขาไม่สนใจ ยิ่งคนคิดว่าตระกูลลัดดาวัลย์จะไม่ได้ โครงการการร่วมมือ รพีพงษ์ก็จะยิ่งต้องหักหน้ากรุ๊ปKINให้ มากเท่านั้น
เป็นเพราะเรื่องนิรมัทกับญาดาเมื่อคราวที่แล้ว สิ่งที่บ้านลัด ดาวัลย์เหลือไว้ตอนนี้ก็คือ คนที่จงรักภักดี รพีพงษ์สัญญากัน ภายในตระกูล บอกว่าจะต้องคว้าโครงการนี้มาให้ได้ รอจนถึง เวลานั้น เมืองเกียวโตก็จะไม่มีใครเทียบตระกูลลัดดาวัลย์ได้
ใครๆต่างก็เคยเห็นรพีพงษ์จัดการกรุ๊ปKINง่ายราวกับพลิกฝ่ามือ จึงเชื่อมั่นรพีพงษ์ในเรื่องนี้
รพีพงษ์เองก็เชื่อ คนที่ได้รับการคัดเลือกคราวนี้ จะต้อง สามารถนำพาตระกูลลัดดาวัลย์ไปสู่ความรุ่งโรจน์ได้แน่นอน
ห้องหนังสือของรพีพงษ์ ในขณะที่รพีพงษ์กำลังนั่งอยู่ตรง หน้าโต๊ะหนังสือ เขากำลังจ้องเขม็งกับรายงานของกรุ๊ปKIN
ในตอนนี้เสียงมือถือของรพีพงษ์ดังขึ้น รพีพงษ์หยิบขึ้นมาดู
ไกรเดชโทรมา
หลังจากที่รับสายแล้ว เสียงไกรเดชก็ดังขึ้น”คุณรพีพงษ์ครับ ผมคิดวิธีที่จะได้ทั้งตัวโครงการและให้กรุ๊ปKINเป็นผู้ควักทุน ได้แล้วครับ แต่ว่าต้องการความร่วมมือจากคุณรพีพงษ์ครับ”
รพีพงษ์หรี่ตาแล้วตอบไม่มีปัญหา”
งานเลี้ยงในวันนั้น
หนึ่งทุ่มตรงที่ห้องอีวานโฟนนิก
ตอนนี้ห้องบอลลูมห้องนี้ได้ถูกจองเอาไว้เรียบร้อยแล้ว กำลัง ตกแต่งอยู่ เพื่อที่จะนำมาจัดงานเลี้ยง
ตอนนี้ด้านหน้าห้องอีวานโฟนนิกมีรถหรูจอดเต็มไปหมดเมื่อทอดสายตามองออกไป ไม่มีคันไหนที่ราคาต่ำกว่าหลัก ล้านเลย
เนื่องจากเขตบูรณะเก่าดึงดูดสายตาผู้คนมาก ไม่ว่าจะมี ความหวังหรือไม่ ขอแค่พอมีตำแหน่งอยู่ในเกียวโต วันนี้ต่างก็ แห่กันมาดูเหตุการณ์
ไม่นานนัก รถแอสตันมาร์ตินรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นคันหนึ่งจอดลง ตรงหน้าประตูห้องอีวานโฟนนิก จิรเวชมีเชือกรัดพันอยู่บนมือ กับโยษิตา ใบหน้าเขียวเป็นๆเดินมุ่งหน้าเข้าไปยังห้องอี วานโฟนนิก
“รีบมาดูนี่สิ สองคนนั้นเป็นผู้บริหารกรุ๊ปKINคนปัจจุบันนี่นา คนผู้ชายดูมีบารมีมากเลยนะ โอ้พระเจ้า คงจะเป็นลูกเศรษฐี ดูมีความสามารถมากเลย ไม่ได้ละ ฉันจะกรี๊ดสลบอยู่ละ
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นอะไรเนี่ย ดูเหมือนโดนซ้อมมาเลยนะ”
“ข่าวว่าโดนคนบ้านลัดดาวัลย์ซ้อมเอานะ ตระกูลลัดดาวัลย์ โดนกรุ๊ปKINตอกย้ำบ่อยๆ จนทนไม่ไหวแล้วมั้ง ตระกูลลัดดา วัลย์เป็นหมาจนตรอกแล้ว ก็ซ้อมคนอื่นซะน่วม หน้าด้านจริงๆ
“งั้นเหรอ ตระกูลลัดดาวัลย์นี่ถ่อยจริงๆเลยนะ ดีชั่วยังไงก็เป็น ตระกูลเก่าแก่ของเกียวโตเชียวนะ วันนี้พอสู้ไม่ได้ก็พาลชาว บ้าน ดูท่าตระกูลลัดดาวัลย์คงจบเห่คราวนี้แหละ”
นิรมัทกับญาดามาถึงตั้งแต่หัววัน วันนั้นพวกเขาล้มเหลวใน การสืบสาวเรื่องที่บ้านลัดดาวัลย์ เสียหน้าเป็นอย่างมาก ทั้งคู่ งไม่สบอารมณ์ วันนี้ก็เลยจงใจมาเยาะเย้ยรพีพงษ์ ต่างไ
พวกเขารู้มาจากโยษิตาว่า การร่วมมือในครั้งนี้ จะต้องตก เป็นของกรุ๊ปKINอย่างแน่นอน รพีพงษ์คงจะมีวันดีๆได้อีกไม่กี่ วันนี้แหละ
ทั้งคู่เห็นจิรเวชกับโยษิตามา จึงวิ่งหน้าแจ้นเข้าไป
ญาดาผู้ที่มักวางท่าสูงส่งพออยู่ต่อหน้าจิรเวชก็นอบน้อมเป็น พิเศษ บนใบหน้ายังปรากฏร่องรอยแห่งความเขินอาย คนที่รัก หน้าตาและผลประโยชน์อย่างเธอ ญาดาได้ยั่วยวนจนเกิด ความสัมพันธ์ขึ้นกับจิรเวชเสียแล้ว สำหรับเธอ ได้แต่เพียง กอดขาจิรเวชเอาไว้ ชีวิตที่เหลือเธอก็ไม่ต้องกังวลอะไรอีก แล้ว
แม้ว่าเธอจะรู้อยู่เต็มอก ว่าคุณชายอย่างจิรเวชก็แค่เล่นๆกับ เธอเท่านั้น แต่เธอมั่นใจใน เสน่ห์ตัวเองว่าจะมัดใจชายผู้นี้ไว้ได้
เดิมทีทั้งสี่คนจะเข้าไปในห้องอีวานโฟนนิก แต่ในเวลานี้เอง จู่ๆกลุ่มคนที่หน้าประตูก็ก่อจลาจลขึ้น ทั้งสี่คนหันหลังมองไป เห็นรถแท็กซี่คันหนึ่งค่อยๆขับมาทางนี้ แล้วมาจอดลงตรงหน้า ประตูห้องอีวานโฟนนิก
รถแท๊กซี่ที่จอดอยู่เมื่อเทียบกับรถหรูแล้ว ก็ไม่ต่างอะไรกับ ลูกเป็ดขี้เหร่ที่บุกเข้ามาในฝูงหงส์ ที่มองเห็นความแตกต่างได้ อย่างเด่นชัด
ในเวลานี้เองประตูรถเปิดออก รพีพงษ์ลงมาจากด้านใน หัน กลับเดินเข้าไปในห้องอีวานโฟนนิก
พอผู้คนเห็นว่าคนที่ลงจากรถเป็นรพีพงษ์ จึงระเบิดเสียง
หัวเราะออกมา ต่างก็แสดงความเยาะเย้ยรพีพงษ์ออกมาต่างๆ
นานา
ปัจจุบันตระกูลลัดดาวัลย์อ่อนแอลง ดูเหมือนคนจะรู้กันทั่ว เกียวโตแล้ว หลังจากที่กรุ๊ปKINได้โครงการบูรณะเมืองเก่ามา แล้ว รพีพงษ์เองก็คงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน
พวกเขาต่างก็เป็นคนที่ดูทิศทางเดินเรือ แน่นอนว่าใครแกร่ง ก็จะอยู่ฝ่ายคนนั้น ดังนั้นทุกคนจึงไม่มีใครเกรงใจรพีพงษ์ เหมือนเดิม
“ฉันตาไม่ฝาดใช่ไหม รพีพงษ์นั่งรถแท็กซี่มาสถานที่แบบนี้ ตระกูลลัดดาวัลย์ตกอับถึงขนาดนี้แล้วหรือเนี่ย ตระกูลใหญ่ ขนาดนี้ รถสักคันยังไม่มี”
“ขำจนท้องคัดท้องแข็งไปหมด ประมุขตระกูลลัดดาวัลย์ นั่ง รถแท๊กซี่มาร่วมงานเลี้ยง หรือว่าเขารู้สภาพตัวเองแล้ว ก็เลย เอาให้สุดๆไปเลย”
“แหมๆ ประมุขตระกูลลัดดาวัลย์ตกอับขนาดนี้ งั้นตระกูลลัด ดาวัลย์คงจะแย่สินะ เดิมทีเคยเป็นตระกูลใหญ่คับฟ้าของเกีย วโต ตกอับขนาดนี้ ช่างน่าใจหาย”
“ข่าวว่าตระกูลลัดดาวัลย์ตกอับหลังจากที่เปลี่ยนมือให้เขา นี่แหละ คนไร้ความสามารถขนาดนี้ เป็นตัวซวยทำให้ตระกูล ตกต่ำแท้ๆ”
รพีพงษ์ได้ยินคนรอบตัววิพากษ์เขา แต่เขาไม่สนใจ แม้แต่น้อย เขาเป็นคนที่ดูแต่ผลลัพธ์ มักจะไม่เคยสนใจใน กระบวนการว่าคนอื่นจะคิดยังไง
เขาเดินตรงไปหน้าประตูห้องอีวานโฟนนิก ไม่นานนักก็เห็น พวกจิรเวชสี่คนอยู่หน้าประตู
เขาจงใจละสายตาจากโยษิตา นิรมัท และญาดา แล้วเพ่งไป ที่จิรเวช ความกดดันแผ่ซ่านออกมา
จิรเวชเองก็มองไปทางรพีพงษ์ สายตาประสบกัน ใบหน้ามี แววยิ้มเยาะ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ