บทที่300 พนันกับคุณสามร้อยล้าน
ไตรวิชญ์สงสัย ยืนขึ้นแล้วเดินไปที่ประตู แล้วกล่าว “อะไรใช่สองคนนี้ไหม หรือธฤตญาณกับเธียรวิชญ์ มาหาพวกเราจริงๆ”
กำลังพูดอยู่ เขาก็มองไปที่ประตู เมื่อเห็นธฤต ญาณและเธียรวิชญ์พร้อมด้วยลูกน้องยืนอยู่ด้าน นอกแล้วนั้น ก็เกิดงงขึ้นมาทันใด
ปฏิกิริยสแรกที่เขาคิดได้คือหนี แต่คิดดีๆ การที่ทั้ง คู่ปรากฏกายพร้อมกันนั้น น่าจะไม่ใช่มาหาเรื่องเขา เพราะรพีพงษ์ไม่มีปัญญา การที่ทั้งคู่มาพร้อมกันนั้น ต้องเป็นเรื่องบังเอิญแน่ๆ
เขายิ้มให้กับสองคนที่อยู่นอกประตูนั้น แล้วกล่าว “ลูกพี่ทั้งสอง ไม่ทราบว่าคุณมาที่นี่มีธุระอะไรหรอ ผมคือลูกชายของประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ เมค์ส เมื่อก่อนเคยเป็นเกียรติได้พบลูกพี่ทั้งสอง แต่ พวกคุณคงจําไม่ได้แล้ว”
ธฤตญาณไม่ได้สนใจเขา เดินเข้าไปข้างใน หลัง จากที่เห็นอารียาถูกมัดไว้อยู่บนเตียงแล้วนั้น ก็หันกลับไปพูดกับเธียรวิชญ์ว่า “คนอยู่นี่ ลงมือเถอะ”
เธียรวิชญ์พยักหน้า จากนั้นผู้ชายที่อยู่ด้านหลังเขา ก็ปิดประตูพุ่งเข้าไป กดไตรวิชญ์และลูกน้องของ เขาเหล่านั้นลงกับพื้น
ไตรวิชญ์มึนงง แล้วกล่าว “ลูกพี่ทั้งสอง นี่มันเกิด อะไรขึ้น พวกเราไม่ได้ยั่วโมโหพวกคุณเลยนะ พวก เราก็แค่จับเมียของไอ้สวะรพีพงษ์มาเท่านั้น พวก คุณทำอะไร”
“เหอะเหอะ พวกเรามาเพื่อเธอ แกจับคนที่ไม่ควร บมา แกกับทุกคนของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไมค์ ส รอเจอดีได้เลย ไอ้สวะที่แกเรียกนั่นอะ แตะต้องไม่ ได้” ธฤตญาณกล่าวอย่างเยือกเย็น
สีหน้าของไตรวิทย์เปลี่ยน แล้วรีบกล่าว “อะไร บริษัทอสังหาริมทรัพย์เมค์ส ลูกพี่ทั้งสอง พวกคุณ พูดอะไร ผมไม่ใช่คนของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เมค์
เธียรวิชญ์หัวเราะ แล้วกล่าว “แกโง่จริงหรือแกล้ง โง่ ตอนที่เข้ามา แกบอกว่าแกคือลูกชายท่าน ประธานของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เมค์ส แกคิดว่าพวกเราหูหนวกหรือไง?
ไตรวิทย์ด่าในใจ และรู้สึกเสียใจขึ้นมา ถ้ารู้” เมื่อกี้ เขาไม่บอกชื่อเสียงเรียงนามของตัวเองก็ดีอยู่หรอก ตอนนี้เป็นไงล่ะ เค้าไม่ได้ถาม ก็รู้ว่าเขาเป็นใครแล้ว
ถึงแม้ที่เมืองริเวอร์บริษัทอสังหาริมทรัพย์เมค์ส จะเก่งกาจ แต่ไม่สามารถเทียบกับธฤตญาณและ บริษัทซันบับเบิ้ลกรุ๊ปได้ ยิ่งกว่านั้นคือทั้งคู่ร่วมมือ
ในใจเขาเต็มไปด้วยความสงสัย อยากรู้เหลือเกิน ว่ารพีพงษ์เป็นใครกันแน่ สามารถเชิญยักษ์ใหญ่ของ วงการมาได้ ถ้าตอนนี้มีใครว่ารพีพงษ์คือไอ้สวะล่ะก็ ให้ตายยังไงเขาก็ไม่เชื่อ
เขาอยากโทรไปหาปิยังกูร เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ให้ ปิยังกูรอย่าแตะต้องรพีพงษ์ ไม่งั้นผลลัพธ์อาจจะ คาดไม่ถึงเลยทีเดียว
แต่เมื่อกี้เขาแอบหยิบมือถือขึ้นมา ธฤตญาณเตะ แล้วเหยียบมือถือจนแตกละเอียด ให้เขาไม่มีโอกาส ได้ส่งข่าวใดๆ หลังจากที่จับไตรวิชญ์และลูกน้องไว้แล้วนั้น ธฤต ญาณไปแกะเชือกที่มัดอยู่บนตัวของอารียาออก ยิ้ม แล้วถาม “คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”
อารียาส่ายหัว มองไปที่ธฤตญาณและเธียรวิชญ์ อย่างแปลกใจ ไม่คาดคิดว่าแม้รพีพงษ์จะอยู่ต่างถิ่น แต่สามารถหาคนมาช่วยเธอได้ ความสามารถแบบนี้ ไม่ใช่ใครก็ทําได้
ดูๆแล้วถึงแม้รพีพงษ์จะถูกไล่ออกจากตระกูลลัด ดาวัลย์ แต่ก็ยังคงไม่ธรรมดาเหมือนเดิม
ชายคนนี้ มักจะเซอร์ไพรส์คนอื่นอยู่เรื่อย
หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าอารียาไม่เป็นไร ธฤตญาณ ได้ส่งข้อความหารพีพงษ์ว่าปลอดภัยแล้ว จากนั้นก็ ช่วยเธียรวิชญ์ พร้อมทั้งลูกน้องจับคนพวกนี้เอาไว้
ณ ห้องพักผ่อนบ้านหมากรุกยูนิค
รพีพงษ์นั่งอยู่ในนี้ตลอด รอข่าวอย่างใจจดใจจ่อ ถ้าก่อนการแข่งขันธฤตญาณยังหาอารียาไม่เจอ ช่วยเธอออกมาไม่ได้ งั้นสิ่งที่เขาทำได้ ก็มีเพียงยอม แพ้ต่อโกมุท รวินท์ไม่รู้ว่ารพีพงษ์เป็นอะไร ถามเขา เขาก็ไม่ ตอบ ทำได้เพียงร้อนใจตามเท่านั้น
ไม่นาน รพีพงษ์ได้รับข้อความ ธฤตญาณส่งมา
“ช่วยคนได้แล้ว ปลอดภัยไม่มีปัญหา คุณชายของ บริษัทอสังหาริมทรัพย์เมค์สอยู่เบื้องหลัง ฉันจับไว้ แล้ว รอแกกลับมาจัดการ
เห็นข้อความนี้แล้ว รพีพงษ์ก็ผ่อนคลายลง คิ้วที ขมวด คลายลง
เขาดูเวลา 1 พบว่าใกล้ถึงเวลาแข่งแล้ว ก็ลุกขึ้น แล้ว เดินออกจากห้องไป
รวินท์เห็นรพีพงษ์ยืนขึ้น แล้วรีบกล่าว “รพีพงษ์ คุณไปไหน?”
รพีพงษ์ปิดตา แล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วกล่าว “แน่นอนว่าต้องไปคว้าแชมป์สิ พวกเขาใช้วิธีนี้ข่มขู่ ผม ชัดเจนไปหน่อยป้ะ”
รวินท์ไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็เดินไปพร้อมกับรพีพงษ์ อ็กแป๊ปเธอต้องแข่งเพื่อชิงรางวัลรองชนะเลิศอันดับสองกับฝีมือดีแห่งเมืองกรีนโคลคนนั้น ถ้า สามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับสองได้ เป็น เรื่องที่ดีสําหรับเธอ
โกมุทและคนฝีมือดีแห่งเมืองกรีนโคลนั้นได้ไปรอ อยู่ในสนามแข่งแล้ว รพีพงษ์และรวินท์ปรากฏตัว ทุกคนในสนามก็ส่งเสียงขึ้นมา
รพีพงษ์และรวินท์เข้าไปในสนามแข่ง แยกไปยืน ตรงหน้าของคู่แข่งตนเอง โกมุทมองไปที่รพีพงษ์ แล้วยิ้ม กล่าว “รพีพงษ์ ฉันรู้ว่าฝีมือแกเยี่ยม แต่ถ้า จะชนะฉัน ต้องดูเวลาด้วยนะ จะดังในพริบตา ไม่มี ประโยชน์อะไรสําหรับแก แกอาจไม่เป็นไร ไม่แน่คน ที่จะโดนทําร้าย อาจเป็นคนข้างกายแกนะ แกคิดให้
คำพูดของโกมุทชัดเจนว่ากำลังข่มขู่กันอยู่ รพีพงษ์ ถอนหายใจ ไม่พูดอะไรต่อ หยิบมือถือ เดินไปที่ ล็อคเกอร์ กดสักพัก แล้ววางเข้าไปข้างใน
ตอนนี้ที่เขาต้องการจะทำ คือชนะและคว้าแชมป์ การแข่งขันในครั้งนี้ และจัดการปิยังกูรกับโกมุท รฟ์ พงษ์ไม่เร่งรีบ รอให้กลับเมืองริเวอร์ก่อน รพีพงษ์จะ ทำให้เขารู้ว่าอะไรคือรสชาติของการเสียใจ ปิยังกูรเดินไปข้างๆนฤพล ครั้งนี้ใบหน้าของเขา แฝงด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัย แล้วกล่าว “ท่านหัวหน้า ตระกูลธนาพัชรกุล ไม่ทราบว่าคุณคิดว่านัดชิง แชมป์นี้ ใครจะคว้าแชมป์?”
“ยังต้องพูดอีกหรอ ต้องเป็นรพีพงษ์แน่นอน ความ แตกต่างระหว่างโกมุทและรพีพงษ์ น่าจะดูออกได้ไม่ ยากนะ” นฤพลกล่าว
ปิยังกูรหัวเราะ แล้วกล่าว “ความสามารถรพีพง นั้นยอดเยี่ยมจริงๆ แต่คุณมองข้ามไปอย่างหนึ่ง แม้ฝีมือรพีพงษ์จะเยี่ยมขนาดไหน เขาก็ยังคงแบก รับฉายาไอ้สวะของเมืองริเวอร์ไว้อยู่ดี ผมจะให้ เค้ายอมแพ้ มีหลายวิธี ไม่เพียงแค่หาคนที่มีความ สามารถมากกว่าเขามาชนะเขาแค่นั้น
เมื่อได้ยินคำพูดของปิยังกูรแล้ง นฤพลหน้าบึ้งขึ้น มา ตอนนั้นเขาสังเกตเห็นแล้วว่ารพีพงษ์แปลกๆไป ตอนนี้ได้ยินปิยังกูรพูดแบบนี้ เขาก็เริ่มรู้สึกไม่ดีขึ้น มา
เขายังไม่ทันได้ถาม มือถือก็ดังขึ้นมา เขาหยิบมือ ถือขึ้นมาดู พบว่าเป็นรพีพงษ์ส่งข้อความมา “ปียังกูรจับภรรยาผมเพื่อขู่ผม แต่ได้แก้ไขปัญหา แล้ว ปิยังกูรยังไม่รู้ ตอนนี้เขาน่าจะคิดว่าผมจะยอม แพ้ ท่านหัวหน้าตระกูลธนาพัชรกุลใช้ถือโอกาสนี้ ป๊บปิยังกูรเลยครับ”
เมื่อเห็นข้อความแล้ว นฤพลแสดงท่าทีตกใจขึ้นมา ทันใด ไม่คาดคิดว่า ยังกรจะใช้วิธีแบบนี้มาขู่ร พงษ์
แต่เขาเข้าใจความหมายที่รพีพงษ์ต้องการสื่ออย่าง เร็ว ยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วกล่าว “พูดงี้ ประธานปิ งกูรมั่นใจว่าจะคว้าแชมป์ในครั้งนี้ได้?”
“แน่นอน” ปิยังกูรกล่าวอย่างสะใจ
“เหอะเหอะ ผมคิดว่ารพีพงษ์มีความหวังมากกว่านะ ไม่รู้ว่าประธานปิยังกูรจะกล้าพนันกับผมไหม?” นฤ พลกล่าว
ปิยังกูรได้ยินนฤพลท้าพนัน ก็ยิ้มอย่างดูแคลน ตอนนี้เขาคิดว่านฤพลเชื่อมั่นในฝีมือของรพีพงษ์ ถึงได้กล้าพนัน แต่ภรรยาของรพีพงษ์อยู่ในมือของ ลูกชายเขา รพีพงษ์ไม่มีทางชนะได้ ถ้าตอนนี้พนัน ล่ะก็ คนที่ชนะจะต้องเป็นเขาอย่างแน่นอน
“กล้าสิ ทําไมจะไม่กล้า คุณจะพนันอะไร” ปิยังกู รถาม
“ผมรู้ว่าครั้งนี้ คุณอยากคว้าแชมป์ เพราะอยากจะ สร้างชื่อเสียงของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เมค์สที่เมือ งกรีนโคลนี้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ผมสามารถแบ่งตลาด อสังหาริมทรัพย์หนึ่งในสิบของเมืองกรีนโคลมาพนัน กับคุณ เพียงแค่ไม่รู้ว่าคุณจะเอาอะไรมาพนันให้ผม รู้สึกอยากได้หรอ?” นฤพลกล่าว
ปิยังกูรตกใจ ไม่คาดคิดว่านฤพลจะใจปล้ำได้ ขนาดนี้ จะเอาตลาดหนึ่งในสิบของเมืองกรีนโคลมา แลก ถ้าชนะล่ะก็ เขาไม่จําเป็นต้องทำโฆษณาใดๆ เขาก็สามารถเข้าสู่วงการอสังหาริมทรัพย์ของเมือ งกรีนโคลได้เลย
“ในเมื่อท่านหัวหน้าตระกูลธนาพัชร์กุลลั่นวาจาแล้ว งั้นผมก็จะน้อยหน้าไปกว่าคุณไม่ได้ เอางี้ล่ะกัน ตอน นี้ผมได้เตรียมเงินไว้สามร้อยล้านเพื่อประมูลที่ดิน ในเมืองกรีนโคบ ผมเอาสามร้อยล้านมาพนัน ถ้ารพี พงษ์ชนะ ผมจะโอนเงินสามร้อยล้านนี้ให้กับคุณ ว่า ไง?” ปิยังกูรกล่าว
“ได้ ตามนี้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่เป็นสักขีพยานล่ะกัน
พูดจบ นฤพลได้โบกมือให้กับคนที่อยู่ไม่ไกล คน นั้นรีบวิ่งมา นฤพลพูดกับเขา คนนั้นรีบวิ่งไปหา พิธีกรภาคสนามทันที
“ทุกท่าน ผมเพิ่งได้รับข่าวมา ก่อนหน้าที่การ แข่งขันจะเริ่มขึ้น ผมอยากให้ทุกคนเป็นสักขีพยาน วันนี้ท่านหัวหน้าตระกูลธนาพัชร์กุลแห่งเมืองกรีน โคล กับประธานปิยังกูรของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ เมค์สแห่งเมืองริเวอร์ ท่านหัวหน้าตระกูลธนาพัชร์ กุลยินยอมแบ่งตลาดหนึ่งในสิบของอสังหาริมทรัพย์ เมืองกรีนโคล พนันรพีพงษ์เป็นฝ่ายชนะ และ ประธานปิยังกูรพนันด้วยเงินสามร้อยล้าน พนัน โกมุทเป็นฝ่ายชนะ ทุกคนที่อยู่ที่นี่ในวันนี้เป็นสักขี พยาน เชื่อว่าการแข่งขันในวันนี้ จะสนุกมากขึ้น เพราะการพนันในครั้งนี้!”
เมื่อพิธีกรพูดจบ ทุกคนก็เฮลั่น
ปิยังกูรยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วพึมพำ “นฤพล แกนี่ ตั้งใจจะมอบให้ฉันโดยตรงเลยนะเนี่ย แกยังไม่รู้ว่า เมียของรพีพงษ์ได้ถูกลูกชายฉันจับตัวไว้แล้ว เดี๋ยว ตอนทีรพีพงษ์แพ้ ดูสิว่าแกจะยิ้มออกอีกไหม”นฤพลสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ยังไงวันนี้เขาก็ได้กำไร แล้วสามร้อยล้าน ก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที
ความคิดของทั้งคู่ต่างกัน ในขณะที่ทุกคนกำลัง พูดคุยอยู่นั้น การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระหว่างร พงษ์และโกมุท กำลังจะเปิดฉากขึ้น
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ